มีโอกาสไปเยี่ยมที่เก็บซากรถอุบัติเหตุ มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง

พอดีพ่อผมขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ  หน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องต้องยกรถไปไว้ที่เก็บรถ    เราก็ทำเรื่องกับตำรวจขอไปยกรถออกมา   
 ก็ได้มีโอกาสเดินไปดูซากรถอุบัติเหตุในโกดังเก็บรถพวกนี้   มีรถจอดอยู่มากมาย        ผมไปจ่ายค่ายกรถตอนเกิดอุบัติเหตุ 4,000 บาท  โกดังที่จอดรถนี่มีค่าจอดวันละ 200  จอดฟรีได้ 2 วัน หลังจากเกิดอุบัติเหตุ  เพราะรวมในค่ายกรถตอนแรกแล้ว     บางที่ ตจว เช่นแปดริ้วค่าจอดวันละ 500 นะครับ     ถ้าจอด นานคดีไม่เสร็จสิ้นค่าจอดเกินกว่าค่าซ่อมแน่  ๆ     เพราะฉะนั้นควรรีบยกรถออกมาไม่งั้นเสียค่าจอดบานแน่ ๆ  
       
     ผมตั้งข้อสังเกตุว่า   รถที่เกิดอุบัติเหตุ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่แทบทุกคัน   หลวงพ่ออะไรต่าง  ๆ ไม่ทราบเพราะผมไม่ใช่คนเล่นพระ    ส่องพระไม่มีความรู้หรอกเรื่องพวกนี้   บางคันปิคอัพส่งของตู้ทึบผ้าสามสีอยู่ที่พวงมาลัยก็มี อยู่ที่กระจกหลังก็มีผูกไว้เต็มที่ ไม่ต่างจากศาลเจ้าประจำรถ       อย่างรถบางคันจะมีรูปหลวงพ่อที่ตัวเองนับถือติดกระจกรยนต์ไว้ แต่พอชนกันบางทีกระจกแตกหมดละ หลวงพ่อคงหนีกระเจิงไปนานแล้วตั้งแต่รถชนกัน     ที่เก็บซากรถที่นี่มีรถคันที่เกิดอุบัติเหตุถนนกิ่งแก้ว 13 ศพด้วยนะ ที่เป็นข่าวดังเมื่อต้นปีก่อน เด็กวิทยาลัยเทคนิคมาฝึกงานแล้วกลับมาจากเลี้ยงฉลองขับเร็วเกินกำหนด        ผมถามคนดูแลบอกว่าเค้าไม่มาเอารถเหรอ     คนดูแลเฝ้าโกดังบอกคงไม่มาเอาแล้วเพราะรถซ่อมไม่ได้แน่ ๆ   ค่าจอดรถก็จ่ายบาน และตายหลายศพขนาดนั้นคงไม่มีใครกล้าซ่อมเอาไปใช้อีกแน่   ๆ    ผมก็ไม่กล้าชะโงกเข้าไปดูใกล้ ๆ   แม้ว่าจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็ตาม    คนเฝ้าโกดังเค้าก็ไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับอะไรหรอก   เพราะรถเกิดอุบัติเหตุพระเครื่อง หลวงพ่อจัดเต็มมาทุกคันทั้งนั้นละ    เค้ายกรถที่เกิดอุบัติเหตุกันมาแทบทุกวันเลยชินชาหมดแล้ว 

      ผมสรุปข้อเตือนใจให้ทุกท่านฟัง  ว่าอุบัติเหตุที่มันเกิดบนท้องถนนทุกวันนี้จนรถต้องมากองซากอยู่ในโกดัง    มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งศักดิสิทธิ์ที่ไหนเลย    ไม่ว่าท่านจะนับถือหลวงพ่อองค์ไหนก็ตาม มันเกี่ยวกับตัวท่านเองโดยตรงนั่นละ    ส่วนมากเลยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เจ็บตาย เกิดจาก
   1. ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด   
   2. เมาสุรา 
   3. ไม่เคารพกฎจราจร เห็นแก่ตัวเวลาขับรถ 

