อวัยวะที่พึงสงวน ซึ่งเป็นส่วนตัวของร่างกายมนุษย์ เรียกว่า "เอาเราะฮ์ (عورة)" ซึ่งแปลว่าสภาพ "เปลือย " ของทั้งหญิงและชาย
สำหรับเพศชายได้แก่ ร่างกายส่วนจากบั้นเอวลงไปถึงหัวเข่า สำหรับเพศหญิง มีระบุไว้อย่างละเอียดไว้ในบัญญัติ ที่ 24:31 คือ
รวมทั้งการปิดทรวงอกและคลุมร่างกายไปถึงเข่าเช่นกัน อัลกุรอานบัญญ้ติไว้ว่า สตรีจะต้องไม่เปิดเผยร่างกายในส่วนของสงวน
และส่วนของร่างกายที่มีเสน่ห์ยั่วอารมณ์ของเพศตรงข้าม เว้นแต่ส่วนที่ปรากฏขัดตามธรรมชาติซึ่งไม่เป็นที่อับอายคำว่าเอาเราะห์
มีปรากฏอยู่ในอัลกุรอาน อยู่ 4 แห่งดังนี้
أَوِ الطِّفْلِ الَّذِينَ لَمْ يَظْهَرُوا عَلَىٰ
عَوْرَاتِ النِّسَاءِ. หรือเด็กที่ยังไม่รู้เรื่อง
อวัยะพึงสงวนของผู้หญิง
ۚ ثَلَاثُ
عَوْرَاتٍ لَكُمْ ۚ لَيْسَ عَلَيْكُمْ وَلَا عَلَيْهِمْ جُنَاحٌ بَعْدَهُنَّ ทั้งสามเวลานี้ เป็นเวลา
ส่วนตัวของพวกเธอ หลังจากนี้แล้วไม่เป็นที่น่าตําหนิแก่พวกเธอ
وَيَسْتَأْذِنُ فَرِيقٌ مِنْهُمُ النَّبِيَّ يَقُولُونَ إِنَّ بُيُوتَنَا
عَوْرَةٌ. และพวกเขากลุ่มหนึ่งจะขออนุญาตจากนบีว่า "บ้านของพวกเรา
ไม่มีผู้ตุ้มกัน" ผดผด
وَمَا هِيَ
بِعَوْرَةٍ ۖ إِنْ يُرِيدُونَ إِلَّا فِرَارًا ทั้ง ๆ ที่มัน
มีผู้คุ้มกัน พวกเขาเพียงแต่ประสงค์การเลี่ยงหนี
คำว่า เอาเราะห์ ที่ปรากฏอยู่ในอัลกุรอานทั้ง 4 แห่งนี้ มีความหมายว่า "เปลือยเปล่า" หรือ "พึงสงวน" หรือ "ไม่มีการปิดป้องคุ้มกัน"
บัญญัติ 24:31 พูดถึงเด็กที่ยังไม่เดียงสาต่อการเปลือยเปล่าของอวัยวะเพศ ของผู้หญิง (เอาเราะห์ = "ความเปลือยเปล่า") จะเห็นได้ว่ามันไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องกล่าวถึงการเห็นผมของผู้หญิง! ด้วยเหตุผลนี้ "เส้นผม" บนศรีษะของหญิงจึงไม่ใช่เอาเราะห์ เพราะเป็นส่วนของของมนุษย์ที่ปรากฏอย่างชัดเจน ตามธรรมชาติของมนุษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิง
ในกรณีที่บรรดาอุลมาลงความเห็นว่า ใบหน้า ฝ่ามือและนัวมือ ข้อเท้าของผู้หญิงนั้นเป็นที่อนุมัติให้เห็นได้นั้นเพราะไม่ใช่ "เอาเราะห์" ไม่ใช่ความงามที่ต้องปกปิด ซึ่งการกล่าวเช่นนั้นไม่เป็นความจริง เพราะว่า จากภาพจะเห็นได้ว่า ฝ่ามือและข้อเท้าที่เปลือยเปล่าของเพศหญิงนั้นมีความงามไม่ต่างจากส่วนอื่นของร่างกายของหญิงรวมทั้งเส้นผมบนศรีษะด้วย
การที่บรรดาอุลมาไม่จัดว่า ใบหน้า ฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็น "เอาเราะห์" ก็เนื่องจากว่า อวัยวะส่วนนี้ มีความสำคัญที่มนุษย์จะต้องใช้ในการทำงานตามธรรมชาติและมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าจะถามว่าฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) หรือไม่?
