หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
รัชดา
กรุงโซล
ราชดำเนิน
บลูแพลนเน็ต
มาบุญครอง
ศาสนา
เฉลิมไทย
จตุจักร
แก็ดเจ็ต
ภูมิภาค
แกลเลอรี่
กรีนโซน
บางขุนพรหม
ชายคา
โต๊ะเครื่องแป้ง
ศุภชลาศัย
กล้อง
ก้นครัว
ไกลบ้าน
เฉลิมกรุง
ชานเรือน
ซิลิคอนวัลเลย์
ถนนนักเขียน
พันทิป
ศาลาประชาคม
สยามสแควร์
สวนลุมพินี
สินธร
สีลม
หว้ากอ
ห้องสมุด
หอศิลป์
การ์ตูน
บางรัก
พรหมชาติ
ดิโอลด์สยาม
ไร้สังกัด
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] รีวิว Baan Sup-Pa-Rod บ้านสับปะรด รีสอร์ทบรรยากาศสุดชิลล์ติดริมทะเลในรูปแบบของบ้านสวนใจกลางเกาะเสม็ด
กระทู้รีวิว
โรงแรมรีสอร์ทไทย
โรงแรมรีสอร์ท
อาหาร
เกาะเสม็ด
ท่องเที่ยว
วันนี้เป็นการรีวิวโรงแรมที่ 2 ในเครือของ Samed Resorts โดยคืนแรกเราก็ได้เข้าพักกันที่ Baan Ploy Sea บ้านพลอยสี เข้าไปอ่านรีวิวได้เลยที่นี่ bit.ly/3jk3viD รีสอร์ทที่เรามาเข้าพักวันนี้นั่นก็คือ Baan Sup-Pa-Rod บ้านสับปะรด จุดเด่นของที่พักตรงนี้คือเงียบสงบและถัดจากจุดท่องเที่ยวยอดฮิตอย่างหาดทรายแก้วเพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่ด้วย เพราะห้องพักของที่นี่เป็นแบบบ้านแยกหลังอิสระเว้นระยะห่างออกจากกัน แถมยังอยู่ติดกับริมทะเลถึงแม้ว่าจะไม่สามารถลงเล่นได้แต่เดินไปรีสอร์ทข้างๆเพื่อเล่นสระน้ำและทะเลได้(มีประตูพิเศษที่เชื่อมถึงกัน) อีกทั้งไม่โดนแดดร้อนเพราะถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่บรรยากาศแบบบ้านสวน ทางเข้ารีสอร์ทนี้ก็สังเกตง่ายๆจะพบกับกำแพงสีเหลืองสว่างสะดุดตาเป็นแนวยาวตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงลานจอดรถด้านใน จะสวยงามแค่ไหนเราเข้าไปด้านในและ Check In กันเลยครับ ~
เมื่อจอดรถแล้วก็เดินเข้าไปในประตูที่อยู่ติดกับกำแพงสีเหลืองจะพบกับแผนที่รีสอร์ทขนาดใหญ่ ตรงเข้าไปอีกนิดจะเป็นอาคาร Reception สำหรับ Check In โดยใช้บัตรประชาชนเพียง 1 ใบเช่นเคย นอกจากนี้ก็ยังเป็นศูนย์รวมในการนั่งพักชิลล์ๆ/รับประทานอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย โดยสามารถมานั่งเล่นได้ตลอดทั้งคืนเลยตรงจุดนี้
จุดต่อมาเป็นระเบียงไม้ขนาดใหญ่สำหรับรับประทานอาหารชมวิวและรับลมทะเลไปด้วยในตัว ก่อนที่เราจะเดินไปยังห้องพักทางรีสอร์ทเสิร์ฟ Welcome Drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบรสชาติหวานอมเปรี้ยวหอมสดชื่นกำลังดีเลยครับ
