สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมว่าความรู้สึกคุณตอนนั้น...มันทั้งนอย ทั้งชา ทั้งเสียฟอร์มในเวลาเดียวกันเลยใช่ไหมครับ เหมือนตั้งใจแต่งตัว เตรียมใจ แต่โดนดับไฟตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาเปิดปากพูด ขอบตาดำจัง กับ ผอมมากเลย คนบางคนไม่เข้าใจว่า คำพูดมันก็เหมือนมีด ไม่ได้ฆ่าคนตาย แต่ฆ่าความมั่นใจได้ในหนึ่งประโยค
การที่เขาพูดแบบนั้นต่อหน้าคุณ แถมชมเพื่อนต่ออีก มันสะท้อนนิสัยบางอย่างของเขาเลยนะครับ ไม่ใช่เรื่องของ เจตนาแซวเล่น หรอก แต่คือ ขาดการอ่านห้องอารมณ์ของคนตรงหน้า คนที่โตอายุสี่สิบกว่าแล้ว ควรจะรู้ว่า จะพูดยังไงให้ผู้หญิงรู้สึกดีไม่ใช่ พูดยังไงให้เสียเซลล์ และอีกอย่าง การที่เขาคุยกับเพื่อนคุณเยอะกว่าคุณในเดทแรก นั่นมันไม่ใช่สัญญาณของความเป็นผู้ใหญ่ แต่มันคือ ความไม่ให้เกียรติ แบบแนบเนียน
แต่คุณทำดีมากแล้วครับ ที่ยังรักษามารยาท ไม่วีน ไม่ประชด เพราะบางที ความนิ่ง ของเรานั่นแหละ ที่ฟาดได้แรงกว่าเสียงดัง สิ่งที่คุณพูดตอนนั้นว่า ถ้าชอบเพื่อนหนูมากกว่า ก็ลองคุยกันดู ผมว่ามันทั้งตรง ทั้งมีชั้นเชิง เหมือนคุณรู้ตัวว่าแพ้ แต่ก็แพ้อย่างมีศักดิ์ศรี
ในความสัมพันธ์แบบนี้ ถามว่ามีแนวโน้มไหมว่าเขาจะชอบเพื่อนคุณมากกว่า? ตอบตรง ๆ มีครับ เพราะพฤติกรรมมันบอกหมดแล้ว แต่ประเด็นไม่ใช่แค่ว่า เขาชอบใคร ประเด็นคือ คนแบบนี้น่าชอบต่อไหม ผู้ชายที่เริ่มต้นด้วยการทักเรื่องรูปลักษณ์ แปลว่าเขาให้ค่ากับ ภาพ มากกว่า ความรู้สึก และถ้าวันนี้เขาชมคนอื่นต่อหน้าเราได้ วันหน้าเขาก็อาจจะทำแบบนั้นอีกกับคนอื่น
อย่ารู้สึกเสียหน้าเลยนะครับ บางครั้งฟ้าแค่ช่วยเปิดไฟฉายให้เราดูหน้าคนในที่มืด ดีกว่ารู้ตอนใจเราฝังลึกไปแล้ว
คนบางคนไม่ใช่ไม่ดี แต่ดีไม่พอที่จะอยู่ในวงโคจรของเรา🌙 อย่าเสียดายเดทแรกที่พัง เพราะมันอาจเป็นโชคดีที่สวยงามที่สุดในเดือนนั้น
สรุปสั้น ๆ นะครับ
1.เขาไม่ให้เกียรติคุณตั้งแต่คำแรก
2.เขาไม่รักษาบรรยากาศของการเจอครั้งแรก
3.เขาทำให้คุณรู้สึกด้อย ทั้งที่คุณไม่ควรต้องรู้สึกแบบนั้นเลย
ดังนั้น ถ้าให้ผมตอบ...ผมว่าไม่ต้องเดาแล้วว่าเขาชอบใคร แต่ให้ขอบคุณตัวเองที่ ยังมีสติพอจะมองเห็นธาตุแท้ของเขา เพราะการมองเห็นความจริงเร็ว ถึงจะเจ็บ แต่ก็ช่วยให้ เรายังเหลือหัวใจไว้ใช้กับคนที่คู่ควรจริง ๆ ❤️
