เรื่องมันเริ่มอยู่ว่า ...ผมประทับใจรุ่นพี่คนนึง มาตั้งแต่สมัยประถม ซึ่งเราอยู่กันคนละโรงเรียน..แต่ได้มีโอกาสเจอกันที่ค่ายลูกเสือ...ที่จัดเอาทุกโรงเรียนในระแวกชุมชนมารวมๆ แล้วทำกิจกรรมพร้อมกัน ....ผมอยู่ประถม 5 เธออยู่ประถม 6............................เรื่องเริ่มต้นที่ผมเห็นแววตาและความกล้าเด็ดเดี่ยวรอยยิ้มแบบไม่เห็นฟันของเธอ........และเธออาสาลุกขึ้นไปเป็นผู้นำห้วหน้าหมู่ลูกเสือ ครั้งนั้น เธอเป็นผู้ถือไม้พองผูกธงสัญญาลักษณ์ หมู่เสือ นำการเดินทางไปในทุกๆที่...ทุกฐานการทำกิจกรรม
..........และเรื่องราวความประทับใจได้จบลงไปพร้อมกับค่ายลูกเสือสำรองในปีนั้น................
จากนั้นเราก็ไม่เคยได้มีโอกาสพบกันอีกเลย ..............
จนวันนึงผมต้องเข้าศึกษาระดับชั้นมัธยม ที่โรงเรียนประจำอำเภอ .....ผมได้มีโอกาสพบเธออีกครั้ง ...เธอเหมือนเดิมมาก จากในความทรงจำเพียง ''สามวันสองคืน''....ที่ผมจำได้ แต่ครั้งนี้เธอมีคอซอง แทนที่จะเป็นไม้พองผูกธงลูกเสือสัญญาลักษณ์ หัวหน้าหมู่
.....เธอดูเป็นคนสดใสและเป็นที่ประทับใจของบันดา ครูอาจารย์ ..เพราะเธอเรียนดี ร่าเริง ...ออกดูหยิ่งๆเป็นเด็กเรียนไปซักหน่อยจากเสียงรือเสียงเล่าอ้างจากสังคมโดยรอบ ...และได้ข่าวแว่วมา เธอได้ เกรด 4 มาโดยตลอดด...
.......ความประทับใจในซอกหลืบ ..ของเด็กชายคนนึงยังคง คลุกลุ่นอยู่ไกลๆ ....ผมได้ติดตามเธออย่างไกลๆ และไม่ได้คาดหวังอะไร แม้แต่รอยยิ้มของเธอที่จะบังเอิญหันมาก็ตามแต่..
ผมสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อตัว ด้วยความ อ่อนด้อย ต้อยต่ำ..เพราะความขี้เกลียด บวกสมองไม่ค่อยดี ...และผมบังเอิญสอบเข้าห้องที่มีนักเรียนเก่งๆอยู่เยอะ..แต่ผมทำคะแนนได้ อันดับสุดท้ายของห้องมาโดยตลอด ..จนเพื่อนๆชินชา ..และไม่มีผู้ใดจะอยากรับเข้าอยู่ในกลุ่มการศึกษาหรือทำรายงานเลย ตลอดจนจบ มัธยมศึกษาปีที่ 3
......เมื่อขึ้นม.ปลาย..
..................................แววเก่งและภาวะความเป็นผู้นำของเธอ....ได้ขยับสูงขึ้น เธอเริ่มเป็นเด็กกิจกรรมเต็มตัว..เริ่มเป็นสภานักเรียน จนถึงประธานนักเรียน.......เรื่องราวของเธอทำนองนี้ ทำให้ผมเฟดตัวเองออกมาจากวงโคจร...หรือจริงๆ ผมไม่เคยเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเธอเลยด้วยซ้ำไป.........เพราะมันไม่มีโอกาสเลย แม้แต่จะได้พูดคุยกัน ......และผมไม่เคยคิด ..ไม่ปราถนา ...ไม่แม้แต่จะเดินข้างๆหรือส่งเธอขึ้นรถประจำ กลับบ้านของเธอเลยด้วยซ้ำ....
เรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดี ที่.............................................นางฟ้า ไม่น่าคู่กับหมา-แฟ้บ
........................................เธอเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังตามที่ทุกคนในโรงเรียนคาดหมายไว้ ในสาขาเกี่ยวกับการแก้ไขการพูด อะไรซักอย่างไปทางหมอๆ อะไรเนี่ยแหละ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ
...................รูปจากโซเชียวที่บังเอิญผ่านตาเริ่มเข้ามา
ทำให้เห็นว่า เธอสวย ....ดูดีขึ้น ..ตามลำดับ เราก็ได้แค่มอง และเราก็อยู่ในสังคมส่วนตัวของเราไป.....
................................จนไม่คิดไม่ฝันเราบังเอิญได้คุยกัน จากเรื่องอะไรจำไม่ได้ ..
น่าจะเป็นที่เธอชอบเชียร์ วอลเล่ กับแบตมินตั้น ..หล่ะมั้ง..จึงทำให้เราได้มีโอกาสได้ แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน...
.............เรื่องราวก็คุยกันไปมาดุจดั่ง พี่น้อง สถาบันเดียวกัน...
และมีครั้งนึง เธอมาปรึกษาเรื่องจะทำโครงการกับผม ..อ่อลืมบอกไป ผมเป็นสถาปนิก ..เธออยากทำรีสอทที่ ที่ดินของพ่อที่ต่างจังหวัด ..เราจึงได้คุยกันนานหน่อย ...เราก็ได้คุยและแลกเปลี่ยนมุมมองทัศนคติกันมากขึ้น จากนั้น เราก็คุยกันมาโดยตลอด ..แม้จะนานๆทีก็ตาม..ผมได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวโครงการที่ผมประสบมา มากมายให้เธอฟัง โดยรวมเธอก็ดูรู้สึกจะมีความปฎิกริยาตอบสนอง ทุกครั้งที่ผมเล่า
........5 ปีผ่านไป ได้แล้วมั้ง หลังจากที่คุยเรื่องโครงการ ...จากนั้นเธอได้ไปทำตามฝัน โดยต้องการที่จะเป็นอิสระทางการใช้ชีวิตในแบบของเธอ ...
เราได้มีโอกาสคุยกันเรื่อยๆ เรื่องงานบ้าง ...เรื่องทัศนคติ อื่นๆ บ้าง...เวลาคุยกับเธอ ผมใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมงสนทนา เกือบทุกครั้ง ...บางครั้ง เป็นชั่วโมงก็ มี...เราคุยกันมันหยด ....เพราะด้วยความคิดแบบอิสระชนของผม..ผมเปิดที่จะรับทุกมุมมอง.....และผมพร้อมที่จะเถียงทุกมุมมองของเธอเช่นกัน.....และเธอก็เป็นคนที่มีความเด็ดเดียวในความคิดเป็นทุนเดิม ....ทำให้ทุกๆครั้งที่เราคุยกันมันจะ มันส์ ...เสมอๆ
.........จนเรื่องราวผ่านมาถึงมีนาที่ผ่านมา ผมตกอยู่ในภาวะ วิกฤตการณ์ ทางอารมณ์ เนื่องด้วย งานที่ค่อนข้างเข้มข้นขึ้น ขนาดการบริหาร ที่ใหญ่ขึ้น ...ตามฐานอายุที่โตขึ้น ผมแบกงานไว้เยอะมากกว่าเคย เพราะต้องการโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งถ้าเทียบกับกำลังของตนและ ขณะนี้ ผมก็พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดอยู่..และ....ครอบครัวเกิดการ ศูนย์เสียครั้งยิ่งใหญ่ ในชีวิต...งานหลายๆด้านของผมเริ่มหนักขึ้น ..ทั้งๆที่ขนาดไม่ได้มากขึ้นกว่าก่อน มากนัก
เธอรู้เรื่อง ...และ.....ผมได้คำปรอบจากเธอ ..เธอให้กำลังใจที่ดีมากๆ ...เธอเชื่อมั่นในตัวผม ...ว่าผมจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้..ซึ่งจริงๆผมก็คิดว่าผมต้องทำได้ ...แต่ด้วยอารมณ์ ฮอโมนช่วงนี้ มันฟุ้ง และปั่นป่วนจิตใจเป็นอย่างมาก ...