ระหว่างทางเดินไปที่ห้องพักเพิ่งสังเกตว่าที่นี่มีการทำห้องใหม่เกือบทั้งหมด ทุกห้องหันออกไปในทะเลโดยมีการสลับกันและยังมีที่ให้นั่งพักสำหรับชมสวน/รับลมทะเลตามทางเป็นระยะๆ ถึงแม้ว่าห้องพักติดทะเลก็จริงแต่เป็นโขดหินเกือบทั้งหมซึ่งไม่เหมาะกับการลงไปเล่นน้ำแต่เมื่อน้ำทะเลกระทบกับหินแล้วก็สวยงามมองเพลินไปอีกแบบ เดี๋ยวเรารีบไปเก็บของเข้าที่พักแล้วค่อยเดินไปดูสระว่ายน้ำรวมถึงจุดให้เล่นน้ำทะเลที่รีสอร์ทในเครือที่อยู่ข้างๆกันครับผม
มาถึงห้องพักกันแล้วโดยทุกห้องที่นี่จะถูกแยกเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีทั้งหมด 32 หลัง ประกอบไปด้วย Garden View Cottage (พักได้ 2 คน) จำนวน 20 หลัง ห้อง Garden View Cottage Triple (พักได้ 3 คน) จำนวน 3 หลัง Sea Side Cottage (พักได้ 2 คน) จำนวน 6 หลัง บ้าน Family Room (พักได้ 6 คน) จำนวน 1 หลัง และ Resident Room (พักได้ 2 คน) อีกจำนวน 2 หลัง แต่วันนี้ห้องพักส่วนใหญ่ถูกปรับปรุงอยู่วันนี้เราเลยได้พักเป็นห้อง Garden View Cottage ถัดมาจากหลังที่ติดทะเลเล็กน้อยโดยบรรยากาศรอบๆถูกล้อมด้วยสวน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆถือว่ามีครบไม่ว่าจะเป็นเตียงแบบ 3 ฟุตนุ่มๆที่สามารถนอนชิดหรือแยกกันก็ได้ ทีวี/ตู้เย็นเล็ก/ผ้าขนหนู/ร่ม/ชั้นวางของและแขวนเสื้อผ้า ในส่วนของโซนเปียกถูกแยกไว้ด้านหลังสุดกั้นด้วยประตูไม้สไลด์ขนาดใหญ่มีสบู่/แชมพู/ชุดชงกาแฟ/น้ำดื่ม/กระดาษชำระ/ไดร์เป่าผมให้ครบ เบื่อก็ออกมานั่งรับลมที่หน้าบ้านได้เพลินๆดีครับ
ต่อไปเราจะพาไปดูสระว่ายน้ำที่เราต้องเดินไปใช้งานที่ Saikaew Beach Resort (ทรายแก้วบีชรีสอร์ท) โดยมีประตูพิเศษรั้วติดกันให้เดินตามป้าย To The Beach หรือ Swimming Pool ก็จะพบกับประตูสีเทาที่เปิดตั้งแต่ 08.00 - 22.30 น. แต่ถ้าคุณกลับมาไม่ทันเวลาสามารถเดินอ้อมไปที่ถนนใหญ่กลับมาได้แต่ไกลมากๆ ถึงแม้ว่าที่ทรายแก้วบีชรีสอร์ทจะมีสระว่ายน้ำให้เลือกหลายสระแต่ลูกค้าบ้านสับปะรดสามารถใช้ได้แค่สระเดียว คือสระที่อยู่ด้านในสุดติดกับประตูรั้วเท่านั้น และตลอดที่อยู่ที่นี่ต้องใส่กำไลข้อมือยางสีเหลืองของรีสอร์ทด้วย ส่วนหาดที่จะลงไปเล่นน้ำทะเลก็คือหาดเดียวกับจุดที่เราจะต้องมาพักพรุ่งนี้อยู่แล้ว เราเลยขอยกยอดไปรีวิวหน้าแทนแล้วกันนะครับ
เข้าไปที่พักนอนหลับสักงีบตื่นอีกทีก็เข้าสู่ช่วงเวลาเย็นซะแล้ว เห็นพนักงานนำโต๊ะและเก้าอี้โฟมนุ่มๆสีเหลืองมาวางไว้ตรงลานกว้างติดกับทะเล มีการเปิดเพลงเพราะๆสุดชิลล์ให้นั่งฟังคลื่นเคล้าเสียงดนตรีพร้อมกับจิบเครื่องดื่มหรือสั่งอาหารมาทานตรงลานนี้ก็ได้ ฟังเสียงคลื่นทะเลกระทบกับหินพร้อมมองไปไกลๆมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำในจุดใกล้ๆกับรีสอร์ทอีกด้วย แสดงว่าธรรมชาติแถวนี้อุดมสมบูรณ์อยู่ถ้าใครอยากดำน้ำก็สอบถามกับทางรีสอร์ทได้ครับ
