รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 23 นายจะโดนดีแน่!

กระทู้สนทนา
ตอนที่แล้ว  ตอนที่ 22  https://pantip.com/topic/40899481/comment5-4

ตอนที่ 23

เสียงวิ่งลงบันไดโครมคราม  ทำให้สองหนุ่มที่นั่งอยู่โซฟายาวชั้นล่างต้องหันไปมองที่มาของเสียง
“พี่ปราม!”  ปริมาตะโกนเรียกพี่ชายด้วยความดีใจ ดังตามมาพร้อมกันกับเสียงฝีเท้า                                                                                                      “พี่…ปรา…ม…ม”  เสียงนั้นดังมาก่อนเจ้าของเสียงจะมาถึง

ปริมาเบาเสียงลงเมื่อเห็นปฏิการนั่งอยู่ข้างพี่ชาย  ใบหน้าร่าเริงของสาวน้อยหุบลงทันที
“มีอะไร? เรียกซะดังเลย”  ปรามดุน้องสาว
“ไม่มีค่ะ!” เธอกระแทกเสียงอย่างอารมณ์เสีย  หมดอารมณ์จะบอกเรื่องน่ายินดีกับพี่ชาย   เมื่อเห็นหน้านักร้องหนุ่ม  รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที  ยิ่งเห็นเขายิ้มหวานส่งมาให้ยิ่งหมั่นไส้

‘มาอีกแล้ว! จะมาอะไรทุกวันเนี่ย...?’  เธอหลงดีใจว่าเขาย้ายไปอยู่รีสอร์ทแล้ว คงไม่ต้องเจอกันอีก แต่เขาก็ยังมาให้เห็นหน้าได้ทุกวัน  ปริมาเฉิดหน้า  คอตั้ง  ก้าวซวบ ๆ เดินดิ่งตรงไปที่ประตูบ้าน

“เดี๋ยว! มาดูผลงานตัวเองก่อน”  ปรามรีบเรียกน้องสาวเมื่อเห็นกำลังจะเดินออกจากบ้าน  บ้ายหน้าไปที่ผลงานบนโต๊ะรับแขก

คนถูกเรียกเดินกลับมาดูด้วยความสงสัย  มองเห็นกล้วยที่ถูกหนูแทะแหว่งไปเรียบร้อยแล้ว ทั้ง ๆ ที่วางติดกับเครื่องไล่หนูที่เสียบอยู่กัปลั๊กพ่วงแท้ ๆ  หนูยังมากินกล้วยได้  บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของเครื่องได้เป็นอย่างดี  เธอเป็นคนซื้อเครื่องนี้มาเอง

“โดนหลอกแล้ว ยัยบ๊อง!”  ปฏิการมองหน้ายัยตัวแสบด้วยสีหน้ากวน ๆ  พอเจอหน้าเขาก็จะรีบหนีไปเฉยเลย  เห็นเขาเป็นตัวอะไร  จะทักทายเขาซักคำ ไม่มีหรอก

ยัยตัวแสบถลึงตาใส่หนุ่มจอมกวน  ‘จะเงียบ ๆ ไม่ต้องพูดอะไรเป็นมั้ย?’

“ซื้อเครื่องมาจากที่ไหน?”  พี่ชายถามด้วยความสงสัย

“ในเฟสบุคค่ะ เห็นโฆษณาว่าไล่หนูได้ ก็เลยซื้อมา มีรีวิวจากคนซื้อด้วยนะคะ”  คนซื้อตอบเสียงอ่อยที่เสียรู้นักต้มตุ๋นบนอินเตอร์เนทเสียแล้ว

“แล้วเป็นไงล่ะ!  เดี๋ยวจะแกะให้ดูชัด ๆ ไปเลยว่า ข้างในมีวงจรอะไรอยู่บ้าง ขอไขควงหน่อยดิ”  ปฏิการยื่นมือมาขอไขควงใช้ในการพิสูจน์ความจริง
เธอจึงเดินไปหยิบไขควงมาให้เขา  แล้วกลับมานั่งดูเขาแกะเครื่องไล่หนู  