   ยังไงฝากเตือนใจตัวเองไว้นะครับ  ขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวังอย่างสูง       ของแบบนี้ไม่เกิดกับตัวไม่รู้หรอก     ถ้าลองได้ไปดูซากรถที่เกิดอุบัติเหตุเจ็บตาย  มันน่าสลดมาก     เสียเงินเสียเวลา ทรัพย์สิน  ยังเสียชีวิตอีก   คนข้างหลังต้องมาวิ่งเต้นคดี ซ่อมรถ ค่าเสียหาย  เบี้ยรายทางที่ต้องจ่ายเบี้ยหัวแตก เสียเวลาทั้งนั้นละครับ  ขึ้นโรงพัก ขึ้นนศาลคดี กว่าจะเคลียร์กับประกันอีก   กว่าจะจบ  ไม่สนุกแน่นอนเวลาเกิดอุบัติเหตุ     ตั้งสติให้มั่นอยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น  อยู่ที่คนขับล้วน ๆ  ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
รถคันแรกแฟนเราซื้อซากมา ในใบซื้อขายมีระบุจากตำรวจด้วยว่าอุบัติเหตุ ตาย1บาดเจ็บ1 ไมล์เพิ่ง3หมื่นนิดๆ ออกมาไม่กี่เดือน ตอนไปดูซากเลือดเกรอะกรังอยู่เต็มไปหมด เบาคนขับคนนั่งฉีกออก เลือดเต็มเบาะ หลังคายุบ (แต่รอยเจิมยังเด่นชัดมีทองเปลวติดอยู่เลย)​ ต้องยกหัวออกอย่างเดียว แต่ดีเครื่องกับช่วงหม้อน้ำไม่โดนเลยเพราะรถตีลังกาคว่ำมา ซ่อมเรียบร้อยใช้ต่อมา7ปีไม่มีงอแง เครื่องดีสุดๆ พระไม่เคยแขวน ก็ไม่เคยเกิดเหตุร้ายสักครั้งเดียว สุดท้ายมาขายทิ้งตอนโควิท รถเปลี่ยนหัวราคาต่ำมาก แต่ก็ตัดใจขายไป รถคันแรกของเราทุกวันนี้ยังเก็บหมอนหนุนคอไว้เป็นที่ระลึก.
เล่าซะยาวจะบอกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยไม่ได้หรอกค่ะ ตัวเราสติเราเท่านั้นที่จะช่วยให้ตัวเรารอด เราคุ้นเคยกับอะไหล่เซียงกงเจอเยอะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 20
Airbag
เข็มขัดนิรภัย
กล้องติดหน้าหลังรถ
ประกันอุบัติเหตุ
พรบไม่หมดอายุ

นี่แหละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำรถครับ
ความคิดเห็นที่ 4
คันนี้ผมได้มือสองมา มีหลวงพ่อท่านแขวนติดมากับรถด้วย
หลวงพ่ออะไรก็ไม่แน่ใจ ไม่เคยสังเกตุจริงจังซักที แต่ท่านมาอย่างไรก็ให้ท่านอยู่อย่างนั้น
ไม่ได้เอาออก เพราะคิดว่าสิ่งมงคล มีไว้ก็ดี อุ่นใจดี  

ผมขับเข้าป่าดึกๆบ่อยๆ บางครั้งก็รู้สึกว่าจิตใจไม่มั่นคง มองแสงไฟสาดไปในราวป่า มันหวิวๆจินตนาการต่างๆนาๆ
แบบนี้ก็จะจอดแอบยกมือไหว้ท่านซะหน่อย ก็ช่วยให้สบายใจขึ้น

ไปไหนมาไหนคนเดียว เคยไปติดอยู่กลางป่าดึกๆคันเดียวก็เคย
เพราะทางโดนน้ำป่าซัดจนพัง เหมือน ขับรถไต่บนโขดหินมากกว่าจะเป็นทาง

ขับอีท่าไหนไม่รู้ หน้าพ้นแล้ว หลังดันไม่พ้นร่วง ล้อแขวนตกร่องลึกแค่เอว...แปลก
แถมตรงจุดนั้น มีจอมปลวกเล็กๆ มีพุ่มต้นไม้และโขดหินใหญ่ด้วย


พอยิ่งดิ้น หน้าก็จะไหลร่วงลงร่องด้วย เลยลงมาแก้สถานการณ์ ทั้งขึ้นแม่แรง ไปหาก้อนหินมาหนุนล้อ วางแนวRecovery Sand Track
อยู่จุดนั้นเกือบ3ชม.  กลางป่าดึกๆอยู่คันเดียวคนเดียวนั่นแหล่ะ  กะว่า ถ้ารอบนี้เอาไม่ขึ้น หน้าร่วงลงไปด้วยแน่  พอจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จ ตั้งสติแล้วลงมากราบพื้นดินไหว้มันทุกทิศในป่าเลย

พอขึ้นรถสตาร์ท เดินเกียร์4LOW กระชากจนหลุดออกมาได้ ผมก็จอดนอนมันกลางทางในป่านั่นแหล่ะ ไม่ปงไม่ไปมันแล้ว....เหนื่อยชะมัด
เช้ามาก็อุ่นสเบียงทำอะไรกิน แวะแก่งน้ำตกเล็กๆริมทางล้างเนื้อล้างตัว แล้วหันกลับเลย ไปแรดที่อื่นต่อ...555



แต่เดี๋ยวนี้ท่านกระเด็นหายไปไหนแล้วไม่รู้ หาไม่เจอแฮะ สงสัยจะบู๊ล้างผลาญ กระเด้งกระดอนมากไปหน่อย ท่านเลยไม่อยู่อ่ะนะ...เม่าผิงไฟ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่