[ บทวิเคราะห์ ] SQUID GAME : เราต่างก็เป็น "ม้า" บนโลกแห่งทุนนิยม

กระทู้สนทนา

จำนวนเงิน 45,600 ล้านวอน กับผู้เล่น  456  คน  ไม่มีใครรู้ว่าต้องเจอกับอะไร
ไม่มีใครรู้ว่าความเป็น และความตายของผู้คนที่หลงเข้ามาอยู่ในเกมนี้ถูกควบคุมโดยใคร
พวกเขารู้แต่เพียงว่านี่คือหนทางสุดท้าย ที่จะปลดปล่อยตัวเองจากชีวิตในโลกแห่งความจริง
ยินดีต้อนรับสู่ Squid Game เล่นลุ้นตาย ซีรีส์แนวเอาตัวรอดเรื่องใหม่จาก Netflix
ที่ปัจจุบันติดอันดับ 1 คอนเทนต์ยอดนิยมของประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว
บทความนี้ผมเขียนขึ้น เพื่อชวนทุกคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้จบแล้ว มาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน
ผ่านบทวิเคราะห์พิเศษ ที่จัดทำขึ้นสำหรับซีรีส์เรื่องนี้โดยเฉพาะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มต้นกัน

โลกแห่งการพนัน ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงนานับประการ เราต่างเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอด และการแข่งขันเพื่อที่จะเอาชนะ
ในโลกของเด็ก "เกม" ที่ดูเหมือนเป็นการเล่นเพื่อความสนุก ก็ยังต้องมีฝ่ายที่แพ้ และฝ่ายที่ชนะ ต่อให้ชัยชนะนั้น
จะต้องแลกมาด้วยกลโกง คำโกหก หรือมิตรภาพจอมปลอมก็ตาม นี่คือสิ่งที่ "Squid Game เล่นลุ้นตาย" มอบประสบการณ์ให้กับผู้ชม
ผ่านมุมมองของตัวละครที่ล้มเหลวในชีวิตอย่าง "กีฮุน" มนุษย์การพนันผู้ชอบเสี่ยงโชค และล้มเหลวในชีวิตจริง
ในช่วงต้นของเรื่อง ซีรีส์ถึงต้องพาเราเข้าไปทำความรู้จักโลกแห่งความสิ้นหวัง และอับจนหนทางของ กีฮุน ก่อน
เพราะชีวิตของตัวละครนี้ คือ "จุดร่วม" ที่ผู้เล่นทั้ง 456 คน มีเหมือนกัน นั่นคือการเป็นหนี้

"เราไม่ได้บังคับ พวกคุณต่างก็มาร่วมเล่นเกมนี้ดวยความสมัครใจ" คำกล่าวหนึ่งของนายทหารผู้คุมความเป็นไปของเกม ย้ำเตือนว่า ท่ามกลางความโหดร้ายและป่าเถื่อนนั้น ไม่มีการข่มขู่ คุกคาม หรือบังคับให้ใครกลับมา เหมือนที่ในสัญญาการเข้าร่วมเกม ระบุไว้ว่า เกมจะยุติถ้าผู้เล่นเกินครึ่งหนึ่งยินยอมให้ยุติเกม เพื่อทดสอบข้อเท็จจริงนั้น "เกมเออีไอโอยู หยุด" จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำอธิบาย 3 อย่าง คือ 1.คำว่า "ตกรอบ" ในเกมนี้ = ความตาย 2.ทุกความตาย 1 ชีวิต คือ เงินที่เพิ่มขึ้นในกระปุกออมสิน 100 ล้านวอน และ 3.ถ้าคุณรู้สึกว่ามันโหดร้าย เกมหยุดได้ทุกเมื่อถ้าคนเกินครึ่งต้องการ ผลโหวตร่วมกันครั้งแรกออกมา เกมยุติลงพร้อมกับอิสรภาพที่ทุกคนได้กลับไป แต่ในอีกทางหนึ่งมันก็เท่ากับว่า พวกเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตในโลกใบเดิมที่พวกเขาไม่มีทางไป

เริ่มเกมครั้งที่ 2 ผู้เล่นเกิน 80% ขอกลับเข้ามาในเกมแห่งความเป็นความตายอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับบทเรียน บทเรียนว่าในเกมนี้ถ้าคุณไม่มีพันธมิตรคุณจะต้องตาย กีฮุน และ ซังอู เพื่อนที่โตมาในหมู่บ้านเดียวกันจึงตั้งกลุ่มของตัวเองขึ้นมา แซบยอก (รับบทโดย จองโฮยอน) ผู้ลี้ภัยจากเกาหลีเหนือที่ฝันอยากมีชีวิตใหม่กับครอบครัว , อาลี อับดุล แรงงานต่างด้าวจากปากีสถานที่มาทำงานอยู่ประเทศเกาหลีใต้ คุณตา หมายเลข 001 ผู้หลงๆลืมๆที่ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนที่สุดในเกมแห่งชีวิตครั้งนี้ และคนสุดท้าย จียอง เด็กสาวบ้านแตกที่ไม่มีครอบครัวให้กลับไป

