[CR] เที่ยวเมืองจันท์แบบไม่ไปโฮมสเตย์ “Backpack Trip” Gen411

กระทู้รีวิว
ถ้าจะมาเที่ยวจันท์ ทุกคนคงจะนึกถึงแต่โฮมสเตย์ ที่อำนวยความสะดวกครบจบในที่พัก วันนี้พวกเราจะมาเที่ยวในตัวเมืองขับรถไม่ไกลมากตลอดทริป ในการไปจุดต่าง ๆ เดินทางไม่นาน ใครอยากลองเที่ยวในตัวเมืองพวกเราแนะนำค่ะ
การเดินทาง🚗
พวกเราเลือกที่จะขับรถกันไปเองค่ะ เนื่องจากแผนที่เราวางไว้ค่อนข้างแวะหลายที่ เริ่มออกเดินทางตอน 7:00 น.
Day1 ☀️
สถานที่แรกที่เราไปก็คือ
📍ศาลตากสิน
พวกเราไปถึงประมาณ 10.00 น.เอารถเข้ามาจอดในค่ายตากสินและเดินออกมา จะเจอกับพี่ทหารกันทางไว้ สามารถแจ้งได้เลยว่าจะมาศาลตากสิน เขาจะแนะนำที่จอดรถและการวนรถเข้าออกให้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ศาลตากสินจะมีดอกไม้ธูปเทียนเตรียมไว้ให้ สามารถบริจาคได้ตามกำลังศรัททา หลังจากที่เราได้ดอกไม้มาแล้ว เราจะจุดธูปเทียนและไหว้ที่ด้านนอก ก่อนจะเดินขึ้นไป และวางดอกไม้หน้าประตู ด้านในมีพระบรมรูปของพระเจ้าตากสินและมีดาบที่เป็นดาบจำลองของพระเจ้าตาก เราได้เจอกับคุณลุงด้านใน พร้อมทั้งคุณลุงได้สอนวิธีการยก การพูด ทั้งแบบเดี่ยวและการมายกแบบกลุ่ม โดยคนที่อายุเยอะที่สุด คุณลุงให้อยู่ตรงกลางและจับดาบคนแรก และจากนั้นก็ให้คนอื่นๆเข้ามาจับด้วยกันทางซ้ายและขวาของคนแรก  โดยคนที่นี่เชื่อกันว่าการยกดาบของพระเจ้าตากสิน ขึ้นเหนือหัว เป็นการปัดเป่าสิ่งที่ไ่ม่ดีออกไป ใครที่คิดร้ายกับเราก็จะแพ้ภัยตน ให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย แนะนำเลยใครที่มาถึงที่นี่แล้ว ให้มายกดาบด้วยนะคะ 
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นศาลหลักเมืองซึ่งวันนี้ตรงกับวันครบรอบ 40 ปีของศาลหลักเมืองพอดี จึงมีการแจกข้าวสาร เดินกลับเข้ามาในค่ายตากสิน คุณป้าที่ดูแลเรื่องดอกไม้ธูปเทียน ก็ได้ทักทายพวกเรา และให้คำแนะนำว่าเราควรจะไปสักการะพระบรมรูปของพระเจ้าตากสินด้วย ด้านในค่ายนี้มีทั้งหมด 2 องค์ด้วยกัน โดยหันหน้าจากจุดที่ขายดอกไม้นี้ จะเป็นพระบรมรูปพระเจ้าตากสินทำจากพลอยแดงทั้งองค์ สวยที่สุดในจันทบุรี “พลอยแดง” คือ ทับทิมสยาม พลอยสีแดงสด ถ้าไม่อยากตากแดดสามารถสักการะจุดนี้ที่เดียวก็ได้
ถัดมาทางด้านขวาจะเป็นพระบรมรูปพระเจ้าตากสินองค์เก่า ที่เก่าแก่ที่สุดในจันทบุรี
และพวกเราก็ได้ไปสักการะทั้ง 2 จุด บอกเลยว่าการมาศาลตากสินที่เดียวเราเหมือนได้ไปถึง 4 สถานที่ ที่มีความสวยงามและมีประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งได้ความรู้ใหม่ๆอีกด้วย 
