หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
กรุงโซล
บลูแพลนเน็ต
ชายคา
ศาลาประชาคม
ซิลิคอนวัลเลย์
มาบุญครอง
ศาสนา
พรหมชาติ
ห้องสมุด
กล้อง
เฉลิมกรุง
จตุจักร
ภูมิภาค
ถนนนักเขียน
แกลเลอรี่
กรีนโซน
บางขุนพรหม
โต๊ะเครื่องแป้ง
ศุภชลาศัย
ก้นครัว
ไกลบ้าน
เฉลิมไทย
ชานเรือน
พันทิป
รัชดา
ราชดำเนิน
สยามสแควร์
สวนลุมพินี
สินธร
สีลม
หว้ากอ
หอศิลป์
การ์ตูน
บางรัก
ดิโอลด์สยาม
แก็ดเจ็ต
ไร้สังกัด
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
(Spoil + พูดคุย) S;G 0 ตอนสุดท้าย ----- GATE OF STEINER !!!
กระทู้สนทนา
การ์ตูน
อนิเมะ
Visual Novel
สไตนส์;เกท
Light Novel
***สำหรับตอนนี้ ใครยังไม่ได้ดู หรือไม่ได้เล่นเกมมา อยากให้ไปดูก่อนครับ อันนี้จริงจัง แล้วค่อยมาคุยกันในนี้***
ตอนนี้โดจินที่ผมเอามาลงประจำยังไม่มา งั้นเอาเป็นอันนี้ละกันครับ
วันนี้ (27 September) ก็เป็นวันเกิดของสึซึฮะพอดีเลย ซึ่งถ้านับตามปีจริง ก็อายุได้ 1 ขวบละ (เกิดปี 2017)
เข้าเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เส้นโลกเปลี่ยน อามาเดอุสหายไป แต่ก็มีเหตุให้มาเจอกับมาโฮะอยู่ดี
รอจนถึงช่วงเวลาที่มายุริจะไปที่ตึกเรดิโอ
เจอคางาริ ที่โผล่มาก่อนเวลา เลยตามไป แล้วโดนโมเอกะที่มาห็นพอดี ตามหลังอีกที
ที่ตึกเรดิโอ เจอ ศจ. เลสคิเนน แต่ได้โมเอกะช่วยไว้
ที่ดาดฟ้า คางาริช่วยจัดการแก๊งค์ของ ศจ. เรเยส แต่ก็มาเพื่อขวางไม่ให้พวกมายุริขึ้นไทม์แมชชีน
เพราะกลัวทำให้เส้นโลกเปลี่ยน แล้วตัวเองจะไม่ได้เจอมายุริอีก (เพราะคางาริเป็นเด็กกำพร้าจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ถ้าไม่มีสงคราม ก็ไม่มีเหตุให้มาเป็นลูกบุญธรรมของมายุริ)
บู๊กันระหว่างคางาริและสึซึฮะ (บู๊กันสั้นๆ แต่ทำได้ดีมากสำหรับตอนนี้)
มายุริมาห้ามไว้
บอกคางาริว่าตัวเองจะไปทำให้คนสำคัญของตัวเอง ตาสว่างซักที (เพื่อเปลี่ยนอนาคต)
แต่คางาริก็พยายามแย้งว่าถ้าไป เชื้อเพลิงที่มีไม่พอ จะทำให้ไม่สามารถกลับมานี่ได้อีกนะ
มายุริเลยบอกว่าถึงจะดูบ้าบิ่น แต่ตัวเองเชื่อว่าทุกคนมีพลังที่จะเปลี่ยนอนาคต
และโอคาเบะเป็นคนช่วยชักนำให้พวกเราใช้พลังที่ว่ามาในทางที่ถูกต้อง
เพราะงั้นตัวมายุริเองเลยจำเป็นต้องไปช่วยผลักดันซักหน่อย เป็นสิ่งที่ตัวเองจะทำพื่อฮโคโบชิของตัวเองได้
ทำให้คางาริ นึกถึงคำที่มายุริชอบพูโ ที่ตัวเองได้ยินบ่อยๆ ตอนเด็กๆ ที่มายุริพร่ำเพ้อหาฮิโคโบชิของตัวเอง
สึซึฮะกับมายุริ เลยชวนให้คางาริไปด้วยกัน
โอคาเบะที่แอบฟังอยู่ ก็มาขอร้องคางาริด้วยคน บอกตัวเองมาจากอนาคต และบอกให้รีบไป ก่อนที่ที่นี่จะกลายเป็นจุดเริ่มสงคราม
และฝากให้สมาชิกแล็บหมายเลข 2 อย่างมายุริ ให้ช่วยทำโอเปเรชั่นอาร์คไลท์ให้สำเร็จ ไปจัดการเรียกสติตัวเองที่น่าสมเพชให้ลืมตาตื่นขึ้นซะ
โดนทีมของ ศจ. เลสคิเนน ตามมาป่วนทางบันได โมเอกะช่วยสกัดไว้
