ผมคิดว่าทุกวันนี้ตลาดหุ้นไทยเปลี่ยนไปแล้ว (อยากให้ทุกคนได้อ่าน)

กระทู้สนทนา
$$$$Update ตอนจบนะครับ  https://pantip.com/topic/37767278 $$$$พาพันยิ้ม




            สวัสดีครับ ผมเป็นนักลงทุนในตลาด TFEX ที่ลงทุนอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 7 ปี และคิดว่าพฤติกรรมตลาดที่กำลังเปลี่ยนไปนี้น่าจะส่งกระทบต่อทั้งนักลงทุนที่มีประสบการณ์และที่เพิ่งเข้าตลาดมาใหม่ เลยอยากออกมาแชร์มุมมองเกี่ยวกับความเป็นจริงในตลาดหุ้นและตลาด TFEX ที่คิดว่าหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง พวกท่านเคยสงสัยเหมือนผมไหม ? ว่าในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างไปจากอดีต ทั้งเรื่องการเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดเล็กที่มีให้เห็นน้อยลง (โดยส่วนใหญ่มีแต่ปรับตัวลงเสียด้วยซ้ำ) ทดแทนด้วยหุ้นขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและผันผวนระหว่างวัน หรือแม้กระทั่งในตลาด TFEX ที่มีการลากขึ้นและตบลงภายในไม่กี่นาที ดังนั้นผมจึงทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูล รวมถึงนำประสบการณ์ของตนเองมาบอกเล่าเรื่องราวให้พวกท่านได้รับรู้ ซึ่งอาจยาวไปสักนิดแต่อยากให้ทุกคนอ่านให้จบ เพราะคิดว่าสิ่งที่จะเล่านั่นมีผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนของทุกคนอย่างแน่นอน และอาจเป็นเรื่องสำคัญที่เปลี่ยนโฉมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไปเลยก็ได้

ธุรกรรมและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในตลาดหุ้นเม่าเนิร์ด

          พวกท่านคงเคยได้ยินศัพท์ใหม่ ๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Block Trade , Robot Trade , AI ฯลฯ ซึ่งบางคนเองก็พยายามศึกษาและพยายามเข้าใจเพื่อใช้มันให้เป็นประโยชน์ บางคนรอให้โบรคเกอร์พัฒนาและนำมาใช้ต่อ ตลอดจนบางคนก็อาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการเรียนรู้และกลายเป็นผู้เสียประโยชน์ให้กับสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ ดังนั้นผมคิดว่านักลงทุนทุกคนควรรับรู้และทำความเข้าใจกับเรื่องสำคัญ หรืออย่างน้อยที่สุดคือควรตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับตัวเอง และหากเป็นไปได้ผมอยากชวนทุกท่านให้ร่วมกันพัฒนาเพื่อให้รายย่อยอย่างพวกเราได้ลดช่องว่างกับรายใหญ่ที่กำลังได้เปรียบกับเทคโนโลยีรวมไปถึงอำนาจการต่อรองต่าง ๆ โดยส่วนตัวผมมีเรื่องสำคัญ 3 เรื่องที่อยากให้ทุกคนรับรู้และใส่ใจ ดังนี้

ประการที่ 1 การเติบโตของธุรกรรม Block Trade

            ธุรกรรม Block Trade เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น ผมคิดว่าธุรกรรมนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการลงทุน(เก็งกำไร)และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาด นอกจากนี้มันยังเป็นธุรกรรมที่เชื่อมตลาด TFEX เข้ากับตลาดหุ้นอย่างสมบูรณ์แบบ ฟังดูเหมือนจะเว่อไปใช่ไหมครับ ถ้างั้นผมอยากให้พวกท่านลองพิจารณากันเองผ่านบทความต่อไปนี้


Block Trade ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มสภาพคล่องให้กับ Single Stock Futures ?เพี้ยนออกทริป

         ธุรกรรม Block Trade เป็นธุรกรรมที่นักลงทุนสามารถขอให้ Broker เป็นคู่สัญญาในผลิตภัณฑ์ Futures ให้กับพวกเขา โดยส่งคำสั่งซื้อขายกันผ่านกระดานหลังบ้านที่จัดไว้สำหรับการตกลงกันของนักลงทุน 2 ฝ่าย ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้กับ Single Stock Futures หรือ Futures ที่อ้างอิงกับหุ้นรายตัวที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่องในกระดานปกติ ผมเชื่อว่านี่คือนิยามที่ใครหลายคนเข้าใจเกี่ยวกับ Block Trade ผมเองเคยเป็น 1 ในนั้น จึงมองเป็นเรื่องไกลตัวและไม่มีผลกระทบกับตัวเอง และคิดว่านี่คงเป็นเพียง 1 ในช่องทางธุรกิจของ Broker เนื่องจาก Single Stock Futures ก็ถูกพูดกันมาแต่ไหนแต่ไรว่าปัญหาสำคัญคือไร้สภาพคล่อง แต่นั้นเป็นเพียงความจริงบางส่วนเท่านั้น มันคงไม่มีประเด็นอะไรหากถ้ากระบวนการของ Block Trade เป็นแค่การเคาะซื้อ-ขาย Futures กันเองระหว่าง Broker กับนักลงทุนเพียงอย่างเดียว  แต่นั้นยังไม่ใช่ทั้งหมด เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจึงอยากให้ทุกคนได้เข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับธุรกรรม Block Trade และลองวิเคราะห์กันว่าทำไมผมถึงบอกกับทุกท่านว่า มันจะเป็นธุรกรรมที่จะเปลี่ยนโฉมการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างสิ้นเชิง