หากเราลองมาเรียงลำดับของเกมแต่ละเกมที่ถูกจัดไว้ และเปรียบกับชีวิตของคนเราที่อยู่ในโลกแห่งทุนนิยม "เกมเออีไอโอยู หยุด" ก็เปรียบได้กับ ชีวิตที่ต้องเอาตัวรอด แม้จะแลกมาด้วยความตายของคนอื่น "เกมแกะแผ่นน้ำตาล" ก็เปรียบได้กับ ชีวิตของคนเราที่ต่างก็เกิดมาไม่เท่าเทียมกัน บางคนได้เส้นทางที่ง่ายเหมือนวงกลม กับสามเหลี่ยม แต่บางคนก็ได้เส้นทางที่ยาก เหมือนกับรูปดาว และร่ม

"เกมชักเย่อ" เปรียบได้กับการต่อสู้ในโลกปัจจุบัน ที่ไม่ได้อาศัยแค่ความแข็งแรงทางกายภาพอีกต่อไป แต่อาศัยกลยุทธ์ และความได้เปรียบด้านทักษะที่แต่ละคนมีติดตัว
"เกมลูกแก้ว" เปรียบได้กับการหักหลังที่เกิดขึ้นได้ เมื่อมีคำว่าผลประโยชน์มาแทรกแซงในความสัมพันธ์ แต่ในขณะเดียวกัน เกมนี้ก็สะท้อนถึง "โอกาส ครั้งที่ 2" ในชีวิตของแต่ละคนด้วย

และสุดท้าย "เกมบันไดกระจก" เกมที่เปรียบได้กับการทดสอบความไว้ใจของมนุษย์ ยกตัวอย่างฉากหนึ่ง ที่คนด้านหน้าเกิดไม่มั่นใจ เลยหันไปถามคนด้านหลังว่าต้องไปที่กระจกฝั่งไหน ผลสุดท้ายคือคำตอบนั้นผิด และเขาร่วงลงไป ไม่มีใครรู้เลยว่า คำพูดนั้นมาจากความไม่รู้จริงๆ หรือจำได้ แต่ไม่ยอมบอก เพื่อตัดผู้เล่นหนึ่งคนให้ออกไปจากเกม เช่นเดียวกันกับชีวิตของเราที่ดิ้นรนอยู่ในโลกแห่งทุนนิยม ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า มิตรแท้ที่ดูเหมือนจะช่วยเหลือเรา สุดท้ายจะกลับกลายมาเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเราหรือไม่

แต่นอกเหนือจากเกมที่กล่าวมา ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ที่เป็นการตัดตัวผู้เล่นระหว่างทางเหมือนกัน นั่นก็คือการปล่อยให้ผู้เล่น "ฆ่ากันเอง" นี่คือจุดที่วัดจิตใจ และความซื่อสัตย์ระหว่างกันมากที่สุดแล้วในเกม เพราะท่ามกลางความมือดนั้น ไม่มีกฏเกณฑ์ ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนปกป้อง แม้แต่นักเลงอย่าง "ด๊อกซู" (รับบทโดย ฮอซองแท) ก็ยังเกรงกลัวกับความป่าเถื่อนของสิ่งนี้ แม้ตัวเขาจะใช้ประโยชน์จากมันก็ตาม นี่คือภาพจำลองอย่างดีว่า สังคมที่ไร้กฎหมายคอบควบคุม และจัดการนั้น มีความน่ากลัวแค่ไหน  โดยเฉพาะในโลกที่ความตาย = คุณมีโอกาสจะได้เงินเพิ่มขึ้น นี่คือสัญลักษณ์แทนโลกแห่งทุนนิยม เมื่อไหร่ที่คุณหยุดเอาชีวิตรอด สิ่งที่รอคุณอยู่ก็คือการกลายเป็น "ผู้ถูกล่า"
แต่นอกจากเหล่าผู้เล่นในเกมแล้ว ยังมีตัวละครอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรถูกพูดถึงด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือเหล่าทหารชุดสีแดง ที่สวมหน้ากาก ในซีรีส์เราจะเห็นเลยว่า แม้โลกของผู้เบ่นจะเท่าเทียมกัน แต่โลกของทหารชุดแดงนั้น มีระดับชั้นที่ชัด นั่นคือ สัญลักษณ์ที่อยู่ตรงหน้ากาก ซึ่งแทนความหมายว่า "วงกลม" หมายถึงแรงงานทั่วไป "สามเหลี่ยม" แทนทหารที่มีอาวุธ และ "สี่เหลี่ยม" คือ ผู้คุม ที่ถูกกำหนดบทบาทไว้ในเกม กลุ่มทหารเหล่านี้ ทำให้ผมนึกถึงเหล่าทรูปเปอร์ ในจักรวาล Star Wars ที่มีมากมาย และอยู่ใต้หน้ากากเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทหารในชุดแดงดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น คือ การที่ซีรีส์สร้างบทบาทให้มีทหารนอกคอก บอกข้อมูลลับกับผู้เล่น เพื่อเอาความสามารถด้านการแพทย์มาผ่าอวัยวะของคนที่ตาย หรือใกล้ตายแล้วส่งไปขาย ในซีรีส์นั้นเฉลยไว้ด้วยว่า หัวหน้ากลุ่มหน้ากาก รู้ถึงพฤติกรรมการขายอวัยวะของพวกเขามาตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่หัวหน้ายอมไม่ได้ คือ การทำลายโลกอันเท่าเทียมกันในเกม ที่พวกเขาสร้างขึ้น
เมื่อมีเกมก็ย่อมมีผู้คุมกฎ และมีผู้ที่รับชมเกม เราเรียกกลุ่มผู้ชมที่เฝ้ามองการแข่งขันนั้นว่า "VIP" ทุกคนสวมหน้ากากสัตว์ที่ต่างกัน และบินมาจากดินแดนอันห่างไกล เพื่อเพลิดเพลินไปกับความสนุกตรงหน้า ความสนุกที่ได้เห็นผู้คนยอมฆ่ากันเองเพื่อเงินรางวัล ยอมผลักคนตรงหน้าให้ตกลงไปเพื่อปูทางรอดให้กับตัวเอง VIP ไม่เคยมองผู้เล่นเป็น "คน" แต่มองผู้เล่นทุกคนเป็น "ม้า" ที่เดิน วิ่ง และมีชีวิตอยู่บนกระดาน กระดานที่พวกเขาเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมา มอบทางรอด และมอบความตายให้ แลกกับความบันเทิง กลุ่มคนเหล่านี้ ก็เปรียบได้กับคนจำนวนไม่กี่เปอร์เซนต์บนโลก ที่ไม่รู้จะใช้เงินไปกับอะไร เพราะเงินสำหรับพวกเขาหามาได้ง่ายเกินไปจดหมดความสนุกที่ในการใช้ชีวืตไปแล้ว จะเห็นว่า แม้แต่ในช่วงสุดท้าย ผู้เล่นหมายเลข 001 ที่ถูกเฉลยว่า แท้จริงแล้วเขาคือ "โฮสต์" ที่ดูแลเกมนี้ ก็ยังคงอยากเล่นเกมกับ "กีฮุน" ผู้เล่นที่เขาชอบมากที่สุดในเกมนี้ จนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต


:: บทสรุปตัวละคร ::

ซองกีฮุน คือ ตัวแทนของผู้รอดชีวิต แต่ก็รอดมาเพียงร่างกาย เพราะความเป็นมนุษย์ของเขาได้แหลกสลายไปแล้ว พร้อมกับเกมสุดท้ายที่ต้องเห็น "ซังอู" ปลิดชีวิตตัวเองเพื่อให้เขาชนะ

โจซังอู คือ ตัวแทนของคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองชนะ และเรียกคืนบุญคุณที่เคยให้ใครสักคนไปด้วย "ชีวิต" แม้ในช่วงสุดท้าย เขาจะยอมสละตัวเอง แต่มันก็เป็นแค่ทางเลือกที่ถูกกำหนดไว้

คังแซบยอก คือ ตัวแทนของคนที่ได้รับโอกาสครั้งที่ 2 หลังจากที่ตลอดชีวิตของเธอเจอแต่คนหักหลัง การได้พบ และพูดคุยกับ จียอง ทำให้เธอเข้าใจความหมายของการมีใครสักคนที่ไม่ใช่ครอบครัวในชีวิต

ด็อกซู คือ ตัวแทนของคนอ่อนแอ ที่อยากทำตัวยิ่งใหญ่ เพราะในโลกความเป็นจริงเขาเป็นได้แค่นักเลงกระจอก แต่ในโลกของ Squid Game เขาคือผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครกล้าหักหลัง บางครั้งเราเองก็มีคนอย่าง "ด็อกซู" อยู่ในตัว การอยู่ในเกมที่คุ้นเคย และควบคุมได้ กลายเป็น Safe Zone ที่ปลอดภัย จนไม่อยากออกไปเจอโลกแห่งความเป็นจริง

อาลี อับดุล คือ ตัวละครที่เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ใจ  ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะร้องไห้ให้กัยตัวละครนี้ เพราะเขาถูกคนที่ไว้ใจมากที่สุด และเรียกว่า "พี่" หักหลังในเกมแห่งชีวิต แต่นี่แหละคือความเป็นจริง ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ข้าวทุกคำ เงินทุกบาททุกสตางค์ และชีวิตที่คุณได้มา ถึงวันหนึ่งอาจจะมี "เจ้าหนี้" อย่าง ซังอู มาบอกคุณว่า ถึงเวลาต้องทดแทนด้วยเหมือนกัน

บางครั้งชีวิตก็เหมือนหมากรุก และเราทุกคนก็เป็นแค่ "ม้า" หนึ่งตัว บนเกมกระดานแห่งทุนนิยมแค่นั้นเอง

---------------------------------------------------------------


แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่