สวัสดีค่ะ วันนี้จูนจะมาแชร์ประสบการณ์ในการ " ฉีดไขมันหน้าเด็ก " เผื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังสนใจอยู่จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ เดิมทีปกติแล้วจูนเป็นคนที่ผิวค่อนข้างหย่อนคล้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้เหมือนดูแก่ก่อนวัย ทั้งที่จริงๆแล้วจูนอายุเพิ่งจะ 30 ต้นๆเอง +5555  ไม่แก่ซักนิด
                ปัญหาหลักๆสำหรับจูนเลยคือ ผิวเหี่ยว ใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยใต้ตา และร่องแก้มชัดมากกกก. แถมผิวหน้ายังมีแต่รอยสิวอีกต่างหาก
เห้ออ!!!! แค่เล่าจูนก็เหนื่อยแล้วค่า   แต่ด้วยเป้าหมายอันแน่วแน่ของเราก็คือ อย่าให้อายุมาทำร้ายความสวยของเรา
จูนเลยปรึกษากูรูความงามทั้งหลาย ก็ได้ข้อสรุปว่า จูนต้องฉีดไขมันเท่านั้น ถึงจะตอบโจทย์ปัญหาของจูนได้
               มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ จากการที่หาข้อมูลพวกรีวิวอย่างจริงจังบวกกับการที่กูรูความงามของจูนแนะนำมา
จูนตัดสินใจเลือกฉีดไขมันที่ P10clinic ค่ะ ไม่รอช้า จูนโทรไปนัดคิวคุณหมอทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และแล้ววันนั้นก็มาถึง ยอมรับค่ะว่าตื่นเต้นมาก แต่เพื่อความสวยเราต้องก้าวผ่านความกลัวไปให้ได้.
              จูนมาถึงคลีนิคตอน 6 โมงเย็นพอดิบพอดี มาถึงพี่ๆพยาบาลก็เอาเสื้อผ้ามาให้จูนเปลี่ยนเพื่อรอพอคุณหมอ ผ่านไป 20นาที
พนักงานก็เรียกชื่อเพื่อเข้าห้องปรึกษาก่อน กรี้ดดดด +++ เพิ่งจะรู้เอาวันนี้ว่าคุณหมอเป็นผู้ชาย ไอเราก็คิดว่าชื่อหมอหวาน จะเป็นผู้หญิงซะอีก
คุณหมอหวาน: สวัสดีครับ คนไข้กังวลตรงจุดไหนบ้างครับ
เรา: กังวลทุกจุดเลยค่า คุณหมอ
คุณหมอหวาน: อ่าาาา หมอว่ารูปหน้าคนไข้สวยอยู่แล้วครับ แต่อาจจะมีปัญหานิดหน่อย บริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ริ้วรอยของผิว
แต่ถ้าหน้าผากนูนอีกหน่อยจะทำให้หน้าดูมีมิติขึ้น เพิ่มคางอีกนิด ช่วงหน้าแก้มซักหน่อยจะทำให้หน้าดูเต็ม ดูเด็กขึ้นครับ
เรา : ฟังดูแล้ว ไม่นิดนะค่ะคุณหมอขาาาา เอาเป็นว่าเป็นไงเป็นกัน เชื่อใจคุณหมอสุดฤิทธิ์ ฝากความหวังครั้งนี้ไว้ในมือหมอก็แล้วกันค่ะ

มาถึงขั้นตอนการพลีชีพหน้าสดกันดีกว่า ......



                
             ทุ่มเศษๆพี่พยาบาลก็พาเข้าขึ้นเขียงง เฮ้ย เตียงผ่าตัด !!!!! บอกว่าก่อนเลยว่าเคสของจูนเป็นเคสที่ไม่ได้ดมยาสลบนะคะ จะเป็นการกินยาให้รู้สึกมึนๆ เบลอ เท่านั้นเองค่า ต้องเข้มแข็มแค่ไหน ถามใจดูว์ หลังจากนอนนิ่งๆบนเตียงได้สิบนาที คุณหมอก็เอาเข็มยาชามาฉีดบริเวณขาขวา อ่อ จูนลืมบอกไปว่าจูนใช้ไขมันบริเวณต้นขาค่ะ คืออยากขาเรียวแบบสาวเกาหลีด้วยอ่า. ไหนๆก็เจ็บตัวละ จูนบอกคุณหมอว่า ดูดออกมาเยอะๆเลยนะคะ
ผ่านไปสักพักขาจูนก็เริ่มชา ณ ตอนนั้นจูนมีความรู้สึกเหมือนว่าคนกำลังบีบขา มันรู้สึกเหมือนถูกนวดๆกดๆ ไม่เจ็บอย่างที่คิดเอาไว้แหะ ใจชื้นนนน
            นอนเพลินๆด้วยอาการเบลอๆรู้สึกตัวอีกที คุณหมอก็กำลังจะฉีดบริเวณหน้าผากแล้วค่ะ เลยเน้นคุณหมอว่า เอาโหนกๆนูนๆนะคะ คุณหมอขาาา
คุณหมอใจดีและมีอารมณ์ขันมาก คลายกังวลไปได้เยอะเลยค่า ทั้งหมดนี้ใช้เวลาโดยประมาณ ไม่น่าจะเกินชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ นอนพักให้หายเบลอสักครึ่งชั่วโมงก็กลับบ้านได้ มาดูรูปกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าหน้าจูนจะเปลี่ยนไปขนาดไหน


วันที่ 2 บวมขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่ปวด ไม่ช้ำ เลยค่า


วันที่ 3 ด้านข้างชัดๆกันไปเลย หน้าผากโค้งสวย โหนกมากกก



ที่ 5 หน้าเริ่มเข้าที่ ริ้วรอยหายไป รอยสิวจางลง ร่องแก้มที่เคยมี ตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชอบบบมากกกก



ข้ามมาวันที่ 7เลยก็แล้วกัน คุณหมอนัดตรวจ  ณ จุดๆนี้กล้าบอกเลยว่าเหมือนได้เกิดใหม่ มั่นใจมากขึ้น จากผู้หญิงอายุ30+ ที่ท้อแท้ ชีวิตเปลี่ยนทันที
เมื่อเรามั่นใจ อะไรอะไรก็ดี เรื่องศัลยกรรมนี้มันขึ้นอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลจริงๆค่ะ จะให้ใครมาชอบเหมือนที่เราชอบก็เป็นไปไม่ได้ แต่บอกไว้เลยว่าจูนชอบหน้าใหม่นี้มาก ถึงมากที่สุด เพราะสมัยนี้หน้าตาคือสิ่งสำคัญ รึใครจะเถียงละค่ะ ถูกมั้ย หน้าตาดี มีสมอง เพอร์เฟค . คนจะสวยช่วยไม่ได้ หากใครที่ลังเลจูนบอกเลยว่าอย่ารีรอ ทำก่อนสวยก่อน ศึกษาดีๆ หาข้อมูลเยอะๆ และที่สำคัญ ฝากไว้นิดนึงสำหรับสาวๆสมัยนี้ เราต้องสวยแบบมีสมองด้วยนะคะ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาถ้าหากยังไม่ลองด้วยตัวเอง

และนี้คือภาพปัจจุบัน 7 วัน (มัวแต่เม้า เกือบลืม )

เอาไว้ครบ 1 เดือนจูนจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆได้ชมกันอีกที บายยย