แชร์ประสบการณ์พบจิตแพทย์ครั้งแรกที่รพ.บ ร ร

กระทู้สนทนา
ขอเล่าสั้นๆ ดังนี้ค่ะ
1. สวัสดีค่ะ เราอายุ 35ปี มีภาวะอารมณ์แปรปรวน/ หดหู่ ซึมเศร้า
เครียด ฟุ้งซ่าน ย้ำคิด ร้องไห้ฟูมฟาย และปวดไมเกรนเป็นประจำ
ซึ่งลองจับเวลาดูแล้วพบว่ามักเป็นช่วงก่อนรอบเดือน
และจะเป็นนานประมาณ1-2วันก่อนจะหายไป
แรกๆก็ทนได้ แต่หลังๆเริ่มรู้สึกว่ารบกวนการใช้ชีวิต เสียจริตมาก
จึงตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ ด้วยความคิดว่า
ตัวเองมีอาการ PMS (อารมณ์แปรปรวนก่อนมีรอบเดือน) หรือ PMDD (+รุนแรง)

1.1. อารมณ์แปรปรวนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
จนเรามีนิยามของตัวเองว่าคืออาการ 'จมทะเล'
(เศร้า รู้สึกแย่ รู้สึกผิด รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า อนาถ/สมเพชตัวเอง
หดหู่/ซึมเซา = เหมือนกำลังจมทะเลที่ มืด หนาว โดดเดี่ยว ตะกายขึ้นมาไม่ได้/ช่วยตัวเองไม่ได้)
ล่าสุดเปราะบางมากจนถึงขั้นอยากลบสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าให้หายไป(หรือฆ่าตัวตาย)
เลือกรพ.บ ร ร เพราะขึ้นชื่อว่าแพง เลยคิดว่าหมอที่นี่จะใส่ใจมากกว่าที่อื่น
(แพงไม่ว่าขอให้เจอหมอที่เข้าใจ)

1.2 เปิดเว็บรพ. เพื่อเลือกหมอ ระบบเขาทำดีมาก มีรูปหมอ
พร้อมดีกรี/ความถนัดตามสาขาวิชา และตารางออกตรวจมาให้เลือกเป็นระบบ ชอบมากค่ะ
ตัดสินใจเลือกหมอหญิงคนหนึ่งที่ดูมีอายุท่าทางใจดี โทรนัดเสร็จสรรพ
ประชาสัมพันธ์รับนัดพูดจาน่ารักน้ำเสียงน่าฟัง ขอรายละเอียดอย่างสุภาพ
และเรียกเราว่า'คุณผู้หญิง' อยู่ตลอด เขินเบาๆ และใจชื้นว่าถ้าเป็นที่นี่ต้องให้เกียรติคนไข้ดีเยี่ยมแน่

2. พบหมอ จะขอเล่าสั้นๆ เพราะไม่ต้องการนึกถึงรายละเอียดที่ช้ำใจนะคะ
หมอไม่เข้าใจเรา และไม่พยายามเข้าใจ และทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกดูถูก
รู้สึกด้อยค่าลงไปกว่าตอนก่อนพบหมออีก
ความรู้สึกนั้นเริ่มจากตอนที่เราบอกหมอว่ามีอาการ 'จมทะเล'
โดยมีเรื่องแย่ๆในอดีตเล่นซ้ำวนอยู่ในหัวและความรู้สึกมันสดใหม่เหมือนเพิ่งผ่านมาเมื่อวาน
ทั้งๆทีเรื่องนั้นผ่านมากว่า 20ปีแล้ว ทำให้เรากลัวการเข้าสังคม/กลัวสายตา
/กลัวถูกรังเกียจ/กลัวถูกตัดสิน และเราไม่กล้าสบตาคนอีกเหมือนก่อนอีกเลย
- คือสบได้บ้างแต่หลุกหลิกและหลบตาบ่อย)

หมอ : หมอว่าคุณไม่ปกติแล้วล่ะ ถ้าเรื่องตั้ง 20ปีแล้วคุณยังผ่านมันไปไม่ได้
หมอถามหน่อย คุณจะใช้ชีวิตในสังคมยังไง? ถามหน่อยตอนนี้คุณทำงานอะไร?
เรา : ไม่ได้ทำค่ะ..
หมอ : แล้วคุณเอาเงินที่ไหนใช้?
เรา : อยู่บ้านกับพ่อแม่ค่ะ...
หมอ :  แล้ววันๆคุณทำอะไร
เรา : ทำงานอดิเรกค่ะ อ่านหนังสือ วาดภาพ.....

