นักล่าแห่งรัตติกาล ภาค สัญลักษณ์เลือด บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=14-11-2012&group=25&gblog=1
บทที่ 11 คำสั่งที่ถูกระงับ
http://pantip.com/topic/30156745
บทที่ 12 การปรากฏตัวของไรซิน
คริสโตเฟอร์ยืนกระสับกระส่ายอยู่เชิงบันไดอาคารที่ทำการสแตฟฟอร์ด ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้เขาคิดจะบุกเข้าไปในห้องประชุมหลายครั้งเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขากับโทมัสมีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยคำพูดทั้งหลายก็จะไร้ประโยชน์ ดีไม่ดีการกระทำแบบปราศจากความยั้งคิดเช่นนั้นอาจทำให้บรรดาอาจารย์เพิ่มความสงสัยในตัวเพื่อนเขามากยิ่งขึ้น
ระหว่างเดินกลับไปกลับมาด้วยความกลัดกลุ้มคริสโตเฟอร์ต้องแปลกใจเมื่อเห็นศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์ รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องประชุม หลังจากเธอหายไปได้ไม่ถึงสิบนาทีโทมัสก็ก้าวออกมาข้างนอก สีหน้าที่ไร้ความกังวลทำให้เด็กหนุ่มร้องเรียก
“ทอม”
โทมัสหันไปมองและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนกำลังวิ่งเข้ามาหา
“คริส นายมาทำอะไรตรงนี้”
“ไม่น่าถาม ก็รอนายไง” คริสโตเฟอร์ตอบพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “ตกลงพวกอาจารย์ว่ายังไง นายถูกลงโทษหรือเปล่า”
โทมัสยิ้มแต่ไม่ตอบ เขาหมุนตัวเดินกลับไปยังหอพักอย่างไม่เร่งรีบนัก การเดินด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความสุขุมกับสีหน้าที่เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจสร้างความหงุดหงิดต่อคริสโตเฟอร์เป็นอย่างมาก หลังจากเดินตามเพื่อนไปได้สักพักเขาจึงถาม
“เฮ้ จะบอกได้หรือยัง”
“เรื่องอะไร” อีกฝ่ายถามด้วยใบหน้าอมยิ้มเหมือนเจตนาจะยั่วอารมณ์ คริสโตเฟอร์พ่นลมหายใจค่อนข้างแรง
“คำตัดสิน” เขาพูดเน้นเสียงทีละคำ โทมัสหัวเราะออกมาเบาๆ
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีแต่คริสโตเฟอร์กลับสังเกตเห็นแววตาที่กำลังฉายความครุ่นคิดออกมาจางๆ
“ความจริงแล้วพวกอาจารย์คิดจะลงโทษนาย แต่ศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์เข้าไปห้ามและตอนนี้นายกำลังสงสัยการกระทำของเธออยู่ใช่ไหม”
โทมัสเลิกคิ้วด้วยความทึ่ง
“เดาได้เก่งนี่ ถูกต้องฉันกำลังถูกตัดสินแต่จู่ๆศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์ก็เข้ามาห้าม บอกว่าเป็นคำสั่งจากอธิการบดีพอพวกกรรมการสอบสวนทำท่าจะขัดคำสั่งเธอก็ให้พวกเขาอ่านจดหมายที่ถือมาด้วย”
เขาหยุดคำพูดไว้แค่นั้น คริสโตเฟอร์ขมวดคิ้ว
“แล้วไงต่อ”
“ฉันเห็นพวกอาจารย์หน้าซีดหลังจากอ่านจดหมายและยอมยกเลิกการสอบสวนทั้งหมด รองอธิการบดีเลยอนุญาตให้ฉันกลับหอพัก”
คริสโตเฟอร์พยักหน้าหงึกหงักและนิ่วหน้า
“ยกเลิกเท่านั้นเองเหรอ ถ้าต่อไปอาจารย์พวกนั้นเกิดอยากจะเรียกนายไปสอบสวนใหม่ละ นายจะทำยังไง”
“คงไม่ เพราะเท่าที่ได้ยินจากรองอธิการ ดูเหมือนจดหมายนั่นจะมาจากคนที่มีอำนาจสูงสุดและสั่งห้ามสอบสวนฉันอีกต่อไป”
