การใช้ยุทธวิธีเสิร์ฟจี้บอลแรกแบบ 6 รุม 1 เพื่อสร้างโอกาสการได้รับชัยชนะในเกมวอลเล่ย์บอล

กระทู้สนทนา
มีแฟนรายการสอบถามเข้าไปในยูทูปช่อง Wantleyball Channel "LIVE พูดกันเรื่องวอลเลย์บอล ถามมาตอบไปเพลิน ๆ"
วันที่ 22 ตุลาคม 2021 (ช่วงเวลา 1:02:34 - 1:08:20) ว่า

ผู้ดำเนินรายการมีความคิดเห็นอย่างไร กรณีที่โค้ชทีมเฟเนร์บาห์เช่สั่งให้ผู้เล่นทุกคนเสิร์ฟจี้บอลแรกไปที่บุ๋มบิ๋มคนเดียว

ซึ่งคุณดิษก็ได้ตอบคำถามนี้โดยได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวไว้ค่อนข้างน่าสนใจ โดยคุณดิษมองว่า เป้าหมายในการเสิร์ฟจี้ของทีมฝั่งตรงข้าม นั้น 
1. การเสิร์ฟจี้ไม่จำเป็นต้องจี้คนที่รับบอลแรกอ่อนที่สุดเสมอไป 
2. เขาอาจจะจี้คนที่ตีดีที่สุดก็ได้
3. หรือจี้คนที่มองว่าอายุน้อยที่สุด เวลาถูกจี้แล้วสมาธิจะหลุดง่ายที่สุดก็ได้
4. หรือดูจากสถิติว่านักกีฬาคนนี้ถ้าโดนรับเสิร์ฟบ่อยแล้ว จะตีได้ % น้อยลง
แทคติกของแต่ละทีมไม่เหมือนกัน แต่จะทำแทคติกนี้ได้ ตัวเสิร์ฟก็ต้องมีประสิทธิภาพที่จะทำในระดับนั้นได้ด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
----------------------------------------------------

ทำไมโค้ชระดับโลกอย่าง Zoran Terzić ถึงสั่งลูกทีมทุกคนให้เสิร์ฟจี้บุ๋มบิ๋มชนิด 6 รุม 1 (สงสัยบุ๋มบิ๋มต้องพกมีดคู่ วิ่งเข้าใส่พร้อมกับตะโกน "มาดิ วัยรุ่น")  ทั้ง ๆ ที่สู้กันตามปกติ ทีมเขาก็สามารถเอาชนะทีมเราได้อยู่แล้ว 

ลองมาทบทวนกันดู ทีมชาติไทยเคยเจอแทคติกอะไรจากโค้ชทีมคู่แข่งมาบ้าง 

1. แทคติกการเสิร์ฟจี้ไปที่นักกีฬาคนใดคนหนึ่งตลอดทั้งเกม จี้จนกว่าจะรับหลุดหรือรับพลาดจนสูญเสียความมั่นใจ ทำให้ระบบทีมรวน จนโค้ชต้องสั่งเปลี่ยนตัวออกมานั่งข้างนอก เป้าหมายของทีมที่เสิร์ฟจี้คือ กำจัดนักกีฬาคนนั้น (เกมรุกดีสุด) ออกไปจากเกมการแข่งขันให้ได้ หรือลดประสิทธิภาพการทำเกมรุกของนักกีฬาคนนั้น

2. แทคติกการจับบล็อกบอลสูตร บีทับ บีแทรก เอ็กซ์แทรก ฯลฯ ที่เป็นเครื่องหมายการค้าขึ้นชื่อของทีมชาติไทย แบบที่เฮดโค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ Stefano Lavarini เอามาใช้ปราบทีมชาติไทยในรอบชิงตั๋วโอลิมปิก 2020 จนอยู่หมัด เป้าหมายคือ บังคับให้ทีมชาติไทยต้องเล่นบอลโครงสร้างอาศัยการทำคะแนนจากการตีหัวเสาได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งทีมเกาหลีใต้สามารถรับมือได้ง่ายกว่าการปล่อยให้ทีมไทยเล่นบอลสูตรได้โดยสะดวก 

3. แทคติกการสั่งจับตายตัวตีบอลเร็ว โดยมุ่งเป้าไปที่ตัวตีบอลเร็วที่เก่งที่สุดของไทยอย่าง หน่อง ปลื้มจิตต์ แบบที่เฮดโค้ชทีมชาติจีน หลางผิง ใช้กับทีมชาติไทย จนหน่องทำคะแนนไม่ได้เลยในเกมนั้น จบเกมนั้น หน่องได้ 0 แต้ม เป้าหมายคือ ทำให้ทีมไทยหมดโอกาสที่จะใช้บอลเร็วเป็นตัวทำคะแนนให้ทีม หรือทำไซด์เอ้าท์เปลี่ยนกลับมาเป็นฝ่ายเสิร์ฟ 

ถามว่า ทุกวันนี้โค้ชด่วนหาวิธีรับมือกับแทคติกต่าง ๆ เหล่านี้ได้แล้วหรือยัง ถ้าเจอแทคติกเดิม ๆ เหล่านี้ซ้ำอีก ผลจะออกมาเหมือนเดิมหรือไม่ ทีมชาติไทยมีวิธีรับมือกับแทคติกเหล่านี้อย่างไร สิ่งที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้บอกว่าทีมชาติไทยจะแพ้ทีมเขาไม่ได้ แต่ไม่อยากเห็นการแพ้ชนิดโงหัวไม่ขึ้น ถูกฝั่งตรงข้ามกระทำอยู่ฝ่ายเดียว หรือสู้กันไม่ได้เลยตั้งแต่เซตแรก ทีมอื่นเขารู้จักใช้แทคติกกับทีมไทย แต่โค้ชทีมไทยกลับไม่เคยคิดหาแทคติกอะไรเพื่อตอบโต้เอาชนะทีมคู่แข่งเลยแม้แต่น้อย มันสะท้อนว่า โค้ชทีมชาติไทยอ่อนเรื่องแทคติก ไม่มีการวางแผนหรือคิดหาวิธีรับมือกับทีมคู่แข่งที่มีศักยภาพของตัวผู้เล่นภายในทีมเหนือกว่าทีมของเราล่วงหน้าก่อนแข่ง ปล่อยให้นักกีฬาไปเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากในเกมการแข่งขันกันเอง นักกีฬาแต่ละคนต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวฟันฝ่าเอาตัวรอดกันเองให้ได้ 

สุดท้ายนี้ คงต้องทำใจ ทีมชาติมีโค้ชแบบไหน ก็ได้ผลงานแบบไหน ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรมาก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่