ภาษากายของหมอคือประสานมือวางบนโต๊ะตรงข้างหน้า
โน้มตัวเข้ามาหาเรานิดหน่อย ขมวดคิ้ว+เบะปากและพยักหน้าเบาๆ
ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธ เหมือนถูกหมอตัดสินว่าเป็นคนใช้ไม่ได้
รู้สึกด้อยค่าเหมือนไม่ได้รับการยอมรับ

หมอ : แต่งงานหรือยัง? มีลูกไหม?
เรา : ยัง/ไม่มีค่ะ แต่สักวันคงมี
หมอ : (ขมวดคิ้ว) แล้วคุณจะเลี้ยงลูกยังไง? จะสั่งสอนลูกยังไง?

คำพูดหมอพูดสุภาพนะคะ แต่น้ำเสียงฟังเหมือนไม่พอใจ+บทสนทนาไล่ต้อน
ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกกดดัน ถูกคุกคาม ถูกตำหนิ ถูกลดค่า และไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจ
และไม่พยายามเข้าใจจุดยืนที่เราอยู่/ สิ่งที่เราเป็น และสิ่งที่เราเจอมาเลย มีต่อค่ะ

หมอ : มีใครให้ปรึกษาไหม พ่อหรือแม่ พี่น้อง?
เรา : (เล่าปัญหาครอบครัว)
หมอ : หัวเราะ + ส่ายหน้า (พีคมากแม่ - อารมณ์หมอประมาณ โธ่ถังงง~~ ..รู้สึกเหมือนถูกเยาะ)

...ตรงจุดนี้จำไม่ลืมเลือน พีคกับการหัวเราะแบบไม่มีเสียงพร้อมส่ายหน้าของหมอมาก
คือ ฉันก็อยากจะหัวเราะให้ชีวิตตัวเองเมือนกันค่ะ หมอไม่ต้องทำแบบนี้ให้ก็ได้นะ) มีต่อค่ะ

หมอ : นอนดึกไหม
เรา : ดึกค่ะ ประมาณตี 2
หมอ : (ขมวดคิ้ว ปากยังคว่ำอยู่) ทำอะไร?
เรา : นวดให้แม่ค่ะ แม่นอนดึก
(และแม่ให้นวดนานมากเพราะแม่นอนเล่นมือถือไปเรื่อยเพลินๆ ไม่ยอมบอกให้พอแล้วสักที)
กว่าจะนวดเสร็จกว่าจะได้ไปทำเรื่องของตัวเองเลยดึก (ก็รู้อะนะว่าทำก่อนก็ได้
แต่ต่อให้ดึกแค่ไหนก่อนนอนเราต้องมีเวลาอยู่กับตัวเอง อ่านหนังสือ เล่นมือถือ ถึงจะนอนได้ < ทุกอย่างในวงเล็บไม่ได้พูด)
หมอ : (ขมวดคิ้วคว่ำปาก) บอกแม่ไปเลยค่ะ ว่า ม่ายยย~~ค่ะ!! ไม่ทำค่ะ! หนูจะนอนค่ะ! สุขภาพของหนูค่ะ!
(อารมณ์น้ำเสียงหมอเหมือนเหลืออดกับการสอนเด็กน้อย จังหวะพูดยานคางแต่ลงท้ายหนักเหมือนกำลังดุ กำลังอบรมเรา)
เรา : (ได้แต่ยิ้มเจื่อน และก้มหน้ามองโต๊ะจนจะจำลายโต๊ะได้แล้วเพราะกลัวเสียมารยาท+ไม่กล้าแย้งหมอ
แต่ในใจคือคิดว่า.. ถ้าพูดได้หนูก็พูดไปแล้วค่ะหมอ แต่มันพูดไม่ได้ไง
ด้วยความเป็นตัวหนูที่หมอไม่พยายามเข้าใจ แล้วหมอก็ไม่รู้จักแม่หนูเลยว่าเป็นคนยังไง)

