..รัฐบาล คงจะต้อง "คิดใหม่ ทำใหม่" ....ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แล้ว!!

กระทู้คำถาม
 ตอนนี้ สหรัฐ VS จีน  หนักข้อไปเรื่อยๆ   ปีหน้า ไทยจะลำบากกว่า นี้

ผลกระทบ จะมีทั้งข้อดี และเสีย กับเศรษฐกิจไทย
ข้อเสียคือ 
- ภาคการท่องเที่ยว คนจีน และ ทั่วโลก จะเที่ยวน้อยลง (ประหยัด และ บาทแข็ง) 
- การส่งออก แย่ลง ( เพราะการค้าขายจะ ลดน้อย  การลงทุนลด ทุกฝ่าย รอดูทีท่า เศรษฐกิจ) 
ฯลฯ  ......  ( ใครคิดอะไรออก ช่วยแชร์ ได้ครับ) 
แต่ข้อดี ก็มีบ้าง เช่น นักลงทุนจีน จะย้ายฐานออกจากจีน แน่นอน   แต่จะไปเวียดนาม หรือ ไทย  ไม่รู้ อันนี้  รัฐบาล ต้องทำเร่งด่วน 

กลับมาเรื่องเศรษฐกิจ ภายในประเทศ   คราวนี้ ไม่เหมือนรอบ 2540  ดังนั้น รัฐบาลจะใช้วิธีแก้ ตามตำรา มันไม่ได้  

สิ่งที่รัฐบาลดูพวก  GDP , การลงทุน ฯลฯ มันไม่สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน

การกระตุ้นให้ ประชาชน ใช้จ่าย  มันไม่กลับมาเข้ากระเป๋าประชาชน   ใช้ไปแล้วหาย  ใช้แล้วหาย ยิ่งใช้ยิ่งจน!   เงินมันไหลไปเข้า ธุรกิจขนาดใหญ่ เหล้า เบียร์ บุหรี่ หวย 7-11  modern trade , ห้าง ร้านอาหาร   CPN CPF CPALL C..เจริญ     GDP โต   แต่คนส่วนใหญ่ เดือดร้อน 

การคิดใหม่ ทำใหม่ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น  ซึ่งผมเอง จบวิศวะ  ไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ มิบังอาจจะเสนออะไรมาก  ใครรู้ ช่วยบอก  แต่ผมใช้คำว่า คิดใหม่ ทำใหม่ เพราะเป็นสโลแกน  ทรท  สมัยที่ ทักษิณ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ฐานราก OTOP SME  กองทุนหมู่บ้าน ( ให้มีการลงทุนในระดับ ล่างขึ้นมา)  

ตอนนี้ งบประมาณ คือสิ่งที่มี "จำกัด"  การคิดอะไร ต้องเป็นแผนที่ สอดคล้องกัน ในแนวทางเดียวกัน   ที่จะเสนอ คือ

1. ต้องเน้น ดึงการลงทุนจาก จีน  มาที่ไทยให้ได้   EEC ไม่พอ ต้องทำ SEC เสริม เป็นแม่เหล็ก  
2. หาทาง พัฒนาเศรษฐกิจ จากล่าง ขึ้นบน เป็นสำคัญ   หากราก ตายหมด  สักวัน ลำต้น กิ่ง ใบ ก็จะตายตาม

GDP = I + C + G + (X - M)    

I  เน้นดึงทุนจีน   เอาแบบ focus เลยครับว่า "จีน"   คือ ค้าขายแบบ เน้นลูกค้าตจะเห็นผลกว่า   เช่น ถ้าจีน อยากได้ ทางออก อันดามัน SEC จัดไป
C    คือสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ  แต่ C  จากระดับล่าง อย่าไปผลักดันมาก  ระดับล่าง มีจำกัดถึงในระดับ การดำรงค์ชีพไม่ได้แล้ว   ......  จะมีก็ พวก กลาง- บน    ต้องไปดัน พวกนั้น   เช่น ขึ้นภาษีคนพวกนี้  แต่ให้ มาตรการลดหย่อน มากขึ้น หากใช้จ่าย ฯลฯ ?? 
G  ช่วงนี้  ต้องกู้มาลงทุน อย่ากลัวมาก  ตัวเลขต่างๆ ไทยดีเกินไป จนบาทแข็งแล้ว
Export    คงต้องช่วย ในรูปแบบใหม่ๆ   ??? 
Import   เน้นแบบสมัย   ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ  เน้นให้คนไทยรักชาติ ใช้ของไทย  made in thailand
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ขอบคุณทุกความเห็น ครับ  

