น่าจะเป็นข่าวที่คนไทยรู้กันอยู่แล้วโดยทั่วไปแล้วมั้ง กับการเคลมวัฒนธรรมไทยของเขมร ตั้งแต่มวยไทยที่ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกุนขแมร์ในซีเกมส์ ( ทั้งๆที่กติกาการชกและไส้ในเป็นของมวยไทย ) และการเปลี่ยนชื่อกีฬาเดิมที่มีอยู่ ≠ การบรรจุกีฬาใหม่ ตามที่เขมรกล่าวอ้างสิทธิ์เจ้าภาพนะ

ไหนจะวรรณคดีไทยอีกที่มันเคลมว่าของมัน ทั้งที่ไทยมีหลักฐานอยู่ทนโท่ และที่โกรธที่สุดไม่ใช่เรื่องอื่นใดนั้นก็คือการที่เขมร อ้างสิทธิ์ว่าชุดไทยมันเป็นของเขมร แล้วชุดซัมปอตมึjละ ! โคตรโกรธเลยมันบอกว่า “ ชุดราชนิยม ” เป็นของมันมีมาตั้งแต่สมัยโบราณพ่องมึjสิ หลักฐานและลิขสิทธิ์ก็มีชัดเจนว่าไทยทำขึ้นมาสมัย พ.ศ. 2503 ที่ท่าน ร.9 เสด็จเยือนยุโรปและสหรัฐอเมริกา แถมไทยยังมีลิขสิทธิ์ของชุดในตรงนี้ด้วย แต่เขมรมันเคลมเฉยว่ามีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่พอถามถึงรายละเอียดของชุดกลับตอบไม่ได้ บ้างทีแม่.งเถียงมาตั้งนาน พอถามเรื่องนี้หายไปดื้อๆไม่ตอบเฉย

ไม่เข้าใจว่าภาครัฐและกระทรวงวัฒนธรรมทำอะไรกันอยู่ ทั้งๆที่มีปัญหาถูกเถียงกันหนาหูในโซเชียล แต่ไม่ออกมาเทคแอ็คชั่นอะไรเลยในขณะที่เขมรออกข่าวโครมๆ และมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆกับเรื่องชุดไทย บ้างคนยังมองว่าเรื่องตลกขำขันว่าเคลมเขมร แต่ในตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติบ้างคนที่ไปนครวัดก็เข้าใจสับสนคาดเคลื่อนกันแล้ว และบอกว่านี้ ( ชุดไทย ) เป็นชุดดั้งเดิมท้องถิ่นของกัมพูชา

ไม่รู้ว่าพวกผู้ใหญ่ในไทยทำอะไรกันอยู่ แต่จากที่เดา ( ความเห็นส่วนตัว ) คงคุยกับเขมรและฮุนเซนแล้ว พวกตัวบิ๊กๆในเขมรว่าคงยอมเรื่องนี้ไปก่อนจนถึงการเลือกตั้งใหม่ที่กัมพูชาสิ้นสุดลง แล้วค่อยเคลียร์เพราะมันเป็นแบบนี้มาตลอด ใกล้เขมรเลือกตั้งเมื่อไรพวกปลุกปั่นแบบนี้ทุกที่ และคาดว่าคงมีใต้โต๊ะในไทยรึป่าว เพราะว่าขนาดกุนขแมร์ก็มีคนของไทยนี้แหละ อยู่เบื้องหลังให้การช่วยเหลือ