คางาริยังชักช้า ถามโอคาเบะว่าโอเคแล้วเหรอกับการที่มายุริจะไป จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ
แต่โอคาเบะบอกว่า มายุริเป็นตัวประกันแสนสำคัญของตัวเอง เดี๋ยวจะไปพากลับมาจนได้แหละ
คางาริเลยตัดสินใจมาช่วยยิงสกัดด้วย บอกว่าเชื่อในโอคาเบะ ที่จะทำให้ได้เจอกับมายุรอีกครั้ง
โอคาเบะก็บอกให้ไว้ใจตัวเองได้เลย
มายุริกับสึซึฮะขึ้นเครื่อง มี ฮ. โผล่มายิงอีก แต่คราวนี้ ไทม์แมชชีนโดดข้ามเวลาได้ก่อนฉิวเฉียด
โอคาเบะ (ในนามโฮโออิน เคียวมะ) เยาะเย้ยพวก ศจ. เลสคิเนน ที่พลาดที่จะชิงไทม์แมชชีนไปแล้ว
บอกว่าตัวเอง จะตามหา S;G ให้เจอ เพราะนี่คือทางที่ตัวเองเลือก!
ตัดมาที่วันที่โอคาเบะย้อนไปกับสึซึฮะเพื่อช่วยคุริสึในภาคหลัก พวกดารุกับมายุริเจอไทม์แมชชีนโผล่มาเหลื่อมเวลากัน
พออันที่โอคาเบะภาคหลักนั่งหายไป มายุริภาค 0 ที่อยู่ในไทม์แมชชีนก็โทรหามายุริข้างนอก
ล่าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดหลังจากนี้ ว่าโอคาเบะจะล้มเหลวในการช่วยคุริสึ จนใจแตกสลาย
พยายามบอกให้มายุริ(ภาคหลัก)หนักแน่นเข้าไว้ อย่ายอมให้ฮิโคโบชิ หรือโฮโออิน เคียวมะของตัวเองต้องหายไป
ถึงเวลาที่ไทม์แมชชีนของภาคหลักจะกลับมา ไทม์แมชชีนของภาค 0 เลยต้องไป (ตึ๊ดตือรื๊อ~)
ก่อนจากกัน มายุริภาคหลักถามว่า S;G มีจริงมั้ย มายุริภาค 0 เลยบอกว่า มีอยู่แน่นอน
หลังโดดข้ามเวลา เพราะกลัวเกิดไทม์พาราด็อกซ์ แต่เชื้อเพลิงไม่พอจะคุมเครื่อง ทำให้ไม่รู้จะไปโผล่ที่จุดไหนของช่วงเวลา
แต่มายุริก็ขอบคุณที่พาตัวเองย้อนไปยังวันนั้น ที่เหลือให้มายุริคนอื่น กับเชื่อมือให้โอคาเบะจัดการเถอะ
พูดกับโอคาเบะในใจ ว่าอย่าละทิ้งโฮโออิน เคียวมะ
บอกว่าตัวเอง จะรอคอยอยู่ที่แล็บ แล้วให้พบกันใหม่ที่เส้นโลก S;G
มายุริภาคหลัก เห็นสภาพโอคาเบะที่กลับมา ก็นึกถึงคำที่คุยกับมายุริภาค 0
รีรันฉากตบให้ดูอีกรอบ พร้อมเพลง Hacking to The Gate (เพลงเปิดภาคแรก) ขึ้น !!!!
ตอนเปิดดูวิดีโอจากอนาคต มาคราวนี้เป็นให้ดูในมุมของโอคาเบะภาค 0 ที่อัดวิดีโอเพื่อส่งให้ตัวเองในภาคหลักดู
อัดวิดีโอเสร็จ ก็เตรียมขึ้นไทม์แมชชีนที่พึ่งสร้างเสร็จ แล้วจะใช้งานเลย
โดยวันนี้ เป็นวันที่สึซึฮะ(โต)เคยบอกกับโอคาเบะว่าตัวเองจะตาย แต่นี่คือจะหายไปกับไทม์แมชชีน หายไปจากเส้นโลกนี้ เปรียบเหมือนตายไป
เอามือถือขึ้นมาดูข้อความที่
ได้รับจากโอคาเบะซักคน
ส่งไปว่าโลกสามารถที่จะถูกหลอกได้
แล้วก็ร่ำลาทุกคน บอกว่าตัวเองจะไปตามหาพวกมายุริ ที่หายไปกับไทม์แมชชีนเมื่อ 14 ปีก่อน โดยใช้ส่งที่เรียกว่า Kerr's Blackhole Tracer
คางาริ เอาอูป้าของตัวเองให้ เพื่อนำไปให้มายุริ (เปรียบเป็นตัวแทนของตัวเอง)
มาโฮะมาซบอก ร้องไห้ ถามว่า S;G มีจริงมั้ย โอคาเบะบอกมีอยู่แน่นอน
แล้วก็ขึ้นเครื่องไทม์แมชชีน กับชื่อโอเปเรชั่นนี้ คือ อัลแตร์ พร้อมเพลง Gate of Steiner ของ ภาค 0 ที่รอคอยมานานนนนนนน !!!!
