คิดถึง 2 บทที่ 69

กระทู้สนทนา

.

                   ไดอารี่ความคิดถึง

                  วันนี้ตอนเย็นพวกเธอสี่คนเดอะแก๊งจะไปคลองถมในเมือง และ ขณะนี้พวกเธอรวมกลุ่มกันที่บ้านของสองฝาแฝด นั่งจับกลุ่มกันเมาท์ไปตามประสา นาน ๆ ทีรวมกลุ่มกันครบ ส่วนมากจ๋อมจะไม่ค่อยได้มาเล่นด้วยนัก เพราะบ้านอยู่ห่างกัน ส่วนเธอเรียนคนละโรงเรียนกันนี่แหละ

                    สำหรับวันนี้รวมตัวกันครบ พี่เม้าส์ก็มาเล่นด้วย เป็นปกติอยู่แล้วที่พี่เม้าส์จะมาหาแพรว ลุงกับป้าไม่ห้าม อนุญาตเต็มที่ ถึงอย่างไรก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ทว่ามารวมตัวกันแบบนี้ต่างคนก็ต่างอยู่ พิมพ์คุยโทรศัพท์อยู่อีกมุม แพรวนำการบ้านออกมาทำ ส่วนเธอกับจ๋อมและพี่เม้าส์คุยกันไปเรื่อยให้พ้น ๆ วันไป วันหยุดแบบนี้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน นั่งดูรถวิ่งผ่านไปมาอยู่อย่างนั้นเนื่องจากบ้านของสองฝาแฝดติดถนน

                  สักพักพี่บอมก็ขับรถมาเล่นด้วย พี่เจพี่ชายสองฝาแฝดก็อยู่บ้านและออกมานั่งเล่นด้วย ไม่นานพี่โจก็เดินมาหาอีกคน คราวนี้รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ไปอีก ทว่าก็ไม่ได้ทำอะไร นั่งคุยกันไปเรื่อย

                       สาว ๆ หมู่บ้านอื่น แม้กระทั่งคนในหมู่บ้านเดียวกัน มักขับรถผ่านมาทางนี้ประจำ ไม่รู้ทำไมชอบผ่านนัก บางคนขับผ่านไปผ่านมาตั้งหลายรอบจนจำได้

                       “พี่เจ ! พี่เจแซวสาวนัดกับสาวฟ้าแน่นั่น สามรอบล่ะมื้อหนิ ฮา “ บอสพูดกลั้วหัวเราะ เมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของรุ่นน้อง ม.1 ขับผ่านหน้าบ้านไป จึงเรียกพี่เจให้แซวสักหน่อย “ขั้นเห็นผ่านมาอีกแซวเด้อ ฮา “

                      พี่เจและทุกคนหัวเราะ วันนี้พี่เจกลับมาจากมหาลัย จึงได้เล่นด้วยกัน สักพักน้องบีมก็ปั่นจักรยานมาหาพวกเธออีกคน “พุ่นพุนึงปั่นจักรยานมาล่ะ” พี่บอมเห็นน้องบีมปั่นจักรยานมาแต่ไกล ๆ ทักให้ทุกคนหันไปมองตาม

                       “ใหญ่เร็วคัก บีมปั่นมาเร็ว ๆ มันแดด” พี่เจตะโกนเรียกน้องบีม น้องบีมเป็นน้องคนเล็กสุดของทั้งสองบ้านเลย ทั้งพี่น้องฝั่งพ่อและฝั่งแม่

                    “ได้จักรยานใหม่บ่ยางเลยวะ ฮา” พี่โจแซว  ทำเอาพวกเธอฮากันทั้งกลุ่ม โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย

                       “บีมเอาขนมมากินกันน่ะ อยากแหมะ” น้องบีมปั่นจักรยานมาถึง พี่เม้าส์ก็กวนเสียเลย พร้อมหยิบเอาขนมของน้องบีมที่ตะกร้าหน้ารถ โดนน้องบีมดุใส่อีก เพราะสองคนนี้เป็นคู่กัดกันมาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่พี่เม้าส์คบกับแพรวแรก ๆ สองคนนี้ก็พูดแกล้งกันมา กัดกันมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความสนิทสนมกันไป

                     “เม้าส์ขนมบีมเด๊ ! ฮ่วย “ น้องบีมงอแงที่พี่เม้าส์เอาขนมของตนไป “เอามา !” น้องบีมไม่เคยเรียกพี่เม้าส์โดยมีคำว่าพี่นำหน้าเลยสักครั้ง ตั้งแต่รู้จักกันมา พี่เม้าส์เองก็ไม่ได้แทนตัวเองว่าพี่ด้วย น้องบีมเรียกพี่เม้าส์ตามที่แพรวเรียก พี่เม้าส์ก็ไม่ถือ

                      “กินนำแนบ่ได้บ่บีม” พูดพลางแกะขนมเข้าไปปากไปด้วย

                     “พี่แพรว ฮ่วย ! บอกเม้าส์แหมะ กินขนมน้องบีม” เมื่อพูดเองไม่ได้จึงหันไปหาตัวช่วย น้องบีมฟ้องแพรวยกใหญ่ ทำหน้างอจะร้องไห้

                       “อ้ายเม้าส์กะจักกวนมันอิหยังดิสู งึดหลาย ! คนใหญ่กะพอคนใหญ่” แพรวเอ็ดแฟนของตนเอง “จะแมนบ่ฮู้จักความน้อ” แพรวบ่นต่อ คนโดนบ่นทำหน้าตาไม่สะทกสะท้าน ยังเคี้ยวขนมอ้างเจ้าของขนมต่อ

                       พอน้องบีมเห็นแพรวดุแทนก็เดินเข้าไปเกาะแขนแพรวทำฟึดฟัดให้พี่เม้าส์ “พี่แพรว ฮ่วย เอาขนมนำเม้าส์ให้น้องบีมแน” ดูท่าน้องบีมจะไม่ยอมเหมือนเช่นทุกครั้ง และ เหมือนจะร้องไห้อีกด้วย “พี่บอมบอกเม้าส์แน่ ฮ่วย !” น้องบีมหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่บอมอีกคน เมื่อเห็นว่าขอให้แพรวช่วยไม่ได้การ

                        “เอาให้น้องกูแหมะเม้าส์ หากวนมันหลาย มันแฮงขี้ส้ออยู่” พี่บอมก็พูดได้เพียงเท่านี้ ความจริงมีขนมตั้งหลายห่อ ทว่าก็หวงไม่อยากให้ใครกินก่อนได้รับอนุญาต

                       “บ่ต้องเอาคืนหรอกน้องบีม พี่แพรวให้ไปซื้อใหม่ เซียงไว้ดี ๆ เด้อรอบหนิ” แพรวทำหน้าดุให้พี่เม้าส์ก่อนจะควักเงินให้น้องบีมไปซื้อขนมห่อใหม่ ส่วนพวกเธอยิ้มหัวเราะให้กับเหตุการณ์คู่ปรับตลอดกาลสองคนนี้

                      “ฟิชโช่คือแซบแถะวา บีมซื้อมาตะร้านค้าพุใดวา” พอเห็นน้องบีมงอนจริงจังพี่เม้าส์ก็พูดเพื่อเอาใจ “เม้าส์คือซื้อได้บ่แซบคือบีม” ปรายตาอมยิ้มให้เจ้าของขนมห่อที่ตนกำลังกินอยู่ “ แซบเด้เอาแพรวชิม” พี่เม้าส์พูดกลั้วยิ้มพร้อมยื่นขนมให้แฟนสาวชิม แพรวเม้มปากหัวเราะพร้อมจ้องหน้าพี่เม้าส์ ทว่าก็หยิบมาชิม

