เมื่อคนไทยในญี่ปุ่นได้มีโอกาสเดินทางไปโอซาก้า วันนี้เลยแวะรีวิว แหล่งช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องเล่นเกมแหล่งใหม่ในโอซาก้า ย่านนิปปอนยาชิเด็นเด็นทาวน์ กับ "โจชิน สาขานิปปอนบาชิ JOSHIN NIPPONBASHI" และไหนหน๊ายยยก็มาโอซาก้าทั้งที ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ต้นไม้ใบหญ้าในญี่ปุ่นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม สวยงามไปทั้งเมือง เลยถือโอกาสไปเดินเล่นชิวๆ จิบกาแฟที่สวนปราสาทโอซาก้า และแวะชมหอคอยปราสาทโอซาก้ากันซักหน่อย
ไฮไลท์ของครั้งนี้
ครึ่งแรก - รีวิวแหล่งช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องเล่นเกม "โจชิน นิปปอนบาชิ" ในย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์
ครึ่งหลัง - เดินเล่นชิวๆ จิบกาแฟ ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนปราสาทโอซาก้า และหอคอยปราสาทโอซาก้า
การเดินทางจากสถานีเอบิสุโจไป โจชินสาขานิปปอนบาชิ
1. ออกจากสถานีเอบิสุโจ จากประตูทางออก 1-B เพื่อเข้าสู่ย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์
2. เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นบนดินเรียบเส้นทางถนนใหญ่แล้วก็เดินไปทางขวามือ
3. จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ โดยเดินข้ามถนนไป 2 ซอย
4. จากนั้นก็ข้ามทางม้าลายไปทางซ้ายมือ
และเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านปลอดภาษีขนาดใหญ่
และนี่ก็คือ “โจชิน นิปปอนบาชิ JOSHIN NIPPONBASHI” แหล่งรวมสินค้าหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน/คอมพิวเตอร์/มือถือสมาร์ทโฟน ไปจนถึง แผ่นเพลง/แผ่นภาพยนตร์/เครื่องเล่นเกม/นาฬิกาแบรนด์/เครื่องเสียงระดับไฮเอน หรือ ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ด้านหน้าร้านหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ มีทั้งหมด 5 ชั้น ร้านค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของย่านเด็นเด็นทาวน์
ชั้น 1 จำหน่ายเครื่องเล่นเกม/CD・DVD・Blu-ray/นาฬิกาแบรนด์ดังทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ต่างประเทศ ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์/มือถือสมาร์ทโฟน/ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์/อุปกรณ์ต่อพ่วง หรือ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
ส่วนชั้นที่ 4 และ 5 จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเสริมความงาม/เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัว/เครื่องใช้ไฟฟ้าให้แสงสว่าง/ทีวี/เครื่องซักผ้า/เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
โดยร้านโจชินนิปปอนบาชิ เดิมทีเป็นร้าน JOSHIN J&P Technoland แต่ได้ปรับโฉมใหม่ๆ รวมสินค้าอัดแน่นมากขึ้น เมื่อเข้ามาในร้านทางฝั่งขวามือนี้จะเป็นโซนจำหน่ายเครื่องเล่นเกม อย่างเช่น เครื่องเล่นเกมพกพา Nintendo Switch หรือ PlayStation รวมไปถึงอุปกรณ์เสริม และแผ่นเกมมากมาย
เกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 พนักงานในร้านทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และขอความร่วมมือลูกค้าสวมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าร้าน และในแต่ละชั้น นอกจากนี้ที่บริเวณแคชเชียร์ ทำสัญลักษณ์เพื่อสร้างระยะห่าง และแคชเชียร์มีฉากกั้นระหว่างลูกค้าและพนักงานแคชเชียร์ค่ะ