เราก็จะต้องตอบว่า อย่างแน่นอน ฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) เช่นกัน
แต่ถ้าต้องปกปิด ใบหน้า ฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้าแล้ว ผู้หญิงจะทำงานไม่สดวกหรือไม่ถนัด ตามธรรมชาติที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้อวัยวะส่วนนี้มีไว้สำหรับทำงาน และ
อีกประการหนึ่งการที่เหล่าอุลมา(ชาย) เหล่านี้ ไม่กำหนดให้อวัยวะดังกล่าวเป็นเอาเราะห์ ก็เพราะเกรงว่า เมียของพวกเขาไม่อาจจะรับใช้พวกเขาได้
ใบหน้าของเพศหญิงเป็น زِينَتَهُنَّ หรือไม่? อย่างแน่นอน ใบหน้าของเพศหญิงในภาพหญิงข้างล่างนี้ เป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) เป็นที่ยั่วอามรมณ์ชายหรือไม่? อย่างแน่นอน เป็นใบหน้าที่มีเสน่ห์และสามารถยั่วอารมณ์ใคร่ของเพศชายได้
แต่ทำไมจึงไม่ให้ปิดปกคลุมตามบัญญัติที่ 24:31 "وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ" และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับ/ความงามของพวกนาง?
การที่ไม่จัดว่าใบหน้าเป็น "เอาเราะห์นั้น" ก็เนื่องมาจากว่า อัลลอฮ์ ทรงยกเว้นส่วนซึ่งเป็นที่เห็นได้อย่างเด่นชัดคามธรรมชาติของมนุษย์และมีความจำเป็นจะต้องเปิดเผยเพื่อความสดวกในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของมันตามที่อัลลอฮ์ทรงพระประสงค์ พระะองค์จึงมีข้อยกเว้น "إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا "
เว้นแต่ส่วนที่เห็นอบ่างเด่นชัด(ตามธรรมชาติ) ถ้าใบหน้าส่วนหัวของสตรีเป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) และไม่จัดว่าเป็นเอาเราะห์ ของเพศหญิงแล้ว จะมีคำถามตามมาว่า ถ้าเช่นนั้นทำไมเหล่าอุลมาทั้งหลายจึงจัดว่าเส้นผมเป็น "เอาเราะห์" ของผู้หญิง ในเมื่อเส้นผมก็อยู่บนหัวเป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนตามธรรมชาติ ทั้งนี้เพื่อให้ตรงกับอุดมการณ์ที่เขาวางไว้และตรงกับเรื่องบอกเล่าต่างในเรื่องคลุมผมของชาวอรับ
ถ้าไม่เห็นเส้นผมบนหัวผู้หญิงความงามบนใบหน้าและสายตาที่มีเสน่ห์ของผู้หญิงก็สามารถที่จะกระตุ้นอารมณ์ใคร่ให้เพศชายได้ ด้วยสายตาขอเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะ โกนหัวและคุมหัวก็ตาม ดังนั้นอัลกุรอานจึงมีคำสั่งว่า "وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ "
และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ เนื่องจากการสพสายตากับชายแปลกหน้าอาจจะนำไปสู่อารมณ์แห่งความรักความใคร่ได้