การที่เขาพูดแบบนั้นต่อหน้าคุณ แถมชมเพื่อนต่ออีก มันสะท้อนนิสัยบางอย่างของเขาเลยนะครับ ไม่ใช่เรื่องของ เจตนาแซวเล่น หรอก แต่คือ ขาดการอ่านห้องอารมณ์ของคนตรงหน้า คนที่โตอายุสี่สิบกว่าแล้ว ควรจะรู้ว่า จะพูดยังไงให้ผู้หญิงรู้สึกดีไม่ใช่ พูดยังไงให้เสียเซลล์ และอีกอย่าง การที่เขาคุยกับเพื่อนคุณเยอะกว่าคุณในเดทแรก นั่นมันไม่ใช่สัญญาณของความเป็นผู้ใหญ่ แต่มันคือ ความไม่ให้เกียรติ แบบแนบเนียน
แต่คุณทำดีมากแล้วครับ ที่ยังรักษามารยาท ไม่วีน ไม่ประชด เพราะบางที ความนิ่ง ของเรานั่นแหละ ที่ฟาดได้แรงกว่าเสียงดัง สิ่งที่คุณพูดตอนนั้นว่า ถ้าชอบเพื่อนหนูมากกว่า ก็ลองคุยกันดู ผมว่ามันทั้งตรง ทั้งมีชั้นเชิง เหมือนคุณรู้ตัวว่าแพ้ แต่ก็แพ้อย่างมีศักดิ์ศรี
ในความสัมพันธ์แบบนี้ ถามว่ามีแนวโน้มไหมว่าเขาจะชอบเพื่อนคุณมากกว่า? ตอบตรง ๆ มีครับ เพราะพฤติกรรมมันบอกหมดแล้ว แต่ประเด็นไม่ใช่แค่ว่า เขาชอบใคร ประเด็นคือ คนแบบนี้น่าชอบต่อไหม ผู้ชายที่เริ่มต้นด้วยการทักเรื่องรูปลักษณ์ แปลว่าเขาให้ค่ากับ ภาพ มากกว่า ความรู้สึก และถ้าวันนี้เขาชมคนอื่นต่อหน้าเราได้ วันหน้าเขาก็อาจจะทำแบบนั้นอีกกับคนอื่น
อย่ารู้สึกเสียหน้าเลยนะครับ บางครั้งฟ้าแค่ช่วยเปิดไฟฉายให้เราดูหน้าคนในที่มืด ดีกว่ารู้ตอนใจเราฝังลึกไปแล้ว
คนบางคนไม่ใช่ไม่ดี แต่ดีไม่พอที่จะอยู่ในวงโคจรของเรา🌙 อย่าเสียดายเดทแรกที่พัง เพราะมันอาจเป็นโชคดีที่สวยงามที่สุดในเดือนนั้น
สรุปสั้น ๆ นะครับ
1.เขาไม่ให้เกียรติคุณตั้งแต่คำแรก
2.เขาไม่รักษาบรรยากาศของการเจอครั้งแรก
3.เขาทำให้คุณรู้สึกด้อย ทั้งที่คุณไม่ควรต้องรู้สึกแบบนั้นเลย
ดังนั้น ถ้าให้ผมตอบ...ผมว่าไม่ต้องเดาแล้วว่าเขาชอบใคร แต่ให้ขอบคุณตัวเองที่ ยังมีสติพอจะมองเห็นธาตุแท้ของเขา เพราะการมองเห็นความจริงเร็ว ถึงจะเจ็บ แต่ก็ช่วยให้ เรายังเหลือหัวใจไว้ใช้กับคนที่คู่ควรจริง ๆ ❤️
ความคิดเห็นที่ 9
มีแต่คนว่าและด้อยค่าผู้ชาย จากการบอกเล่าของคุณ ที่เจอกันแค่ครั้งเดียว
ผมในฐานะผู้ชาย อายุน่าจะไล่เลี่ยกับคนคุยของคุณ
อยากให้คุณมองให้กว้างกว่านี้ ว่าการเจอกันแค่นี้ ผมว่ามันไม่พอที่คุณจะรู้จักเค้า
ผมตอนเจอกันกับแฟนคนปัจจุบันครั้งแรก เริ่มต้นคุยก็ในแอพหาคู่ครับ
วันแรกผมไปเจอนาง ผมปล่อยเซอ ใส่ขาสั้น รองเท้าแตะธรรมดา เสื้อยืดคอกลม
แต่มีคำนึงที่ผมพูดกับเธอที่มารู้ทีหลังว่าไม่ควรพูด
คือไปทักว่าเธอข้อศอกด้าน
