JJNY : ‘พายุ ดาวดิน’ใส่‘ดวงตาปลอม’|“จักรพล”อัด“ประยุทธ์”|วิษณุ เปิดไทม์ไลน์ ‘2กม.ลูก’ |"สี จิ้นผิง"อาจคลายล็อกซีโร่โควิด

กระทู้ข่าว
‘พายุ ดาวดิน’ ใส่ ‘ดวงตาปลอม’ เดือนหน้าถ้าอักเสบ-บวมแดงลดลง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707007
 
 
‘พายุ ดาวดิน’ ใส่ ‘ดวงตาปลอม’ เดือนหน้าถ้าอักเสบ-บวมแดงลดลง
 
สืบเนื่องกรณี ‘พายุ ดาวดิน’ ออกจากโรงพยาบาล ภายหลังจากได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางขณะสลายชุมนุมม็อบราษฎรหยุดเอเปค เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยแพทย์แจ้งว่า ดวงตาขวาไม่สามารถมองเห็นได้อีกนั้น
 
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิติกร ค้ำชู หรือ ‘ตอง ดาวดิน’ เปิดเผยอาการล่าสุดของ พายุ ว่า ได้เข้าพบจักษุแพทย์เป็นครั้งแรกหลังจากออกจากโรงพยาบาล เบื้องต้นลูกตาไม่มีภาวะติดเชื้อ แต่ยังบวมและอักเสบต้องหยอดยาฆ่าเชื้อ แต่ลดลงจาก 8 ครั้ง เหลือ 6 ครั้งต่อวัน
โดยมีนัดพบแพทย์อีกครั้งในวันที่ 6 ธันวาคม เพื่อติดตามอาการและตัดไหม คาดว่าหลังจากตัดไหมจะสามารถลืมตาได้ดีขึ้น ทั้งนี้ อีก 1 เดือนข้างหน้า หากอาการบวมแดงอักเสบลดลง จะสามารถใส่ดวงตาปลอมได้
 
สำหรับผลกระทบทางด้านจิตใจ พายุ ได้เข้าพบจิตแพทย์ ไม่พบภาวะเครียด สุขภาพจิตดีเข้มแข็ง


 
“จักรพล” อัด “ประยุทธ์” ไม่เห็นหัวปชช.เมินพรบ.อากาศสะอาด
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_459299/
 
“จักรพล” ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทยทุกคน ติง”ประยุทธ์” ไม่เห็นหัวประชาชนเมินพิจารณาพระราชบัญญัติอากาศสะอาด
 
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนธ.ค.อากาศของพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่ ต้องประสบกับมลภาวะทางอากาศ แม้ที่ผ่านมาพยายามแก้ไขอย่างเต็มกำลัง แต่ไร้ผลเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเท่าที่ควร ทั้งนี้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อนำเสนอพระราชบัญญัติอากาศสะอาด
 
เพื่อที่จะมีกฎหมายปกป้อง สภาพแวดล้อมของคนในพื้นที่ ตั้งเป้านำเข้าสู่การพิจารณาของสภาแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้รัฐบาลอ้างว่ากฎหมาย ดังกล่าวเป็นกฎหมายการเงินต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อนส่งผลให้กฎหมายฉบับดังกล่าวต้องถูกดึงเวลาเนิ่นนานออกไป
ซึ่งฝ่ายบริหารตีความว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเงิน ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8 กระทรวงพิจารณา ปัจจุบันได้รับการตอบรับจากทั้ง 7 กระทรวงแล้ว ติดอยู่ที่กระทรวงการคลังไม่ยอมพิจารณาจึงไม่สามารถนำเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา จะเดินต่อหรือตีตกไป ส่งผลให้กฎหมายฉบับดังกล่าวไม่สามารถที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้
 
ทั้งนี้นายจักรพล กล่าวด้วยว่า 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนเชียงใหม่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศที่ร้ายแรงจนติดอันดับ 1 ของโลก 3 ปีติดต่อกัน เพราะหมอกควันพิษที่ลอยข้ามพรมแดนมามีความหนาแน่นสูงมาก ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ทั้งโดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หลายคนเสียชีวิตเพราะปอดอักเสบ เด็กหลายคนต้องประสบ ปัญหาทาง ระบบการหายใจหากรัฐบาลไม่ทำอะไรคงเลวร้ายมากกว่านี้
 
ซึ่งรัฐบาลไม่เห็นหัวประชาชน ไม่มีความเห็นใจประชาชนในพื้นที่ ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีเวทีมากมายให้นำกรณีดังกล่าวเข้าหารือในเวทีระดับนานาชาติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน พล.อ.ประยุทธ์ ควรกำหนดให้การแก้ปัญหาหมอกควันพิษเป็นวาระแห่งชาติ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรหลังการเลือกตั้ง หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล การแก้ปัญหาหมอกควันพิษจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่จะผลักดัน เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ



วิษณุ ย้อนประวัติศาสตร์ เกมแห่ลาออกบีบยุบสภา เปิดไทม์ไลน์ ‘2กม.ลูก’ บังคับใช้มี.ค.66
https://www.matichon.co.th/politics/news_3707011
 
