คนอ่อนหัดริอยากไปเวิร์ค : Marshfield , MA เมืองเล็กๆที่น่าสัมผัส :)

ด้วยความรักและคิดถึงที่นู้น จึงเกิดเป็นฤกษ์งามยามดีในการรีวิว Work and Travel 2016
เราได้งาน McDonalds เมือง Marshfield รัฐ  Massachusetts เมืองเล็กๆที่น้อยคนจะรู้จัก
(ขนาดคนจะไปยังไม่เคยได้ยินเลย )

    ก่อนไป : ความน่ากลัวที่สร้างขึ้นเอง
        ก่อนไปเราไม่สามารถรู้ได้หรอก ว่าสิ่งที่เราจะไปพบไปเจอหน้าตามันเป็นยังไง ก็เริ่มจากสิ่งพื้นฐานเลยคือ ตอนได้รู้ว่าได้ไปอยู่เมืองนี้จริงๆ ก็พึ่ง google map เลยค่ะ ผลปรากฏว่าทำให้ไม่อยากไปกว่าเดิม นี้มัน walking dead รึป่าวเนี่ยยยยย ทำไมเมืองเป็นงี้ บลาบลา กับปัญหามากมายก่อนหน้านี้ทำให้ท้อและสิ้นหวัง ไหนจะไปคนเดียวไร้เพื่อนอี้ก มันรุมเร้าไปหมด ขนาดที่ว่าจ่ายค่าโครงการแพงแสนแพงแล้วก็มีความคิดจะเลิก ก็ได้แต่บอกตัวเอง ไม่ว่าร้ายดีก็เกิดมาครั้งหนึ่งละมะ จะอยู่ในคอมฟอทโซนของทั้งชีวิตอ่ะหรอ ! (ด่าตัวเองในใจ)
        ความกลัวที่เกิดขึ้นมันมาจากการอ่านประสบการณ์ทั้งดีและร้ายของคนอื่นบ้าง ฟังคนอื่นเขามาบ้าง (ส่วนใหญ่เจอแต่ประสบการณ์แย่ๆจนเราก็ถอดใจและความกลัวเพิ่มมากขึ้น) จนอ่านพันทิปเจอประโยคประโยคนึงที่ว่า “จะรู้ได้ยังไงว่าชีวิตเราจะเกิดสิ่งแบบเดียวกัน ในเมื่อมันคนละชีวิตกัน” เท่านั้นแหละค่ะ ประโยคปลดล็อคความกลัวของชีวิต หลังจากนั้นก็เลิกอ่านหรือเลิกฟัง ไม่ก็เก็บมาฟังแต่ใช้วิจารญาณมากๆ กับคำกล่าวที่ว่า วีซ่าสัมภาษณ์ยากนะ ระวังๆ เราไม่เจอแบบนั้นจริงๆ การสัมภาษณ์วีซ่าไม่ได้โหดขนาดนั้น แค่เอกสารพร้อมตามที่เอเจนให้เตรียม ประโยคว่าทำงานที่ไหนไปรัฐอะไรเตรียมให้พร้อมก็ไม่มีอะไรน่ากลัว และเราก็ผ่านมันมาได้


ภาพจาก google map


ได้ไปสักที : ความเป็นอยู่ในเมืองเล็กๆ
        ในที่สุดเราก็ได้มาเผชิญหน้ากับความกลัวที่สุดก่อนมา วันแรกที่มาถึงโดยการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยอาหารอิตาเลียนร้านโปรดของนายใหญ่

วันแรกที่มาถึงโดยการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยอาหารอิตาเลียนร้านโปรดของนายใหญ่


หลังจากมื้อสุดวิเศษ ถึงเวลาได้พบบ้านที่ดูทาง google map ว่าคล้าย walking dead แล้ว ของจริง .... มันใช่กว่า!!!
บ้านหลังนี้มีผู้ร่วมอาศัยคือคนไทยสองคน ผู้ร่วมงานและรูมเมทในครั้งนี้
หลังจากดูบ้านเสร็จ ลูกสาวของนายใหญ่ก็พาชมเมืองงงงงง







Marshfield เป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักมากๆ คนไนซ์มากๆ มีครั้งนึงไปยืนเอ๋อๆที่ป้ายรถบัส เลยเดินเอาแผนที่รถบัสไปถามคุณป้าคนนึง เขายื่นเงินให้ บอกยูต้องขึ้นอย่างนี้ๆนะ ยูต้องใช้เงินหนึ่งดอลในการขึ้นรถนะ แนะนำการเดินทางดีมากกกกกกก ประทับใจมากกกกกก



วันหมอกลงอย่างกับ walking dead ที่แท้จริง


กินและก็กินกับลูกสาวนายใหญ่


วันว่างๆลูกสาวนายใหญ่พาไปบ้าน นางก็เก็บสตอรเบอรี่ในสวนให้กินชิวๆค่ะ





อยู่ที่นู้นกับวันเวลาที่ต่างจากที่ไทย มีอะไรทำได้เพียงระบายลงไดอารี่ไปก่อน ...
บางเรื่องที่เคยเป็นปัญหาเล็กๆที่ไทย พอไปอยู่ที่นู้นมีปัญหาอะไรจะดูใหญ่ขึ้นอีก 10 เท่า
เพราะเพื่อนพ่อ แม่ หรือใครที่คอยให้กำลังใจเราจะไปหาไม่ได้เหมือนตอนอยู่ที่ไทย T T
ก็เขียนเข้าาาา ระบายเข้าไปปปปปป