คำตอบของเพื่อนทำให้คริสโตเฟอร์ทำตาโต
“สุดยอด! ฉันชักอยากเจอเจ้าของจดหมายฉบับนั้นแล้วละสิ ลองปกป้องนายถึงขนาดนี้แสดงว่าเขาต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” โทมัสตอบอย่างเคร่งขรึม คริสโตเฟอร์จึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและยิ้มกว้างก่อนจะลดสายตากลับมาที่เพื่อน
“แบบนี้ต้องฉลอง คืนนี้นายว่างใช่ไหม”
โทมัสมองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน
“อย่าบอกนะว่านายวางแผนออกไปข้างนอก” เขาถามและถอนใจเมื่อเห็นเพื่อนผงกศีรษะรับ “คดีฉันจบยังไม่ทันข้ามวันนายคิดก่อเรื่องใหม่อีกแล้วหรือ”
“ก่อเรื่องอะไรกัน แค่ออกไปผ่อนคลาย” คริสโตเฟอร์พูดอย่างอารมณ์ดี “คืนนี้สองทุ่มเจอกันที่เดิม”
โทมัสส่ายหน้าแต่ไม่พูดอะไร ทั้งสองเดินอย่างสบายใจไปจนถึงหอพัก ทันทีที่ก้าวข้ามประตูอาจารย์ประจำหอก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับร้องเรียก
“เฮลเลอร์สไตน์ วินเก็ต”
สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังของผู้เรียกทำให้คริสโตเฟอร์ต้องขมวดคิ้วและบ่นเบาๆ
“อะไรอีกละทีนี้”
ดูเหมือนเสียงของเขาจะได้ยินไปถึงอาจารย์ประจำหอเพราะเธอมองเขาลอดแว่นขณะวางจดหมายสองฉบับลงบนโต๊ะ
“มีจดหมายถึงเธอสองคน” เธอพูดพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนตราประทับหน้าซอง คิ้วของเด็กหนุ่มทั้งสองขมวดเข้ากันเมื่อเห็นว่ามันคือตราประทับประจำกลุ่มจักษุดารา
“นี่มัน” คริสโตเฟอร์ทำท่าจะเปิดออกดูแต่อาจารย์ประจำหอกลับพูดเสียงเรียบ
“ถ้าเป็นฉันจะเปิดอ่านในห้อง” เธอเหลือบตามองไปทางซ้ายและขวาก่อนจะลดระดับเสียงลง “ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้จดหมายแบบนี้”
โทมัสผงกศีรษะอย่างเข้าใจ เขาหยิบจดหมายใส่กระเป๋าจากนั้นจึงเดินกลับห้อง ระหว่างก้าวขึ้นบันไดเด็กหนุ่มต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นคริสโตเฟอร์เดิมตาม
“นายจะไปไหน”
“อ่านจดหมาย” คริสโตเฟอร์ตอบพลางพลิกจดหมายไปมา โทมัสจึงชี้ไปยังบันไดซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“ห้องนายไปทางนั้น”
“ฉันรู้” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับชูจดหมายในมือขึ้น “เราได้รับจดหมายแบบเดียวกันควรจะเปิดอ่านด้วยกัน”
“ไม่จำเป็น” โทมัสพูด คริสโตเฟอร์เลิกคิ้ว
“ทำไม”
“นายไม่เห็นหรือว่าตราประทับนี่ต่างจากตราประจำกลุ่มจักษุดารา” โทมัสอธิบายพลางชี้ให้อีกฝ่ายดูรูปมังกรสามหัวตรงกึ่งกลางภาพดวงดาวโดยมีดวงตาขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง จากนั้นจึงไล่ไปบนอักษรละตินบนมุมทั้งสี่ คริสโตเฟอร์มองตามแล้วนิ่วหน้า
“ไม่เหมือนกันจริงด้วย งั้นก็หมายความว่านี่ไม่ใช่จดหมายจากกลุ่มจักษุดารา”
“ตรงกันข้าม มันคือจดหมายของกลุ่มจักษุดารา แต่พิเศษกว่านั้นก็คือมันเป็นบัตรเชิญ”
คำพูดของโทมัสทำให้คริสโตเฟอร์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยความสงสัย
“นายรู้ได้ยังไง”