เนื้อแท้ของธุรกรรม Block Trade

         เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผมขออธิบายด้วยการยกตัวอย่าง โดยเริ่มจากการให้ทุกคนลองจำลองตัวเองเป็นนักลงทุนที่ต้องการเปิด Long ใน PTTEP Futures จำนวน 20 สัญญา สิ่งแรกที่เราทำคือการเปิดโปรแกรม Streaming เพื่อเตรียมเคาะซื้อ PTTEPM18 สัก 20 สัญญา งั้นลองมาดูกันว่าจะทำได้ไหม


            จากรูปจะเห็นได้ชัดเจนว่า ทั้งวัน PTTEP Futures เทรดกันในกระดานปกติเพียง 100 กว่าสัญญา ดังนั้นคงเป็นเรื่องยากที่เราจะเทรดได้ถึง 20 สัญญาในไม้เดียว ยังไม่นับรวมนักลงทุนคนอื่นอีกเป็นร้อยเป็นพันคนที่มีความต้องการเช่นเดียวกับเรา พวกเขาเหล่านั้นเลยต้องพึ่งบริการที่เรียกว่า Block Trade เพื่อหา Broker มาเป็นคู่สัญญาให้ และเมื่อทาง Broker ตกลงเป็นยอมเป็นคู่สัญญา ก็แค่ตกลงราคาและส่งคำสั่งซื้อ-ขายกัน นักลงทุนได้เปิด Long ตามต้องการ พร้อมการันตีมีคู่สัญญาตอนปิดสถานะ ส่วนโบรคเกอร์มีความสุขกับดอกเบี้ยที่ได้รับและค่าธรรมเนียมเป็นอันจบ

จบง่าย ๆ แบบนั้นจริงหรือ ?พาพันสงสัย

            ไม่เลยครับ … ในกระบวนการที่กล่าวไปไม่ได้ราบรื่นแบบนั้น มันยังมีความจริงอีกมุมนึงซ่อนอยู่ ทีนี่ผมอยากลองให้พวกท่านจินตนาการตัวเองเป็นฝั่ง Broker บ้าง หากนักลงทุนเปิด Long แสดงว่าโบรคเกอร์ต้องมีสถานะ Short ถูกไหมครับ ? และ Broker กำลังเผชิญความเสี่ยง นั้นคือ ถ้า PTTEP Futures ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะเกิดการขาดทุน แล้วพวกท่านคิดว่าโบรคเกอร์จะยอมเปิดความเสี่ยงให้เกิดขึ้นไหม ? คำตอบคือไม่มีทาง ดังนั้น โบรคเกอร์จึงจำเป็นต้องนำต้องนำเงินของตัวเองไปซื้อหุ้น PTTEP จริง ๆ เก็บเอาไว้ในพอร์ต ให้เท่ากับมูลค่าของ PTTEP Futures ที่ Short ไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างสมบูรณ์ (Fully Hedge) แปลว่าในทุก ๆ ครั้งที่นักลงทุนสั่ง Block Trade โบรคเกอร์จะนำเงินไปซื้อหุ้นตามที่นักลงทุนสั่งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเคาะราคาตลาดเลยหรือตั้งรอที่ Bid ใด ๆ ก็ตาม ถ้า order หุ้น Match โบรคเกอร์ก็พร้อมเป็นคู่สัญญาใน Futures ให้ ในขาปิดสถานะก็เช่นเดียวกัน หากนักลงทุนต้องการปิดสถานะ ก็แค่สั่งขายตามราคาและปริมาณที่ต้องการ โบรคเกอร์ก็จะนำหุ้นในพอร์ตที่เก็บไว้ไปตั้งขายในกระดานหุ้น พอธุรกรรมในกระดานหุ้น Match เสร็จสิ้น ก็จะส่ง order ปิดสถานะ Futures ให้กับนักลงทุนผ่านกระดาน Block Trade เป็นอันเรียบร้อยอย่างสมบูรณ์ สำหรับธุรกรรม Block Trade 1 รายการ

             ดังนั้นเราลองมาสรุปกันดีกว่า จากการ Wrap up ธุรกรรม Block Trade ให้พวกท่านรับรู้ พวกท่านยังให้ความหมายว่า เป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับ Single Stock หรือไม่ ? แต่สำหรับผม คิดว่าจริง ๆ แล้วมันมีอีกความหมายหนึ่งซ่อนอยู่ คือ เป็นธุรกรรมที่นักลงทุนขอให้ Broker เอาเงินไปซื้อหุ้นแทน จากนั้นใช้ Single Stock Futures เป็นเพียงเครื่องมือในการส่งผ่านกำไรขาดทุนของธุรกรรมนั้นเท่านั้น

ทำไมต้องให้โบรคเกอร์ซื้อหุ้นแทน เราก็ซื้อหุ้นเองก็ได้ จะทำผ่าน Block Trade ทำไมให้ยุ่งยาก ?


