ทริปเช่ารถขับตามล่าใบไม้แดง ฟูจิซัง

กระทู้สนทนา

บันทึกนักเดินทาง สนามบิน การบินไทย รถเช่า โตเกียว

เกริ่นก่อนเดินทางไปด้วยกัน

ครอบครัวของเราชอบการท่องเที่ยวค่ะ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวด้วยตัวเองในต่างแดน

เพื่อได้สัมผัสประสบการณ์ต่างๆแบบไม่เหมือนใคร ทริปญี่ปุ่นทริปนี้จึงค่อนข้างเป็นทริปเจาะลึกแบบขับรถเช่าเองแล้วก็ขับซะคุ้มแสนคุ้มเพราะไปหลายจังหวัดมากๆ

ครั้งนี้เป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ของครอบครัวเรา ซึ่งตอนที่มาญี่ปุ่นครั้งแรกเราก็ได้แต่กระเตงขนของไปขนของมา ขึ้นแท๊กซี่ไปสถานีรถไฟเพื่อให้ทันตารางรถไฟ ชลมุนชลเกเหมือนกัน พอครั้งนี้เราก็ลองหาข้อมูลต่างๆมากมาย คงเหมือนใครหลายๆคนที่กลัวๆกล้าๆ ที่จะตัดสินใจเช่ารถขับในต่างแดน แต่เมื่อเทียบความคุ้มและสะดวกสบายแล้ว เราจึงตัดสินใจจะทำทริปนี้ให้เป็นทริปตะลุยหลายเมืองที่ญี่ปุ่น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วยการเช่ารถขับในญี่ปุ่นทั้ง 8 วัน 7 คืนของเราจึงนับเป็นการผจญภัยที่น่าประทับใจในต่างแดนของทุกคนในครอบครัวเลยก็ว่าได้ ตามมานะคะ

วันแรก กทม.-นาริตะ โตเกียว

เราใช้บริการการบินไทย ด้วยการแลกไมล์สะสม 2 ที่ และซื้อตั๋วโปรโมชั่นอีก 2 ที่ ทริปนี้เป็นทริปครอบครัวค่ะ พ่อ แม่ ลูกสาว อายุ 15 ปี ลูกชายอายุ 10 ปี แต่เนื่องจากเราใช้บัตรเครดิตกรุงศรีรูดซื้อตั๋วเครื่องบินก็เลยได้ใช้บริการเลาจน์การบินไทยได้แค่ 2 คน เลยได้ไปกับเจ้าต้นไผ่

อีก 2 คนเลยต้องไปใช้เลาจน์ของคิงพาวเวอร์แทนค่ะ งานยุ่งมากๆเลยไม่ได้ดูรายละเอียดเรื่องนี้เลยพลาดนิดหน่อย ไม่เป็นไรเนอะ 555

ในที่สุดก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องค่ะ ขอถ่ายภาพไว้ก่อน อย่าดูสภาพแม่เลยนะ โทรมเพราะเตรียมมานอนเอาแรงบนเครื่องนี่แหล่ะค่ะ

ตอนอยู่บนฟ้า ใกล้จะถึงเรารีบช่วยกันมองหาฟูจิซังกัน แล้วก็จริงๆด้วยเราเห็นด้วยตาเลยค่ะ ยอดเขาฟูจิโผล่มาเหนือก้อนเมฆ สุดยอดเล้ยยยยย

และแล้วก็ถึงนาริตะเสียที นั่งมาตั้งนานแหน่ะ หลังลงเครื่องประมาณ 16.00 น. กว่าจะผ่านด่านต่างๆ ก็ 17.00 น. ออกมาก็มืดซะแล้วค่ะ ญี่ปุ่นนี่มืดเร็วชะมัดอย่างกะ 2 ทุ่มเมืองไทยแหน่ะ เนื่องจากเราจองบ้านพักที่นาริตะ ผ่าน Airbnb แล้วก็นัดแนะกันแล้วว่าเค้าจะนำรถมารับที่สนามบินไปที่บ้าน ช่างใจดีซะจริงๆ พอลงเครื่องก็เลยต้องรีบมาหาไวไฟสนามบินให้เร็วที่สุด เพราะวางแผนรับซิมไว้วันรุ่งขึ้น กว่าจะติดต่อได้ก็ใช้เวลาอยู่ระยะนึง เพราะตามหารหัสเข้าไวไฟของสนามบินนาริตะไม่เจอ
จุดนัดพบที่โอซามุซัง ที่นัดว่าจะมารับพวกเราที่สนามบินนาริตะ แต่ให้เราส่ง message ไปบอกหลังจากลงเครื่องแล้ว