นักล่าแห่งรัตติกาล ภาค สัญลักษณ์เลือด บทที่ 12 การปรากฏตัวของไรซิน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=14-11-2012&group=25&gblog=1
บทที่ 11 คำสั่งที่ถูกระงับ
http://pantip.com/topic/30156745
บทที่ 12 การปรากฏตัวของไรซิน
คริสโตเฟอร์ยืนกระสับกระส่ายอยู่เชิงบันไดอาคารที่ทำการสแตฟฟอร์ด ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้เขาคิดจะบุกเข้าไปในห้องประชุมหลายครั้งเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขากับโทมัสมีความสนิทสนมกันมาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยคำพูดทั้งหลายก็จะไร้ประโยชน์ ดีไม่ดีการกระทำแบบปราศจากความยั้งคิดเช่นนั้นอาจทำให้บรรดาอาจารย์เพิ่มความสงสัยในตัวเพื่อนเขามากยิ่งขึ้น
ระหว่างเดินกลับไปกลับมาด้วยความกลัดกลุ้มคริสโตเฟอร์ต้องแปลกใจเมื่อเห็นศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์ รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องประชุม หลังจากเธอหายไปได้ไม่ถึงสิบนาทีโทมัสก็ก้าวออกมาข้างนอก สีหน้าที่ไร้ความกังวลทำให้เด็กหนุ่มร้องเรียก
“ทอม”
โทมัสหันไปมองและเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนกำลังวิ่งเข้ามาหา
“คริส นายมาทำอะไรตรงนี้”
“ไม่น่าถาม ก็รอนายไง” คริสโตเฟอร์ตอบพร้อมกับมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “ตกลงพวกอาจารย์ว่ายังไง นายถูกลงโทษหรือเปล่า”
โทมัสยิ้มแต่ไม่ตอบ เขาหมุนตัวเดินกลับไปยังหอพักอย่างไม่เร่งรีบนัก การเดินด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความสุขุมกับสีหน้าที่เดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจสร้างความหงุดหงิดต่อคริสโตเฟอร์เป็นอย่างมาก หลังจากเดินตามเพื่อนไปได้สักพักเขาจึงถาม
“เฮ้ จะบอกได้หรือยัง”
“เรื่องอะไร” อีกฝ่ายถามด้วยใบหน้าอมยิ้มเหมือนเจตนาจะยั่วอารมณ์ คริสโตเฟอร์พ่นลมหายใจค่อนข้างแรง
“คำตัดสิน” เขาพูดเน้นเสียงทีละคำ โทมัสหัวเราะออกมาเบาๆ
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีแต่คริสโตเฟอร์กลับสังเกตเห็นแววตาที่กำลังฉายความครุ่นคิดออกมาจางๆ
“ความจริงแล้วพวกอาจารย์คิดจะลงโทษนาย แต่ศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์เข้าไปห้ามและตอนนี้นายกำลังสงสัยการกระทำของเธออยู่ใช่ไหม”
โทมัสเลิกคิ้วด้วยความทึ่ง
“เดาได้เก่งนี่ ถูกต้องฉันกำลังถูกตัดสินแต่จู่ๆศาสตราจารย์แลงคาสเตอร์ก็เข้ามาห้าม บอกว่าเป็นคำสั่งจากอธิการบดีพอพวกกรรมการสอบสวนทำท่าจะขัดคำสั่งเธอก็ให้พวกเขาอ่านจดหมายที่ถือมาด้วย”
เขาหยุดคำพูดไว้แค่นั้น คริสโตเฟอร์ขมวดคิ้ว
“แล้วไงต่อ”
“ฉันเห็นพวกอาจารย์หน้าซีดหลังจากอ่านจดหมายและยอมยกเลิกการสอบสวนทั้งหมด รองอธิการบดีเลยอนุญาตให้ฉันกลับหอพัก”
คริสโตเฟอร์พยักหน้าหงึกหงักและนิ่วหน้า
“ยกเลิกเท่านั้นเองเหรอ ถ้าต่อไปอาจารย์พวกนั้นเกิดอยากจะเรียกนายไปสอบสวนใหม่ละ นายจะทำยังไง”
“คงไม่ เพราะเท่าที่ได้ยินจากรองอธิการ ดูเหมือนจดหมายนั่นจะมาจากคนที่มีอำนาจสูงสุดและสั่งห้ามสอบสวนฉันอีกต่อไป”