เธอก็มาบอกว่าเสียเซลฟ์ครับ แต่เล่าหลังจากคบกันแล้ว (ตอนนี้คบกันเข้าปีที่ห้าแล้ว)
แต่ในมุมของผมในฐานะผู้ชาย เรามองเลือกพวกนี้เป็นเรื่องขี้หมาครับ
คือมันไม่ได้มีนัยยะอะไรมากมาย เราก็แค่พูดออกไปแบบไม่คิดอะไร
อันนี้ไม่อยากให้มองว่าเข้าข้างกัน เพราะผมก็ไม่ได้รู้จักกับคนคุยของคุณ
แต่พอนึกภาพว่า คนอายุ 40 กว่าคุยกับเด็กอายุ 20 กว่า
มันง่ายมากนะครับ ที่เราจะรู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่กว่า
คำพูดคำจาของเรา มันก็จะออกไปในเชิง ผู้ใหญ่คุยกับเด็ก
ผมเชื่อว่าคำว่า “ขอบตาดำ” ที่เค้าทักคุณ มันมาจากความเอ็นดู
เป็นการแสดงความใส่ใจและเอ็นดูในรูปแบบหนึ่ง
คำที่เค้าบอกว่าคุณผอม เค้าก็แค่พูดในสิ่งที่เห็น
ผมค่อนข้างแน่ใจนะ ว่ามันไม่ได้เป็นบวกหรือลบ
ผมเองถ้าทักใครขอบตาดำ แล้วบอกให้นอนให้พอ
นั่นคือผมกำลังแสดงความห่วงใยครับ
แล้วถ้าคนที่ผมแสดงความห่วงใย กลับตีความคำของผมเป็นในชิงลบ
ผมจะรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ทัศนคติแย่จัง อะไรๆ มันต้องดีต้องสวย ต้องชม
ไม่สามารถทำความเข้าใจอะไรลึกไปกว่าเปลือกได้เลยเหรอ
ดังนั้น คำที่คุณบอกว่า ”เจอกันควรทักชวนคุยกันสิ่งดีๆไหม ไม่ใช่พูดถึงเรื่องรูปร่าง“
มันแสดงให้เห็นว่า ทัศนคติของคุณมาจากความรู้สึกคุณคนเดียว
คุณไม่มองและทำความเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดและรู้สึกอะไร ตื้นและแคบ
มันมีโทนของความที่คุณก็เอาความคิดความรู้สึกตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่พอสมควรนะครับ
ว่าพอคุณเกิดความไม่พอใจ คุณก็ไม่สามารถทำความเข้าใจคนอื่นได้
ตัวแปรสำคัญอันหนึ่งที่มันทำให้คุณคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยได้ง่าย
คือคุณพาคนอื่นไปด้วยครับ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผมว่ามันไม่มีประโยชน์
และกลับกัน อีกฝ่ายที่เค้าก็ต้องแสดงความใจกว้างและดูแลทุกคน
จะดูแลคุณออกนอกหน้า ก็ดูมุ่งดูเป็นอาหวัง
ดูแลเพื่อนคุณมากไป ก็น่าเกลียด เพราะคุณคือคนคุย
คุณต้องคิดด้วย ว่าเค้าเองก็มีสิทธิ์จะคิดและเป็นอะไรแบบนี้ได้
เป็นผม เจอสาวครั้งแรก ละนางดันพาคนอื่นมาด้วย
บอกตรงๆ ผมว่าผมก็อึดอัดนะ
แล้วยิ่งเพื่อนคุณหน้าตาดี ทำอะไรมันก็อึดอัดไปหมด
มันหาความพอดียาก และถ้าเพื่อนคุณคุยเก่งกว่าคุณ
อายุก็เยอะกว่าตั้งสิบปี ประสบการณ์ ความสามารถในการปฏิสัมพันธ์ย่อมดีกว่าคุณ