                    “น้องบีมซื้ออยู่ร้านค้าพ่อเงิน ของเม้าส์บ่แซบบ่” น้องบีมตอบ พวกเธอหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของน้องบีม พี่เม้าส์พยักหน้าตอบ

                     “ ฮา เขาตั๋วกินขนมกะบ่จัก น้องอี่บอสคือตลกแถะยะ เด็กน้อยน้อเด็กน้อย “ จ๋อมแซวน้องบีมบ้าง พวกเธอก็ยิ้มตาม ส่วนเจ้าตัวไม่สนใจ ยอมยกขนมซองนั้นให้พี่เม้าส์อย่างเต็มใจไปเลย

                  “สั่นเม้าส์กินโลด บีมกินอันนี่กะได้ แซบบ่”

                     “อือ” จากนั้นก็เลิกงอแงกัน ไม่ไปซื้อขนมเพิ่มด้วย และ ไม่คืนเงินให้แพรวด้วย คราวนี้มีน้องบีมมาเพิ่ม จากที่บรรยากาศค่อนข้างเงียบ ก็เริ่มมีปากเสียงพูดคุยกัน อย่างน้อยก็พี่เม้าส์กับน้องบีมล่ะ คู่กัดคู่พูดคุยคู่เถียงกันเวลาเจอกัน

                   แพรวกับพี่เม้าส์กับน้องบีมนั่งเล่นที่โต๊ะม้าหินอ่อน แพรวกำลังทำการบ้านอยู่ พี่เม้าส์นั่งดูและคุยเล่นกับน้องบีม ส่วนน้องบีมหงายจักรยานขึ้นเอาล้อชี้ฟ้า และ ใช้มือปั่นล้อเล่น โดยการนำเอาหลอดมาคัดซี่รถจักรยานไว้ให้มันเกิดเสียงดังเวลาหมุน

                     เธอ จ๋อม พี่เจและพี่บอมนั่งบนแคร่ มีมะม่วงเปรี้ยวกับพริกเกลือไว้กินเล่นด้วย และ กระติกน้ำเปล่าตั้งไว้ข้าง ๆ พี่โจนั่งบนรั้วไม้ไผ่ พิมพ์นั่งเก้าอี้แยกต่างหากเพราะคุยโทรศัพท์

                     “ใหญ่นงค์เห็นใหญ่นงค์ฮ่ายเด้หนิ นั่งฮั้วเฮือน เราว่ามันสิหักของลุงวิทย์” บอสแซวพี่โจพูดถึงย่าเพราะพี่โจนั่งดูดบุหรี่บนรั้วไม้ไผ่ของลุงวิทย์อย่างสบายอารมณ์

                    “ฮ่ายกะซางโลด !” พูดพร้อมปรายตามองไปทางบ้านของตนเอง บ้านของพี่โจอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของสองฝาแฝด เยื้อง ๆ กัน

                    “ป้าต้อยกับลุงบินไปนาบ่” บอสถามถึงลุงกับป้า ซึ่งเป็นพ่อกัยแม่ของพี่โจ พี่โจพยักหน้าตอบ “พี่กอล์ฟอยู่เฮือนบ่ “

                     “บ่ไปไสบุ “ พี่โจตอบ แล้วต่างคนก็ต่างอยู่ ถึงจะเงียบไม่มีอะไรคุยกันพวกเธอก็อยู่เล่นด้วยกัน ไม่มีใครขอกลับบ้านไปก่อน เพื่อน ๆ ของพี่ชายแต่ละคนเวลาผ่านมาทางนี้บางคนก็จอดแวะคุยด้วยบ้าง บางคนก็ตะโกนถามเฉย ๆ รวมทั้งเพื่อน ๆ ของพวกเธอเช่นกัน

                    “เม้าส์บีมสีเข่าเด้หนิ” น้องบีมพูดพลางหยิบทรายขึ้นมาโรยใส่ล้อรถที่กำลังหมุนอยู่ พี่เม้าส์หัวเราะ