หนุ่มผมยาวใช้ไขควงไขน็อตที่ยึดตัวเครื่องทุกตัวออกมา  แล้วเปิดฝาออก  ข้างในไม่มีแผงวงจรอะไรเลย นอกจากหลอดไฟหนึ่งดวง

“ซื้อมาเท่าไหร่?  ไหนไปเอากล่องมาดูซิ มีที่อยู่มั้ย?”  ปรามถามราคาเครื่อง อยากรู้ว่า มันส่งมาจากที่ไหน ชื่อร้านอะไร

“สองร้อยกว่าค่ะ”  เธอตอบแล้วเดินไปหยิบกล่องมาให้ดู  ปรากฏว่าบนกล่องไม่มีชื่อที่ยู่ผู้ส่งเลย  

“ถูกต้มจนเปื่อยแล้ว” ปฏิการอมยิ้มก่อกวนน้องสาวเพื่อนต่อไปไม่หยุด

ปริมามองหน้าหนุ่มจอมกวน  
‘ใครถามความเห็นไม่ทราบ’   แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปกล้วยที่ถูกแทะ เปิดเฟสบุคแล้วส่งรูปและข้อความไปยังร้านที่ซื้อ  คนขายเข้ามาอ่านข้อความแต่ไม่ยอมตอบอะไรเลย  ไม่ว่าเธอจะพิมพ์ข้อความอะไรลงไปก็ตาม  หลังจากนั้นก็โดนบล็อคไปเรียบร้อยแล้ว  ปริมาหัวเสีย เธอโดนหลอกจริง ๆ 

ปฏิการขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ยัยตัวแสบ ยื่นหน้าไปมองโทรศัพท์ในมือของน้องสาวเพื่อน  ขณะนี้กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์ระรัวเลย

ปริมาเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาพิฆาต  เพื่อบอกให้อีกฝ่ายถอยออกไปเดี๋ยวนี้!  หนุ่มหน้าหวานจึงขยับตัวออกถอยมาอย่างเสียไม่ได้

“คราวหน้าอย่าไปซื้อของออนไลน์อีกเลย”  พี่ชายปรามน้องสาว
“อย่าเห็นแก่ของถูก”

“งก! ล่ะสิ!”  ปฏิการรีบเสริม  อยากจะแหย่ให้เธอพูดกับเขาซักคำ  ถ้าไม่ทำแบบนี้เธอคงไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ  ทำไมเธอไม่สนใจเขาบ้างเลย

“โอนเงินให้เขาก่อนซื้อรึเปล่า”  ปรามซักต่อไป

“เปล่าค่ะ  มันเก็บเงินปลายทาง”

“เดี๋ยวนี้มันหลอกกันง่ายด้วยการบอกว่าเก็บเงินปลายทาง  เงินก็จ่ายไปแล้ว ที่อยู่ก็ไม่มี  ตามกับใครก็ไม่ได้  จำเอาไว้เป็นบทเรียนนะ” พี่ชายเตือนน้องสาวให้ระวังการสั่งซื้อของออนไลน์  แม้จะได้ของจริง แต่ของก็อาจจะใช้ไม่ได้ ไม่มีคุณภาพก็ได้

“เข้าใจมั้ย?” หนุ่มจอมกวนเลิกคิ้ว เอียงคอถาม  หน้าตานั้นกวนบาทาอย่างมาก

“ค่ะ พี่ปราม  ปริมไปรดน้ำต้นไม้ก่อนนะคะ”  เธอเบื่อขี้หน้าคนปากเสีย  แล้วมองเขาด้วยสายตาเขียวปัด ประมาณว่า  ‘ฝากไว้ก่อนเหอะ ฉันจะเอาคืนนายแน่!’

ปริมารีบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูบ้านทันที
“ไอ้คนปากเสีย!” ว่าแล้วก็หยิบหมากฝรั่งออกมาเคี้ยวระบายอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ  คนอะไรกวนประสาทเธอไม่เว้นแต่วันที่เจอหน้ากันเลย
“หนอย! ทำเป็นศิลปินไว้ผมยาว  ใส่ต่างหูข้างเดียว  เชอะ!  ทำเป็นเท่…โธ่!!  หล่อตายเลย  หมั่นไส้!”  ปริมเตะต้นหญ้าหน้าบ้านอย่างเคือง ๆ เธอไม่ชอบขี้หน้าเพื่อนพี่ชายคนนี้มากขึ้นทุกที  
“ของอีตานั่นแน่”  สายตาเหลือบไปเห็นรองเท้าผ้าใบเก่า ๆ คู่หนึ่งวางอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าบ้าน

ได้เวลาแก้แค้นแล้ว!!  ‘เมื่อไหร่จะเลิกมาเสียที  เบื่อขี้หน้าชะมัด  พี่ปรามไม่เป็นอันทำอะไรพอดี  มาอยู่ได้!  บางทีก็มานั่งเศร้า ๆ ซึม ๆ พี่ปรามละก้อ…อดทนจั๊ง…ปลอบได้ปลอบดี  แล้วไง  ไม่เห็นหมอนั่นดีขึ้นเลย  เหมือนเดิม  หนักกว่าเดิมสิไม่ว่า’  ปริมบ่นกระปอดกระแปดอยู่คนเดียว  คายหมากฝรั่งที่เคี้ยวไว้ซักพัก  ยัดใส่รองเท้าของอีตาผมยาว
“เอาแค่เบาะ ๆ ละกันวันนี้”  เธอตบไม้ตบมือเปาะแปะ เป็นอันเสร็จกระบวนการ  นึกถึงภาพอีตาศิลปินผมยาวใส่รองเท้าแล้วดึงออกมา  ปริมาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ  คลายความโมโหเขาไปได้บ้าง
 
วันต่อมาหนุ่มผมยาวก็ยังมาที่บ้านปรามอย่างเคย  เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ขณะเดินเข้าบ้านไปคุยธุระกับปราม  เขาสวนกับปริมา
“ไง!  เมื่อวานคงสนุกมากล่ะสิ!”  เขานึกโกรธเธออยู่เหมือนกันที่แอบเอาหมากฝรั่งมายัดใส่รองเท้าของเขาเมื่อวานนี้  กว่าจะแกะหมากฝรั่งออกไปได้ต้องใช้เวลานานพอสมควร

ปริมายักไหล่  “นายยังไม่เข็ดที่จะมาที่นี่อีกหรือไง  ระวังตัวให้ดีละกัน  นายจะเจอดีกว่านี้แน่!”  พูดจบสาวบัญชีก็สะบัดหน้าเดินจากไป  ราวกับคู่แค้นที่ไม่มีวันญาติดีกันได้

หนุ่มนักดนตรีส่ายหัว พร้อมกับถอนหายใจช้า ๆ  ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนปริมาแกล้ง  และไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอพูดจาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยแบบนี้  แต่เขากลับยิ่งรู้สึกสนุก  รู้สึกอยากมาที่นี่ เหมือนอยากโดนเธอแกล้ง  เขาบ้าไปแล้วหรือ?  มันคงดีกว่าการทนอยู่บ้าน  บ้านที่ไม่เคยเป็นบ้าน  ครอบครัวที่อบอุ่นคงไม่มีอีกแล้ว  เมื่อไม่มีแม่  อย่างไรที่นี่ก็ยังมีปราม  เพื่อนที่คอยให้กำลังใจเขาตลอดมา  แม้น้องสาวตัวแสบจะไม่ชอบขี้หน้าเขาก็ตาม  แต่เขาไม่แคร์  และไม่เคยใส่ใจ  ตรงกันข้ามมันทำให้ชีวิตเงียบเหงา  ซังกะตายของเขามีสีสันมีชีวิตชีวาขึ้นมาเวลาที่ได้อยู่ใกล้เธอ  เขาไม่เคยบอกปรามสักครั้งเรื่องปริมาคอยแกล้งเขาต่าง ๆ นา ๆ  เพราะไม่อยากให้เธอโดนดุ  และมันก็คงทำให้เธอเกลียดขี้หน้าเขามากขึ้น  หากจะทำตัวเป็นคนช่างฟ้องเช่นนั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่