คุณเคยจินตนาการมั้ยล่ะครับ ว่าถ้าคุณไปเจอเค้าคนเดียว มันอาจจะดีกว่านี้
เคยคิดมั้ยครับ ว่าคุณพาคนอื่นไป มันไปสร้างความยุ่งยากและอุปสรรคโดยไม่จำเป็น
ทั้งหมดทั้งมวลที่คุณเล่า ผมว่าคุณมองเค้าลบมากไป เพียงเพราะมีอะไรบางอย่างไม่เป็นอย่างใจคุณ
คุณตัดสินเค้าเร็วไป จากการแสดงออกในตัวตนของเค้า ในเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆ
ฝั่งคุณ คุณมีสิทธิ์จะไม่ชอบและเสียเซลฟ์ครับ
แต่มองภาพกว้างให้ออก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันคือเค้าเป็นคนที่แย่ และไม่น่าคบรึเปล่า
เล่าเรื่องของผมต่อให้ฟังอีกนิดละกัน
หลังจากผมเจอกันกับแฟนครั้งแรก ทั้งเรื่องแต่งตัวของผม
และเรื่องที่ทักเธอข้อศอกด้านด้วยความไม่คิดอะไร
ถ้าหลังจากนั้นเธอเลิกคุยกับผม ไม่ไปต่อ
ผมคงดีใจที่ไม่ต้องทนคบกับคนที่ตัดสินคนอื่นกับเรื่องแค่นี้ จากการเจอหน้ากันเพียงครั้งเดียว
แต่เธอยังคุย และมาเจอผมเหมือนเดิม
หลังจากนั้นผมก็แต่งตัวดีหน่อย ไม่ปล่อยเซอ
เธอก็บอกผม ว่าที่ผมทักเรื่องศอกเธอ ทำเธอเสียเซลฟ์
แต่เป็นความเสียเชลฟ์ที่เธอย้อนกลับมามองว่า เธอดูแลตัวเองไม่ดีรึเปล่า
แน่นอนว่าผมก็ขอโทษเธอ และได้เรียนรู้ว่า แม้เราจะไม่คิดอะไร แต่ก็ไม่พูดดีกว่า
ลองสังเกตุนะครับ ว่าทิศทางความคิดแต่ละคน มันไปทางไหน
ถ้าเธอไม่ชอบ แล้วมาตัดสินว่าผมปากไม่ดี ผมคงถอย
แต่พอเจอผมทัก แล้วเธอย้อนกลับมามองตัวเอง แม้จะมีความไม่พอใจ เสียเซลฟ์ไปบ้าง
แต่เธอไม่ตัดสินผมกับเรื่องเพียงเท่านี้ มันกลับกลายเป็นแต้มต่อให้ผมเห็นว่าเธอเป็นคนน่ารัก
และให้พื้นที่และเวลาเพื่อทำความเข้าใจ และให้โอกาสคนอื่น
สิ่งที่คุณบอกเล่ามาเป็นตัวหนังสือ ผมเชื่อว่ามันมีอะไรในนั้นอีกมากมายที่บรรยายมาไม่หมด
แล้วด้วยประสบการณ์ที่คุณเพิ่งจะอายุ 20 ต้นๆ ความสามารถในการมอง การคิดคุณก็มีจำกัดใช่มั้ยล่ะครับ
สิ่งที่คุณสื่อออกมา มันจึงมาจากมุมมองของคุณ ที่ผมมองออกว่า คุณคงพลาดอะไรไปหลายอย่าง
อย่างหนึ่งที่อยากให้คุณเห็น คือคุณตัดสินเค้าจากทุกการกระทำ
โดยเหมือนคุณไม่ได้พยายามมอง เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจสักเท่าไหร่เลย
ผมในฐานะผู้ชาย อายุน่าจะไล่เลี่ยกับคนคุยของคุณ
อยากให้คุณมองให้กว้างกว่านี้ ว่าการเจอกันแค่นี้ ผมว่ามันไม่พอที่คุณจะรู้จักเค้า
ผมตอนเจอกันกับแฟนคนปัจจุบันครั้งแรก เริ่มต้นคุยก็ในแอพหาคู่ครับ
