**พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ตำรวจตงฉิน : หนึ่งในปูชนียบุคคลของสังคมไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก นิตยสาร ฅ คน ประจำเดือนพฤศจิกายน

           คำว่า "ปูชนียบุคคล" นั้น เราใช้เรียกบุคคลที่ควรแก่การเคารพ ยกย่อง สรรเสริญ จากคุณงามความดีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจริยธรรมที่บุคคลนั้นได้สร้างมาจวบจนชั่วชีวิต และในโอกาสที่ นิตยสาร ฅ คน ประจำเดือนพฤศจิกายน เป็นฉบับครบรอบ 8 ปี จึงได้ยกย่อง 8 บุคคลของสังคมไทยต่อไปนี้ให้เป็น "ปูชนียบุคคล" ผู้เป็นแบบอย่างที่ดีงามให้แก่คนในสังคม...


            จากความคิดสมัยเด็กที่อยากจะแก้แค้นตำรวจที่เคยจับขังคุก 1 คืน อย่างไร้เหตุผล ทำให้ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร มุ่งมั่นจะเป็นตำรวจให้จงได้ และท่านก็สามารถเข้ารับราชการที่กรมตำรวจได้สมดังใจ ก่อนจะได้ลัดฟ้าไปทำงานที่สำนักงานองค์กรสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซีโต้) และเลือกกลับมาประจำการที่สถานีภูธรในภาคอีสาน เพราะอยากจะรู้ว่า "อะไรทำให้คนอีสานเป็นคอมมิวนิสต์" (ในช่วง พ.ศ. 2503 บ้านเมืองกำลังเผชิญปัญหาคอมมิวนิสต์) การไปประจำที่ภูธรครั้งนั้น ทำให้นายตำรวจจากเมืองกรุงได้ปะทะกับผู้ก่อการร้ายเป็นครั้งแรก และเป็นดั่งรอยต่อสำคัญทางความคิดว่า จะอยู่ต่อ หรือจะลาออกจากอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อไปทำงานอื่นซึ่งมีคนทาบทามเข้ามาแล้วc

          "...แต่ผมไม่ไป ผมตัดสินใจอยู่ต่อ แล้วผมก็อยู่เรื่อยมาจนกระทั่งเกษียณ" นายตำรวจ ผู้ซึ่งได้ทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บอก และหลังจากนั้นท่านก็ถูกย้ายไปประจำตามภาคต่าง ๆ แม้กระทั่งถูกส่งตัวไปเรียนที่เอฟบีไอ พอกลับมาก็ได้ไปช่วยฝึกชาวบ้านรบกับคอมมิวนิสต์ เพื่อให้ชาวบ้านรู้จักพัฒนาตัวเอง ในครั้งหนึ่ง ท่านมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าอยู่หัว โดยไม่ได้คาดฝัน ซึ่งในหลวงก็รับสั่งให้ตามเสด็จฯ ทำให้ พล.ต.อ.วสิษฐ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึง พ.ศ. 2524 เป็นระยะเวลา 12 ปีเต็ม

          สิ่งหนึ่งที่นายตำรวจตงฉินได้จากการปฏิบัติหน้าที่ตามเสด็จฯ ในหลวง ก็คือ "ธรรมะ" ซึ่งเป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.วสิษฐ ศึกษาและปฏิบัติตามพระองค์ท่านจนติดเป็นนิสัย พล.ต.อ. บอกว่า ธรรมะทำให้เราสามารถจะมองชีวิตในความเป็นจริง คนเรามักตะเกียกตะกายหาสิ่งที่ตัวเองนึกว่าเป็นความสุข ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่หานี้คือทุกข์ ได้มาชั่วครู่ชั่วยาม

          นอกจากเป็นนายตำรวจตงฉิน ผู้ยึดในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว อีกด้านหนึ่งของชีวิต พล.ต.อ.วสิษฐ ก็ยังเป็นนักเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาในรั้วจามจุรี โดยเฉพาะงานเขียนนวนิยายที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ เป็นงานเขียนประจำของท่านไปแล้ว ซึ่งจากผลงานของท่านก็ทำให้ท่านได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ มาตั้งแต่ปี 2541 และแม้จะย่างเข้าสู่วัย 83 ปี แต่ท่านก็ยังมีความคิดจะเขียนนวนิยายอีกสักเล่ม

          ในฐานะที่เป็นอดีตตำรวจ และเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง พล.ต.อ.วสิษฐ ยอมรับว่า รู้สึกหนักใจที่สังคมไทยกำลังเกิดปัญหาซึ่งแทรกซึมอย่างฝังลึก เพราะคุณธรรมของสังคมไทยอ่อนลง หันไปหาวัตถุนิยมกันมากขึ้น ความเห็นแก่ตัวมากขึ้นกว่าสมัยก่อน ความเกรงอกเกรงใจก็น้อยลง

          "เราเหมือนกับสอนลูกสอนหลานเรื่องของการให้เสรีภาพ สอนให้รู้จักสิทธิ แต่ลืมสอนเรื่องหน้าที่ เดี๋ยวนี้ผมรู้สึกว่าการอบรมเรื่องหน้าที่น้อยลง แล้วคนตื่นตัวมากเรื่องการสงวนสิทธิ ป้องกันสิทธิ แต่ถึงตอนทำหน้าที่ไม่ทำ กับปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าจะให้ตอบ ผมก็ต้องบอก แก้ที่ตัวเอง" นายตำรวจตงฉิน สะท้อนภาพสังคมไทยในปัจจุบันอย่างเป็นห่วง
http://hilight.kapook.com/view/81226
--------------------

อ่านเจอเรื่องราวดีๆ แง่มุมที่น่าสนใจ เลยอดนึกถึงพันทิปไม่ได้
เผื่อใครมีประเด็น เกร็ดความรู้ หรือมุมมองที่ต้องการเผยแพร่หรือแลกเปลี่ยนก็ฝากไว้นะคะ
จขกท.จะได้รับรู้ไว้เพิ่มพูนประดับสติปัญญาด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่