คำตอบของเพื่อนทำให้คริสโตเฟอร์ทำตาโต
“สุดยอด! ฉันชักอยากเจอเจ้าของจดหมายฉบับนั้นแล้วละสิ ลองปกป้องนายถึงขนาดนี้แสดงว่าเขาต้องเป็นคนดีคนหนึ่ง”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” โทมัสตอบอย่างเคร่งขรึม คริสโตเฟอร์จึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและยิ้มกว้างก่อนจะลดสายตากลับมาที่เพื่อน
“แบบนี้ต้องฉลอง คืนนี้นายว่างใช่ไหม”
โทมัสมองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน
“อย่าบอกนะว่านายวางแผนออกไปข้างนอก” เขาถามและถอนใจเมื่อเห็นเพื่อนผงกศีรษะรับ “คดีฉันจบยังไม่ทันข้ามวันนายคิดก่อเรื่องใหม่อีกแล้วหรือ”
“ก่อเรื่องอะไรกัน แค่ออกไปผ่อนคลาย” คริสโตเฟอร์พูดอย่างอารมณ์ดี “คืนนี้สองทุ่มเจอกันที่เดิม”
โทมัสส่ายหน้าแต่ไม่พูดอะไร ทั้งสองเดินอย่างสบายใจไปจนถึงหอพัก ทันทีที่ก้าวข้ามประตูอาจารย์ประจำหอก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับร้องเรียก
“เฮลเลอร์สไตน์ วินเก็ต”
สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังของผู้เรียกทำให้คริสโตเฟอร์ต้องขมวดคิ้วและบ่นเบาๆ
“อะไรอีกละทีนี้”
ดูเหมือนเสียงของเขาจะได้ยินไปถึงอาจารย์ประจำหอเพราะเธอมองเขาลอดแว่นขณะวางจดหมายสองฉบับลงบนโต๊ะ
“มีจดหมายถึงเธอสองคน” เธอพูดพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนตราประทับหน้าซอง คิ้วของเด็กหนุ่มทั้งสองขมวดเข้ากันเมื่อเห็นว่ามันคือตราประทับประจำกลุ่มจักษุดารา
“นี่มัน” คริสโตเฟอร์ทำท่าจะเปิดออกดูแต่อาจารย์ประจำหอกลับพูดเสียงเรียบ
“ถ้าเป็นฉันจะเปิดอ่านในห้อง” เธอเหลือบตามองไปทางซ้ายและขวาก่อนจะลดระดับเสียงลง “ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้จดหมายแบบนี้”
โทมัสผงกศีรษะอย่างเข้าใจ เขาหยิบจดหมายใส่กระเป๋าจากนั้นจึงเดินกลับห้อง ระหว่างก้าวขึ้นบันไดเด็กหนุ่มต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นคริสโตเฟอร์เดิมตาม
“นายจะไปไหน”
“อ่านจดหมาย” คริสโตเฟอร์ตอบพลางพลิกจดหมายไปมา โทมัสจึงชี้ไปยังบันไดซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“ห้องนายไปทางนั้น”
“ฉันรู้” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับชูจดหมายในมือขึ้น “เราได้รับจดหมายแบบเดียวกันควรจะเปิดอ่านด้วยกัน”
“ไม่จำเป็น” โทมัสพูด คริสโตเฟอร์เลิกคิ้ว
“ทำไม”
“นายไม่เห็นหรือว่าตราประทับนี่ต่างจากตราประจำกลุ่มจักษุดารา” โทมัสอธิบายพลางชี้ให้อีกฝ่ายดูรูปมังกรสามหัวตรงกึ่งกลางภาพดวงดาวโดยมีดวงตาขนาดใหญ่อยู่ด้านล่าง จากนั้นจึงไล่ไปบนอักษรละตินบนมุมทั้งสี่ คริสโตเฟอร์มองตามแล้วนิ่วหน้า
“ไม่เหมือนกันจริงด้วย งั้นก็หมายความว่านี่ไม่ใช่จดหมายจากกลุ่มจักษุดารา”
“ตรงกันข้าม มันคือจดหมายของกลุ่มจักษุดารา แต่พิเศษกว่านั้นก็คือมันเป็นบัตรเชิญ”
คำพูดของโทมัสทำให้คริสโตเฟอร์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยความสงสัย
“นายรู้ได้ยังไง”