ผมค่อนข้างอ่อนภาษา(มาก) เคยเข้ามาหาข้อมูลใน pantip ครับแล้วลองทำตาม
เดือนก่อน ผมซื้อหนังสือ noval มาเล่มนึงซึ้อมาเพื่อทำงาน ไม่ได้สนใจในเรื่องราวเท่าไหร่ แต่มันคาใจ เปิดผ่านๆแล้วเฮ้ย ทำไมเราอ่านมันไม่ได้
ตอนไปซื้อที่คิโนะ เห็นเด็กรุ่นๆถือหนังสือภาษาอังกฤษ ก็ตั้งคำถามขึ้นทำไมเขาทำได้และเราทำไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าจะลองสู้กับมันดู
ผมไม่มีพื้นฐานเลย ตั้งแต่เด็กยันโต (ขนาดพี่ผมจบอักษร สอนภาษา ยังไม่ได้เชื้อสักนิด)
เสร็จผมลองครับ ลองคลำๆทางดู เริ่มจากถามครูที่เขาสอนภาษา(รู้จักกัน) และลองทำตามเพื่อนๆในพันทิป (ขอบคุณมากครับ)
เวลาผ่านไป ผมรู้สึกว่าสำเนียงในการพูด (กระแดะ) มากขึ้น ลิ้นมันไปเองก็แปลก และงง เขาว่าสมองของมนุษย์เราทำอะไรได้เหนือกว่า
ที่เราคิดมาก สิ่งที่ผมจะแชร์ ก็เก็บมาจากประสบการณ์อันน้อยนิด
ถ้าใครมีไอโฟน ไอแพด ผมแนะนำเลย ช่วงแรกๆผมฟังมันทั้งวัน ไปข้างนอกเปิด 3G ฟังไปเรื่อยๆ bbc สำเนียงเขาค่อนข้างดี (บางทีก็แปลไม่ออก) แต่บางครั้งก็จับเรื่องราวได้บ้าง แต่ฟังเพราะฟัง (มันก็ได้ผลดีนะ)
flipboard สุดๆแล้วครับ เป็น app ฟรีที่เทพมากๆ ข้อดีคือ ภาพสวย และมีหัวข้อเยอะมากๆ เราอาจเจอหัวข้อที่เราชอบ (ผมชอบ design ) ก็ตามอ่าน พอเราเจอกับเรื่องราวที่เราชอบ มันก็จะไม่รู้สึกว่าเหนื่อยกับศัพท์มากเกินไป แปลคร่าวๆได้
หนังสือ ตอนแรกอ่านนิยาย แต่ยังไม่รอด เพราะมันจับประเด็นได้ไม่หมด ศัพท์ก็ยังรู้น้อย ส่วนตัวชอบอ่านเป็นทุน อ่านจิตวิทยา สองเล่มนี้อ่านง่ายครับ เขาใช้ภาษาพูดง่ายๆในการเล่าเรื่อง ช่วยให้เกิดกำลังใจในการอ่าน : )
เวลาคิดอะไรไม่ออก เข้า พันทิปครับ เข้ามาดูว่าแต่ละคนเจออะไรกันบ้างกับด่านด้านภาษา ก็ได้แง่คิดและพลัง(ถึก) กลับไปสู้ต่อ
สิ่งที่ได้จากการลองฝึกดู ทักษะดีกว่าเดือนก่อนเยอะเลย ผมจับหนังสือภาษาอังกฤษได้ไม่อายเลย บางเล่มเราไปได้ ก็อ่าน ถ้าไม่ไหววางไว้ก่อน จากที่เห็นแล้ววางโลด เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว คลำทางพอได้ แต่ยังอีกยาวไกลครับ ทำไปเรื่อยๆสะสม เขียนมาเล่ามาแชร์ประสบการณ์ครับ
เทคโนโลยีไปไกล มี app ดีๆช่วยในเรื่องการอ่านเยอะ การฟังก็มาก เลยมาแบ่งครับ
ผมจำได้ว่ามีคอมเม้นๆหนึ่งเขียนไว้ ให้ทำซ้ำๆทุกวัน ภาษาอย่าทิ้ง จะเป็นจะตายต้องอ่าน ต้องฟังมันทุกวัน .... เชื่อว่าจริง เพราะสมองคนเรามีประสิทธิภาพที่สูงมากๆ แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย อีก 3 เดือนจะมารายงานผลครับ ว่าคลานไปได้ไกลแค่ไหน