                      “โอย ! อยากไล่หูโรงสีเด้วะ ฮา “ พูดกลั้วหัวเราะ ทว่าก็ปล่อยให้น้องบีมเล่นต่อไป “คือบ่ไปเล่นนำมู ฮะบีม ! มูบ่เล่นนำบ่”

                      “ เอ้าบีมสีเข่าน้อ บ่ ! บีมคร้านไป แจนบ่อยู่ บีมคร้านไปหาเก๋ เลยมาหาพี่บอสอยู่หนิ” น้องบีมตอบมือก็กำทรายมาโรยล้อรถ มืออีกข้างก็ปั่นซี่รถจักรยานให้ล้อหมุน พอล้อหมุนปะทะหลอดที่คัดเอาไว้ก็เกิดเสียงดัง สนุกของตนเองล่ะ

                    “บีม น้องบีมไปล้างมือแล้วไปเอาเข้าต้มนำใหญ่นงค์มากินแน่ไป ใหญ่นงค์ห่อมื้อคืนนั้น” พี่โจใช้น้องสาวของเธอให้ไปที่บ้านของตนเอง เพื่อไปเอาขนม

                   “เข่าต้มหยังพี่โจ” บอสถาม เพราะอยากกิน

                    “ข้าวต้มผัดกับขนมหมก บีมไปเอาไป ใหญ่นงค์อยู่เฮือนอยู่ ขั้นบ่เห็นกะเลยไปเฮือนย่าน้อยเด้ เราอยู่หั่นล่ะ”

                        “กะได้ !” น้องบีมพูดง่ายมาก ลุกขึ้นปัดทรายออกจากตัว เดินไปล้างมือแล้วเดินข้ามไปบ้านย่าเพื่อไปเอาข้าวต้มมาให้พวกเธอ

                      “เที่ยงนี่กินหยังเฮา ตำน้อ ! เดี๋ยวแพรวตำเองบ่ต้องซื้อหรอก” เพราะจวนจะเที่ยงแล้วจึงชวนหาอะไรทานดีกว่า

                   “อ้ายสิเมือแล้ว บอสสิกินเข่าอยู่หนิบ่” พี่บอมออกตัว ช่วงเที่ยงขอกลับบ้านแล้วกัน เธอพยักหน้าให้พี่ชาย เธอจะทานข้าวที่นี่ “กะสั่นอ้ายกลับก่อน”

                 “เอ๋าอ้ายบอมคือบ่กินเข่านำกันก่อน” พิมพ์ทักเมื่อเห็นว่าพี่บอมขอตัวกลับ

                 “บ่ ๆ เอาเลย “

               “อ้ายบอมบอกยายนำว่าบอสกับอี่บีมกินอยู่หนิ” บอสวานพี่ชาย

                   “อือ “ แล้วพี่บอมก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ไม่นานน้องบีมก็ถือชามข้าวต้มเดินกลับมาที่บ้านของแพรว

                   “ย่าอยู่ไสบีม” พี่โจถาม เมื่อน้องสาวกลับมาถึง

                    “อยู่บ้านนั่นล่ะ” น้องบีมตอบ ถือชามมาวางไว้ที่แคร่ ในนั้นมีข้าวต้มผัดด้วยและขนมเทียน บอสเองก็อยากกินทว่าเกรงว่าไส้ขนมจะไม่ถูกปาก

                    “บีมย่าบอกมั้ยว่าไส้อะไร” เพราะไม่อยากแกะให้เสียของ ถ้าเป็นไส้มะพร้าวจะได้ไม่แกะ

                    “ถั่วเหลือง !” พอได้ยินคำตอบบอสเผยยิ้ม รีบไปหยิบมาแกะทาน ทุกคนหยิบข้าวต้มมาทานเล่นกัน ไม่นานจ๋อมก็ขอกลับบ้านอีกคน

