สวัสดีค่ะ ถ้ายังจำกันได้ กระทู้ที่แล้วเขียนไว้เรื่องที่แอบชอบหนุ่มข้างบ้านนะคะ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม จน จขกท อึ้งค่ะ 5555 แต่ก็ขอขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่เข้ามาแสดงความเห็น มาแซว มาเล่นมุก จน จขกท ขำกลิ้ง ทั้งในกระทู้เองและในอินบ็อกซ์
ตอนนั้นทิ้งท้ายสัญญาไว้ว่าถ้าคบกันจริงจังเมื่อไหร่จะกลับมาเล่าให้ฟัง ให้สมกับที่ทุกคนคอยลุ้นและเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
ไม่ได้ลืมสัญญา แต่ลืม Password ง่ะ เก๊าขอโต๊ดดดดด กว่าจะพยายามกลับมาเล่นได้ก็ผ่านไปหลายเดือน ขอโทษหลายคนนะคะที่ไม่ได้ตอบอินบ็อกซ์ ได้แต่แอบอ่านพันทิป จนวันนี้เกิดจำได้ขึ้นมาซะงั้น เลยรีบมาอัพเดทค่า ^O^
ตั้งกระทู้ที่แล้วเมื่อเดือนกุมภานะคะ จะเล่าต่อยังไงดี เริ่มเขิน อิอิ... (ได้รับความยินยอมจากผู้เสียหายข้างบ้านแล้วให้มาเล่าได้)
เล่าย้อนไปนิดนะคะ สรุปว่าอีตาคนข้างบ้านนี้ได้เห็นกระทู้ เพราะที่มีคนเอาไปแชร์ลง FB ตัวเค้าไม่ค่อยได้เล่นพันทิป ที่ตลกคือ เค้ามาเล่าให้ฟังว่าตอนแรกอ่านไปยังคิดว่าอยากจะคอมเมนต์จังเลย ว่า "ไอ้หมอนี่มันต้องชอบคุณแน่ๆ ใครจะบ้าไปตัดหญ้าให้ฟรีๆ ปวดหลังจะตาย" แต่พออ่านคอมเมนต์อื่นๆ กับคอมเมนต์ที่เราพิมพ์ตอบ เลยชักมั่นใจว่าเป็นเราค่ะ แต่เค้าก็ยังไม่มั่นใจ 100% นะคะ เค้าบอกว่าตอนเอาโน้ตมาชวนไปซื้อต้นไม้ยังคิดเลยว่า ถ้าไม่ใช่เรา แล้วเราเดินมาถามว่าอะไรของคุณ คงหน้าแตกยับ 555555
หลังจากนั้น ช่วงสองสามเดือนแรก เราพยายามลองศึกษานิสัยกัน ให้แน่ใจว่าเราไม่ผลีผลามคบกันโดยที่เข้ากันไม่ได้ เพราะถ้าวันนึงเราไปต่อไปไม่ได้ จะได้ไม่ต้องมีใครเสียสละย้ายบ้านหนี 5555 เริ่มจากช่วงแรกก็พยายามใช้ชีวิตตามปกติ ที่เพิ่มมาคือไลน์หากันบ้าง เราตกลงกันว่าจะไม่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแม้จะอยู่บ้านข้างกัน อย่างที่บอกคือไม่อยากรีบร้อน อิอิ แต่ก็อดแอบส่องข้างบ้านไม่ได้ บางวันก็เดินมาทานข้าวเย็นด้วยกันถ้าเค้ากลับไม่ค่ำมาก หรือมาเปิดซีรีส์นั่งดูด้วยกันบ้าง แต่ไม่บ่อย
อ้อ มีเรื่องขำจะเล่านิดนึงค่ะ จขกท จะกลับถึงบ้านก่อนเพราะทำงานใกล้กว่าค่ะ พอหนุ่มข้างบ้านกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็จะตะโกนมาว่า "ผมถึงบ้านแล้วนะ" จขกท ก็จะตะโกนกลับไปว่า "โอเคค่า" เป็นแบบนี้เป็นเดือน จนวันนึงป้าที่อยู่บ้านด้านหลัง แกคงได้ยินทุกวัน พอได้ยินเสียงตะโกนว่าผมถึงบ้านแล้วนะ ป้าก็ตะโกนมาบ้างว่า " ส่วนป้าไม่ได้ไปไหนค่า อยู่บ้านตลอด" แล้วแกก็ขำ ส่วน จขกท นี่หัวเราะจนน้ำตาไหลเลยค่ะ ส่วนหนุ่มข้างบ้านก็ตะดกนกลับไปแบบเขินๆว่า โอเคครับ
ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ วันเสาร์ถือเป็นวันไปใช้ชีวิตตามปกติค่ะ จขกท ก็จะไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง กับครอบครัวบ้าง ไปช็อปปิ้ง ไปทำอะไรอย่างที่เคยทำมา ส่วนเค้าก็จะไปขี่มอเตอร์ไซค์ ไปกินข้าวกับเพื่อน บางทีก็มีเพื่อนมาหา แล้ววันอาทิตย์เราถึงจะมาใช้เวลาด้วยกันค่ะ ไปซื้อต้นไม้ ทำกับข้าวกินกัน ไปดูหนัง ไปประชุมหมู่บ้านด้วยกัน
เป็นแบบนี้อยู่สามสี่เดือน เค้าก็ตัดสินใจขอคบแบบจริงจังค่ะ เราเลยเดินไปหยิบค้อนมาทุบกำแพง.. ไม่ใช่ละ ล้อเล่นค่ะ

เราก็เลยคบกันค่ะ หลังจากคบกันแล้วก็พยายามทำให้ทุกอย่างเหมือนเดิม อย่างหนึ่งที่คิดตรงกันคือ เราต้องมีชีวิตของตัวเอง ยังต้องมีเวลาของตัวเอง แต่ที่เพิ่มมาจากก่อนจะคบกันจริงจังคือ พาไปให้เพื่อนกับครอบครัวรู้จักค่ะ ...
ส่วนเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันก็มีค่ะ ไม่ใช่ไม่มี รวมถึงนิสัยบางอย่างที่ทำให้ต้องปรับเข้าหากันพอควร เพียงแต่ไม่ถึงกับรุนแรงขนาดเอาอะไรเขวี้ยงข้ามรั้วไป อย่างเรื่องมอเตอร์ไซค์ของเค้า อันนี้เป็นห่วงมากค่ะ เวลาเค้าไปไกลๆ แต่ก็พยายามทำใจ เพราะเป็นสิ่งที่เค้าทำมานานแล้วและใจรัก เราได้แต่บอกว่าเป็นห่วงนะคะ ระวังตัวด้วย ส่วนเค้าเองก็ใฝ่ฝันมานานว่าจะมีแฟนที่ซ้อนท้ายไปทริปด้วย ซึ่ง จขกท ยืนยันว่าม่ายยยยยยยย ..... ในทางประนีประนอมก็คือ อย่างแรกเค้าไม่บังคับเราให้ออกทริปด้วย และจะไลน์มาบอกเป็นระยะที่หยุดพัก ส่วนเราก็ไม่เซ้าซี้ให้เลิกขี่
อีกเรื่องคือ จขกท เป็นคนแบบที่ชอบหายไปในหนังสือ คือเวลาอ่านหนังสือใครพูดด้วยก็ไม่ได้ยินค่ะ สมาธิจะหายไปในหนังสือ ช่วงแรกๆ ก็มีที่เค้างอนว่าพูดด้วยแล้วไม่พูด จนเดินกลับบ้านไปเป็น ชม.ละ จขกท เพิ่งรู้ตัว แหะๆ .... เลยพยายามอธิบายให้เข้าใจ เดี๋ยวนี้ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ เค้าจะเดินมาสะกิดแล้วพูดด้วยแบบช้าๆ ให้เราออกมาจากภวังค์ก่อน บางทีถ้าเห็นว่าอ่านหนังสืออยู่ จะเดินมาสะกิดบอกว่า เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงมาใหม่นะ เตรียมตัวออกไปทานข้าวกันด้วย ประมาณนี้ค่ะ
ข้อดีของการอยู่บ้านใกล้กันคือ เจอกันง่าย ทำกิจกรรมร่วมกันง่าย ใช้เค้ามาตัดหญ้าง่าย อุ๊ย ไม่ใช่ละ แต่ก็มีข้อเสียนะคะ คือต้องระวังไม่ให้ไปรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายมากเกินไป ต้องมีระยะพอสมควร ไม่ใช่นึกอยากเดินไปเปิดประตูเมื่อไหร่ก็ไปค่ะ