3. สุดท้ายหมอวินิจฉัยว่าไม่ใช่แค่อารมณ์แปรปรวนก่อนมีรอบเดือนแล้ว แต่มีอาการซึมเศร้าอ่อนๆ
ให้ลองทานยาดู เรายกมือไหว้หมอ และออกไปรอจ่ายตังค์+รับยา
เสร็จแล้วไปนั่งร้องไห้กับคำพูดหมอประมาณ 20 นาที ค่อยกลับบ้าน

-------------------------------

อารณ์ที่ตัดสินใจว่าต้องไปพบแพทย์คือเปราะมาก ถ้าไม่สุดจริงคงไม่ไป
เปราะบางยิ่งกว่าน้ำตาลสายไหม บ่อน้ำตาพร้อมระบายได้ทุกเมื่อ
ประสบการณ์อันเจ็บปวดในอดีตที่ผ่านมันไปไม่ได้มันเล่นซ้ำวนในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แผลไม่เคยเก่า แผลยังสดใหม่เสมอ
ฉันรู้ตัว และฉันต้องการรักษาถึงได้พาตัวเองมาที่นี่
เพราะทำเองไม่ได้ไงเลยมาให้หมอช่วย
ไม่คิดว่าจะต้องมาถูกทำร้ายจากคำพูดของคนแปลกหน้าที่เราต้องจ่ายตังค์ให้อีก
มันแย่มากๆ เรื่องนี้ผ่านมากว่า 3เดือนแล้ว เพิ่งตัดสินใจมาเขียน
เพราะก่อนพบแพทย์เราก็เคยมาหาข้อมูลด้วยคำค้น 'จิตแพทย์ + พันทิป'
จึงอยากให้ประสบการณ์นี้เป็นข้อมูลในการเตรียมตัวและตัดสินใจพบแพทย์ของใครหลายๆคนที่ประสบภาวะเดียวกันค่ะ

ปล. ยาที่ได้รับมาเรามีการตอบสนองดีค่ะ ทำให้อารณ์ดี เรื่องแย่ๆเล่นซ้ำน้อยลงและนานๆ(ๆ)ที
ยัง 'จมทะเล' อยู่บ้าง แต่ก็น้อยลงประมาณเดือนละครั้งหรือ2เดือนครั้ง
หลังกินยาไม่หนักหัว ไม่พะอืดพะอม แต่มีอาการ ใจเต้นแรง กินเยอะ หลับยาก
ไฮเปอร์ พูดเร็ว ทำอะไรฟึ่บฟั่บ เหมือนชีวิตถูกเร่งสปีด ×1 คุยเก่งขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น
ความรอบคอบน้อยลง (บางเวลาก็รู้สึกตัวว่าก้าวร้าวมากขึ้นเนื่องจากพูดอะไรที่เมื่อก่อนจะไม่กล้าพูด/ไม่กล้าแย้ง)
แต่อยู่ในระดับที่รับได้ ถือว่าดีกว่าตอนซึมเศร้านอนจมน้ำตา ตื่นมาตาบวมปูด ไม่อยากกินข้าว นอนตายเป็นผักทั้งวัน
ตอนนี้ก็ยังกินยาต่อมาเรื่อยๆ แต่แน่นอนว่าเรายกเลิกนัดต่อไปของหมอคนนี้ เลยไม่รู้ว่าในอนาคตต้องปรับยาไหม
แต่ ณ จุดนี้ยังไม่พร้อมไปหาหมอคนใหม่เพราะกลัวเจอแบบคนเดิม T-T
ขอบคุณที่อ่านค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
ปล.2 อาการไมเกรนไม่เคยหายไปค่ะ ยังแวะเวียนมาให้ปวดอยู่เรื่อยๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่