จากข้อความในบัญญัติ ที่ 24:31 เท่าที่กล่าวมา เพื่อแสดงให้เห็นว่า เส้นผมบนหัวไม่ใช่ "เอาเราะห์" ของสตรีที่จะต้องปกปิดเพราะว่า คำสั้งในบัญญัตินี้ ไม่มีคำสั่งให้สตรีมุสลิมคลุมผม มีแต่คลุมทรวงอกจะด้วยผ้าอะไรก็ได้ ตามสดวก ในที่นี้ใช้ผ้าที่คลุมหัว/คลุมหน้า ลงมาปิดทรวงอก บรรดาผู้ที่พยายามที่จะเกี่ยวโยงและบิดเบือนคำสั่งของอัลลอฮ์ที่ว่า "وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَىٰ جُيُوبِهِنَّ" และพวกนางควรจะดึงผ้าที่คลุมหัว/ปิดหน้า (ตามการแต่งตัวตามประเพณีอรับ) ของนางลงมาปิดทรวงอกของนาง ว่าเป็นคำสั่งให้คลุมหัว โดยอธิบายว่า จะต้องคลุมหัวเสียก่อน เป็นอันดับแรกเลย แล้วจึงดึงชายผ้าพันลงมาที่ลำคอ หลังจากนั้นก็นำมามาปิดทรวงอกของนาง นี่ไม่ใช่คำสั่งสำหรับผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด แต่เป็นความเขลาของนักวิชาการที่อ่านอัลกุรอานแล้วไม่เข้าใจวิทยปัญญาจากอัลกุรอาน พยายามที่จะบิดเบือนบัญญัติของอัลลอฮ์ให้สนองอารมณ์ของพวกเขา หวังที่จะหลอกลวงเพศหญิง โดยที่จะใช้บัญญัติ 24:31 อ้างอิงในการบังคับให่สตรีมุสลิมคลุมศรีษะ ตามนโยบายทางการเมืองของภราดรมุสลิม (Muslim Brotherhood) ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วมุสลิมหญิงขาวเอสกิโม ไม่ต้องโพกหัวทับไปบนขนสัตว์ที่คลุมหัวของพวกเขาอยู่ก่อนอีกชั้นหนึ่งแล้วหรือ? แล้วจึงดึงชายผ้ามาปิดทรวงอกของพวกเขา ซึ่งเป็นความเขลาเป็นอย่างยิ่ง
การปิดทรวงอกของหญิงตามหลักการของศาสนาอิสลามนั้น เป็นคำสั่งทางคุณธรรมและอารยธรรมของสังคมที่พัฒนาแล้ว ซึ่งในบางท้องถิ่นการแต่งกายตามประเพณีท้องถิ่นได้กำหนดอยู่แล้ว ตราบใดที่ปิดทรวงอกและส่วนเปลือยเปล่าของๆสงวน/ของลับ ของร่างกายนั้นก็เป็นไปตามบัญญัติของอัลกุรอานแล้ว อัลกุรอานไม่มีบัญญัติใดโดยเฉพาะที่มีคำสั่งให้สตรีมุสลิมจะต้องคลุมหัวคลุมเส้นผม
สรุปคำสั่งเรื่องเอาเราะห์ของเพศหญิงตามอัลกุรอาน จากบทที่ 24. ซูเราะฮฺอันนูร (บท รัศมี) บัญญัติที่ 31 มีดังนี้:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ وَيَحْفَظْنَ فُرُوجَهُنَّ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا ۖ وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَىٰ جُيُوبِهِنَّ ۖ وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ إِلَّا لِبُعُولَتِهِنَّ أَوْ آبَائِهِنَّ أَوْ آبَاءِ بُعُولَتِهِنَّ أَوْ أَبْنَائِهِنَّ أَوْ أَبْنَاءِ بُعُولَتِهِنَّ أَوْ إِخْوَانِهِنَّ أَوْ بَنِي إِخْوَانِهِنَّ أَوْ بَنِي أَخَوَاتِهِنَّ أَوْ نِسَائِهِنَّ أَوْ مَا مَلَكَتْ أَيْمَانُهُنَّ أَوِ التَّابِعِينَ غَيْرِ أُولِي الْإِرْبَةِ مِنَ الرِّجَالِ أَوِ الطِّفْلِ الَّذِينَ لَمْ يَظْهَرُوا عَلَىٰ عَوْرَاتِ النِّسَاءِ ۖ وَلَا يَضْرِبْنَ بِأَرْجُلِهِنَّ لِيُعْلَمَ مَا يُخْفِينَ مِنْ زِينَتِهِنَّ ۚ وَتُوبُوا إِلَى اللَّهِ جَمِيعًا أَيُّهَ الْمُؤْمِنُونَ لَعَلَّكُمْ تُفْلِحُونَ {31}