           อันนี้แหละครับ คือหัวใจที่เป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนสนใจในตัวของ Block Trade เพราะสิ่งที่นักลงทุนจะได้จาก Block Trade คือการให้โบรคเกอร์ใช้เงินจำนวนมาก ๆ ไปซื้อหุ้นแทน จากนั้นอาศัยคุณสมบัติของ Futures Product คือ ใช้เงินลงทุนเป็นเงินวางประกันประมาณ 10% ของมูลค่า ทำให้พวกเขาสามารถใช้เงินลดลงเพื่อถือ Futures แทนในธุรกรรมนั้น หรือพูดสรุปง่าย ๆ นะครับ ถ้าเรามีเงิน 1 ล้าน เราสามารถใช้ให้ Broker ไปซื้อหุ้นแทนเราได้ถึง 10 ล้าน แล้วเราก็แค่ถือ Futures ที่อ้างอิงกับหุ้นตัวนั้นเพื่อรับรู้กำไรขาดทุนเอาไว้แทน


แล้วทำไมผมถึงบอกว่ามันจะกลายเป็นธุรกรรมที่เปลี่ยนโฉมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพี้ยนmbpt

            ถึงตัวอย่างที่สำคัญแล้ว ทุกคนลองสวมบทบาทเป็นนักลงทุน สมมุติชื่อ นายรักเดย์เทรด โดยเขาเป็นคนที่ชอบการเล่นหุ้นในลักษณะเก็งกำไรเป็นชีวิตจิตใจ และในตอนนี้เขามีเงินสดอยู่ 1 ล้านบาท เขามองว่าวันนี้น้ำมันมาแน่ เลยเตรียมตัวซื้อหุ้น PTTEP ถ้าสมมุติ ณ วันนี้ PTTEP อยู่ที่ราคา 130 บาท โดยเขามีทางเลือก 2 ทาง

ทางที่ 1 ใช้เงินตัวเองจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นในพอร์ตหุ้น
ทางที่ 2 นำ 1 ล้านบาทไว้ในพอร์ตฟิวเจอร์ส และทำ Block Trade PTTEP Futures โดย 1 สัญญาเทียบเท่ากับ 1,000 หุ้น และใช้เงินวางประกัน 11,210 บาท/สัญญา (update 22 พ.ค. 61)

เราลองมาวิเคราะห์กันดูว่าแต่ละทางเลือกจะซื้อได้กี่หุ้น

หากเลือกทางแรก นายรักเดย์เทรดจะซื้อได้ทั้งหมด 1,000,000 / 130 = 7,600 หุ้น
หากเลือกทางที่สอง นายรักเดย์เทรดจะเปิด Long ได้ทั้งหมด 1,000,000 / 11,210  = 89 สัญญา ซึ่งเมื่อคิดเป็นจำนวนหุ้นจะเท่ากับ 89 สัญญา x 1,000 หุ้น = 89,000 หุ้น (ใช้เงินวางเต็มโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่อง Money Management)

เห็นไหมครับ เงินจำนวน 1 ล้านบาทเท่ากัน ซื้อหุ้นตัวเดียวกัน แต่ต่างวิธี ปริมาณหุ้นที่ได้มีความแตกต่างกันถึงเกือบ 12 เท่า !

ถ้าโจทย์ของนายรักเดย์เทรด คือต้องการผลตอบแทน 5% หรือ 50,000 บาท แต่ละทางเลือกของเขาจะต้องวางจุดออกทำกำไรอย่างไร

ทางเลือกที่ 1 หากเขาถือหุ้นไว้ 7,600 หุ้น เขาต้องรอให้ราคา PTTEP เปลี่ยนแปลงไปเท่ากับ 50,000 / 7,600 = 6.57 บาท/หุ้น นั่นคือหากซื้อไว้ที่ราคา 130 บาท จะต้องรอให้ขึ้นไปถึง 137 บาทถึงค่อยขาย โดยอาจต้องรอสัก 1 หรือ 2 อาทิตย์สำหรับธุรกรรมรอบนี้

ทางเลือกที่ 2 หากเขาถือ PTTEP Futures ไว้ 89 สัญญาหรือ 89,000 หุ้น ถ้าต้องการแค่ 50,000 บาท ดังนั้นหากราคา PTTEP เปลี่ยนไปเท่ากับ 50,000 / 89,000 = 0.56 บาท/หุ้น ก็เพียงพอต่อเป้าหมายของเขาแล้ว หรือพูดง่าย ๆ แค่ท่านสั่งซื้อที่ Block Trade ที่ราคา 130 และตั้งรอขายที่ 131 แค่ 2 ช่องราคา ก็สามารถรับรู้กำไรได้มากกว่า 5% ตามต้องการ

แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่