                     “เอ๋าสู ! คือมีตะคนพากันเมือแถะ บ่กินข้าวนำกันแหมะ” แพรวพูดเมื่อจ๋อมขอกลับบ้าน

                     “กินโลดสู กูขอเมือก่อน เดี๋ยมื้อแลงไปคลองถมกูออกมาหา เอ้อ แพรวไปตะเฮาติ ซุมนั้นไปนำบ่” จ๋อมถามถึงเพื่อน ๆ อีกกลุ่ม

                    “บ่ฮู้ ! เดี๋ยวมื้อแลงค่อยชวนพวกมัน”

                    “อือ ๆ กลับก่อนเด้อ” แล้วจ๋อมก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านของตนเอง จากนั้นก็เหลือแค่พวกเธออยู่หกคนพี่น้อง และ พี่เม้าส์อีกคน แพรวทำส้มตำพร้อมทอดลูกชิ้นให้ทานเป็นกับข้าวมื้อเที่ยง

                     สรุปวันนี้ทั้งวันพวกเธอก็ไม่ได้ไปเล่นที่ไหนเลย แม้แต่น้องบีมก็ไม่ไปเล่นกับเพื่อนตนเอง คลุกอยู่กับพวกเธอทั้งวัน เล่นกับพี่เม้าส์ทั้งวันอยู่อย่างนั้น ต่างคนต่างอยู่กันคนละมุม แค่ได้มาเจอกันก็พอใจ

                  จนกระทั่งห้าโมงเย็น บอสกับน้องสาวจึงขอตัวกลับ กะจะไปแต่งตัวใหม่และขอยายด้วย ยายไม่ได้ห้ามอะไร แต่ให้รีบไปรีบกลับ พี่แป้งฝากซื้อปลาหมึกมาด้วย พอแต่งตัวเสร็จก็รีบเดินมาหาพี่สาวฝาแฝดที่บ้านเช่นเดิม

                  มาถึงจ๋อมก็มาพอดี พวกเธอไปกันเองสี่คน พี่เม้าส์ไม่ได้ตามไปด้วย เหมือนเดิมบอสซ้อนไปกับจ๋อม ให้ค่าน้ำมันยี่สิบบาท เต็มเป็นขวด ๆ ละยี่สิบ สองขวดกับจ๋อมก็สามารถไปกลับบ้านกับตัวเมืองได้สบาย ๆ

                  พวกเธอทั้งสี่คนขับรถไปคลองถมในเมือง ตอนนี้แค่ห้าโมงเย็นเอง เพื่อฆ่าเวลารอคลองถมจัดร้านเสร็จเรียบร้อย จึงตกลงไปเดินพลาซ่ากันก่อน สักหกโมงเย็นค่อยกลับมาเดินคลองถมก็ได้

                    พวกเธอขับรถไปเส้นทางลัด เป็นเส้นทางลัดไปพลาซ่าโดยเฉพาะ หรือ ห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัดนั่นแหละ สำหรับหลีกเลี่ยงการปะทะตำรวจ ก็จะต้องมาใช้เส้นทางนี้ประจำ บางวันด่านลอยก็มี ต้องดูให้ดี ๆ นั่นแหละ ทว่ามันก็ปลอดภัยกว่าไปถนนหลัก

                    พิมพ์กับแพรวขับรถนำหน้าไปก่อน เธอกับจ๋อมขับตามหลัง ถึงจะทิ้งระยะห่างกันก็ไม่เป็นไร ค่อยไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าก็ได้ ทว่าพอพวกเธอขับมาเรื่อย ๆ ดันเห็นพิมพ์กับแพรวจอดรถรอข้างถนน และ ที่สำคัญเป็นบ้านของเพื่อนแพรวด้วย เนื่องจากเห็นเพื่อนของแพรวออกมายืนพูดคุยด้วยอีกคนนั่นเอง

                      “จอดเฮ็ดหยังสู” จ๋อมถาม เมื่อขับรถมาจอดใกล้ ๆ ด้วยคน เพื่อนของแพรวมองและยิ้มให้พวกเธอ “ถ่าพวกกูติ “
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่