{24:31} และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ และให้พวกนางรักษาอวัยวะเพศของพวกนาง และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้ และพวกนางต้องปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของนางลงมาถึงหน้าอกของนาง และอย่าให้นางเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่แก่สามีของพวกนาง หรือบิดาของพวกนาง หรือบิดาของสามีของพวกนาง หรือบุตรชายของพวกนาง หรือบุตรชายของสามีของพวกนาง หรือพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือบุตรชายของพี่ชายน้องชายของพวกนาง หรือบุตรชายของพี่สาวน้องสาวของพวกนาง หรือพวกผู้หญิงของพวกนาง หรือ(ทาสและทาสี)ที่มือขวาของพวกนางครอบครอง หรือคนรับใช้ผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอวัยวะพึงสงวนของผู้หญิง และนางอย่าเคาะเท้าของตน เพื่อให้เป็นที่รู้ว่าเครื่องประดับที่พวกนางปกปิดอยู่ และพวกเธอทั้งหลายจงขอลุแก่โทษต่ออัลลอฮฺเถิด ดูกร บรรดาผู้มีศรัทธา! เพื่อว่าพวกเธอจะได้รับชัยชนะ
1. เส้นผม ผมและศรีษะของหญิงไม่ใช่ "เอาเราะห์" ภายใต้ข้อยกเว้นที่ว่า "إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا " เว้นแต่ส่วนที่เห็นอบ่างเด่นชัด(ตามธรรมชาติ)"
2. การปกปิดกั้น อารมณ์ หรือ เอาเราะห์ทางสายตา มีคำสั่งไว้ดังนี้ : "وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ " และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ
3..และให้พวกนางรักษาอวัยวะเพศของพวกนาง การปิดป้อง อวัยวะเพศหญิง ซึ่งเป็น เอาเราะห์ที่สำคัญมาก ต้นเหตุแห่งการ "ซินา"
4. จงปิดอวัยวะส่วนที่สวยงาม (ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดความสนใจของสาธารณะชน) ยกเว้นที่ว่า "إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا " เว้นแต่ส่วนที่เห็นอบ่างเด่นชัด(ตามธรรมชาติ)"
เช่นส่วนศรีษะ ที่ประกอบด้วย นัยตา จมูก ปาก ใบหู เส้นผม ซึ่งอวัยวะส่วนประกอบของศรีษะนี้ อัลลออ์ทรงสร้างเพื่อทำหน้าที่เฉพาะงานของมัน ส่วนประกอบเหล่านี้ได้รับการยกเว้น เพราะไม่ใช่เอาเราะห์
4.การปกปิดความเปลือยเปล่าของทรวงอก มีคำสั่งดังนี้: "وَلْيَضْرِبْنَ بِخُمُرِهِنَّ عَلَىٰ جُيُوبِهِنَّ" และพวกนางควรจะดึงผ้าที่คลุมหัว/ปิดหน้า (ตามการแต่งตัวตามประเพณีอรับ) ของนางลงมาปิดทรวงอกของนาง
5. ห้ามการเดินกระแทกซ้นเท้า หรือเดินโยกย้ายส่ายตะโพก เพื่ออวดทรวดทรงความงามของ "เอาเราะฮ์" ) ที่ปกซ่อนไว้ใต้ร่มผ้า
เนื้อหาของกระทู้นี้มาจากความเข้าใจบัญญัติของอัลกุรอานตามตามหลักฐานจากอัลกุรอาน ที่เป็นแหล่งวิชาและแนวทางสำหรับมุสลิมเพียงแหล่งเดียวเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมอาจจะเข้าใจว่า "ภาษาอัลกุรอาน ไม่ได้เป็นศัพท์ภาษาชั้นสูง แต่เป็นการใช้ภาษาที่ให้ความหมายไม่ชัดเจน" เนื่องจากการขาดความรู้และความเข้าใจอัลกุรอาน, อัลกุรออานถูกส่งมาเพื่อมนุษยชาติ ทุกๆคนเท่าที่อัลกุรอานจะเข้าไปถึงได้ ดังนั้น ภาษาในอัลกุรอานจึงเป็นภาษาที่ผู้มีความรู้ทางภาษาสามารถที่จะเข้าใจได้อย่างง่าย ถ้าไม่ไปเอาเรื่องตำนานเล่าต่อๆกันมา มาอธิบายบัญญัติของอัลกุรอาน