เพื่อนร่วมงานพาไปเที่ยวววววว    
สรุป คือ ความเป็นอยู่ไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างราบรื่นตรงข้ามกับความกลัวก่อนมาสุดๆ

งาน : เกลียดสิ่งไหนก็ได้อย่างนั้น
    รู้ซึ้งถึงประโยคนี้ก็ตอนได้งานแมคนี้แหละ เกลียดมากกกกก ไม่อยากทำงานแมคมากกก เพราะกลัวโดนรับออเดอร์มาก กลัวคน ผนวกกับอ่านมาเยอะว่าเด็กเวิร์คต้องรับออร์เดอร์นู้นนี่ ตอนแรกที่สัมภาษณ์ได้ระดับภาษาอยู่ในระดับปานกลาง เลยเลือกทำงานแม่บ้านไปละกัน เซฟสุดดดดด อย่างน้อยพูดไรก็ดูไม่ผิดมาก และแล้วอะไรก็ไม่รู้เหวี่ยงเรามาทำงานที่เราไม่เคยคิดอยากจะทำ คิดในใจ เอาวะ ทำงานในครัวก็ได้ สรุปหน้าที่ที่ได้คือ .....




รับออร์เดอร์จ้า!!!!! เครียดมากกก เครียดจนร้องไห้คนเดียว เครียดจนต้องการกำลังใจมากๆ มันยากมากๆสำหรับเรา
มีเหตุการณ์วันนึงในการทำงาน
วันนั้นลงไดร์ฟช่วงเย็น ลูกค้าสั่ง
"Triple Cheese Burger with 2 half of bacon"
เหวอมาก เอ๋อมาก ซอรี่หลายรอบมากจนตัวเองทนไม่ไหว ฟังไม่ออกจริงๆ คืออะไรรรร อะไรรรรรรร

วิ่งเข้าขอความช่วยเหลือจากผู้จัดการ ผู้จัดการกล่าวในโหมดไทยว่า
"ชั้นไม่ช่วยยูหรอกนะ ยูทำได้ ไปฟังใหม่ ไม่ช่วย ยังไงชั้นก็ไม่ช่วย ยูฟังเองสิ หน้าที่ยูนะ"
เท่านั้นละค่ะ ความกดดันพุ่งปี๊ดดดดดดดดดด

เมื่อผู้จัดการดันนิสัย อยากให้ฝึกภาษา กดดันมากก
ลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี้มาจากไดร์ฟทรูทั้งสิ้น
ไดร์ฟทรู เสมือนหัวใจหลักของร้าน
รับออเดอร์ > สู่แผนกเบอร์เกอร์ > สู่แผนกเครื่องดื่ม
ออร์เดอร์เละ ทุกส่วนเป๋
สุดท้ายเราก็ผ่านมาได้กับภาษางูๆปลาๆของเรา





วันสุดท้ายของการทำงานกับเค้กอำลา T^T




สิ่งตอบแทนจากเด็กไทย ยิ้ม

สิ่งที่เรียนรู้
    เราเป็นคนที่ไม่เก่ง เข้าขั้นอ่อนหัดนะ อยากให้คนที่คิดจะทำตามฝันแล้วยังกลัวยังไม่กล้า เราอยากเป็นกำลังใจเล็กๆสำหรับคนที่มีฝัน มันไม่ยากนะ คิดซะว่าสิ่งที่เจอมันอาจดีและร้ายแต่ถ้าคิดทำมันก็จะผ่านไปได้ทุกเรื่องแหละจริงๆ และสิ่งที่ได้จากการไป Work and Travel ครั้งนี้คือ อย่าดูถูกตัวเองเด็ดขาด เชื่อมั่นหรือมั่นหน้าในตัวเองว่าทำได้ อย่างที่เราดูถูกตัวเองที่ว่าอย่าทำงานแมคเลยทำไมไม่ได้หรอก แต่อะไรสักอย่างเหวี่ยงเรามาทำงานแมค สอนว่า อ่ะ!! ทำได้ แต่คิดไปเองว่าทำไม่ได้
สิ่งที่ได้
    มิตรภาพทั้งเพื่อนชาวไทย เพื่อนต่างชาติที่ยังคงติดต่อแม้จะกลับมา คิดถึงมากๆ สุดท้ายนี้ถึงคนที่จะไปหรืออยากไป ไปเลยยยย อย่ารอ อย่ากลัว ถึงร้ายดีมันก็ถือเป็น “ประสบการณ์” ยิ้ม
        สุดท้าย ขอบคุณทุกๆ "ประสบการณ์" ทั้งดีร้ายที่เจอ ขอบคุณผู้คนทั้งที่นู้นและกำลังใจทุกๆกำลังใจที่นี้ ... <3



สองสาวผู้ร่วมเดินทางจากต่างที่ต่างมหาลัยต่างวัย รักและคิดถึง ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่