ตอนนี้ก็หิวแล้วทางรีสอร์ทก็ได้เตรียมเมนูเด็ดเอาไว้ให้เราถึง 5 อย่างได้แก่ "ไข่เจียวฟูปูทะเล" ราคา 255 บาท เป็นไข่เจียวฟูกรอบนอกนุ่มในเต็มไปด้วยเนื้อปูและท๊อบปิ้งเนื้อปูก้อนไว้ด้านบนอีกชั้น รสชาติเค็มกลมกล่อมกำลังดีเพิ่มรสชาติด้วยซอสพริกศรีราชาอีกหน่อยทานกับข้าวสวยร้อนๆคือเด็ด จานต่อมาคือ"หมูสามชั้นทอดน้ำปลา"ราคา 175 บาท เป็นหมูสามชั้นหั่นชิ้นบางหมักด้วยน้ำปลาหอมๆก่อนจะนำไปชุบแป้งทอดจนสีเหลืองกรอบทั้งชิ้น ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติเปรี้ยว/เผ็ดโดนใจ จะทานกับข้าวสวยหรือจะสั่งเป็นกับแกล้มไว้ทานระหว่างนั่งจิบริมทะเลก็ดีครับ
เมนูต่อมาเป็นอาหารที่ธรรมดาแต่ติดจานแนะนำของที่นี่คือ "แกงเขียวหวานเนื้อ" ราคา 255 บาท แกงมาแบบข้นๆใส่ทั้งมะเขือและมะเขือพวงครบสูตรแต่สูตรเด็ดของที่ห้องอาหารนี้คือเชฟนำเนื้อไปตุ๋นในกะทิจนนิ่มเข้าเนื้อแล้วนำมันของกะทิที่แตกแล้วมาผัดกับเครื่องแกงเขียวหวานที่ตำขึ้นเอง จึงได้ทานแกงเขียวหวานเนื้อวัวสุดนุ่มหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรเตะจมูก ยิ่งน้ำแกงข้นๆแบบนี้ทำให้ทานกับข้าวสวยได้หลายชามเลยครับ จานต่อมานั่นก็คือ "กุ้งแช่น้ำปลา" ราคา 285 บาท เป็นกุ้งกุลาดำผ่าหลังตัวใหญ่พิเศษเนื้อเด้งๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรเด็ดกัดเจอพริกสดและกระเทียมเม็ดโดดเผ็ดสะดุ้งโดนใจ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานกุ้งเนื้อเด้งหรือกำลังมองหากับแกล้มดีๆมากครับ สุดท้าย "ผัดกระเพราปลาหมึก" ราคา 255 บาท เป็นปลาหมึกตัวขนาดกลางหั่นเป็นวงๆปรุงรสมาหวาน/เค็มกำลังดีที่โดนใจสุดคือเราสั่งแบบเผ็ดๆมาได้ดั่งใจมากๆ โดยรวมแล้วอร่อยทุกๆจานแปลว่าฝีมือเชฟที่นี่ไม่ธรรมดาเลยครับ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *****
ชื่อสินค้า:
Baan Sup-Pa-Rod บ้านสับปะรด เกาะเสม็ด
คะแนน:
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
- ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง
ข้อมูลเพิ่มเติม
ได้รับที่พักและอาหารกลางวันฟรี
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] รีวิว Baan Sup-Pa-Rod บ้านสับปะรด รีสอร์ทบรรยากาศสุดชิลล์ติดริมทะเลในรูปแบบของบ้านสวนใจกลางเกาะเสม็ด