วันแรกผมไปเจอนาง ผมปล่อยเซอ ใส่ขาสั้น รองเท้าแตะธรรมดา เสื้อยืดคอกลม
แต่มีคำนึงที่ผมพูดกับเธอที่มารู้ทีหลังว่าไม่ควรพูด
คือไปทักว่าเธอข้อศอกด้าน
เธอก็มาบอกว่าเสียเซลฟ์ครับ แต่เล่าหลังจากคบกันแล้ว (ตอนนี้คบกันเข้าปีที่ห้าแล้ว)
แต่ในมุมของผมในฐานะผู้ชาย เรามองเลือกพวกนี้เป็นเรื่องขี้หมาครับ
คือมันไม่ได้มีนัยยะอะไรมากมาย เราก็แค่พูดออกไปแบบไม่คิดอะไร
อันนี้ไม่อยากให้มองว่าเข้าข้างกัน เพราะผมก็ไม่ได้รู้จักกับคนคุยของคุณ
แต่พอนึกภาพว่า คนอายุ 40 กว่าคุยกับเด็กอายุ 20 กว่า
มันง่ายมากนะครับ ที่เราจะรู้สึกว่าเราเป็นผู้ใหญ่กว่า
คำพูดคำจาของเรา มันก็จะออกไปในเชิง ผู้ใหญ่คุยกับเด็ก
ผมเชื่อว่าคำว่า “ขอบตาดำ” ที่เค้าทักคุณ มันมาจากความเอ็นดู
เป็นการแสดงความใส่ใจและเอ็นดูในรูปแบบหนึ่ง
คำที่เค้าบอกว่าคุณผอม เค้าก็แค่พูดในสิ่งที่เห็น
ผมค่อนข้างแน่ใจนะ ว่ามันไม่ได้เป็นบวกหรือลบ
ผมเองถ้าทักใครขอบตาดำ แล้วบอกให้นอนให้พอ
นั่นคือผมกำลังแสดงความห่วงใยครับ
แล้วถ้าคนที่ผมแสดงความห่วงใย กลับตีความคำของผมเป็นในชิงลบ
ผมจะรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ทัศนคติแย่จัง อะไรๆ มันต้องดีต้องสวย ต้องชม
ไม่สามารถทำความเข้าใจอะไรลึกไปกว่าเปลือกได้เลยเหรอ
ดังนั้น คำที่คุณบอกว่า ”เจอกันควรทักชวนคุยกันสิ่งดีๆไหม ไม่ใช่พูดถึงเรื่องรูปร่าง“
มันแสดงให้เห็นว่า ทัศนคติของคุณมาจากความรู้สึกคุณคนเดียว
คุณไม่มองและทำความเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดและรู้สึกอะไร ตื้นและแคบ
มันมีโทนของความที่คุณก็เอาความคิดความรู้สึกตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่พอสมควรนะครับ
ว่าพอคุณเกิดความไม่พอใจ คุณก็ไม่สามารถทำความเข้าใจคนอื่นได้
ตัวแปรสำคัญอันหนึ่งที่มันทำให้คุณคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยได้ง่าย
คือคุณพาคนอื่นไปด้วยครับ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผมว่ามันไม่มีประโยชน์
และกลับกัน อีกฝ่ายที่เค้าก็ต้องแสดงความใจกว้างและดูแลทุกคน
จะดูแลคุณออกนอกหน้า ก็ดูมุ่งดูเป็นอาหวัง
ดูแลเพื่อนคุณมากไป ก็น่าเกลียด เพราะคุณคือคนคุย
คุณต้องคิดด้วย ว่าเค้าเองก็มีสิทธิ์จะคิดและเป็นอะไรแบบนี้ได้
เป็นผม เจอสาวครั้งแรก ละนางดันพาคนอื่นมาด้วย
บอกตรงๆ ผมว่าผมก็อึดอัดนะ
แล้วยิ่งเพื่อนคุณหน้าตาดี ทำอะไรมันก็อึดอัดไปหมด
