ค้าขายมาตั้งแต่อายุ 26 ปี
จนปัจจุบันอายุ 45 ปี ผ่านวิกฤติมามากมายแต่ก็ยังรอดมาได้ แต่ครั้งนี้ทั้งพิษเศรษฐกิจและโควิด หนักที่สุด หนักถึงขั้นกับต้องมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆเผื่อในขณะที่ตัวเองเครียดคิดอะไรไม่ออก อาจจะมีใครแนะทางออกให้กับเราได้ เล่าเลยล่ะกัน
ก่อนหน้าที่โควิดจะระบาด กิจการเราได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ เราประกอบกิจการร้านอาหารกลางคืนที่มีดนตรีเล่นเป็นวง เราตั้งทุนสำรองไว้สำหรับจ่ายล่วงหน้า 6เดือน กิจการไม่เคยขาดทุนต่อเนื่องกันเกิน 2 เดือน แต่ครั้งนี้กิจการขาดทุนต่อเนื่องมา 5เดือน ก่อนที่จะได้รับหนังสือจากทางการขอความร่วมมือให้ปิดร้านชั่วคราวตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดโควิด
เราได้ประกาศหยุดปรับปรุงร้านชั่วคราวเป็นเวลา 14วันตามที่ทางการกำหนด
หลังจากร้านได้กลับมาเปิดได้ตามปกติ เราและสามีได้ปรับลดพนักงานลง
จากดนตรีที่เล่นเป็นวงก็เหลือให้เล่นเป็นโฟล์คซอง พนักงานเสริฟให้สลับกันหยุดจากที่เคยมาทำทุกวันเลิกจ้างแคชเชียร์ เราทำอาหารเองก่อนหน้านี้จ้างคนมาช่วย ตอนนี้เลิกจ้างทำเองคนเดียว ค่าเช่าร้านไม่ต้องเสียเป็นที่ของตัวเอง
ปรับเปลี่ยนแผนทางการเงินหลายๆอย่างดังนี้
-หยุดส่งประกันชีวิตของตัวเองปีละ 26,000 สามี24,000 ของลูกประกันสุขภาพ 22,000
-ย้ายลูกจากโรงเรียนอนุบาลเอกชนค่าเทอมปีละ 50,000 กว่าบาท มาเรียนโรงเรียนเทศบาลค่าเทอมปีละ 5,500 ลูกชายเพิ่งเรียนอนุบาล
-มีภาระส่งงวดรถตกเดือนละเกือบ8,000 บาทเหลืออีก 16งวด
-มีจ่ายประกันสังคมม.39 ทั้ง 2คน
-จ่ายสินเชื่อออมสินเดือนละพันกว่าบาท
-ค่าภาษีโรงเรือนที่ดิน ภาษีป้าย
-มีค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่ ลูกอายุเพิ่ง 5ขวบ
-ออมหุ้นกับcimb เดือนละ 5,000ยังออมอยู่
ทรัพย์สิน
-บ้านไม่ได้เช่า
-เงินสดในบช.ปัจจุบันนี้เหลือ80,000 ส่วนใหญ่เป็นสิ่งของพวกกล้องถ่ายรูป ของเก่าของตกแต่งร้าน
-มีรถกะบะวีโก้ ตัดสินใจขายหลังจาก ร้านถูกสั่งปิด นำเงินมาหมุนใช้จ่าย และลงทุนขายทำอาหารขายในช่วงกลางวันแต่ก็ขายไม่ดี ช่วงนั้นคนตกงานและออกมาค้าขายกันเยอะ เราและสามีพยายามตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกและขายอาหารกลางวันเพื่อรอประกาศที่จะกลับมาขายช่วงกลางคืนได้เหมือนเดิม
-เราและสามีกู้ออมสินตามที่รัฐบาลประกาศนโยบายสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด ได้เงินมาสำรองอีก 20,000 ตอนนั้นยังมีความหวังกันอยู่ คิดว่าเปิดมาแล้วเราลดค่าใช้จ่ายปรับกิจการให้เหมาะตามสภาพเศรษฐกิจน่าจะไปได้
จนกระทั่งข่าวผู้ติดเชื้อโควิดลดลง ประกาศปลดล็อค ร้านค้ากลับมาเปิดให้บริการได้แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่กำหนด เรากลับมาเปิดร้านทีแรกดูท่าจะไปได้ดี พอจะมีลูกค้าบ้าง โดยรวมก็ประคองและเอาตัวรอดได้ จนมาเกิดคลัสเตอร์ทองหล่อ ทุกอย่างที่กำลังเดินไปได้ต้องหยุดหมด