มาโฮะ: "จักรวาลมีจุดกำเนิด แต่ไร้ซึ่งจุดสื้นสุด เป็นอนันต์"
"ดวงดาวมีจุดกำเนิดเหมือนกัน แต่ก็มีจุดจบจากพลังการเผาไหม้ของตัวเอง เป็นอันตะ"
"ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าผู้มีปัญญา คือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"
"ปลาที่อยู่ในทะเล ย่อมไม่รู้จักโลกบนผืนดิน แต่ถ้าพวกมันมีซึ่งปัญญา สิ่งนั้นก็จะนำพาพวกมันไปสู่การล่มสลาย"
"การที่มนุษย์คิดจะข้ามขีดจำกัดความเร็วแสงนั้น ก็เป็นอะไรที่น่าขันยิ่งกว่าปลาที่คิดจะมาใช้ชีวิตบนผืนโลกซะอีก"
"คำพูดเหล่านี้ เป็นคำจารึก เป็นคำเตือนสุดท้ายต่อเหล่าผู้คิดท้าทายพระเจ้า"
ฉากสุดท้าย ให้ภาพมันเล่าเรื่อง
"ขอโทษที่ปล่อยให้รอนะ ทั้ง 2 คน"
=จบ S;G 0=
-ต้นตอน โมเอกะมาอย่างนางเอก จากนั้นมายุริกินเรียบ มีมาโฮะช่วงท้ายๆ เล็กน้อย
-ไม่ค่อยอินตรงคางาริช่วงครึ่งแรกเท่าไร คงเพราะบทของคุณเธอที่ซึ้งๆ ก่อนหน้านี้ มันห่างจากตอนนี้ไปหลายตอนเลยรู้สึกไม่ค่อยต่อเนื่อง
-สุดท้ายเลยทำครบทั้ง Drama CD Operation Arc Light กับฉากจบ Milky Way Crossing ในเกมเลย
-แต่ฉากสุดท้ายหลัง Credit นี่คือแบบ พีคจริง
-ชอบที่เอา Hacking to The Gate มาใช้ด้วย
-Gate of Steiner ของภาค 0 ที่รอมานาน เอามาใช้ปิดได้ดีมากเลย
-ศจ.เรเยสนี่ ในอนิเมคือตัวประกอบเต็มขั้นเลยจริงๆ
-สารภาพมาซะ ว่าหลายๆ คนที่ดูตอนนี้ พูด El Psy Congroo หรือแอบพูดในใจพร้อมกับโอคาเบะที่อัดวิดีโอ !!
-ความรู้สึกโดยรวมต่อฉบับอนิเม คือมีหลายตอนที่รู้สึกไม่โอเคเท่าไร บางตอนก็ดูเอื่อยๆ ไปหน่อย แต่ในความเอื่อย ก็มาช่วยเติมเต็มบางอย่างเหมือนกัน (ตอนเดทของดารุกับยูกิ) แต่ฉากพีคคือพีคจริง ทำให้มีอารมณ์ร่วมได้ซะส่วนใหญ่ด้วย
มีจุดเร่งรัด ดูไม่สมเหตุผลอยู่พอควร
รวมๆ แล้วถ้าเทียบกับภาคหลักที่ส่วนตัวให้ 10/10 ภาคนี้ผมให้เต็มที่ที่ 8.5/10 ครับ (แต่ฉากสุดท้ายของตอนสุดท้ายนี่ เอาไป 100/10 เลย)
ส่วนตัวทั้งซีซั่นตามติดเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยจริงๆ เพราะเหตุผลหลายๆ อย่างในชีวิตด้วย แต่ก็ถือว่าสนุกดีกับการรอคอยที่จะดูตอนใหม่ในเกือบจะทุกอาทิตย์ครับ โดยเฉพาะ 4-5 ตอนหลังนี่แหละ
หลังจากอนิเมจบแล้ว คิดว่าหลายๆ คนคงได้เวลาไปเล่นฉบับเกมกันบ้าง ซึ่งก็แนะนำให้ลองเล่นดูครับ เพราะมีบางรูทที่ไม่ได้เอามาทำเต็มๆ มีหลายๆ ส่วนที่โดนดัดแปลงไปเยอะ แถมยิ่งดูอนิเมที่ยัดเนื้อหาเสริมบางส่วนที่ไม่มีในเกมแล้ว คิดว่าน่าจะเพลินไม่น้อยเลย
สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาพูดคุยกันในกระทู้ด้วยครับ อาจจะไม่ได้คึกครื้นเหมือนแต่ก่อน หรือหลายๆ เรื่องสมัยนี้ก็ตามเถอะ
ลากันด้วยอันนี้ละกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
(Spoil + พูดคุย) S;G 0 ตอนสุดท้าย ----- GATE OF STEINER !!!
