เป็นหนึ่งประโยคจากหนังที่มิโอริพูด เกี่ยวกับ position ของตัวเอง
สำหรับแฟนคลับ มิโอริรู้อยู่แล้วว่าตัวเองสำคัญ
แต่คำพูดจากหนังมิโอริพยายามจะสื้อถึง position ของตัวเอง ต่อวง ต่อเมมเบอร์ และต่อออฟฟิศเชี่ยล
จะเรียกว่า position หรือ character ดีหละ สำหรับมิโอริ ที่ตั้งแต่เข้าวงมา ว่าเป็นคนญี่ปุ่นคนเดียว
แต่พอพี่รินะเข้าทำให้ความสนใจหลายๆอย่างไปอยุ่ที่พี่รินะ
ทั้งเมมเบอร์และออฟฟิศเชี่ยล
มิโอริพูดถึงเรื่องการไปทำงานที่ญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่ตัวท็อปหรือเซมมักจะได้โอกาศ แต่พี่รินะที่เป็นอันเดอร์เหมือนมิโอรินะตอนนั้น ก็ยังได้โอกาศ แต่มิโอริมักจะไม่ได้ แต่มิโอริก็เข้าใจได้เพราะพี่รินะเคยอยู่ akb มาก่อน
ฟังไลฟ์มิโอริล่าสุดแล้วน่าสงสารอยู่นะ เกี่ยวกับประเด็นระหว่างมิโอริกับพี่รินะ
แต่มิโอริบอกว่าอย่าเข้าใจผิดนะมิโอริไม่ได้เกลียดพี่รินะ และพี่รินะก็เป็นคนที่สนิทที่สุดใน 48 กรุ๊ป และก็ไม่ได้คิดมากกับเรื่องนี้ แค่จะมาขยายความประโยคที่พูดไปในหนัง และบอกด้วยว่าจะไม่แกรดจนกว่าจะติดเซมอีกครั้ง
เป็นประเด็นที่แบบ "เราเป็นเพื่อนกันแต่เราก็ต้องแข่งกัน" ที่ได้ยินกันบ่อยๆ
เป็นกำลังใจให้มากๆเลย อยากให้มิโอริติดเซมอีกครั้ง
"มิโอริยังสำคัญสำหรับ bnk48 ไหม?" ความรู้สึกและความสัมพันธ์ของมิโอริกับพี่รินะ
สำหรับแฟนคลับ มิโอริรู้อยู่แล้วว่าตัวเองสำคัญ
แต่คำพูดจากหนังมิโอริพยายามจะสื้อถึง position ของตัวเอง ต่อวง ต่อเมมเบอร์ และต่อออฟฟิศเชี่ยล
จะเรียกว่า position หรือ character ดีหละ สำหรับมิโอริ ที่ตั้งแต่เข้าวงมา ว่าเป็นคนญี่ปุ่นคนเดียว
แต่พอพี่รินะเข้าทำให้ความสนใจหลายๆอย่างไปอยุ่ที่พี่รินะ
ทั้งเมมเบอร์และออฟฟิศเชี่ยล
มิโอริพูดถึงเรื่องการไปทำงานที่ญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่ตัวท็อปหรือเซมมักจะได้โอกาศ แต่พี่รินะที่เป็นอันเดอร์เหมือนมิโอรินะตอนนั้น ก็ยังได้โอกาศ แต่มิโอริมักจะไม่ได้ แต่มิโอริก็เข้าใจได้เพราะพี่รินะเคยอยู่ akb มาก่อน
ฟังไลฟ์มิโอริล่าสุดแล้วน่าสงสารอยู่นะ เกี่ยวกับประเด็นระหว่างมิโอริกับพี่รินะ
แต่มิโอริบอกว่าอย่าเข้าใจผิดนะมิโอริไม่ได้เกลียดพี่รินะ และพี่รินะก็เป็นคนที่สนิทที่สุดใน 48 กรุ๊ป และก็ไม่ได้คิดมากกับเรื่องนี้ แค่จะมาขยายความประโยคที่พูดไปในหนัง และบอกด้วยว่าจะไม่แกรดจนกว่าจะติดเซมอีกครั้ง
เป็นประเด็นที่แบบ "เราเป็นเพื่อนกันแต่เราก็ต้องแข่งกัน" ที่ได้ยินกันบ่อยๆ
เป็นกำลังใจให้มากๆเลย อยากให้มิโอริติดเซมอีกครั้ง