ตอนนี้เราต้อง พักงานพนักงาน และมาขายอาหารกันเองกับสามีแต่ก็ขายไม่ดี ขายไม่ดีขนาดที่ว่าแทบจะไม่ได้ขายเลยในบางวัน ของที่ซื้อมาพอไม่ได้ขายก็เน่าเสีย ตอนนี้คิดหนักจะเอายังไงดี หมดกำลังใจ กำลังลังเลจะขายต่อ หรือจะหยุดพักไปก่อน เพราะถ้าขายก้อต้องซื้อของมาแต่มันก้อไม่ได้ขายเงียบมาก เราโพสขายในเฟส ในกลุ่ม คนขายอาหารก็เต็มหน้าเฟสมีบริการส่งถึงบ้านแต่เราไม่มีบริการส่งจะเข้าฟู้ดแพนด้าแกร๊ปก็ไม่มีเงินทุนสำรองขนาดนั้น
ตอนนี้เรามีเงินสดในบัญชีเหลืออยู่ประมาณ 80,000
มีเงินค้ำบัตรเครดิต 40,000
มีมอเตอร์ไซด์ซื้อสด 1คัน
ทรัพย์สินส่วนใหญ่มีเป็นของพยายามจะหาช่องทางแปลงมาเป็นเงินสดแต่บางทีลองโพสขายหน้าเฟสแต่ก็เงียบ ลูกก็กำลังจะเปิดเทอม ยังไม่ได้จ่ายค่าเทอม ไม่ได้พาไปซื้อจองเตรียมเปิดเทอมเลย
-ออมหุ้นเดือนละ 5,000กับcimb ตอนนี้ขาดทุน20000กว่าบาท ถ้าขายตอนนี้จะได้เงินกลับมา 120,000กว่าบาท แต่ก็เสียดายตั้งใจจะไว้เป็นเงินออมก็ลังเลว่าจะขายดีไหม
เล่ากลับไปกลับมา อาจทำให้งง ต้องขออภัยเครียดมาหลายวันแล้ว นอนก็ไม่ค่อยหลับ คิดไม่ออกว่าจะไปต่อยังไงดี
มาขอคำแนะนำและกำลังใจเหลียวมองเห็นลูกกับสามีก็นึกสงสารเป็นเพราะเราตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างผิดพลาด ยื้อร้านไว้เพราะคิดว่ามันจะกลับมาได้ สุดท้ายก็ไปไม่รอด..
กิจการได้รับผลกระทบเศรษฐกิจและโควิด จะไปต่อยังไงให้รอดจากวิกฤติ มาขอกำลังใจและคำแนะค่ะ
จนปัจจุบันอายุ 45 ปี ผ่านวิกฤติมามากมายแต่ก็ยังรอดมาได้ แต่ครั้งนี้ทั้งพิษเศรษฐกิจและโควิด หนักที่สุด หนักถึงขั้นกับต้องมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆเผื่อในขณะที่ตัวเองเครียดคิดอะไรไม่ออก อาจจะมีใครแนะทางออกให้กับเราได้ เล่าเลยล่ะกัน
ก่อนหน้าที่โควิดจะระบาด กิจการเราได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ เราประกอบกิจการร้านอาหารกลางคืนที่มีดนตรีเล่นเป็นวง เราตั้งทุนสำรองไว้สำหรับจ่ายล่วงหน้า 6เดือน กิจการไม่เคยขาดทุนต่อเนื่องกันเกิน 2 เดือน แต่ครั้งนี้กิจการขาดทุนต่อเนื่องมา 5เดือน ก่อนที่จะได้รับหนังสือจากทางการขอความร่วมมือให้ปิดร้านชั่วคราวตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดโควิด
เราได้ประกาศหยุดปรับปรุงร้านชั่วคราวเป็นเวลา 14วันตามที่ทางการกำหนด
หลังจากร้านได้กลับมาเปิดได้ตามปกติ เราและสามีได้ปรับลดพนักงานลง
จากดนตรีที่เล่นเป็นวงก็เหลือให้เล่นเป็นโฟล์คซอง พนักงานเสริฟให้สลับกันหยุดจากที่เคยมาทำทุกวันเลิกจ้างแคชเชียร์ เราทำอาหารเองก่อนหน้านี้จ้างคนมาช่วย ตอนนี้เลิกจ้างทำเองคนเดียว ค่าเช่าร้านไม่ต้องเสียเป็นที่ของตัวเอง
ปรับเปลี่ยนแผนทางการเงินหลายๆอย่างดังนี้
-หยุดส่งประกันชีวิตของตัวเองปีละ 26,000 สามี24,000 ของลูกประกันสุขภาพ 22,000