ขอบคุณครับ
ฝึกภาษาอังกฤษ
เดือนก่อน ผมซื้อหนังสือ noval มาเล่มนึงซึ้อมาเพื่อทำงาน ไม่ได้สนใจในเรื่องราวเท่าไหร่ แต่มันคาใจ เปิดผ่านๆแล้วเฮ้ย ทำไมเราอ่านมันไม่ได้
ตอนไปซื้อที่คิโนะ เห็นเด็กรุ่นๆถือหนังสือภาษาอังกฤษ ก็ตั้งคำถามขึ้นทำไมเขาทำได้และเราทำไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าจะลองสู้กับมันดู
ผมไม่มีพื้นฐานเลย ตั้งแต่เด็กยันโต (ขนาดพี่ผมจบอักษร สอนภาษา ยังไม่ได้เชื้อสักนิด)
เสร็จผมลองครับ ลองคลำๆทางดู เริ่มจากถามครูที่เขาสอนภาษา(รู้จักกัน) และลองทำตามเพื่อนๆในพันทิป (ขอบคุณมากครับ)
เวลาผ่านไป ผมรู้สึกว่าสำเนียงในการพูด (กระแดะ) มากขึ้น ลิ้นมันไปเองก็แปลก และงง เขาว่าสมองของมนุษย์เราทำอะไรได้เหนือกว่า
ที่เราคิดมาก สิ่งที่ผมจะแชร์ ก็เก็บมาจากประสบการณ์อันน้อยนิด
ถ้าใครมีไอโฟน ไอแพด ผมแนะนำเลย ช่วงแรกๆผมฟังมันทั้งวัน ไปข้างนอกเปิด 3G ฟังไปเรื่อยๆ bbc สำเนียงเขาค่อนข้างดี (บางทีก็แปลไม่ออก) แต่บางครั้งก็จับเรื่องราวได้บ้าง แต่ฟังเพราะฟัง (มันก็ได้ผลดีนะ)
flipboard สุดๆแล้วครับ เป็น app ฟรีที่เทพมากๆ ข้อดีคือ ภาพสวย และมีหัวข้อเยอะมากๆ เราอาจเจอหัวข้อที่เราชอบ (ผมชอบ design ) ก็ตามอ่าน พอเราเจอกับเรื่องราวที่เราชอบ มันก็จะไม่รู้สึกว่าเหนื่อยกับศัพท์มากเกินไป แปลคร่าวๆได้
หนังสือ ตอนแรกอ่านนิยาย แต่ยังไม่รอด เพราะมันจับประเด็นได้ไม่หมด ศัพท์ก็ยังรู้น้อย ส่วนตัวชอบอ่านเป็นทุน อ่านจิตวิทยา สองเล่มนี้อ่านง่ายครับ เขาใช้ภาษาพูดง่ายๆในการเล่าเรื่อง ช่วยให้เกิดกำลังใจในการอ่าน : )
เวลาคิดอะไรไม่ออก เข้า พันทิปครับ เข้ามาดูว่าแต่ละคนเจออะไรกันบ้างกับด่านด้านภาษา ก็ได้แง่คิดและพลัง(ถึก) กลับไปสู้ต่อ
สิ่งที่ได้จากการลองฝึกดู ทักษะดีกว่าเดือนก่อนเยอะเลย ผมจับหนังสือภาษาอังกฤษได้ไม่อายเลย บางเล่มเราไปได้ ก็อ่าน ถ้าไม่ไหววางไว้ก่อน จากที่เห็นแล้ววางโลด เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว คลำทางพอได้ แต่ยังอีกยาวไกลครับ ทำไปเรื่อยๆสะสม เขียนมาเล่ามาแชร์ประสบการณ์ครับ
เทคโนโลยีไปไกล มี app ดีๆช่วยในเรื่องการอ่านเยอะ การฟังก็มาก เลยมาแบ่งครับ
ผมจำได้ว่ามีคอมเม้นๆหนึ่งเขียนไว้ ให้ทำซ้ำๆทุกวัน ภาษาอย่าทิ้ง จะเป็นจะตายต้องอ่าน ต้องฟังมันทุกวัน .... เชื่อว่าจริง เพราะสมองคนเรามีประสิทธิภาพที่สูงมากๆ แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย อีก 3 เดือนจะมารายงานผลครับ ว่าคลานไปได้ไกลแค่ไหน
ขอบคุณครับ