เรื่องเล่าจาก Aupair(ชาย) ที่ประเทศเยอรมัน

กระทู้สนทนา
ก่อนขอเล่าท้าวความว่าเป็นมายังไงก่อนนะครับ ^^
     สวัสดีครับผมอายุ 24 ปีปัจจุบันเป็นออแพร์อยู่ Weil am Rhein ,Baden-Wüttemberg ครับ ผมจบปริญญาตรีจากเมืองไทยครับ สาขา Logistics and transportation management จากมหาลัยวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งครับ พอเรียนจบก็ได้มีโอกาสเข้าไปทำงานที่ DHL Global forwarding(Thailand) ทำอยู่ประมาน 7-8 เดือน ของปี 2011 (จบก็ได้งานเลย )สู้ไม่ไหวครับออกเองเลย หลังจากออกจากที่นี่เท่านั้นหละครับได้มีเวลาอยู่กับตัวมากขึ้นครับเลยตัดสินใจบอกที่บ้านว่าอยากไปเมืองนอก(แต่ตอนนั้นไม่มีเงินมากหรอกครับ) ผมหาหนทางว่าจะมายังไงให้ใช้เงินน้อยเท่าที่จะทำได้ซึ่งตอนนั้นก็มีแต่ออแพร์นี่แหละครับใช้เงินน้อยและได้อยู่นาน ผมได้ปรึกษากับเพื่อนอีกคนครับว่าจะทำไงดี แต่บังเอิญไอเพื่อนผมเค้าเป็นผญเค้าจะไปอเมกาครับ แล้วเค้าก็ได้ช่วยผมหาหนทางในการจะไปเมืองนอกของผม บังเอิญมากครับไปเจอเอเจนซี่ที่เค้ารับสมัครเด็กผชเป็นออแพร์ เรื่องราวต่างๆกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ครับ  
     ผมเริ่มเข้าโครงการตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ปี 2012 ครับ ตอนนั้นพอตัดสินใจปุ๊ป !! ก็ต้องเรียนภาษาเยอรมันเพิ่มทันทีพร้อมกับเก็บชั่วโมงเลี้ยงน้องๆด้วยครับ จังหวะนั้นเองผมเองก็ได้งานใหม่ วันที่เค้าเรียกผมสัมภาษณ์ผมก็บอกนะครับว่าผมมีโครงการนี้ เค้าก็ถามทำไมต้องเยอรมัน ทำไม ? ผมเองไม่ได้ตอบอะไรมากมายแค่บอกว่า"ผมชอบครับ มันใหม่สำหรับผมอยากลองทำอะไรใหม่ๆให้ตัวผมเอง" จบการสัมภาษณ์ครับ... ในใจคิดว่าเค้าไม่เอาเราแน่นอนบ้าป่าวไปบอกทำไมวะอะไรงี้ ตอนนั้นคิดแบบนั้นเลยนะครับ หลังจากนั้นประมาน 3-4 โทรมาบอกว่า"ยินดีด้วยนะคะ บ.ของเรารับคุณเข้าทำงาน" แล้วก็นัทไปตรวจสุขภาพครับ ตรวจทุกอย่าง ตรวจ HIV ด้วย ตรวจฟรีหมดบ.เป็นผู้รับผิดชอบครับ(แล้วผมก็เอาใบตรวจนี้แหละครับยื่นกับโครงการประหยัดดี ฮ่าๆๆๆ ตรวจซะครบเลยด้วย) ผมเริ่มทำงานและเริ่มเรียนไปพร้อมๆกัน เหนื่อยมากครับ ผมเรียนภาษาเยอรมันส่วนตัวครับไม่ได้เรียน เกอเธ่ รู้แค่ว่าขาดเรียนพี่เค้าบ่อยมาก ปกติเค้าเรียนกัน 2 เดือนก็จบ ผมนี่ปาเข้าไป 3 เดือนกว่าโน้นนนนน(ไม่นับรวมช่วงวันหยุดต่างๆนะครับ เช่น สงกรานต์ เป็นต้น) ช่วงทำงานต้องทำเสาร์ด้วยไงครับอยู่ในช่วงโปรฯ พอเลิกงงานก็ขี้เกียจ พอขี้เกียจก็กลับบ้านนอน พอวันอาทิตย์ก็ขี้เกียจอีก ยกเลิกเรียนเป็นว่าเล่นพี่เค้าก็ดีครับไม่ดุมาก(แต่บางวันนั่งเรียนแล้วกลัวมาก เพราะดุมากกกกกก  TT ) ทำแบบนี้อ่ะครับ จนเรียนจบก็โทรไปจองสอบที่เกเธ่อ(พี่เค้าโทรไปให้มั้งถ้าผมจำไม่ผิด