เมื่อจอดรถแล้วก็เดินเข้าไปในประตูที่อยู่ติดกับกำแพงสีเหลืองจะพบกับแผนที่รีสอร์ทขนาดใหญ่ ตรงเข้าไปอีกนิดจะเป็นอาคาร Reception สำหรับ Check In โดยใช้บัตรประชาชนเพียง 1 ใบเช่นเคย นอกจากนี้ก็ยังเป็นศูนย์รวมในการนั่งพักชิลล์ๆ/รับประทานอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย โดยสามารถมานั่งเล่นได้ตลอดทั้งคืนเลยตรงจุดนี้
จุดต่อมาเป็นระเบียงไม้ขนาดใหญ่สำหรับรับประทานอาหารชมวิวและรับลมทะเลไปด้วยในตัว ก่อนที่เราจะเดินไปยังห้องพักทางรีสอร์ทเสิร์ฟ Welcome Drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบรสชาติหวานอมเปรี้ยวหอมสดชื่นกำลังดีเลยครับ
ระหว่างทางเดินไปที่ห้องพักเพิ่งสังเกตว่าที่นี่มีการทำห้องใหม่เกือบทั้งหมด ทุกห้องหันออกไปในทะเลโดยมีการสลับกันและยังมีที่ให้นั่งพักสำหรับชมสวน/รับลมทะเลตามทางเป็นระยะๆ ถึงแม้ว่าห้องพักติดทะเลก็จริงแต่เป็นโขดหินเกือบทั้งหมซึ่งไม่เหมาะกับการลงไปเล่นน้ำแต่เมื่อน้ำทะเลกระทบกับหินแล้วก็สวยงามมองเพลินไปอีกแบบ เดี๋ยวเรารีบไปเก็บของเข้าที่พักแล้วค่อยเดินไปดูสระว่ายน้ำรวมถึงจุดให้เล่นน้ำทะเลที่รีสอร์ทในเครือที่อยู่ข้างๆกันครับผม
มาถึงห้องพักกันแล้วโดยทุกห้องที่นี่จะถูกแยกเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีทั้งหมด 32 หลัง ประกอบไปด้วย Garden View Cottage (พักได้ 2 คน) จำนวน 20 หลัง ห้อง Garden View Cottage Triple (พักได้ 3 คน) จำนวน 3 หลัง Sea Side Cottage (พักได้ 2 คน) จำนวน 6 หลัง บ้าน Family Room (พักได้ 6 คน) จำนวน 1 หลัง และ Resident Room (พักได้ 2 คน) อีกจำนวน 2 หลัง แต่วันนี้ห้องพักส่วนใหญ่ถูกปรับปรุงอยู่วันนี้เราเลยได้พักเป็นห้อง Garden View Cottage ถัดมาจากหลังที่ติดทะเลเล็กน้อยโดยบรรยากาศรอบๆถูกล้อมด้วยสวน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆถือว่ามีครบไม่ว่าจะเป็นเตียงแบบ 3 ฟุตนุ่มๆที่สามารถนอนชิดหรือแยกกันก็ได้ ทีวี/ตู้เย็นเล็ก/ผ้าขนหนู/ร่ม/ชั้นวางของและแขวนเสื้อผ้า ในส่วนของโซนเปียกถูกแยกไว้ด้านหลังสุดกั้นด้วยประตูไม้สไลด์ขนาดใหญ่มีสบู่/แชมพู/ชุดชงกาแฟ/น้ำดื่ม/กระดาษชำระ/ไดร์เป่าผมให้ครบ เบื่อก็ออกมานั่งรับลมที่หน้าบ้านได้เพลินๆดีครับ
ต่อไปเราจะพาไปดูสระว่ายน้ำที่เราต้องเดินไปใช้งานที่ Saikaew Beach Resort (ทรายแก้วบีชรีสอร์ท) โดยมีประตูพิเศษรั้วติดกันให้เดินตามป้าย To The Beach หรือ Swimming Pool ก็จะพบกับประตูสีเทาที่เปิดตั้งแต่ 08.00 - 22.30 น. แต่ถ้าคุณกลับมาไม่ทันเวลาสามารถเดินอ้อมไปที่ถนนใหญ่กลับมาได้แต่ไกลมากๆ ถึงแม้ว่าที่ทรายแก้วบีชรีสอร์ทจะมีสระว่ายน้ำให้เลือกหลายสระแต่ลูกค้าบ้านสับปะรดสามารถใช้ได้แค่สระเดียว คือสระที่อยู่ด้านในสุดติดกับประตูรั้วเท่านั้น และตลอดที่อยู่ที่นี่ต้องใส่กำไลข้อมือยางสีเหลืองของรีสอร์ทด้วย ส่วนหาดที่จะลงไปเล่นน้ำทะเลก็คือหาดเดียวกับจุดที่เราจะต้องมาพักพรุ่งนี้อยู่แล้ว เราเลยขอยกยอดไปรีวิวหน้าแทนแล้วกันนะครับ