ภายในร้านกว้างขวาง เป็นระเบียบดูของได้สะดวก
และโซนที่เด่น สะดุดตาก็คือ Nintendo Switch และ Nintendo Switch Lite โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ฝั่ง Nintendo Switch ขาดตลาด ที่ร้านก็มีขายอยู่ด้วย แต่จำกัดคนละ 1 เครื่องเท่านั้นค่ะ
Nintendo Switch ราคารวมภาษี 32,970 เยน หรือประมาณ 9,598 บาท
Nintendo Switch Lite ราคารวมภาษี 21,970 เยน หรือประมาณ 6,396 บาท
นอกจากนี้ที่ร้านก็มีแผ่นเกม Nintendo Switch มากมาย ทั้งเกมออกใหม่ และเป็นฮอตฮิตมาแรง
ทั้ง “Animal Crossing: New Horizons” ชีวิตสโลว์ไลฟ์บนเกาะ กับเหล่าผองเพื่อนสรรพสัตว์ ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในปีนี้
ราคารวมภาษี 5,900 เยน (หรือประมาณ 1,718 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
หรือ “Hyrule Warriors: Age of Calamity” สำหรับตัวนี้เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ราคารวมภาษี 7,240 เยน (หรือประมาณ 2,108 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
นอกจากนี้ก็ยังมีเกมเลี้ยงแมว “Neko Tomo: Smile Mashimashi” ราคารวมภาษี 4,820 เยน (หรือประมาณ 1,403 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
หรือ “MONSTER HUNTER RISE” ราคารวมภาษี 7,480 เยน (หรือประมาณ 2,177 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน) ที่มีแผนวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ปีหน้า ที่เปิดให้จองล่วงหน้าข้ามปีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็ยังมีเกมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
หรือเกมประเภทฝึกสมอง เคลื่อนไหวตัวก็มีเช่นกัน
DRAGON QUEST® XI S: Echoes of an Elusive Age – Definitive Edition
ที่มีแผนวางจำหน่ายในวันที่ 4 ธันวาที่จะถึงนี้ ราคาไม่รวมภาษี 4,980 เยน (หรือประมาณ 1,450 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
นอกจากตัวเครื่องเล่นเกมแล้ว ก็มีอุปกรณ์เสริมต่างๆ จำหน่ายอยู่ด้วย
สินค้าลายพิเศษอย่างปิกาจู หรือเกมกลองสุดฮิตของญี่ปุ่นก็มี
นอกจาก Nintendo Switch แล้วที่ร้านยังเปิดให้จำฉลากลุ้นสิทธิ์ซื้อ Play Station 5 หรือ PS5 แต่จำกัดคนละเครื่อง พร้อมแผ่นเกม SPIDER-MAN ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในตอนนี้
ทั้งแบบ ULTIMATE EDITION ราคารวมภาษี 7,480 เยน หรือประมาณ 2,178 บาท
และแบบธรรมดาราคารวมภาษี 5,580 เยน หรือประมาณ 1,624 บาท
นอกจากนี้ก็มีแผ่นเกมของ Play Station 4 หรือ PS4 อีกด้วย
อุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็มีให้เลือกมากมาย
นอกจากสินค้ามือ 1 แล้วที่นี่ยังมีแผ่นเกมมือ 2 ชนิดต่างๆ ด้วย ทั้งแผ่นเกม Nintendo Switch,Wii,DS หรือ PSP เป็นต้น
ซึ่งที่นี่จะมีอัพเดตสินค้าอยู่ตลอด หรือสินค้าที่มีแผนวางจำหน่ายก็เปิดให้จองล่วงหน้าได้อีกด้วย
ต่อไปเป็นโซนแผ่นเสียง แผ่นเพลง แผ่นภาพยนตร์ และแผ่นการ์ตูน จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนโซนทางด้านซ้ายมือ จะเป็นโซนจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดัง ตั้งแต่แบรนด์ญี่ปุ่นไปจนถึงแบรนด์ต่างประเทศ