แต่ผมเอาเงินไปจ่ายเอง) สอบเสร็จคะแนนออก เห้อออออ โล่ง !! ผ่าน A1 ครับ ดีใจยกใหญ่เพราะตอนเรียนผมขี้เกียจ ศัพย์ไม่ท่อง หนังสือไม่อ่าน พูดไม่ฝึก เขียนก็ไม่ทวนครับ และที่สำคัญภาษามันใหม่มากสำหรับผม T-T ที่นี่ก็มาถึงขั้นตอนการหาแฟมิลี่ครับ ผมโชคดีครับผมเจอโฮสของผมเองใน Aupair-world หลังจากนั้นครอบครัวนี้เค้ามีแผนว่าจะมาเที่ยวเมืองพอดีเลยได้มีโอกาสพูดคุยกันสรุปแล้วเค้าเลือกเราครับ ผมก็ให้เค้าไปติดต่อที่เอเจนซี่ของผมที่อยู่ Berlin จะได้ง่ายเวลาทำเอกสาร สรุปคือแฟมิลี่นี้ผมหาเอง แต่ให้เอเจนซี่มาดูแลเรื่องเอกสารต่างๆ(ใครจะว่าไงไม่รุ้ผมแค่ไม่อยากเดือดร้อนหากเกิดปัญหาในอนาคต ผมก็ป้องกันไว้ก่อน) ครอบครัวนี้หายไปหลังจากบอกกับผมว่าจะติดต่อกลับให้เร็วที่สุด เค้าหายไปเกือบ 2 เดือนครับ ตอนนั้นคลั่ง บ้า !! ไปพักนึงฟุ่งซ่าน เอเจนซี่ ที่ไทยก็บอกว่าไม่ต้องรีบพี่ช่วยหาอยู่ แต่เราจะเอาของเราอะครับ เข้าใจผมป่ะครับ และแล้วผมก็ได้เมลล์จากแฟมิลี่ผม บอกให้ผมเตรียมขอวีซ่า เค้าติดต่อเอเจนซี่ได้แล้ว อุปป๊ะ !!! ...  ดีใจมากครับได้ออกจากงานซะที ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ตอนได้ก็บอกหัวหน้านะครับ เค้าก็ยินดีด้วย บอกให้ตั้งใจ อดทน อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ
     มาถึงวันที่ต้องยื่นขอวีซ่าครับ เจ้าหน้าเค้าก็น่ารักนะครับเป็นพี่ผญผมยาวๆ ช่อง 8 ถ้าผมจำไม่ผิด ก็ถามโน้น นี่ นั้นไปเรื่อยครับ จนมาถึงคำถามนี้น่ารักมากครับ ถามผมว่า Sind Sie Deutsch ? ผมตอบไม่ได้ครับ ฮ่าๆๆๆ บอกแล้วว่าโง่มากกกก ฮ่าๆๆๆ เค้าก็ย้ำอีกว่า Deutsch แปลว่าอะไร ? ผมก็บอกว่า ภาษาเยอรมัน คนเยอรมัน เออ !! นั้นแหละ แล้ว Sind Sie Deutsch ? ที่นี่ผมเข้าใจและครับเลยตอบไปว่า "Ya"  ก็มันตื่นเต้นนี่ครับ เคยซะที่ไหนเรื่องแบบนี้ :] จากนั้นก็จ่ายเงินครับ รอวีซ่าประมาน 7 อาทิตย์ ก็มีโทรศัพย์โทรเข้ามือถือแต่ผมไม่รับครับนอนอยู่ เอาดิๆหยิ่งอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ขำตัวเองอ่ะครับ เพราะก่อนหน้านี่ผมรอโทรศัพย์สายนี้มานานเป็นเดือนๆแต่พอเค้าโทรมากลับจำเบอร์สถานฑูตไม่ได้ จนช่วงบ่ายเค้าโทรมาอีก บอกวีซ่าได้แล้ว <3 เท่านั้นแหละครับ ผมดีใจมากเลยนะครับเชื่อไหมตอนนั้นคือ เย้ กู ไปเมืองนอกแล้ววววววววววว
     จนวันก่อนจะบินผมคุยกับแม่และถามแม่ว่า "แม่ว่าไปดีไหม?" แม่ก็งง ??? อะไรของ แล้วตอบกลับมาว่า"มาถึงขนาดนี้แล้วจะไม่ไปเหรอ ไปเถอะอย่างน้อยๆก็ปีนึง ไม่ชอบค่อยกลับ" หลังจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่กระชากใจมากครับเพราะวันรุ่งขึ้นผมต้องเดินทางออกนอกประเทศ มันเป็นครั้งแรกของผม