เข้าไปที่พักนอนหลับสักงีบตื่นอีกทีก็เข้าสู่ช่วงเวลาเย็นซะแล้ว เห็นพนักงานนำโต๊ะและเก้าอี้โฟมนุ่มๆสีเหลืองมาวางไว้ตรงลานกว้างติดกับทะเล มีการเปิดเพลงเพราะๆสุดชิลล์ให้นั่งฟังคลื่นเคล้าเสียงดนตรีพร้อมกับจิบเครื่องดื่มหรือสั่งอาหารมาทานตรงลานนี้ก็ได้ ฟังเสียงคลื่นทะเลกระทบกับหินพร้อมมองไปไกลๆมีนักท่องเที่ยวมาดำน้ำในจุดใกล้ๆกับรีสอร์ทอีกด้วย แสดงว่าธรรมชาติแถวนี้อุดมสมบูรณ์อยู่ถ้าใครอยากดำน้ำก็สอบถามกับทางรีสอร์ทได้ครับ
ตอนนี้ก็หิวแล้วทางรีสอร์ทก็ได้เตรียมเมนูเด็ดเอาไว้ให้เราถึง 5 อย่างได้แก่ "ไข่เจียวฟูปูทะเล" ราคา 255 บาท เป็นไข่เจียวฟูกรอบนอกนุ่มในเต็มไปด้วยเนื้อปูและท๊อบปิ้งเนื้อปูก้อนไว้ด้านบนอีกชั้น รสชาติเค็มกลมกล่อมกำลังดีเพิ่มรสชาติด้วยซอสพริกศรีราชาอีกหน่อยทานกับข้าวสวยร้อนๆคือเด็ด จานต่อมาคือ"หมูสามชั้นทอดน้ำปลา"ราคา 175 บาท เป็นหมูสามชั้นหั่นชิ้นบางหมักด้วยน้ำปลาหอมๆก่อนจะนำไปชุบแป้งทอดจนสีเหลืองกรอบทั้งชิ้น ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติเปรี้ยว/เผ็ดโดนใจ จะทานกับข้าวสวยหรือจะสั่งเป็นกับแกล้มไว้ทานระหว่างนั่งจิบริมทะเลก็ดีครับ
เมนูต่อมาเป็นอาหารที่ธรรมดาแต่ติดจานแนะนำของที่นี่คือ "แกงเขียวหวานเนื้อ" ราคา 255 บาท แกงมาแบบข้นๆใส่ทั้งมะเขือและมะเขือพวงครบสูตรแต่สูตรเด็ดของที่ห้องอาหารนี้คือเชฟนำเนื้อไปตุ๋นในกะทิจนนิ่มเข้าเนื้อแล้วนำมันของกะทิที่แตกแล้วมาผัดกับเครื่องแกงเขียวหวานที่ตำขึ้นเอง จึงได้ทานแกงเขียวหวานเนื้อวัวสุดนุ่มหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรเตะจมูก ยิ่งน้ำแกงข้นๆแบบนี้ทำให้ทานกับข้าวสวยได้หลายชามเลยครับ จานต่อมานั่นก็คือ "กุ้งแช่น้ำปลา" ราคา 285 บาท เป็นกุ้งกุลาดำผ่าหลังตัวใหญ่พิเศษเนื้อเด้งๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรเด็ดกัดเจอพริกสดและกระเทียมเม็ดโดดเผ็ดสะดุ้งโดนใจ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานกุ้งเนื้อเด้งหรือกำลังมองหากับแกล้มดีๆมากครับ สุดท้าย "ผัดกระเพราปลาหมึก" ราคา 255 บาท เป็นปลาหมึกตัวขนาดกลางหั่นเป็นวงๆปรุงรสมาหวาน/เค็มกำลังดีที่โดนใจสุดคือเราสั่งแบบเผ็ดๆมาได้ดั่งใจมากๆ โดยรวมแล้วอร่อยทุกๆจานแปลว่าฝีมือเชฟที่นี่ไม่ธรรมดาเลยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น