ตอนนี้โดจินที่ผมเอามาลงประจำยังไม่มา งั้นเอาเป็นอันนี้ละกันครับ
วันนี้ (27 September) ก็เป็นวันเกิดของสึซึฮะพอดีเลย ซึ่งถ้านับตามปีจริง ก็อายุได้ 1 ขวบละ (เกิดปี 2017)
เข้าเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-ต้นตอน โมเอกะมาอย่างนางเอก จากนั้นมายุริกินเรียบ มีมาโฮะช่วงท้ายๆ เล็กน้อย
-ไม่ค่อยอินตรงคางาริช่วงครึ่งแรกเท่าไร คงเพราะบทของคุณเธอที่ซึ้งๆ ก่อนหน้านี้ มันห่างจากตอนนี้ไปหลายตอนเลยรู้สึกไม่ค่อยต่อเนื่อง
-สุดท้ายเลยทำครบทั้ง Drama CD Operation Arc Light กับฉากจบ Milky Way Crossing ในเกมเลย
-แต่ฉากสุดท้ายหลัง Credit นี่คือแบบ พีคจริง
-ชอบที่เอา Hacking to The Gate มาใช้ด้วย
-Gate of Steiner ของภาค 0 ที่รอมานาน เอามาใช้ปิดได้ดีมากเลย
-ศจ.เรเยสนี่ ในอนิเมคือตัวประกอบเต็มขั้นเลยจริงๆ
-สารภาพมาซะ ว่าหลายๆ คนที่ดูตอนนี้ พูด El Psy Congroo หรือแอบพูดในใจพร้อมกับโอคาเบะที่อัดวิดีโอ !!
-ความรู้สึกโดยรวมต่อฉบับอนิเม คือมีหลายตอนที่รู้สึกไม่โอเคเท่าไร บางตอนก็ดูเอื่อยๆ ไปหน่อย แต่ในความเอื่อย ก็มาช่วยเติมเต็มบางอย่างเหมือนกัน (ตอนเดทของดารุกับยูกิ) แต่ฉากพีคคือพีคจริง ทำให้มีอารมณ์ร่วมได้ซะส่วนใหญ่ด้วย
มีจุดเร่งรัด ดูไม่สมเหตุผลอยู่พอควร
รวมๆ แล้วถ้าเทียบกับภาคหลักที่ส่วนตัวให้ 10/10 ภาคนี้ผมให้เต็มที่ที่ 8.5/10 ครับ (แต่ฉากสุดท้ายของตอนสุดท้ายนี่ เอาไป 100/10 เลย)
ส่วนตัวทั้งซีซั่นตามติดเรื่องนี้เรื่องเดียวเลยจริงๆ เพราะเหตุผลหลายๆ อย่างในชีวิตด้วย แต่ก็ถือว่าสนุกดีกับการรอคอยที่จะดูตอนใหม่ในเกือบจะทุกอาทิตย์ครับ โดยเฉพาะ 4-5 ตอนหลังนี่แหละ
หลังจากอนิเมจบแล้ว คิดว่าหลายๆ คนคงได้เวลาไปเล่นฉบับเกมกันบ้าง ซึ่งก็แนะนำให้ลองเล่นดูครับ เพราะมีบางรูทที่ไม่ได้เอามาทำเต็มๆ มีหลายๆ ส่วนที่โดนดัดแปลงไปเยอะ แถมยิ่งดูอนิเมที่ยัดเนื้อหาเสริมบางส่วนที่ไม่มีในเกมแล้ว คิดว่าน่าจะเพลินไม่น้อยเลย
สุดท้าย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาพูดคุยกันในกระทู้ด้วยครับ อาจจะไม่ได้คึกครื้นเหมือนแต่ก่อน หรือหลายๆ เรื่องสมัยนี้ก็ตามเถอะ
ลากันด้วยอันนี้ละกัน