-ย้ายลูกจากโรงเรียนอนุบาลเอกชนค่าเทอมปีละ 50,000 กว่าบาท มาเรียนโรงเรียนเทศบาลค่าเทอมปีละ 5,500 ลูกชายเพิ่งเรียนอนุบาล
-มีภาระส่งงวดรถตกเดือนละเกือบ8,000 บาทเหลืออีก 16งวด
-มีจ่ายประกันสังคมม.39 ทั้ง 2คน
-จ่ายสินเชื่อออมสินเดือนละพันกว่าบาท
-ค่าภาษีโรงเรือนที่ดิน ภาษีป้าย
-มีค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่ ลูกอายุเพิ่ง 5ขวบ
-ออมหุ้นกับcimb เดือนละ 5,000ยังออมอยู่
ทรัพย์สิน
-บ้านไม่ได้เช่า
-เงินสดในบช.ปัจจุบันนี้เหลือ80,000 ส่วนใหญ่เป็นสิ่งของพวกกล้องถ่ายรูป ของเก่าของตกแต่งร้าน
-มีรถกะบะวีโก้ ตัดสินใจขายหลังจาก ร้านถูกสั่งปิด นำเงินมาหมุนใช้จ่าย และลงทุนขายทำอาหารขายในช่วงกลางวันแต่ก็ขายไม่ดี ช่วงนั้นคนตกงานและออกมาค้าขายกันเยอะ เราและสามีพยายามตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นออกและขายอาหารกลางวันเพื่อรอประกาศที่จะกลับมาขายช่วงกลางคืนได้เหมือนเดิม
-เราและสามีกู้ออมสินตามที่รัฐบาลประกาศนโยบายสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด ได้เงินมาสำรองอีก 20,000 ตอนนั้นยังมีความหวังกันอยู่ คิดว่าเปิดมาแล้วเราลดค่าใช้จ่ายปรับกิจการให้เหมาะตามสภาพเศรษฐกิจน่าจะไปได้
จนกระทั่งข่าวผู้ติดเชื้อโควิดลดลง ประกาศปลดล็อค ร้านค้ากลับมาเปิดให้บริการได้แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่กำหนด เรากลับมาเปิดร้านทีแรกดูท่าจะไปได้ดี พอจะมีลูกค้าบ้าง โดยรวมก็ประคองและเอาตัวรอดได้ จนมาเกิดคลัสเตอร์ทองหล่อ ทุกอย่างที่กำลังเดินไปได้ต้องหยุดหมด
ตอนนี้เราต้อง พักงานพนักงาน และมาขายอาหารกันเองกับสามีแต่ก็ขายไม่ดี ขายไม่ดีขนาดที่ว่าแทบจะไม่ได้ขายเลยในบางวัน ของที่ซื้อมาพอไม่ได้ขายก็เน่าเสีย ตอนนี้คิดหนักจะเอายังไงดี หมดกำลังใจ กำลังลังเลจะขายต่อ หรือจะหยุดพักไปก่อน เพราะถ้าขายก้อต้องซื้อของมาแต่มันก้อไม่ได้ขายเงียบมาก เราโพสขายในเฟส ในกลุ่ม คนขายอาหารก็เต็มหน้าเฟสมีบริการส่งถึงบ้านแต่เราไม่มีบริการส่งจะเข้าฟู้ดแพนด้าแกร๊ปก็ไม่มีเงินทุนสำรองขนาดนั้น
ตอนนี้เรามีเงินสดในบัญชีเหลืออยู่ประมาณ 80,000
มีเงินค้ำบัตรเครดิต 40,000
มีมอเตอร์ไซด์ซื้อสด 1คัน
ทรัพย์สินส่วนใหญ่มีเป็นของพยายามจะหาช่องทางแปลงมาเป็นเงินสดแต่บางทีลองโพสขายหน้าเฟสแต่ก็เงียบ ลูกก็กำลังจะเปิดเทอม ยังไม่ได้จ่ายค่าเทอม ไม่ได้พาไปซื้อจองเตรียมเปิดเทอมเลย
-ออมหุ้นเดือนละ 5,000กับcimb ตอนนี้ขาดทุน20000กว่าบาท ถ้าขายตอนนี้จะได้เงินกลับมา 120,000กว่าบาท แต่ก็เสียดายตั้งใจจะไว้เป็นเงินออมก็ลังเลว่าจะขายดีไหม
เล่ากลับไปกลับมา อาจทำให้งง ต้องขออภัยเครียดมาหลายวันแล้ว นอนก็ไม่ค่อยหลับ คิดไม่ออกว่าจะไปต่อยังไงดี
มาขอคำแนะนำและกำลังใจเหลียวมองเห็นลูกกับสามีก็นึกสงสารเป็นเพราะเราตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างผิดพลาด ยื้อร้านไว้เพราะคิดว่ามันจะกลับมาได้ สุดท้ายก็ไปไม่รอด..