ทั้ง SEIKO,CITIZEN,G-SHOCK หรือ CASIO ฯลฯ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีโซนจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ไฮเอน โซนเล็กๆ อยู่ที่หน้าโซนนาฬิกาอีกด้วย
ต่อไปขึ้นไปที่ชั้นอื่นๆ กันเลย ซึ่งนอกจากบันไดเลื่อนแล้ว ที่ร้านยังมีลิฟต์อีกด้วย
ตัวบันไดเลื่อนทางร้านก็ขอความร่วมมือสร้างระยะห่างระหว่างขึ้นบันไดเลื่อน
แคชเชียร์จะมีบริการให้ในแต่ละชั้น และมีฉากกั้น พร้อมจุดสัญลักษณ์สร้างระยะห่าง
ชั้นที่ 2 และ 3 เป็นชั้นอุปการณ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งมือหนึ่ง และมือสอง นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์สายเชื่อมต่างๆ จำหน่ายอยู่อีกด้วย
ที่นี่มีกล้องดิจิตอลจำหน่ายอยู่ พร้อมๆ กับอุปกรณ์เสริมมากมาย
โซนเครื่องเสียงก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่น Made in Japan อย่างแบรนด์ STAX ไปจนถึงแลรนด์ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น BOSS,Mashall,beats หรือ JBL เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องเสียงขนาดใหญ่ และห้องลองเครื่องเสียงอีกด้วย
ต่อไปเป็นชั้น 4 และ 5 ที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ชิ้นเล็กอย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าเสริมความงาม
ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ ทั้งเครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทางด้านสุขภาพอย่างเครื่องวัดความดัน หรือเครื่องวัดไข้ อีกด้วย
และที่บริเวณชั้น 1 มีเครื่องเล่นเกมแบบนี้ให้เล่นได้ฟรีด้วย
ช่วงนี้ก็เข้าใกล้เทศกาลคริสต์มาสแล้ว เสียดายนะคะที่ปีนี้เงียบเหงากว่าปีอื่นๆ
หลังจากรีวิวร้านเสร็จแล้ว ก็แวะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ปราสาทโอซาก้ากันเลย โดยเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน จากสถานีเอบิสุโจ โดยก่อนอื่นนั่งรถไฟใต้ดินเส้นทาง SAKAISUJI LINE ลงสถานีได้ด้วยลิฟต์ และบันได
เดินทางไปที่ “สถานีนางาโฮริบาชิ Nagahoribashi Station” ก่อน เพื่อเปลี่ยนเส้นทางรถไฟจากสาย Sakaisuji Line เป็น สาย Nagahori tsurumi-ryokuchi Line เพื่อนั่งไปลง “สถานีโมริโนะมิยะ Morinomiya Station”
เดินไปขึ้นรถไฟสายสีเขียว สาย Nagahori tsurumi-ryokuchi Line จากชานชาลาที่ 1 กันเลย
เมื่อเดินทางมาถึง “สถานีโมริโนะมิยะ Morinomiya Station” แล้วก็เดินไปตามทางเพื่อออกจากประตูทางออก 3-B เดินไปตามภาพนี้เลย
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาสู่ชั้นบนดินแล้ว ก็จะเห็นวิวสวนปราสาทโอซาก้าแบบนี้
ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น กับช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศไปหนาวจนเกินไป
บริเวณสวนปราสาทโอซาก้าเองก็มีจุดถ่ายรูปธรรมชาติให้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอยู่หลายจุดเลย ที่งเรียบเส้นทางนี้ที่ไม่มีรถยรตร์ผ่าน ถ่ายรูปสวยๆ ได้สบาย
ยังไม่จบนะคะ
[CR] แวะรีวิวแหล่งช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าโอซาก้า โจชินนิปปอนบาชิ และเดินเล่นชิว "ใบไม้เปลี่ยนสีที่ปราสาทโอซาก้า"