......เธอแนะนำหลายอย่าง ...เรื่องมุมมอง passion และความมุ่งมั่น.....ผมประทับใจเธอมากกกๆๆๆ ขึ้นไปอีก ...
...........................
.........................................**** และด้วยประเด็นนี้ วิกฤตการครั้งนี้ ....ทำให้เธอหาวิธีแก้ปัญหาให้กับผม ...โดย..
เธอบอกว่า ปัญหาผม มันแก้ไม่ยาก ได้ด้วยการที่มีที่ปรึกษาข้างๆตัวดีดี ซักคน...................
...........................................................................เธอจัดแจง หาเพื่อนผู้น่ารัก ..นิสัยดี มานำเสนอ และบอกว่าผมต้องชอบแน่ๆ....
โดยบอกว่า ถ้าผมศึกษาคนดูใจกับคนนี้ เพื่อนที่เธอแนะนำนะ จะทำให้ชีวิตผมมีคนช่วยจัดการ ...และบริหารได้ดีขึ้น ...
...........................''ผู้นำที่ดี ...ต้องมีหลังบ้าน ที่เข้มแข็ง
เธอบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าไม่คลิ๊กกัน ก็ถือว่าได้เพื่อนเพิ่มอีกคนนึง ..
เรื่องขำขันได้เริ่มต้นขึ้น....
....................ผมชอบเธอ...เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย
.............................................เธอจึงแนะนำเพื่อนสนินให้ผม.................
.................................
..............................................................ประเด็นคำถาม ..........ผมควรทำยังไง ..........
1.ลองศึกษาเพื่อนเธอ เค้าอาจจะเป็นคนที่เหมาะกับผม และผมก็จะชอบเค้า และเค้าก็จะชอบผม
2.ลองคุยกันฉันท์เพื่อน ไปก่อน กับเพื่อนของเธอ
3.บอกเธอไปเลย ผมมีคนที่ชอบแล้ว ...(และทิ้งช่วงหาโอกาสดีดีบอกเธอตรงๆ)
4......คิดไม่ออก เอาเวลาไปคิดเรื่องงานที่วุ่นๆ อยู่ดีกว่า
5. อ้าวไปทำงานๆ นั่งคิดอยู่นั่นแหละ ...
6.....
ถ้าเราคิดจะชอบผู้หญิงคนนึง ....แล้วเค้าแนะนำเพื่อนสนิทของเค้าให้เรา
..........และเรื่องราวความประทับใจได้จบลงไปพร้อมกับค่ายลูกเสือสำรองในปีนั้น................
จากนั้นเราก็ไม่เคยได้มีโอกาสพบกันอีกเลย ..............
จนวันนึงผมต้องเข้าศึกษาระดับชั้นมัธยม ที่โรงเรียนประจำอำเภอ .....ผมได้มีโอกาสพบเธออีกครั้ง ...เธอเหมือนเดิมมาก จากในความทรงจำเพียง ''สามวันสองคืน''....ที่ผมจำได้ แต่ครั้งนี้เธอมีคอซอง แทนที่จะเป็นไม้พองผูกธงลูกเสือสัญญาลักษณ์ หัวหน้าหมู่
.....เธอดูเป็นคนสดใสและเป็นที่ประทับใจของบันดา ครูอาจารย์ ..เพราะเธอเรียนดี ร่าเริง ...ออกดูหยิ่งๆเป็นเด็กเรียนไปซักหน่อยจากเสียงรือเสียงเล่าอ้างจากสังคมโดยรอบ ...และได้ข่าวแว่วมา เธอได้ เกรด 4 มาโดยตลอดด...
.......ความประทับใจในซอกหลืบ ..ของเด็กชายคนนึงยังคง คลุกลุ่นอยู่ไกลๆ ....ผมได้ติดตามเธออย่างไกลๆ และไม่ได้คาดหวังอะไร แม้แต่รอยยิ้มของเธอที่จะบังเอิญหันมาก็ตามแต่..
ผมสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อตัว ด้วยความ อ่อนด้อย ต้อยต่ำ..เพราะความขี้เกลียด บวกสมองไม่ค่อยดี ...และผมบังเอิญสอบเข้าห้องที่มีนักเรียนเก่งๆอยู่เยอะ..แต่ผมทำคะแนนได้ อันดับสุดท้ายของห้องมาโดยตลอด ..จนเพื่อนๆชินชา ..และไม่มีผู้ใดจะอยากรับเข้าอยู่ในกลุ่มการศึกษาหรือทำรายงานเลย ตลอดจนจบ มัธยมศึกษาปีที่ 3
......เมื่อขึ้นม.ปลาย..
..................................แววเก่งและภาวะความเป็นผู้นำของเธอ....ได้ขยับสูงขึ้น เธอเริ่มเป็นเด็กกิจกรรมเต็มตัว..เริ่มเป็นสภานักเรียน จนถึงประธานนักเรียน.......เรื่องราวของเธอทำนองนี้ ทำให้ผมเฟดตัวเองออกมาจากวงโคจร...หรือจริงๆ ผมไม่เคยเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเธอเลยด้วยซ้ำไป.........เพราะมันไม่มีโอกาสเลย แม้แต่จะได้พูดคุยกัน ......และผมไม่เคยคิด ..ไม่ปราถนา ...ไม่แม้แต่จะเดินข้างๆหรือส่งเธอขึ้นรถประจำ กลับบ้านของเธอเลยด้วยซ้ำ....
เรื่องราวเหมือนจะจบลงด้วยดี ที่.............................................นางฟ้า ไม่น่าคู่กับหมา-แฟ้บ
........................................เธอเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังตามที่ทุกคนในโรงเรียนคาดหมายไว้ ในสาขาเกี่ยวกับการแก้ไขการพูด อะไรซักอย่างไปทางหมอๆ อะไรเนี่ยแหละ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ
...................รูปจากโซเชียวที่บังเอิญผ่านตาเริ่มเข้ามา
ทำให้เห็นว่า เธอสวย ....ดูดีขึ้น ..ตามลำดับ เราก็ได้แค่มอง และเราก็อยู่ในสังคมส่วนตัวของเราไป.....
................................จนไม่คิดไม่ฝันเราบังเอิญได้คุยกัน จากเรื่องอะไรจำไม่ได้ ..
น่าจะเป็นที่เธอชอบเชียร์ วอลเล่ กับแบตมินตั้น ..หล่ะมั้ง..จึงทำให้เราได้มีโอกาสได้ แลกเปลี่ยนทัศนคติกัน...
.............เรื่องราวก็คุยกันไปมาดุจดั่ง พี่น้อง สถาบันเดียวกัน...
และมีครั้งนึง เธอมาปรึกษาเรื่องจะทำโครงการกับผม ..อ่อลืมบอกไป ผมเป็นสถาปนิก ..เธออยากทำรีสอทที่ ที่ดินของพ่อที่ต่างจังหวัด ..เราจึงได้คุยกันนานหน่อย ...เราก็ได้คุยและแลกเปลี่ยนมุมมองทัศนคติกันมากขึ้น จากนั้น เราก็คุยกันมาโดยตลอด ..แม้จะนานๆทีก็ตาม..ผมได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวโครงการที่ผมประสบมา มากมายให้เธอฟัง โดยรวมเธอก็ดูรู้สึกจะมีความปฎิกริยาตอบสนอง ทุกครั้งที่ผมเล่า
........5 ปีผ่านไป ได้แล้วมั้ง หลังจากที่คุยเรื่องโครงการ ...จากนั้นเธอได้ไปทำตามฝัน โดยต้องการที่จะเป็นอิสระทางการใช้ชีวิตในแบบของเธอ ...
