กว่าจะถึง...ปาย...ข้ามเขา...ผ่าน 752 โค้ง (10-11 ธ.ค.63)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 2 อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน  

                           เราออกจากแม่กำปอง นั่งรถตู้โดยสารมาลงที่ตลาดวโรรส  ก่อนเดินทางเราปรึกษากันว่าจะไปปายยังไงดี คุยไปคุยมา สรุป เช่ารถพร้อมคนขับ  เราเลยจัดการหารถเช่า ซึ่งถือว่าพวกเราโชคดีมากที่ได้คนขับดี ใจเย็น สุภาพ  
                           เรานัดรถเช่าที่ตลาดวโรรส 11.00 น. พร้อมแล้วเดินทางกัน  เพี้ยนปักหมุด

เส้นทางไป อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นทางขึ้นภูเขา ผ่านทางโค้ง 752 โค้ง ระหว่างทางก็จะมีที่ให้แวะพัก  แวะเที่ยว

                           ที่แรกที่แวะพัก แวะเที่ยว "น้ำพุร้อนโป่งดือด" ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เสียค่าธรรมเข้าชมด้วย เสียครั้งเดียวเที่ยวได้ 2 ที่ ทั้งที่โป่งเดือดและที่ห้วยน้ำดัง 


ที่นี่มีบ้านพักอุทยาน ลานกางเต้น เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และเมื่อเดินเข้าไปข้างใน เราจะพบโป่งเดือด มีไข่ไก่ขายให้นักเที่ยวท่องนำไปแช่ด้วย

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ


ถึงแล้ว "โป่งเดือด"

แช่ไข่

บ้านพักอุทยาน ดูดีมาก 

           ออกจากโป่งเดือด เราเดินทางต่อ ไปอีก 30 กว่าโล ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง  เราไปถึงที่นี่ประมาณ 15.30 น.     
เราไม่อยากให้ถึงปายมืด เลยใช้เวลาที่นี่ไม่นาน 


จุดชมวิวกิ่วลม


วิวสวยๆ



                   
ขับผ่านโค้งมาอีก 20 กว่าโล ก็จะถึงสะพานประวัติศาสตร์ ท่าปาย ที่นี่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์และเป็นประตูสู่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 





เดินเล่นถ่ายรูปสักพัก  ก็เดินทางต่อ 
ที่พักของเราคืนนี้ อยู่ถนนสายหลักไม่ไกลจากถนนคนเดิน เราเข้าที่พักกันก่อน เก็บสัมภาระ พักผ่อนสักครู่  



พร้อมแล้วออกหา (อะไร) กินกัน  ถนนคนเดินอยู่ไม่ไกลเราเลยเดินกันไป  เพราะคนขับรถส่งเราที่ที่พักก็บอกว่าจะมารับพรุ่งนี้เลย  ก็ตามนั้น
ถนนคนเดินที่ปายหน้าหนาว ซึ่งเป็นหน้า High  ของเค้า คนเยอะนะ ตลาดก็ใหญ่ เดินกันขาลาก ก็เพลินๆ ดี 
เดินกันจน 4 ทุ่ม สมควรแก่เวลาเดินกลับ เข้าที่พักเข้านอน พรุ่งนี้นัดรถไว้ 08.00 น. ไปดูทะเลหมอกหยุ่นไหล ที่หมู่บ้านสันติชล

เพี้ยนฝันดี
วันต่อมา 
                    อรุณสวัสดิ์ @ ปาย เช้าวันรุ่งขึ้นที่ อ.ปาย อุณหภูมิ 13 องศา หนาวซะใจที่รีสอร์ทมีหมอกลงด้วย  ตื่นเต้นมากเพี้ยนลาเวนเดอร์ เดินไปที่ถนนก็เต็มไปด้วยหมอก  สมกับชื่อ "เมืองในหมอก" คนที่นี่เค้าคงเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับพวกเราไม่ค่อยจะมีโอกาสเห็นแบบนี้ ก็จะตื่นเต้นหน่อย

                       รถมารอตั้งแต่ 7.30 น. เราพร้อมแล้วก็เดินทางกันเลย 

ถึงแล้ว หมู่บ้านสันติชล ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวไทย-จีน ยูนนาน  ด้านบนมีจุดชมวิวที่เรียกว่า "หยุ่นไหล" ถ้าจะขึ้นไปชมถ้าเป็นช่วงคนเยอะมาก่อน      9.00 น. ต้องใช้บริการรถของชาวบ้าน (เหมาไปกลับ 300 บาท) เนื่องจากลดความแออัดของรถที่จะขึ้นไป  


 
ด้านบนที่นี่มีที่พักด้วย ทั้งที่เป็นบ้าน และกางเต้นท์  นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปชมทะเลหมอก ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท



ทะเลหมอกที่นี่ ขนาดว่าเรามาสายแล้ว 8 โมงกว่า ก็ยังมีทะเลหมอกแน่นๆ ให้ชม แต่เนื่องจากจุดชมทะเลหมอกเป็นทิศตะวันออก แดดส่งพอดีก็ถ่ายรูปมาก็จะได้ประมาณนี้


 

                       ท้องเริ่มร้อง เราตั้งใจว่ามาที่นี่ต้องมาชิมขาหมู หมั่นโถว ซึ่งเป็นจุดขายของที่นี่ 
ที่มีร้านอาหาร 3-4 ร้าน มีร้านของรีสอร์ทซึ่งจะเป็นอาหารง่ายๆ อย่าง ข้าวต้มหมู หมั่นโถว ชา กาแฟ  แต่ถ้าใครอยากจัดเต็ม ก็มีบริการ มาที่นี่ก็ต้องชิม "ขาหมู หมั่นโถว"
 