มันหาความพอดียาก และถ้าเพื่อนคุณคุยเก่งกว่าคุณ
อายุก็เยอะกว่าตั้งสิบปี ประสบการณ์ ความสามารถในการปฏิสัมพันธ์ย่อมดีกว่าคุณ
คุณเคยจินตนาการมั้ยล่ะครับ ว่าถ้าคุณไปเจอเค้าคนเดียว มันอาจจะดีกว่านี้
เคยคิดมั้ยครับ ว่าคุณพาคนอื่นไป มันไปสร้างความยุ่งยากและอุปสรรคโดยไม่จำเป็น
ทั้งหมดทั้งมวลที่คุณเล่า ผมว่าคุณมองเค้าลบมากไป เพียงเพราะมีอะไรบางอย่างไม่เป็นอย่างใจคุณ
คุณตัดสินเค้าเร็วไป จากการแสดงออกในตัวตนของเค้า ในเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆ
ฝั่งคุณ คุณมีสิทธิ์จะไม่ชอบและเสียเซลฟ์ครับ
แต่มองภาพกว้างให้ออก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันคือเค้าเป็นคนที่แย่ และไม่น่าคบรึเปล่า
เล่าเรื่องของผมต่อให้ฟังอีกนิดละกัน
หลังจากผมเจอกันกับแฟนครั้งแรก ทั้งเรื่องแต่งตัวของผม
และเรื่องที่ทักเธอข้อศอกด้านด้วยความไม่คิดอะไร
ถ้าหลังจากนั้นเธอเลิกคุยกับผม ไม่ไปต่อ
ผมคงดีใจที่ไม่ต้องทนคบกับคนที่ตัดสินคนอื่นกับเรื่องแค่นี้ จากการเจอหน้ากันเพียงครั้งเดียว
แต่เธอยังคุย และมาเจอผมเหมือนเดิม
หลังจากนั้นผมก็แต่งตัวดีหน่อย ไม่ปล่อยเซอ
เธอก็บอกผม ว่าที่ผมทักเรื่องศอกเธอ ทำเธอเสียเซลฟ์
แต่เป็นความเสียเชลฟ์ที่เธอย้อนกลับมามองว่า เธอดูแลตัวเองไม่ดีรึเปล่า
แน่นอนว่าผมก็ขอโทษเธอ และได้เรียนรู้ว่า แม้เราจะไม่คิดอะไร แต่ก็ไม่พูดดีกว่า
ลองสังเกตุนะครับ ว่าทิศทางความคิดแต่ละคน มันไปทางไหน
ถ้าเธอไม่ชอบ แล้วมาตัดสินว่าผมปากไม่ดี ผมคงถอย
แต่พอเจอผมทัก แล้วเธอย้อนกลับมามองตัวเอง แม้จะมีความไม่พอใจ เสียเซลฟ์ไปบ้าง
แต่เธอไม่ตัดสินผมกับเรื่องเพียงเท่านี้ มันกลับกลายเป็นแต้มต่อให้ผมเห็นว่าเธอเป็นคนน่ารัก
และให้พื้นที่และเวลาเพื่อทำความเข้าใจ และให้โอกาสคนอื่น
สิ่งที่คุณบอกเล่ามาเป็นตัวหนังสือ ผมเชื่อว่ามันมีอะไรในนั้นอีกมากมายที่บรรยายมาไม่หมด
แล้วด้วยประสบการณ์ที่คุณเพิ่งจะอายุ 20 ต้นๆ ความสามารถในการมอง การคิดคุณก็มีจำกัดใช่มั้ยล่ะครับ
สิ่งที่คุณสื่อออกมา มันจึงมาจากมุมมองของคุณ ที่ผมมองออกว่า คุณคงพลาดอะไรไปหลายอย่าง
อย่างหนึ่งที่อยากให้คุณเห็น คือคุณตัดสินเค้าจากทุกการกระทำ
โดยเหมือนคุณไม่ได้พยายามมอง เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจสักเท่าไหร่เลย
แสดงความคิดเห็น
นัดเดทกับคนคุยครั้งแรกเขาทักเราเสียความรู้สึก เสียเซลล์มาก..