📍ชุมชนริมน้ำจันทบูร
เราขับรถประมาณ 10 นาที เราจอดรถไว้ที่วัดก่อนจะเดินข้ามถนนไปก็จะถึงชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนริมน้ำจันทบูร มีรากฐานตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งมีชาวจีนและญวณ (ชาวเวียดนาม) อพยพมาตั้งถิ่นฐานร่วมกับคนไทยในพื้นที่นี้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ชุมชนนี้ได้พัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการเดินทาง โดยแม่น้ำเป็นเส้นทางสำคัญอาคารบ้านเรือนในย่านนี้ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ “จีน-โปรตุเกส” หรือ “ชิโน-ยูโรเปียน” รวมถึงบ้านไม้ทรงโบราณ ลวดลายฉลุ ช่องลมไม้​ ฯลฯ ซึ่งให้บรรยากาศย้อนยุค พวกเราเดินชม เดินชิม และอยากแนะนำขนมโบ๋ น้ำสำรอง
จากร้าน 119 Gems บ้านร้อยสิบเก้า "ขนมโบ๋" เป็นขนมโบราณ ทำจากแป้งข้าวเจ้าแช่น้ำด่าง นำไปนึ่ง เวลาทาน จะโรยกระเทียมเจียวหอมเจียว ราดด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เวลาทาน จะได้ทั้งกลิ่นหอมของกระเทียม รสชาติ หวาน มัน และ ความรู้สึกหนึบๆพวกเราชอบมากๆ และเจ้าของร้านยังแนะนำ น้ำสำรอง เครื่องดื่มที่ทำจากลูกสำรอง คุณป้าเจ้าของร้านเรียกว่า พุงทลาย มีสรรพคุณช่วยลดไขมันกินแล้วชุ่มคอ รสชาติคล้ายรังนกที่เรารู้จักกัน แต่เนื้อสัมผัสที่ได้กินเหมือนวุ้น ร้านนี้ไม่หวานมาก ดื่มแล้วสดชื่นสุดๆ พวกเราแนะนำเลย เพราะว่าอร่อยถูกปาก ราคาไม่แพง แถมคุณป้าใจดี ให้ความรู้เกี่ยวกับขนมและน้ำเป็นอย่างดี ต่อมาพวกเราก็เดินซื้อของกินไปเรื่อยๆ ซื้อขนมลิง, กะลอจี๊ และสุดทาง พวกเราก็แวะกิน ก๋วยเตี๋ยวเจ๊อี๊ด ระหว่างเดินในชุมชนพวกเราได้พบกับบ้านไม้เก่าที่มีประวัติยาวนาน และเสาไฟฟ้าเก่าอายุ 100 ปี เจอบ้านหลังหนึ่งที่มีกิจกรรม workshop ทำเครื่องหอม ราคา100/ถุง พวกเราก็ได้ลองทำกันด้วยนะคะ 
 บ้านหลังนี้มีการจัดแสดงประวัติบ้านแต่ละหลังที่สำคัญในชุมชนนี้ แวะถ่ายรูปกัน 
เราเดินกลับโดยข้ามฝั่งไปเดินทางโบสถ์อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลซึ่งมีความสวยงามและยิ่งใหญ่มาก จนได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (สวยมากเหมือนกับภาพ2Dเล๊ยย)
📍ตลาดน้ำพุ