เพราะปกติก็แค่เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ผมนั่งรถไปสนามบินแบบเงียบๆไม่อยากคุยกับแม่มากกลัวครับ กลัวตัวเองกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่แล้วก็มาถึงเวลาของผม ผมจำได้ว่าผมเช็ดอินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมงเพราะว่าที่บ้านจอดรถนานแล้วและมันดึกมากแล้ว อยากให้เค้ากลับไปนอน ผมร้องไห้ TT ผมพูดกับแม่และน้องชายเสียงสั่น เหมือนคนพูดไม่รุ้เรื่อง ร้องไห้กอดกันอยู่ซักพักครับ (ตอนนี้พิมพ์น้ำตาก็คลอไปครับ โฮะๆๆ) ผมบอก"ไปแล้วนะแม่ ถึงแล้วจะรีบติดต่อกลับมา" แทบบ้าครับ มันเสียใจอย่างบอกไม่ถูก อารมณ์ดีใจเหมือนตอนวีซ่าออกนี่ไม่มีเลยครับ ผมก็เดินขึ้นบันได้เลื่อนไป พอดีมีที่รู้จักทำงานที่ AOT ครับ พี่เค้าก็มาดูแล พูดคุย เทคแคร์ จนเครื่องผมจะออกหนะครับ ต้องขอบคุณพี่เค้ามากๆไม่งั้นผมนั่งหง่าวเหงาแน่ๆ พี่เค้าบอกว่าไม่เป็นไรพี่เข้าใจ เดินทางคนเดียวครั้งแรกและเล่นไปซะไกลเลย ฮ่า ฮ่า ผมไปต่อเครื่องที่ดูไบ ทำอะไรไม่ถูกครั้งแรกไปหมดเลย เอาวะ !! เดินตามๆเค้าไป พอดีมีบอร์ดดิ้งพาสที่มือครับ ก็อ่านไปด้วยว่าต่อเครื่องกี่โมง ประตูไหน พอถึงเวลาเช็คดินที่ดูไบ ผมก็เดินเข้าไปครับก็ถามเจ้าหน้าตรงนั้นว่ามี wifi free ไหมเค้าบอกว่ามี ก็ตรงที่เราอยู๋นี่แหละเค้าก็บอกว่าเลือกชื่อนี้นะ แล้วรอซักพัก เย้ ..... ผมเชื่อมต่อกับ wifi ได้แล้วครับ ก็ถ่ายรูปส่งกลับไปให้แม่ดูทาง Facebook ตอนนั้นผมร้องไห้ครับ คิดถึงบ้านมาก คิดถึงแม่ คิดถึงน้องชาย ซักพักเค้าเรียกขึ้นเครื่องครับ ผมลงเครื่อง Zurich และโฮสแฟมิลี่มารับเข้าประเทศเยอรมันอีกที ระหว่างทางไอตัวเล็กก็ชวนคุย ผมเหรอครับฟังไม่รุ้เรื่องครับ งง อะไรของพวก TT" จนพ่อเค้าพูดกับน้องว่า อย่าเพิ่งกวนผม ให้ผมพักก่อน (เค้าพูดเป็นเยอรมันครับ) และหันมาแปลให้ผมเป็นอังกฤษอีกที
     ผมมาถึงที่เยอรมัน 18/11/12 ครับ มาวันแรกก็อึนๆภาษาช๊อตๆ อังกฤษก็ช๊อต เยอรมันไม่ต้องพูดถึง ง่อยและเงียบกริบ ที่เรียนมาหนะเหรอครับ ฮึฮึ ลืม!! โฮสให้โทรศัพย์หาแม่ครับ คุยไปก็ต้องกลั้นๆน้ำตาไป ไม่อยากให้เค้าเป็นห่วง คุยเสร็จผมก็กินข้าวกับที่บ้านโฮสครับ แม่ทำอาการเต็มโต๊ะรอผม ผมกินไม่ค่อยลงหรอกครับ เอียน จริงๆครับ เอียน จะอาเจียนเหมือนเมาๆ พอกินเสร็จ เค้าก็บอกผมว่าไปพักเถอะเดินทางเหนื่อย พรุ่งนี้ก็นอนไปนะไม่ต้องรีบตื่นหยุดไปก่อนยังไม่ต้องเริ่มงาน

ผมขออนุญาตมาต่อวันหลังนะครับ เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นเรื่องของงานออแพร์ผมแล้วครับ
จะทำอะไรบ้าง น้องจะเป็นไง ครอบครัว ภาษา โรงเรียน และอื่นๆ เป็นกำลังให้ผมด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ชิณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่