เขียนมาเถอะครับ  ผมเชื่อว่า   สุดท้าย ทีมงาน เศรษฐกิจ  คงได้เข้ามาอ่านบ้าง    

เราคนไทย ตัวเล็กๆ ก็ทำในสิ่งที่ทำได้ เพื่ออนาคตเราเองทั้งนั้นครับ    


ผม กด ถูกใจ สุดแค่นี้ เพราะ จะออกไปข้างนอกนะครับ   และ ขอดึงความเห็นนี้ เป็นคำตอบในเบื้องต้น เพื่อขอบคุณ  เพราะจริงๆ เราไม่ต้องการคำตอบ   เราต้องการ ความเห็นที่หลากหลาย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ผมมองต่าง
ถ้าดึงจีนมาไทยจะตายหมด

นิสัยจีนก็เหมือนทัวร์
ครบวงจร กินแบบไม่กระเด็นมาให้ไทย
ยังไงก็ไม่ไหลเข้ากระเป๋าไทย

ทุกวันนี้เศรษฐกิจที่แย่ค้าขายแย่
เพราะเงินไหลออกไปอยู่จีนหมด
แถมได้อภิสิทธิฟรีภาษี

ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตปัจจัยพื้นฐานยังอยู่ยาก
เงินหมุนน้อยขาดสภาพคล่อง

ถ้าจีนโค่นสหรัฐได้
จะไม่มีใครสู้จีนได้เลย
จะไม่มีความปราณีเกิดขึ้น
และจะไม่มีใครต่อกรได้

ทุกประเทศควรตั้งกำแพงภาษีแบบเดิม
เศรษฐกิจจะดีขึ้น
ความคิดเห็นที่ 49
ที่โมเมนตัมเศรษฐกิจปัจจุบันมันเป็นแบบนี้เพราะรัฐบาลไม่รู้จักเศรษฐกิจไทยดีพออย่างที่อดีตนักการตลาดคนนึงเคยกล่าวอ้าง(แต่น่าแปลกที่บางงานก็พูดเหมือนเข้าใจดี แต่เวลาปฏิบัติจริงออกนโยบายผิดฝาผิดตัวไปหมด) รากฐานเศรษฐกิจไทยคือเกษตรกรรม ถึงจะมีส่วนแบ่งในGDPน้อยแต่กินกำลังแรงงานส่วนใหญ่ของประเทศและมีผลต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมและบริการ

หลังshut down bkkและรปห.57 ที่สภาพเศรษฐกิจเลวร้ายโตเพียง0.9% รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกจุดด้วยการบอกว่าทุกอย่างปกติดี(คนที่พูดเกี่ยวข้องกับอะไร100จุดๆซักอย่าง) แล้วใส่แค่งบกระตุ้นด้วยงบซ่อมแซมถนนทั่วประเทศทำนองนี้เท่านั้น แล้วอาศัยลูกดื้อดันทุรังปล่อยประชาชนและเอกชนต่อสู้กับช่วงการค้าโลกซบเซา(2014-2016)ไปด้วยตัวเอง ช่วยบ้างก็อาจจะเป็นช่วยอำนวยความสะดวกเจ้าสัวเลือช็อปกิจการก็เท่านั้น เสียงก่นด่าและโอดครวญจึงเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น แต่ถูกเถียงกลับมาด้วยวลีคนเดินเต็มห้างและรถเต็มถนน

พอผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดอย่างปี2016ไป ก็ได้มีคนที่เหมือนรู้จังหวะมารับหน้าเสื่อใหม่เต็มตัวพร้อมกับพยายามใช้กระสุนชุดเดียวกับอดีตทรท. ด้วยการผันเงินลงกองทุนหมู่บ้านและท้องถิ่น อุ้มเอกชนรายใหญ่ปรับโครงสร้างเทคโนโลยีและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กระสุนที่ตอนแรกเกือบจะด้านๆ แต่เศรษฐกิจโลกเกิดดีขึ้นมาในปลายปี2017ถึงต้นปี2018 ทำให้พอยิงบ่อยๆชักจะได้ผล เริ่มกระเตื้องขึ้นมา และพอกระสุนหมดประกอบกับถูกEECดูดเงินไปและเกิดtrade warทำให้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปี2018 แสดงความซบเซาขาลงชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส1และ2ในปี2019หรือก็คือปัจจุบันนั่นเอง

โดยที่ตั้งแต่ปี2014เป็นต้นมายังไม่ได้มีการกระตุ้นขนานใหญ่ในภาคเกษตรเลย เพราะน้ำท่วมปากจากการกล่าวหารัฐบาลชุดก่อนว่าประชานิยมภาคเกษตรทำให้เริ่มอวดตนว่าจะไม่แจกปลาแต่จะสอนตกปลา จึงเกิดตลาดประชา...ขึ้น!? แต่ก็ยังแป้กเพราะในเมื่อเศรษฐกิจรากหญ้ามันฟุบไปแล้วจะให้ทำเช่นไร ทีนี้ชักโมโหและคิดว่าต้องเพิ่มเงินในมือคนจนมากขึ้นจึงเกิดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐขึ้นมา(ยิ่งหนักข้อเพราะไม่ใช่ไปประกันรายได้เค้าแต่ยัดเงินใส่บัญชีไปตรงๆเลย ไม่นับข้อครหาปริญญาโทก็มีบัตรได้ จนจริงจนไม่จริงต่างๆ)