เราได้มีโอกาสคุยกันเรื่อยๆ เรื่องงานบ้าง ...เรื่องทัศนคติ อื่นๆ บ้าง...เวลาคุยกับเธอ ผมใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมงสนทนา เกือบทุกครั้ง ...บางครั้ง เป็นชั่วโมงก็ มี...เราคุยกันมันหยด ....เพราะด้วยความคิดแบบอิสระชนของผม..ผมเปิดที่จะรับทุกมุมมอง.....และผมพร้อมที่จะเถียงทุกมุมมองของเธอเช่นกัน.....และเธอก็เป็นคนที่มีความเด็ดเดียวในความคิดเป็นทุนเดิม ....ทำให้ทุกๆครั้งที่เราคุยกันมันจะ มันส์ ...เสมอๆ
.........จนเรื่องราวผ่านมาถึงมีนาที่ผ่านมา ผมตกอยู่ในภาวะ วิกฤตการณ์ ทางอารมณ์ เนื่องด้วย งานที่ค่อนข้างเข้มข้นขึ้น ขนาดการบริหาร ที่ใหญ่ขึ้น ...ตามฐานอายุที่โตขึ้น ผมแบกงานไว้เยอะมากกว่าเคย เพราะต้องการโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งถ้าเทียบกับกำลังของตนและ ขณะนี้ ผมก็พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดอยู่..และ....ครอบครัวเกิดการ ศูนย์เสียครั้งยิ่งใหญ่ ในชีวิต...งานหลายๆด้านของผมเริ่มหนักขึ้น ..ทั้งๆที่ขนาดไม่ได้มากขึ้นกว่าก่อน มากนัก
เธอรู้เรื่อง ...และ.....ผมได้คำปรอบจากเธอ ..เธอให้กำลังใจที่ดีมากๆ ...เธอเชื่อมั่นในตัวผม ...ว่าผมจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้..ซึ่งจริงๆผมก็คิดว่าผมต้องทำได้ ...แต่ด้วยอารมณ์ ฮอโมนช่วงนี้ มันฟุ้ง และปั่นป่วนจิตใจเป็นอย่างมาก ...
......เธอแนะนำหลายอย่าง ...เรื่องมุมมอง passion และความมุ่งมั่น.....ผมประทับใจเธอมากกกๆๆๆ ขึ้นไปอีก ...
...........................
.........................................**** และด้วยประเด็นนี้ วิกฤตการครั้งนี้ ....ทำให้เธอหาวิธีแก้ปัญหาให้กับผม ...โดย..
เธอบอกว่า ปัญหาผม มันแก้ไม่ยาก ได้ด้วยการที่มีที่ปรึกษาข้างๆตัวดีดี ซักคน...................
...........................................................................เธอจัดแจง หาเพื่อนผู้น่ารัก ..นิสัยดี มานำเสนอ และบอกว่าผมต้องชอบแน่ๆ....
โดยบอกว่า ถ้าผมศึกษาคนดูใจกับคนนี้ เพื่อนที่เธอแนะนำนะ จะทำให้ชีวิตผมมีคนช่วยจัดการ ...และบริหารได้ดีขึ้น ...
...........................''ผู้นำที่ดี ...ต้องมีหลังบ้าน ที่เข้มแข็ง
เธอบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าไม่คลิ๊กกัน ก็ถือว่าได้เพื่อนเพิ่มอีกคนนึง ..
เรื่องขำขันได้เริ่มต้นขึ้น....
....................ผมชอบเธอ...เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย
.............................................เธอจึงแนะนำเพื่อนสนินให้ผม.................
.................................
..............................................................ประเด็นคำถาม ..........ผมควรทำยังไง ..........
1.ลองศึกษาเพื่อนเธอ เค้าอาจจะเป็นคนที่เหมาะกับผม และผมก็จะชอบเค้า และเค้าก็จะชอบผม
2.ลองคุยกันฉันท์เพื่อน ไปก่อน กับเพื่อนของเธอ
3.บอกเธอไปเลย ผมมีคนที่ชอบแล้ว ...(และทิ้งช่วงหาโอกาสดีดีบอกเธอตรงๆ)
4......คิดไม่ออก เอาเวลาไปคิดเรื่องงานที่วุ่นๆ อยู่ดีกว่า
5. อ้าวไปทำงานๆ นั่งคิดอยู่นั่นแหละ ...
6.....