ที่พักแรมคืนแรกของเราในทริปนี้ เป็นที่ชิบะ นาริตะ โตเกียวนี่เลย พอดีเราวางแผนไว้ว่าจะพาลูกๆมาสัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ๆด้วยการนอนบ้านคนญี่ปุ่นที่เปิดบ้านรับแขกพักแบบโฮมสเตย์จาก Airbnb

บ้าน log home มีกลิ่นไม้สนหอมฟุ้ง สะอาดสะอ้าน ขนาดกำลังน่ารัก ราคาไม่แพงเลยนะคะ ประมาณ 2 พันกว่าบาทต่อคืน สำหรับ 4 คน

ห้องพักของเรา 4 คนเป็นห้องใต้หลังคา ซึ่งคุณโอซามุก็เสนอว่าจะปูที่นอนเสริมให้เรานอนในห้องเดียวกัน ตอนแรกก็หวั่นๆ แต่ในใจก็คิดว่าคงไม่มั่วหรอกเพราะชาวญี่ปุ่นปกติมาตราฐานดีกว่าบ้านเรามาก ก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ บ้านน่ารักมากๆ รู้สึกคุ้มมากๆๆๆๆ

ห้องน้ำมีโถกดอัตโนมัติตามมาคราฐานชีวิตปกติของชาวญี่ปุ่น มีอ่างอาบน้ำสเตนเลส น้ำอุ่นสบาย โอซามุซังยังเตรียม ฟองน้ำถูตัว สบู่ ผ้าเช็ดตัว

ในบ้านยังมีห้องทานอาหาร ห้องนั่งเล่นให้เรานั่งคุยกันส่วนตัว wifi เร็วปรือ นอกเหนือจากจะมารับ-ส่งพวกเราที่สนามบินแล้ว ยังพาเราแวะไปซื้ออาหารที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต  ซึ่งมาถึงตรงนี้อยากเล่าว่าเพื่อให้ระวังอย่าให้เกิดเหตุเหมือนเรานะคะ   เรื่องก็คือ

ทริปนี้แม่ต้องเมาสาเกทุกวัน เพราะซื้อสาเกขวดใหญ่ (1 ลิตร) ที่ซุปเปอร์มาร์เกต เพราะลูกชาย (น้องต้นไผ่) เธอหิวน้ำมาก พอถึงซุปเปอร์มาร์เกตก็รีบวิ่งปรู้ดไปหยิบน้ำ  แต่จริงๆแล้วเป็นสาเก ไม่ใช่น้ำ แต่เธอก็นึกว่าน้ำ แหมขวดเหมือนกันซะขนาดนั้น ส่วนอีแม่ก็มึนจ่ายไม่ดูราคา เลยต้องเปรมขนเหล้าสาเกไปซดทุกคืนก่อนนอน เพราะไม่ต้องการน้ำหนักเกิน 555 (ข้ออ้าง) เมามันทุกวัน แก้หนาวไปด้วยในตัวค่ะ  ถ้าสังเกตุขวดเหล้าสาเกเค้าเหมือนขวดน้ำดื่มบ้านเราอย่างกับแกะ  โชคดีเลย ไปต่อดีกว่า

แถมโอซามุซังยังมี offer อาหารเช้าที่ทำเองด้วยนะคะสำหรับพรุ่งนี้ตอนเช้า   สุดยอดไหมล่ะคะ  ยังจะมีเสิร์ฟอาหารเช้ากับขนมปังโฮมเมดอีกจะเอาอะไรอีกล่ะคะงานนี้   ฟินสุดๆแระ

นอกจากนี้ โอซามุซังยังมี surprise แก่เด็กๆ คือจักรยานให้ปั่นเที่ยวชมทิวทิศน์รอบๆบ้านของโอซามุซังอีกด้วยค่าาาาา อากาศก็ดี้ ดี แถมได้ขี่จักรยานชมเมืองอีก ประทับใจสุดๆ