แต่ไม่กล้าไป2ต่อ2 เลยเอาเพื่อนผญไปด้วย บอกก่อนว่าเราอายุ20ต้นๆ ส่วนเพื่อนเรา30+แล้วเป็นเพื่อนที่ทำงานที่สนิท แล้วคนคุยก็อายุ40+แล้ว ที่คุยเพราะชอบคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่อายุมากกว่า และในแชทเขาคุยดีนะ ไม่มีเรื่องทะลึ่ง แล้วเขาบอกอยากเจอเรา แล้วขับรถจากทม มาหาเราเลย ก็ไกลนะ นัดกันที่คาเฟ่
เจอกันครั้งแรก เพื่อนเราเลยขอตัวไปถ่ายรูป เพื่อให้เราได้คุยกัน สิ่งที่เขาทักและคุยกับเราคำแรกคือ ทำไมขอบตาดำจัง😥 นอนดึก ขอบตาดำหมดแล้ว เเละก็ เราผอมมากๆเลย เขาพูดแบบนี้ เรานี่ไปไม่เป็นเลย ไม่รู้ว่าอาจจะเเซวเฉยๆแต่มันแรงไปสำหรับเรา เจอกันควรทักชวนคุยกันสิ่งดีๆไหม ไม่ใช่พูดถึงเรื่องรูปร่าง แต่กลับกัน ดันบอกว่าเพื่อนเราอายุ30+แล้วหรอ แต่หน้าเด็กมากอะ นึกว่า27-28 เรานอยมาก และไปไม่เป็นเลยจริงๆ เลยบอกไปว่า พี่หนูสวยไหม น่ารักนะ ชอบไหม ถ้าชอบลองคุยกันไหมละ เเต่เราพูดตรงๆเราก็ใจกว้างพอนะ ถ้าจะชอบเพื่อนเรามากกว่า เราก็ให้คุยนะ แต่เขาพูดกลับมาว่า จะมาเป็นแม่สื่ออะไรเนี่ย..และก็พูดเหมือนแค่รักษาน้ำใจเรามากกว่าว่า เพื่อนก็น่ารัก!!! แต่ชอบคนนี้มากกว่า ซึ่งเราเป็นผญอะเนอะ ก็พอจะรู้สึกได้และมีเซ้น แต่บอกก่อน เราไม่ได้อวยตัวเองนะแต่เราก็เป็นคนหน้าตาใช้ได้น่ารักอยู่นะ แต่อาจจะเป็นคนสูงผอม เราสูง165 หนัก49 ซึ่งตัวจริงเขาสูงกว่าเราหน่อยเดียวเอง ไม่รู้สิ ยิ่งมาทักแบบนี้เรานอยมากจริงๆ แต่เราก็ทนกัดฟันเดทต่อไป ไม่วีนไม่ไรนะ ทำปกติ เขาก็พาเรากับเพื่อนไปเลี้ยงอาหารปิ้งย่างในห้าง ก็นั่งกินกัน3คน แต่กลับคุยและถามนั่นถามนี่เพื่อนเรา เหมือนเขาไม่ได้มาเดทกับเรา แต่เหมือนเขามาเดทกับเพื่อนเรามากกว่า แต่เขาก็ตักอาการให้เรานะ แต่ก็ตักให้เพื่อนเราด้วย🙂 แต่เพื่อนเราก็วางตัวดีนะ เเละเราพยายามจะเข้าไปในสนทนาเวลาคุยกันแต่เขากับเมินคำพูดเราไป และคุยกับเพื่อนเราต่อ กลับมาเราเลยพิมพ์บอกเขาไปว่าพี่ชอบพี่สาวหนูไหม ถ้าชอบลองคุยกันดูนะ ไม่ได้งอน ไม่โกรธเลยเข้าใจ แต่ไม่รู้นะว่าแค่รักษาน้ำใจเราหรือป่าวแต่ก็ไม่ได้ขยายความไรมากมาย ตอบมาแค่สติกเกอร์ No No แบบนี้แหระ
ทุกคนคิดยังไงคะ เเบบนี้มีแนวโน้มที่เขาจะสนใจเพื่อนเรามากกว่าไหม..??