จากที่ผ่านมาทั้งหมดก็ยังไม่มีทั้งการปฏิรูปโครงสร้างการเกษตรให้เห็นแต่อย่างใด นโยบายส่วนใหญ่เป็นการเอาเงินไปเดิมพันกับ3จังหวัดEEC(ลูกจ้างขั้นสูง ESBสมัยป๋าเปรมเวอร์ชั่นอัพเกรด) คิดไปถึงเรื่องการเชื่อมกับจีนผ่านgreater bay area ฮ่องกงจะมาสอนทำstartupผ่านcyberport ซึ่งคนที่มีส่วนได้ผลประโยชน์มีเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นจึงไม่ต้องแปลกใจกับเสียงโอดครวญและข่าวการฆ่าตัวตายของประชาชนทุกหย่อมหญ้ามากขึ้น ที่น่าดีใจคือตั้งแต่เข้าปี2019 วลีคนเดินห้างชักจะเริ่มไม่โผล่มาเถียงแล้วเพราะทุกฝ่ายมองตรงกันว่าเศรษฐกิจชักจะแย่แล้วจริงๆ น่ายินดีตรงนี้เพราะจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาคือการต้องยอมรับว่ามีปัญหาก่อนนั่นเอง

ปล.ส่วนตัวคิดว่าถ้าตั้งแต่เข้ามาหลังรปห.ใช้วิธีเดียวกับสมัยปชป.ยุคแฮมเบอร์เกอร์น่าจะเป็นกระสุนที่ถูกชุดและเหมาะสมกว่า น่าจะยังยิงหวังผลได้อยู่ในตอนนั้น แล้วพอเศรษฐกิจรากหญ้าฟื้นค่อยมาดูเรื่องการปฏิรูปเกษตร พัฒนาอุตสาหกรรมไทยและเทคโนโลยีของตัวเองอย่างจริงจัง EECอาจจะแทบไม่จำเป็นไปเลยก็ได้(ถ้าไม่ใช่ว่ามีใครตุนที่ไว้เป็นหมื่นไร่ใน3จังหวัด) แต่ก็อย่างว่าที่มาของอำนาจย่อมบ่งบอกการกระทำได้เสมอว่าทำเพื่อใคร

คห.นี้อาจจะยาวซักหน่อย แต่กลั่นออกมาจากความรู้สึกที่เป็นห่วงและกังวลกับแนวทางของประเทศจริงๆครับ นโยบายผิดฝาผิดตัว มั่วซั่วหลงทิศหลงทางไปกันใหญ่แล้ว อาจจะเริ่มสายเกินหันหลังกลับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่ได้เชียร์ใคร แต่การใช้การประกันราคาพืชผลการเกษตร
จะช่วยได้ระดับหนึ่งทำให้รากหญ้ามีสภาพเงินสะพัดมากขึ้น
ปัจจุบันไทยมีปัญหาคือความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
การที่ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำติดกันหลายปี
ทำให้สภาวะเงินสะพัดในระดับล่างลดลงจนเกิดแพนิค
ซึ่งตอนนี้ก็ส่งผลกระทบถึงระดับบนแล้ว ดูได้จากผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้น

อีกเรื่องคือต้องหาทางป้องกันการไหลออกของเงินจากการค้าออนไลน์
ปัจจุบันมีเงินไหลออกจากประเทศไทยจากการช็อปปิ้งออนไลน์อย่าง Aliexpress Lazada Shopee
ซึ่งเป็นการสั่งสินค้าจากต่างประเทศจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเก็บภาษีได้
กลับกันผู้ประกอบการคนไทยโดนเก็บภาษีนำเข้า
จุดนี้ทำให้เงินไหลออกและการค้าภายในประเทศซบเซา
ความคิดเห็นที่ 15
คำเดียวสั้นๆเลย

ต้อง  สุจริตทุกย่อมหญ้า  เท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 16
จีนน่ากลัวมาก
นโยบายการค้าเสรียังได้ผลหรือเปล่า เราควรตั้งกำแพงภาษี เพื่อช่วยอุตสาหกรรมในประเทศมั้ย

จากกรณีฮ่องกง ปัญหาหนึ่งคืออสังหาริมทรัพย์ราคาสูง คนฮ่องกงต้องอยู่กรงหมา ทำอะไรไม่ได้
ถ้าเรายังปล่อยให้ทุนจีนเข้ามาอย่างอิสระ อีกหน่อยเราอาจมีสิทธิ์ต้องอยู่กรงหมาแบบนั้นหรือเปล่าคะ กลัวต้องอยู่กรงหมาอะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่