วิษณุ ย้อนประวัติศาสตร์ เกมแห่ลาออกบีบยุบสภา-เปิดไทม์ไลน์ ‘2กม.ลูก’ บังคับใช้มี.ค.66
 
วันที่ 3 ธันวาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หากมี ส.ส.แห่ลาออก จนทำให้สภาเหลือ ส.ส.ในสภาแค่ 200 คน แม้รัฐบาลจะยังอยู่ได้ แต่กลไกสภาไม่เวิร์กแล้ว และในอดีตเคยเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นเพื่อบีบให้ยุบสภา
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม นายวิษณุ กล่าวว่า กรณีที่อาจมี ส.ส.จำนวนมากใช้วิธีลาออกเพื่อกดดันให้ยุบสภานั้นเหตุการณ์เช่นนี้เคยมี แต่ไม่ถึงกับออกหมด ในอดีตสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯเคยมีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มาจากการแต่งตั้ง รู้สึกว่าให้นายกฯคนใหม่ได้แต่งตั้ง สนช.ใหม่ จึงทยอยลาออกครั้งละ 5-10 คน จนกระทั่งถึงครึ่งหนึ่ง นายกฯหลังจากนั้นคือนายสัญญา ธรรมศักดิ์ จึงยุบสภา และแต่งตั้งสมาชิกใหม่โดยสภาสนามม้า
 
ไม่มีกฎหมายใดบอกว่าหากลาออกกันเยอะแล้วจะต้องยุบ แต่โดยวิธีปฏิบัติแล้วก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม และหากจะพูดไปแล้วสมาชิกร่อยหรอลง หรือลาออกไปจนเหลือแค่ 200 คนก็ประชุมได้ เพราะจะเลือกตั้งซ่อมก็ไม่ได้เนื่องจากอายุสภาเหลือเวลาน้อย และถ้า 200 คนนั้นจะมาประชุมก็ประชุมได้ โดยยึดองค์ประชุมครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ ดีไม่ดีพวกที่คิดจะทยอยลาออกจะทำให้รัฐบาลทำอะไรได้อีกตั้งเยอะ
 
แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ทำอย่างนั้น แต่ทำให้เห็นว่ากลไกสภาไม่เวิร์กแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นความชอบธรรมที่รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่มีปัญหา ไม่ติดอะไร ผมเองก็ยังเสียวอยู่เลยว่าลาออกกันเหลือแค่นี้รัฐบาลอาจคิดว่าดีแล้วเพราะต่อไปนี้กฎหมายอะไรที่ค้างกันก็เอาเข้าสภาช่วงนี้เสียเลย” นายวิษณุกล่าว
 
นายวิษณุกล่าวถึงร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำวินิจฉัยไปให้สภา จากนั้นสภาจะส่งมาให้รัฐบาล ขณะนี้ยังไม่มีการส่งมา เมื่อสภาส่งมาแล้วจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายภายใน 25 วัน โดย 5 วันแรกเผื่อไว้หากมีผู้ร้องคัดค้านต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกหนหนึ่ง
 
ส่วนอีก 20 วันนั้นเป็นกำหนดเวลาในการให้รัฐบาลจัดพิมพ์ให้เรียบร้อย แต่โดยทั่วไปใช้เวลาไม่ถึง 20 วัน เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้วจากนั้นก็นับหนึ่ง ซึ่งอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วันสุดแต่จะทรงลงพระปรมาภิไธย ลงมาเมื่อใดก็ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลใช้บังคับในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำร่างกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯคงจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม หากนับไปอีก 90 วันก็จะอยู่ประมาณเดือนมีนาคม 2566 คงใกล้กับวันที่สภาจะครบวาระ ซึ่งไทม์ไลน์ยังอยู่ห้วงเดิมที่ตนเคยระบุไว้ไม่มีอะไรผิดพลาด
 
ส่วนใครที่ไปนับกันว่าการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหากมีการยุบสภาต้องเป็นภายใน 30 วันนั้น หรือสภาครบวาระ ต้องเป็นสมาชิกภายใน 90 วันนั้นก็ถูก แต่การนับ 90 วันจะนับจนถึงวันเลือกตั้งไม่ได้นับจนถึงวันที่สภาหมดวาระ ดังนั้นที่มีการออกมาพูดกันเยอะว่าหลังวันที่ 24 ธันวาคมแล้วจะอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นเพราะไปนับ 90 วันถึงวันที่ 22 มีนาคม 2566 ที่เป็นวันครบวาระของสภา แต่ในความเป็นจริงไม่เกี่ยวกัน” นายวิษณุกล่าว
 
เมื่อถามว่าหากจะให้ปลอดภัยสุดนักการเมืองควรย้ายพรรควันที่เท่าไหร่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมตอบไม่ถูก อยากย้ายกันเมื่อไหร่ก็ย้าย แต่ถ้ายุบสภาก็ยังมีกำหนดเวลาเลือกตั้ง 45 วัน ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งก่อน 45 วันได้ ดังนั้น หากมีการยุบสภาขึ้นมากะทันหัน พรุ่งนี้ก็ยังย้ายพรรคกันได้ก็เท่านั้น เพราะมีกรอบ 45 วัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่