กระทู้นี้คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากระทู้ที่แล้วค่ะ แต่สัญญาไว้ว่าคบกันจริงจังเมื่อไหร่จะมาเล่า เลยอยากมาอัพเดทค่ะ ขอบคุณที่มาอ่าน มาคอมเมนท์ และเคยให้กำลังใจกันมานะคะ
@@ ภาคต่อของสาวที่แอบชอบหนุ่มข้างบ้านค่ะ **มาเล่าต่อตามที่สัญญาไว้ ^O^ @@
ตอนนั้นทิ้งท้ายสัญญาไว้ว่าถ้าคบกันจริงจังเมื่อไหร่จะกลับมาเล่าให้ฟัง ให้สมกับที่ทุกคนคอยลุ้นและเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
ไม่ได้ลืมสัญญา แต่ลืม Password ง่ะ เก๊าขอโต๊ดดดดด กว่าจะพยายามกลับมาเล่นได้ก็ผ่านไปหลายเดือน ขอโทษหลายคนนะคะที่ไม่ได้ตอบอินบ็อกซ์ ได้แต่แอบอ่านพันทิป จนวันนี้เกิดจำได้ขึ้นมาซะงั้น เลยรีบมาอัพเดทค่า ^O^
ตั้งกระทู้ที่แล้วเมื่อเดือนกุมภานะคะ จะเล่าต่อยังไงดี เริ่มเขิน อิอิ... (ได้รับความยินยอมจากผู้เสียหายข้างบ้านแล้วให้มาเล่าได้)
เล่าย้อนไปนิดนะคะ สรุปว่าอีตาคนข้างบ้านนี้ได้เห็นกระทู้ เพราะที่มีคนเอาไปแชร์ลง FB ตัวเค้าไม่ค่อยได้เล่นพันทิป ที่ตลกคือ เค้ามาเล่าให้ฟังว่าตอนแรกอ่านไปยังคิดว่าอยากจะคอมเมนต์จังเลย ว่า "ไอ้หมอนี่มันต้องชอบคุณแน่ๆ ใครจะบ้าไปตัดหญ้าให้ฟรีๆ ปวดหลังจะตาย" แต่พออ่านคอมเมนต์อื่นๆ กับคอมเมนต์ที่เราพิมพ์ตอบ เลยชักมั่นใจว่าเป็นเราค่ะ แต่เค้าก็ยังไม่มั่นใจ 100% นะคะ เค้าบอกว่าตอนเอาโน้ตมาชวนไปซื้อต้นไม้ยังคิดเลยว่า ถ้าไม่ใช่เรา แล้วเราเดินมาถามว่าอะไรของคุณ คงหน้าแตกยับ 555555
หลังจากนั้น ช่วงสองสามเดือนแรก เราพยายามลองศึกษานิสัยกัน ให้แน่ใจว่าเราไม่ผลีผลามคบกันโดยที่เข้ากันไม่ได้ เพราะถ้าวันนึงเราไปต่อไปไม่ได้ จะได้ไม่ต้องมีใครเสียสละย้ายบ้านหนี 5555 เริ่มจากช่วงแรกก็พยายามใช้ชีวิตตามปกติ ที่เพิ่มมาคือไลน์หากันบ้าง เราตกลงกันว่าจะไม่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาแม้จะอยู่บ้านข้างกัน อย่างที่บอกคือไม่อยากรีบร้อน อิอิ แต่ก็อดแอบส่องข้างบ้านไม่ได้ บางวันก็เดินมาทานข้าวเย็นด้วยกันถ้าเค้ากลับไม่ค่ำมาก หรือมาเปิดซีรีส์นั่งดูด้วยกันบ้าง แต่ไม่บ่อย
อ้อ มีเรื่องขำจะเล่านิดนึงค่ะ จขกท จะกลับถึงบ้านก่อนเพราะทำงานใกล้กว่าค่ะ พอหนุ่มข้างบ้านกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็จะตะโกนมาว่า "ผมถึงบ้านแล้วนะ" จขกท ก็จะตะโกนกลับไปว่า "โอเคค่า" เป็นแบบนี้เป็นเดือน จนวันนึงป้าที่อยู่บ้านด้านหลัง แกคงได้ยินทุกวัน พอได้ยินเสียงตะโกนว่าผมถึงบ้านแล้วนะ ป้าก็ตะโกนมาบ้างว่า " ส่วนป้าไม่ได้ไปไหนค่า อยู่บ้านตลอด" แล้วแกก็ขำ ส่วน จขกท นี่หัวเราะจนน้ำตาไหลเลยค่ะ ส่วนหนุ่มข้างบ้านก็ตะดกนกลับไปแบบเขินๆว่า โอเคครับ
ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ วันเสาร์ถือเป็นวันไปใช้ชีวิตตามปกติค่ะ จขกท ก็จะไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง กับครอบครัวบ้าง ไปช็อปปิ้ง ไปทำอะไรอย่างที่เคยทำมา ส่วนเค้าก็จะไปขี่มอเตอร์ไซค์ ไปกินข้าวกับเพื่อน บางทีก็มีเพื่อนมาหา แล้ววันอาทิตย์เราถึงจะมาใช้เวลาด้วยกันค่ะ ไปซื้อต้นไม้ ทำกับข้าวกินกัน ไปดูหนัง ไปประชุมหมู่บ้านด้วยกัน
เป็นแบบนี้อยู่สามสี่เดือน เค้าก็ตัดสินใจขอคบแบบจริงจังค่ะ เราเลยเดินไปหยิบค้อนมาทุบกำแพง.. ไม่ใช่ละ ล้อเล่นค่ะ
เราก็เลยคบกันค่ะ หลังจากคบกันแล้วก็พยายามทำให้ทุกอย่างเหมือนเดิม อย่างหนึ่งที่คิดตรงกันคือ เราต้องมีชีวิตของตัวเอง ยังต้องมีเวลาของตัวเอง แต่ที่เพิ่มมาจากก่อนจะคบกันจริงจังคือ พาไปให้เพื่อนกับครอบครัวรู้จักค่ะ ...
ส่วนเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันก็มีค่ะ ไม่ใช่ไม่มี รวมถึงนิสัยบางอย่างที่ทำให้ต้องปรับเข้าหากันพอควร เพียงแต่ไม่ถึงกับรุนแรงขนาดเอาอะไรเขวี้ยงข้ามรั้วไป อย่างเรื่องมอเตอร์ไซค์ของเค้า อันนี้เป็นห่วงมากค่ะ เวลาเค้าไปไกลๆ แต่ก็พยายามทำใจ เพราะเป็นสิ่งที่เค้าทำมานานแล้วและใจรัก เราได้แต่บอกว่าเป็นห่วงนะคะ ระวังตัวด้วย ส่วนเค้าเองก็ใฝ่ฝันมานานว่าจะมีแฟนที่ซ้อนท้ายไปทริปด้วย ซึ่ง จขกท ยืนยันว่าม่ายยยยยยยย ..... ในทางประนีประนอมก็คือ อย่างแรกเค้าไม่บังคับเราให้ออกทริปด้วย และจะไลน์มาบอกเป็นระยะที่หยุดพัก ส่วนเราก็ไม่เซ้าซี้ให้เลิกขี่
อีกเรื่องคือ จขกท เป็นคนแบบที่ชอบหายไปในหนังสือ คือเวลาอ่านหนังสือใครพูดด้วยก็ไม่ได้ยินค่ะ สมาธิจะหายไปในหนังสือ ช่วงแรกๆ ก็มีที่เค้างอนว่าพูดด้วยแล้วไม่พูด จนเดินกลับบ้านไปเป็น ชม.ละ จขกท เพิ่งรู้ตัว แหะๆ .... เลยพยายามอธิบายให้เข้าใจ เดี๋ยวนี้ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ เค้าจะเดินมาสะกิดแล้วพูดด้วยแบบช้าๆ ให้เราออกมาจากภวังค์ก่อน บางทีถ้าเห็นว่าอ่านหนังสืออยู่ จะเดินมาสะกิดบอกว่า เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงมาใหม่นะ เตรียมตัวออกไปทานข้าวกันด้วย ประมาณนี้ค่ะ
ข้อดีของการอยู่บ้านใกล้กันคือ เจอกันง่าย ทำกิจกรรมร่วมกันง่าย ใช้เค้ามาตัดหญ้าง่าย อุ๊ย ไม่ใช่ละ แต่ก็มีข้อเสียนะคะ คือต้องระวังไม่ให้ไปรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายมากเกินไป ต้องมีระยะพอสมควร ไม่ใช่นึกอยากเดินไปเปิดประตูเมื่อไหร่ก็ไปค่ะ
กระทู้นี้คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากระทู้ที่แล้วค่ะ แต่สัญญาไว้ว่าคบกันจริงจังเมื่อไหร่จะมาเล่า เลยอยากมาอัพเดทค่ะ ขอบคุณที่มาอ่าน มาคอมเมนท์ และเคยให้กำลังใจกันมานะคะ