อวัยวะที่เป็นส่วนตัวของเพศหญิง "เอาเราะฮ์ (عورة)" ตามอัลกุรอานบทที่ 24. ซูเราะฮฺอันนูร (บท รัศมี) บัญญัติที่ 31
สำหรับเพศชายได้แก่ ร่างกายส่วนจากบั้นเอวลงไปถึงหัวเข่า สำหรับเพศหญิง มีระบุไว้อย่างละเอียดไว้ในบัญญัติ ที่ 24:31 คือ
รวมทั้งการปิดทรวงอกและคลุมร่างกายไปถึงเข่าเช่นกัน อัลกุรอานบัญญ้ติไว้ว่า สตรีจะต้องไม่เปิดเผยร่างกายในส่วนของสงวน
และส่วนของร่างกายที่มีเสน่ห์ยั่วอารมณ์ของเพศตรงข้าม เว้นแต่ส่วนที่ปรากฏขัดตามธรรมชาติซึ่งไม่เป็นที่อับอายคำว่าเอาเราะห์
มีปรากฏอยู่ในอัลกุรอาน อยู่ 4 แห่งดังนี้
أَوِ الطِّفْلِ الَّذِينَ لَمْ يَظْهَرُوا عَلَىٰ عَوْرَاتِ النِّسَاءِ. หรือเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอวัยะพึงสงวนของผู้หญิง
ۚ ثَلَاثُ عَوْرَاتٍ لَكُمْ ۚ لَيْسَ عَلَيْكُمْ وَلَا عَلَيْهِمْ جُنَاحٌ بَعْدَهُنَّ ทั้งสามเวลานี้ เป็นเวลาส่วนตัวของพวกเธอ หลังจากนี้แล้วไม่เป็นที่น่าตําหนิแก่พวกเธอ
وَيَسْتَأْذِنُ فَرِيقٌ مِنْهُمُ النَّبِيَّ يَقُولُونَ إِنَّ بُيُوتَنَا عَوْرَةٌ. และพวกเขากลุ่มหนึ่งจะขออนุญาตจากนบีว่า "บ้านของพวกเราไม่มีผู้ตุ้มกัน" ผดผด
وَمَا هِيَ بِعَوْرَةٍ ۖ إِنْ يُرِيدُونَ إِلَّا فِرَارًا ทั้ง ๆ ที่มันมีผู้คุ้มกัน พวกเขาเพียงแต่ประสงค์การเลี่ยงหนี
คำว่า เอาเราะห์ ที่ปรากฏอยู่ในอัลกุรอานทั้ง 4 แห่งนี้ มีความหมายว่า "เปลือยเปล่า" หรือ "พึงสงวน" หรือ "ไม่มีการปิดป้องคุ้มกัน"
บัญญัติ 24:31 พูดถึงเด็กที่ยังไม่เดียงสาต่อการเปลือยเปล่าของอวัยวะเพศ ของผู้หญิง (เอาเราะห์ = "ความเปลือยเปล่า") จะเห็นได้ว่ามันไม่มีความจำ เป็นที่จะต้องกล่าวถึงการเห็นผมของผู้หญิง! ด้วยเหตุผลนี้ "เส้นผม" บนศรีษะของหญิงจึงไม่ใช่เอาเราะห์ เพราะเป็นส่วนของของมนุษย์ที่ปรากฏอย่างชัดเจน ตามธรรมชาติของมนุษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิง
ในกรณีที่บรรดาอุลมาลงความเห็นว่า ใบหน้า ฝ่ามือและนัวมือ ข้อเท้าของผู้หญิงนั้นเป็นที่อนุมัติให้เห็นได้นั้นเพราะไม่ใช่ "เอาเราะห์" ไม่ใช่ความงามที่ต้องปกปิด ซึ่งการกล่าวเช่นนั้นไม่เป็นความจริง เพราะว่า จากภาพจะเห็นได้ว่า ฝ่ามือและข้อเท้าที่เปลือยเปล่าของเพศหญิงนั้นมีความงามไม่ต่างจากส่วนอื่นของร่างกายของหญิงรวมทั้งเส้นผมบนศรีษะด้วย
การที่บรรดาอุลมาไม่จัดว่า ใบหน้า ฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็น "เอาเราะห์" ก็เนื่องจากว่า อวัยวะส่วนนี้ มีความสำคัญที่มนุษย์จะต้องใช้ในการทำงานตามธรรมชาติและมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าจะถามว่าฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) หรือไม่?