มาแล้วขาหมู มาเป็นขา รสชาติจะจืดๆ หอมเครื่องยาจีน ส่วนหมั่นโถวอร่อยดี  ที่นั่งชั้น 2 มีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ


                       อิ่มแล้ว เรานั่งรถกลับมาข้างล่าง 
ร้านของของมากมาย มีชุดให้เช่าถ่ายรูป ชิงช้าแบบเสียวๆ ใช้คนแกว่ง # เครดิตภาพ จากเว็บ ไปด้วยกันดอทคอม

มุมถ่ายรูปสวยๆ # เครดิตภาพจากเว็บ ไปด้วยกันดอทคอม


ได้เวลาเดินทางกลับรีสอร์ท  เพราะเรายังไม่ได้ Check Out เพี้ยนออกทริป

                   ออกจากรีสอร์ท ระหว่างทางมีร้านกาแฟน่ารัก และเป็นจุด Check in ของนักท่องเที่ยว "Coffee in Love" แวะสักหน่อย


 

เค้กหน้าตาดี กาแฟที่นี่จะใส่แก้วกระดาษ 

ระหว่างทางกลับเชียงใหม่ มีจุดแวะพักระหว่างทาง ก็แวะพักหายใจสักหน่อย

ถึงเชียงใหม่ประมาณ 17.00 น. รถส่งเราที่โรงแรม แล้วแยกย้าย คืนนี้เพื่อนที่อยู่ลำปางจะมานอนด้วย และพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว
เรารอสักพัก เพื่อนก็มา พร้อมแล้วออกเที่ยวกันเลย 
                  จุดหมายแรก ประตูท่าแพ วันที่เราไปเป็นวันเสาร์เลยไม่มีถนนคนเดิน (ผิดหวัง) มีแต่ชาวบ้านมาขายของบริเวณประตูท่าแพ เดินเล่น ถ่ายรูป ซื้อของฝากนิดหน่อย  เสร็จแล้วจะให้กลับเลยก็จะอารมณ์ค้างกัน เพื่อนเลยพาไปไหว้ครูบาศรีวิชัย ในบรรยากาศค่ำคืน ก็สวยไปอีกแบบ

สักการะครูบาศรีวิชัย
 
อีกที่ที่จะไปเดินเล่น ช้อปปิ้งได้คือ "ตลาดหน้ามอ" ที่นี่มีทุกวัน  เดินเล่น ช้อปปิ้ง หาของกิน ได้เวลาอันสมควรก็เดินทางกลับโรงแรม  พรุ่งนี้มีโปรแกรมไปเที่ยวศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง หรือ สถาบันคชบาลแห่งชาติ  คืนนี้ราตรีสวัสดี                                                                                                                     
                 อรุณสวัสดิ์ วันนี้เป็นวันเที่ยววันสุดท้ายของพวกเราแล้ว ต้องกลับแล้วเร็วจัง เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ
เรา Check Out ออกจากโรงแรม หาอาหารเช้ากินกัน
                โจ๊กสมเพชรคือคำตอบ  ข้างๆ มีร้านขายปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ อร่อยทีเดียว
 
อิ่มแล้ว เดินทางกันเลย  
ถึงแล้ว "ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง" ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วเข้าชมก่อน มีหลายแพ็คเกจ  เราเลือกนั่งช้างด้วย ที่นี่จะมีการแสดงของช้างเป็นรอบ

นั่งช้างครั้งแรก ก็จะตื่นเต้นหน่อย

ได้เวลาช้างอาบน้ำ (มีวันละ 2 รอบ)

อาบน้ำเสร็จแล้ว เตรียมตัวแสดงโชว์แต่ละรอบไม่เหมือนกัน

รูปวาดสวยๆ ฝีมือน้องช้าง  ขายหน้างานรูปละ 300 บาท แต่ถ้ารูปไหนไม่มีคนซื้อก็จะนำไปขายในร้านของศูนย์  ราคาก็จะสูงกว่า และตามความสวยงาม
เรากับเพื่อนซื้อมาทั้ง 3 รูปเลย

 

เลี้ยงอาหารช้างแบบใกล้ชิดมากๆ
 
น้องช้างน่ารัก  ฉลาดมากๆ หนูชื่อ "พังมาลี อายุ 8 ขวบค่ะ"

ที่นี่มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว มีแพ็คเกจสำหรับคนที่ต้องการฝึกเป็นควานช้าง มีโรงพยาบาลช้าง มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก

ก่อนกลับแวะไหว้พระ ชมวิวกันหน่อย ที่ "วัดพระธาตุดอยพระฌาน" เป็นวัดที่อยู่ใน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง  เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน 
         วัดไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นไป  แต่ถ้าไม่อยากเดินขึ้นก็มีรถของวัดบริการ ค่ารถตามจิตศัทธา



 
วิวเมือง

แวะซื้อของฝากที่ตลาดทุ่งเกวียน ทำเวลากันน่าดู 

ได้เวลากลับ กทม.แล้ว บ๊าย บาย นะเมืองเหนือ ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน 3 จังหวัด สนุก+ประทับใจ แม้จะมาในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด Covic-19 รอบ 2 ทุกคนป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี สุดท้ายขอให้ทุกคนปลอดภัย เที่ยวให้สนุก

พาพันขอบคุณนานาเที่ยวไทย 
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่