และเราก็กลับไปโรงแรมเพื่อเช็คอินพักผ่อนกันเล็กน้อยเพราะว่าเราเหนื่อยจากการเดินทางกันมาตั้งแต่เช้า ก่อนไปตลาดน้ำพุ เพื่อหาซื้อของกินตอนเย็นกัน เดินทางจากโรงแรมไปประมาณ 6 นาที หาที่จอดตามซอยแถวนั้นได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ว่าหาที่จอดยากเพราะรถและคนค่อนข้างเยอะ ในตลาดมีของกินที่หลากหลายมาก ทั้งของคาว ของหวาน ผลไม้ ของทานเล่น ราคาไม่แพง และตลาดนี้ใหญ่มาก เป็นถนนเหมือนเยาวราชที่มีรถผ่าน ใครจะเดินก็ระวังรถกันด้วยนะคะพวกเราได้ของกินเยอะมาก และกลับไปกินกันที่โรงแรม จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนพัก
Day2🌦️
📍ตลาด 100 ปี
เช้าวันใหม่ พวกเราได้ตื่นไปตลาดเช้าตอน 7.00 โมงเช้า เพื่อหาข้าวกิน ขับรถจากที่พักไป “ตลาด 100 ปี หลังโบสถ์” ประมาณ 7 นาที ไม่ไกลมาก บรรยากาศตอนเช้าคือดีมาก เราได้จอดรถภายในโบสถ์ สามารถจอดได้ฟรี ที่นี่ของกินเยอะ เราได้แวะซื้อโจ๊กกันมาคนละถ้วย คุณป้าใจดีมาก
โจ๊กของที่นี่ไม่ใช่แบบเนื้อเนียนทั่วไป เหมือนโจ๊กผสมข้าวต้ม เนื้อสัมผัสเป็นเอกลักษณ์และอร่อยมากกก แนะนำเลยถ้ามาต้องลอง! ราคา 30-35 บาท เท่านั้น ปาท่องโก๋ที่นี่ก็เด็ด มีน้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ถูกใจเด็กอ้วนสุด ๆ ภายในตลาดมีทั้งปลาสดๆ ตัวใหญ่ๆ ที่ชาวบ้านตกกันเอง และของกินอีกมากมาย พวกเรานั่งกินกันจนอิ่ม แล้วกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวไป “ชุมชนขนมแปลก”
📍ชุมชนขนมเเปลก
พวกเราจอง “โปรแกรมเที่ยวเท่เสน่ห์จันท์ ชมของแปลก2ชุมชน” ไว้ตอน 10.00-12.00น.  ราคา 199 บาท/คน ต้องบอกก่อนว่าโปรแกรมนี้มีแค่เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะคะ  
เราขับรถกันมาที่ชุมชนขนมแปลก ตรงเข้ามาจะมีลานหินที่จอดรถฟรี หลังจากจอดรถเสร็จเราก็รีบเดินผ่านตลาดของชุมชน เราก็เล็ง ๆ ของกินกันไว้บ้าง แต่เราจะยังไม่ซื้อเพราะต้องรีบไปขึ้นเรือเพื่อไปที่ชุมชนบางสระเก้า คุณลุงที่พาเรานั่งเรือวันนี้คือคุณลุงจักรกฤษณ์
กิจกรรมแรกคือให้นั่งเรือชมเหยี่ยวแดง

ชมธรรมชาติริมแม่น้ำจันทบุรี บรรยากาศสวยมาก เสียดายฝนตก ท้องฟ้าไม่โปร่ง เลยเห็นเหยี่ยวไม่เยอะ แต่ธรรมชาติแนวเขาที่ได้เห็น ต้นโกงกาง และแม่น้ำที่เราล่องเรืออยู่ก็ยังสวยอยู่ดี คุณลุงได้เล่าว่าแม่น้ำจันทบุรี เป็นแม่น้ำที่มีถึง 3 น้ำด้วยกัน คือน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ช่วงที่น้ำทะเลหนุนเข้ามา
มีปลาเข้ามาเยอะ พวกปลากระพงจะชุม ชาวบ้านก็จะหาปลา ไดหมึก สัตว์ทะเลชนิดอื่นๆพวกกุ้ง-ปูจะมาวางไข่ตามแนวต้นโกงกาง ชาวบ้านที่นี่จึงช่วยกันรณรงค์ไม่ให้มี Homestay ริมน้ำ เพื่อรักษาธรรมชาติเอาไว้ จะได้ไม่ไปทำลายแหล่งวางไข่ของสัตว์น้ำ ตามแม่น้ำจะมีป่าตาล ช่วงที่มีลูกตาลชาวบ้านก็ไปเก็บกันได้ เป็นพื้นที่สาธารณะ ระหว่างทางนั้นคุณลุงก็จะล่อเหยี่ยวแดง โดยใช้เศษหมู ทำให้เราได้เห็นเหยี่ยวแดงใกล้ ๆ และถ่ายรูปได้ ลุงแนะนำให้มาช่วง 5โมงเย็น เหยี่ยวแดงจะเยอะมากเพราะเป็นเวลาหากินของมัน ช่วงเวลาเราไปเป็นเวลาที่เหยี่ยวจะขึ้นเขาไปนอน หลังจากนั้นเราก็ถึงชุมชนบางสระเก้า ก็จะมีคนมารอรับเรา โดยเราจะเดินทางกันด้วย รถมอไซค์พ่วงข้าง