เราก็จะต้องตอบว่า อย่างแน่นอน ฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้า เป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) เช่นกัน
แต่ถ้าต้องปกปิด ใบหน้า ฝ่ามือ ข้อมือ ข้อเท้า ฝ่าเท้าแล้ว ผู้หญิงจะทำงานไม่สดวกหรือไม่ถนัด ตามธรรมชาติที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดให้อวัยวะส่วนนี้มีไว้สำหรับทำงาน และอีกประการหนึ่งการที่เหล่าอุลมา(ชาย) เหล่านี้ ไม่กำหนดให้อวัยวะดังกล่าวเป็นเอาเราะห์ ก็เพราะเกรงว่า เมียของพวกเขาไม่อาจจะรับใช้พวกเขาได้
ใบหน้าของเพศหญิงเป็น زِينَتَهُنَّ หรือไม่? อย่างแน่นอน ใบหน้าของเพศหญิงในภาพหญิงข้างล่างนี้ เป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) เป็นที่ยั่วอามรมณ์ชายหรือไม่? อย่างแน่นอน เป็นใบหน้าที่มีเสน่ห์และสามารถยั่วอารมณ์ใคร่ของเพศชายได้
แต่ทำไมจึงไม่ให้ปิดปกคลุมตามบัญญัติที่ 24:31 "وَلَا يُبْدِينَ زِينَتَهُنَّ" และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับ/ความงามของพวกนาง?
การที่ไม่จัดว่าใบหน้าเป็น "เอาเราะห์นั้น" ก็เนื่องมาจากว่า อัลลอฮ์ ทรงยกเว้นส่วนซึ่งเป็นที่เห็นได้อย่างเด่นชัดคามธรรมชาติของมนุษย์และมีความจำเป็นจะต้องเปิดเผยเพื่อความสดวกในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ของมันตามที่อัลลอฮ์ทรงพระประสงค์ พระะองค์จึงมีข้อยกเว้น "إِلَّا مَا ظَهَرَ مِنْهَا " เว้นแต่ส่วนที่เห็นอบ่างเด่นชัด(ตามธรรมชาติ) ถ้าใบหน้าส่วนหัวของสตรีเป็น زِينَتَهُنَّ (ความงาม/สิ่งประดับ/ความมีเสน่ห์) และไม่จัดว่าเป็นเอาเราะห์ ของเพศหญิงแล้ว จะมีคำถามตามมาว่า ถ้าเช่นนั้นทำไมเหล่าอุลมาทั้งหลายจึงจัดว่าเส้นผมเป็น "เอาเราะห์" ของผู้หญิง ในเมื่อเส้นผมก็อยู่บนหัวเป็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนตามธรรมชาติ ทั้งนี้เพื่อให้ตรงกับอุดมการณ์ที่เขาวางไว้และตรงกับเรื่องบอกเล่าต่างในเรื่องคลุมผมของชาวอรับ
ถ้าไม่เห็นเส้นผมบนหัวผู้หญิงความงามบนใบหน้าและสายตาที่มีเสน่ห์ของผู้หญิงก็สามารถที่จะกระตุ้นอารมณ์ใคร่ให้เพศชายได้ ด้วยสายตาขอเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะ โกนหัวและคุมหัวก็ตาม ดังนั้นอัลกุรอานจึงมีคำสั่งว่า "وَقُلْ لِلْمُؤْمِنَاتِ يَغْضُضْنَ مِنْ أَبْصَارِهِنَّ " และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ เนื่องจากการสพสายตากับชายแปลกหน้าอาจจะนำไปสู่อารมณ์แห่งความรักความใคร่ได้