เมื่อคนไทยในญี่ปุ่นได้มีโอกาสเดินทางไปโอซาก้า วันนี้เลยแวะรีวิว แหล่งช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องเล่นเกมแหล่งใหม่ในโอซาก้า ย่านนิปปอนยาชิเด็นเด็นทาวน์ กับ "โจชิน สาขานิปปอนบาชิ JOSHIN NIPPONBASHI" และไหนหน๊ายยยก็มาโอซาก้าทั้งที ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ต้นไม้ใบหญ้าในญี่ปุ่นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม สวยงามไปทั้งเมือง เลยถือโอกาสไปเดินเล่นชิวๆ จิบกาแฟที่สวนปราสาทโอซาก้า และแวะชมหอคอยปราสาทโอซาก้ากันซักหน่อย
ไฮไลท์ของครั้งนี้
ครึ่งแรก - รีวิวแหล่งช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องเล่นเกม "โจชิน นิปปอนบาชิ" ในย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์
ครึ่งหลัง - เดินเล่นชิวๆ จิบกาแฟ ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนปราสาทโอซาก้า และหอคอยปราสาทโอซาก้า
การเดินทางจากสถานีเอบิสุโจไป โจชินสาขานิปปอนบาชิ
1. ออกจากสถานีเอบิสุโจ จากประตูทางออก 1-B เพื่อเข้าสู่ย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์
2. เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นบนดินเรียบเส้นทางถนนใหญ่แล้วก็เดินไปทางขวามือ
3. จากนั้นก็เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ โดยเดินข้ามถนนไป 2 ซอย
4. จากนั้นก็ข้ามทางม้าลายไปทางซ้ายมือ
และเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านปลอดภาษีขนาดใหญ่
และนี่ก็คือ “โจชิน นิปปอนบาชิ JOSHIN NIPPONBASHI” แหล่งรวมสินค้าหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน/คอมพิวเตอร์/มือถือสมาร์ทโฟน ไปจนถึง แผ่นเพลง/แผ่นภาพยนตร์/เครื่องเล่นเกม/นาฬิกาแบรนด์/เครื่องเสียงระดับไฮเอน หรือ ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ด้านหน้าร้านหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ มีทั้งหมด 5 ชั้น ร้านค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของย่านเด็นเด็นทาวน์
ชั้น 1 จำหน่ายเครื่องเล่นเกม/CD・DVD・Blu-ray/นาฬิกาแบรนด์ดังทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ต่างประเทศ ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์/มือถือสมาร์ทโฟน/ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์/อุปกรณ์ต่อพ่วง หรือ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
ส่วนชั้นที่ 4 และ 5 จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเสริมความงาม/เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัว/เครื่องใช้ไฟฟ้าให้แสงสว่าง/ทีวี/เครื่องซักผ้า/เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
โดยร้านโจชินนิปปอนบาชิ เดิมทีเป็นร้าน JOSHIN J&P Technoland แต่ได้ปรับโฉมใหม่ๆ รวมสินค้าอัดแน่นมากขึ้น เมื่อเข้ามาในร้านทางฝั่งขวามือนี้จะเป็นโซนจำหน่ายเครื่องเล่นเกม อย่างเช่น เครื่องเล่นเกมพกพา Nintendo Switch หรือ PlayStation รวมไปถึงอุปกรณ์เสริม และแผ่นเกมมากมาย
เกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 พนักงานในร้านทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และขอความร่วมมือลูกค้าสวมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือติดตั้งอยู่บริเวณทางเข้าร้าน และในแต่ละชั้น นอกจากนี้ที่บริเวณแคชเชียร์ ทำสัญลักษณ์เพื่อสร้างระยะห่าง และแคชเชียร์มีฉากกั้นระหว่างลูกค้าและพนักงานแคชเชียร์ค่ะ
ภายในร้านกว้างขวาง เป็นระเบียบดูของได้สะดวก
และโซนที่เด่น สะดุดตาก็คือ Nintendo Switch และ Nintendo Switch Lite โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ฝั่ง Nintendo Switch ขาดตลาด ที่ร้านก็มีขายอยู่ด้วย แต่จำกัดคนละ 1 เครื่องเท่านั้นค่ะ
Nintendo Switch ราคารวมภาษี 32,970 เยน หรือประมาณ 9,598 บาท
Nintendo Switch Lite ราคารวมภาษี 21,970 เยน หรือประมาณ 6,396 บาท
นอกจากนี้ที่ร้านก็มีแผ่นเกม Nintendo Switch มากมาย ทั้งเกมออกใหม่ และเป็นฮอตฮิตมาแรง
ทั้ง “Animal Crossing: New Horizons” ชีวิตสโลว์ไลฟ์บนเกาะ กับเหล่าผองเพื่อนสรรพสัตว์ ที่กำลังมาแรงสุดๆ ในปีนี้
ราคารวมภาษี 5,900 เยน (หรือประมาณ 1,718 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
หรือ “Hyrule Warriors: Age of Calamity” สำหรับตัวนี้เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ราคารวมภาษี 7,240 เยน (หรือประมาณ 2,108 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
นอกจากนี้ก็ยังมีเกมเลี้ยงแมว “Neko Tomo: Smile Mashimashi” ราคารวมภาษี 4,820 เยน (หรือประมาณ 1,403 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
หรือ “MONSTER HUNTER RISE” ราคารวมภาษี 7,480 เยน (หรือประมาณ 2,177 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน) ที่มีแผนวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ปีหน้า ที่เปิดให้จองล่วงหน้าข้ามปีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็ยังมีเกมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
หรือเกมประเภทฝึกสมอง เคลื่อนไหวตัวก็มีเช่นกัน
DRAGON QUEST® XI S: Echoes of an Elusive Age – Definitive Edition
ที่มีแผนวางจำหน่ายในวันที่ 4 ธันวาที่จะถึงนี้ ราคาไม่รวมภาษี 4,980 เยน (หรือประมาณ 1,450 บาทตามค่าเงินปัจจุบัน)
นอกจากตัวเครื่องเล่นเกมแล้ว ก็มีอุปกรณ์เสริมต่างๆ จำหน่ายอยู่ด้วย
สินค้าลายพิเศษอย่างปิกาจู หรือเกมกลองสุดฮิตของญี่ปุ่นก็มี
นอกจาก Nintendo Switch แล้วที่ร้านยังเปิดให้จำฉลากลุ้นสิทธิ์ซื้อ Play Station 5 หรือ PS5 แต่จำกัดคนละเครื่อง พร้อมแผ่นเกม SPIDER-MAN ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในตอนนี้
ทั้งแบบ ULTIMATE EDITION ราคารวมภาษี 7,480 เยน หรือประมาณ 2,178 บาท
และแบบธรรมดาราคารวมภาษี 5,580 เยน หรือประมาณ 1,624 บาท
นอกจากนี้ก็มีแผ่นเกมของ Play Station 4 หรือ PS4 อีกด้วย
อุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็มีให้เลือกมากมาย
นอกจากสินค้ามือ 1 แล้วที่นี่ยังมีแผ่นเกมมือ 2 ชนิดต่างๆ ด้วย ทั้งแผ่นเกม Nintendo Switch,Wii,DS หรือ PSP เป็นต้น
ซึ่งที่นี่จะมีอัพเดตสินค้าอยู่ตลอด หรือสินค้าที่มีแผนวางจำหน่ายก็เปิดให้จองล่วงหน้าได้อีกด้วย
