ทำไมมนุษย์ต้องเกิดมา

เคยคิดไหมว่าเราเกิดมาเพื่ออะไรกันเเน่ หรือที่เราเกิดมาเป็นความประสงค์ของพระเจ้า เเล้วพระเจ้านี่หมายถึงพระหรหมไช่ไหม
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ชีวิตจะยุติการเกิดได้อย่างไร
http://pantip.com/topic/32291029/comment4


ผู้ที่ได้ศึกษาและมีความเข้าใจในพระอภิธรรมอย่างลึกซึ้งย่อมรู้สึกว่า การเกิดเป็นทุกข์ แม้จะเกิดในภพภูมิของมนุษย์ก็ตาม และการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าชีวิตในภพชาติต่อๆไป จะไม่พลาดถลำลงต่ำไปเกิดในทุคติภูมิ นอกจากบุคคลผู้นั้นได้ปฏิบัติตนเข้าถึงพระอริยสัจธรรมนำชีวิตเข้าสู่พระอริยบุคคลแล้ว เพราะว่าบุคคลนับตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปเท่านั้นที่อบายภูมิจะปิดสนิทสำหรับชีวิตของท่าน และการเวียนว่ายตายเกิดที่จะมีต่อไปในสุคติภูมินั้น ย่อมมีได้ไม่เกิน ๗ ชาติ จึงนับได้ว่าพระโสดาบัน ท่านเป็นบุคคลกลุ่มแรกที่สร้างหลักประกันภัยในการเวียนว่ายตายเกิดให้กับชีวิตได้แล้ว แต่สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชนทุกคนต้องยอมรับว่าอนาคตชาติในการเวียนว่ายตายเกิดของตนนั้นต้องมีต่อไปเป็นอนันตังไม่มีที่สิ้นสุด เพราะปุถุชนคือบุคคลที่ยังหนาแน่นด้วยกิเลส และ กิเลส นี่เองที่เป็นตัวการ ผลักพาให้เกิดการกระทำกรรม เมื่อมีกรรมย่อมเป็นที่แน่นอนว่า วิบาก คือ รูปขันธ์ และนามขันธ์ ย่อมต้องเกิด ฉะนั้นวัฏฏะทั้งสาม คือ กิเลสวัฏ กัมมวัฏ และวิปากวัฏ ที่หมุนวน ย่อมทำให้สังสารวัฏ คือการเวียนว่ายตายเกิดไม่อาจสิ้นสุดหยุดลงได้ และทุกภพชาติที่เกิด กำเนิดของสัตว์ย่อมวิจิตร เพราะจิตย่อมวิจิตรในการสั่งสมกรรม และกิเลส

ช่วยอธิบายให้เห็นถึงภัยของวัฏฏสงสารด้วยค่ะ
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/12/Y11442477/Y11442477.html

https://pantip.com/topic/36323199/comment8

"ครั้งหนึ่ง โลกยังว่างจากบวรพุทธศาสนา ท่านท้าวพกามหาพรหมผู้นี้บังเกิดเป็นมนุษย์คฤหบดีผู้มีทรัพย์ แต่กลับเห็นโทษในฆารวาสวิสัยว่า การครองเรือนนี้มีแต่โทษทุกข์ระกำใจ ไหนจะต้องตาย ไหนจะต้องเจ็บ ไหนจะต้องแก่ จึงตรัสใจแน่วแน่ออกบวชเป็นดาบสประพฤติพรตบำเพ็ญตบะ จนได้สำเร็จ จตุตถฌาน เมื่อทำกาลกิริยาตายลงก็ตรงไปอุบัติเกิดเป็นพระพรหมชั้นสูงในเวหัปผลาพรหมโลก สถิตเสลยสุขอยู่นานนักหนา ครั้นถึงคราสิ้นอายุแล้ว ฌานแห่งตนถอยหลังลงมาอยู่ในตติยฌาน เพราะฉะนั้นจึงต้องจุติลงมาอุบัติเกิดเป็นพระพรหมอยู่ในชั้นสุภกิณหาพรหมโลก สถิตเสวยสุขอยู่จนสิ้นอายุในพรหมโลกชั้นนั้นแล้ว ฌานแห่งตนถอยหลังลงมาอยู่ในทุติยฌาน ฉะนั้นจึงต้องจุติลงมาอุบัติเกิดเป็นพระพรหมอยู่ในชั้นอาภัสราพรหมโลก จนสิ้นอายุ ฌานแห่งตนเสื่อมลงมาปฐมฌาน ฉะนั้นจึงมาอุบัติเกิดเป็นพระพรหมอยู่ในมหาพรหมโลกในกาลบัดนี้ เพราะเหตุที่ตนท่องเที่ยวเวียนว่ายเสวยสุขอยู่ในพรหมโลกชั้นต่างๆเป็นเวลานานนัก จึงรู้จักที่อุบัติเกิดแต่ในพรหมโลกเป็นส่วนมาก หนักเข้าเลยทำให้เข้าใจไปว่าพรหมสถานแห่งตนนั้นเป็นอมตะสถานที่เที่ยงแท้ไม่แปรเปลี่ยน"
ท่านท้าวพกามหาพรหมเจ้าของชีวประวัติ เมื่อได้สดับพระวจนะตรัสเล่าแห่งองค์สมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมศาสดา ก็ได้แต่จินตนาการรำพึงอยู่ในใจว่า
"พระสมณโคดมเจ้า เธอรู้นักหนา ทรงมีพระปัญญายอดยิ่งกว่าบุคคล ทรงรู้เหตุ รู้ผล น่าสรรเสริญยิ่งนัก"
ครั้นจินตนาดังนี้แล้ว ก็มีความเลื่อมใส ดวงฤทัยก็คลายจากมิจฉาทิฏฐิ ไม่ปรากฏมีความเห็นผิดนอกรีตนอกรอยอีกต่อไป ในที่สุดก็ได้กล่าวสรรเสริญพระคุณแห่งองค์พระชินสีห์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอันมาก แล้วก็ชวนพรหมบริษัทและพรหมปุโรหิตอันมากมายเหล่านั้น ส่งเสด็จพระพิชิตมารเพื่อกลับมายังโลกมนุษย์

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เเล้วพระเจ้านี่หมายถึงพระหรหมไช่ไหม

น่าจะใช่ครับ พระพรหมบางองค์มีอายุยืน เห็นจักรวาลเกิดดับมานานแล้ว จึงหลงว่าตนเองสร้างทุกสรรพสิ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่