พี่คนที่ขับรถให้จะทำหน้าที่เป็นไกด์ของชุมชนนี้ จุดแรกในชุมชนเราได้ไปดูการทอเสื่อกก “ร้านเสื่อสุริยา แหลมสิงห์” และยังได้ลองทอเองอีกด้วย
เราได้เห็นต้นกก และคุณป้ายังตัดต้นกกออกมาให้เราได้เห็นขั้นตอนแรกของการทำเสื่อกก คือการตัดกกจากต้น และมาผ่าแบ่งต้นกกให้เป็น4ซีก ก่อนที่เอาไปตาก ร้านเสื่อกกนี้เราได้พูดคุยและเห็นสินค้าอื่นๆของทางร้าน ที่นำมาทำเป็นเคสพาสปอร์ต ป้ายห้อยบัตร กระเป๋า พวงกุญแจและแผ่นรองแก้ว เราได้ซื้อพวงกุญและแผ่นรองแก้วมาด้วย ถัดมาเรายังได้ไปร้านเสื่อกกอีก 1ร้าน คือร้าน “เสื่อชุมชนดี” ร้านนี้ได้เห็นการทอที่ใหญ่ขึ้น และได้รับความรู้เพิ่มอีกเล็กน้อยคือวิธีการทอเสื่อผืนใหญ่ และวิธีการทำเส้นปอ ที่จะนำมาเป็นเส้นของเสื่อกก ที่เรายังไม่ได้รู้จากร้านแรก ร้านนี้เราก็ยังเดินดูของเช่นกัน และก็ยังได้ซื้อกระเป๋ามา 1 ใบด้วย ราคาไม่แพง แถมยังได้อุดหนุนชุมชนอีก
ต่อมาเราก็นั่งรถไปที่วัดพี่เขาได้นำมะพร้าวมาให้กิน รสชาติหวาน ซ่าเล็กน้อย น้ำเยอะมาก พี่เขาบอกว่าคนชุมชนนี้ สามารถรู้และเลือกมะพร้าวได้ ว่าลูกไหนน้ำหวาน ลูกไหนเนื้ออร่อย เวลาที่ขายเป็นแก้วในเมืองก็จะมีการนำน้ำที่หวานจากลูกหนึ่งและเนื้อที่อร่อยจากอีกลูกมาด้วย สาเหตุที่มะพร้าวที่นี่อร่อยเพราะว่าเป็นมะพร้าว 3 น้ำ
จากนั้นเราเดินเล่นนิดหน่อยก็ขึ้นรถไปที่ท่าเรือเพื่อกลับไปชุมชนขนมแปลก นั่งเรือกลับมาเราก็เดินดูของกินในชุมชนขนมแปลกต่อ ที่นี่มีแต่ของแปลกๆ สมชื่อ เช่น แดกงา, เยี่ยววัว, น้ำมะปี๊ด (มะปี๊ดก็คือส้มจี๊ด แต่คนจันทร์จะเรียกส้มจี๊ดว่ามะปี๊ด) และที่เด็ดสุดคือ “จ๊อปูจิ๋ว” อร่อยมากกก ติดใจกันทุกคน
ของแบบนี้ต้องลองจริงๆ นอกจากได้ลองกินขนมใหม่ๆแล้วเรายังได้ซื้อของฝากกันเล็กน้อยอีกด้วย หลังจากอิ่มจากชุมชนขนมแปลกแล้ว เราตั้งใจจะไป “น้ำตกพลิ้ว” กันต่อ แต่ไปถึงที่แล้วเสียค่าจอด 20 บาท ฝนดันตกหนักเลยตัดสินใจว่าเราจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ เราจึงจอดรถพักและพูดคุยว่าเราจะปรับแผนสำหรับวันถัดไปยังไงบ้าง หลังได้ข้อสรุปวันนี้เราเลยเปลี่ยนแผนไป “ตลาดพลอยและศูนย์ส่งเสริมอัญมณีจันทบุรี”
ชื่อสินค้า:   จันทบุรี
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่