ต่อไปเป็นโซนแผ่นเสียง แผ่นเพลง แผ่นภาพยนตร์ และแผ่นการ์ตูน จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนโซนทางด้านซ้ายมือ จะเป็นโซนจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดัง ตั้งแต่แบรนด์ญี่ปุ่นไปจนถึงแบรนด์ต่างประเทศ
ทั้ง SEIKO,CITIZEN,G-SHOCK หรือ CASIO ฯลฯ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีโซนจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ไฮเอน โซนเล็กๆ อยู่ที่หน้าโซนนาฬิกาอีกด้วย
ต่อไปขึ้นไปที่ชั้นอื่นๆ กันเลย ซึ่งนอกจากบันไดเลื่อนแล้ว ที่ร้านยังมีลิฟต์อีกด้วย
ตัวบันไดเลื่อนทางร้านก็ขอความร่วมมือสร้างระยะห่างระหว่างขึ้นบันไดเลื่อน
แคชเชียร์จะมีบริการให้ในแต่ละชั้น และมีฉากกั้น พร้อมจุดสัญลักษณ์สร้างระยะห่าง
ชั้นที่ 2 และ 3 เป็นชั้นอุปการณ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งมือหนึ่ง และมือสอง นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์สายเชื่อมต่างๆ จำหน่ายอยู่อีกด้วย
ที่นี่มีกล้องดิจิตอลจำหน่ายอยู่ พร้อมๆ กับอุปกรณ์เสริมมากมาย
โซนเครื่องเสียงก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่น Made in Japan อย่างแบรนด์ STAX ไปจนถึงแลรนด์ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น BOSS,Mashall,beats หรือ JBL เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องเสียงขนาดใหญ่ และห้องลองเครื่องเสียงอีกด้วย
ต่อไปเป็นชั้น 4 และ 5 ที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ชิ้นเล็กอย่าง เครื่องใช้ไฟฟ้าเสริมความงาม
ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ ทั้งเครื่องดูดฝุ่น ตู้เย็น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทางด้านสุขภาพอย่างเครื่องวัดความดัน หรือเครื่องวัดไข้ อีกด้วย
และที่บริเวณชั้น 1 มีเครื่องเล่นเกมแบบนี้ให้เล่นได้ฟรีด้วย
ช่วงนี้ก็เข้าใกล้เทศกาลคริสต์มาสแล้ว เสียดายนะคะที่ปีนี้เงียบเหงากว่าปีอื่นๆ
หลังจากรีวิวร้านเสร็จแล้ว ก็แวะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ปราสาทโอซาก้ากันเลย โดยเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน จากสถานีเอบิสุโจ โดยก่อนอื่นนั่งรถไฟใต้ดินเส้นทาง SAKAISUJI LINE ลงสถานีได้ด้วยลิฟต์ และบันได
เดินทางไปที่ “สถานีนางาโฮริบาชิ Nagahoribashi Station” ก่อน เพื่อเปลี่ยนเส้นทางรถไฟจากสาย Sakaisuji Line เป็น สาย Nagahori tsurumi-ryokuchi Line เพื่อนั่งไปลง “สถานีโมริโนะมิยะ Morinomiya Station”
เดินไปขึ้นรถไฟสายสีเขียว สาย Nagahori tsurumi-ryokuchi Line จากชานชาลาที่ 1 กันเลย
เมื่อเดินทางมาถึง “สถานีโมริโนะมิยะ Morinomiya Station” แล้วก็เดินไปตามทางเพื่อออกจากประตูทางออก 3-B เดินไปตามภาพนี้เลย
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาสู่ชั้นบนดินแล้ว ก็จะเห็นวิวสวนปราสาทโอซาก้าแบบนี้
ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น กับช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศไปหนาวจนเกินไป
บริเวณสวนปราสาทโอซาก้าเองก็มีจุดถ่ายรูปธรรมชาติให้ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอยู่หลายจุดเลย ที่งเรียบเส้นทางนี้ที่ไม่มีรถยรตร์ผ่าน ถ่ายรูปสวยๆ ได้สบาย
ยังไม่จบนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้