#เป็นความจริงที่ต้องพบแน่
ถึงเราจะมีคู่วันนี้นะ
วันข้างหน้าก็ต้องเหลือคนเดียว
เมื่อถึงจุดนั้นอยู่คนเดียวได้ไหม
*การจะอยู่กับลูกกับหลาน อย่าไปเชื่อเขา
ลูกหลานก็มีภาระของเขา เขาจะมาดูแลเราไม่ไหว
สังคมของเราเปลี่ยนไปแล้ว
แต่เดิมเป็นสังคมเกษตร ครอบครัวขยาย อยู่รวมๆกัน อบอุ่น
ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นสังคมอุตสาหกรรม
อยู่ตัวคนเดียว อยู่คู่หนึ่ง สองคน
อยู่กับลูก
แค่นี้เอง เป็นครอบครัวเล็กๆบ้านใครบ้านมัน
*สังคมบ้านเรากำลังก้าวไปสู่อีกจุดหนึ่ง คือสังคมคนแก่
เมืองไทยกำลังเข้าข่าย
จะเป็นสังคมของคนแก่แล้ว
คนหนุ่มคนสาวจะไม่ค่อยมี
เมืองจีนเป็นแล้ว
ขณะนี้เมืองจีนต้องยอมให้มีลูกคนที่สองแล้ว
เพราะว่ามีแต่คนแก่มาก
ญี่ปุ่นปัจจุบันเป็นสังคมของคนแก่แล้ว
ประชาชนเต็มไปด้วยคนแก่ ที่ไม่ยอมตายสักทีเพราะมียาบำรุงดี
ส่วนเด็กก็ไม่ยอมให้ เพราะประชาชนจะเพิ่มขึ้น
*เมืองไทยต่อไปตาแก่ยายแก่จะเต็มไปหมด
ห้องน้ำทุกวันนี้สังเกตไหม?
ตามบ้านต้องมีห้องน้ำของคนแก่อยู่ห้องหนึ่ง
นอกนั้นห้องน้ำคนหนุ่มคนสาว
ตามปั้มน้ำมันต้องจัดให้มี
เพื่อรับกับประชาชนที่ท่องเที่ยว..
**ต่อไปจะต้องเปลี่ยน
ทำห้องน้ำคนแก่เพิ่มขึ้นเยอะๆ
ห้องน้ำคนหนุ่มคนสาวมีน้อยลง
คนแก่ ...ต่อไปนี้.
จะอยู่กับความเจ็บ ป่วย
อยู่กับความว้าเหว่
จะต้องอยู่กับมันให้ได้.
ท่านจะต้องแก่อย่างมีความสุข
เจ็บป่วยอย่างมีความสุข
อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข
จะตาย ต้องตายอย่างมีความสุข
ท่านต้องไม่ทิ้งธรรมะนะ
ถึงเวลา ธรรมะจะมาคุ้มครองเรา
มาช่วยเราเอง
ตั้งอกตั้งใจสวดมนต์ภาวนานะ
ถือศีลไป ภาวนาไป
และวางแผนการใช้ชีวิตไว้ด้วยว่า
ตอนแก่เราจะอยู่อย่างไร
คนแก่อาจจะต้องรวมกลุ่ม เป็นนิคมคนแก่
เด็กๆ เขาไม่เลี้ยงเราหรอก
เพราะพวกเขาเหมือนกับคนด้อยความคิด
ชีวิตพวกเขาต้องทำตามที่มีคนสั่ง
มีความสำเร็จรูปในทุกๆอย่างรองรับ
ชีวิตปัจจุบันอยู่กับการกดปุ่มทั้งสิ้น
คนเก่าๆต้องลงมือกระทำเอง
การถูกทอดทิ้งฯลฯ
สิ่งเหล่านี้จะมาถึงเรา
เราก็ใกล้สิ่งเหล่านี้เข้ามาทุกทีแล้ว
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
เรามีความแก่รออยู่
มีความเจ็บรออยู่
มีความตายรออยู่
มีความพลัดพรากจากสิ่งที่รักรออยู่
มีการประสบสิ่งที่ไม่รักรออยู่
ความเจ็บไข้ได้ป่วย กำลังรออยู่.
เราจะอยู่อย่างไร..!
โยมต้องอยู่อย่างมีสตินะโยม.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา
จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
#เป็นความจริงที่ต้องพบแน่
ถึงเราจะมีคู่วันนี้นะ
วันข้างหน้าก็ต้องเหลือคนเดียว
เมื่อถึงจุดนั้นอยู่คนเดียวได้ไหม
*การจะอยู่กับลูกกับหลาน อย่าไปเชื่อเขา
ลูกหลานก็มีภาระของเขา เขาจะมาดูแลเราไม่ไหว
สังคมของเราเปลี่ยนไปแล้ว
แต่เดิมเป็นสังคมเกษตร ครอบครัวขยาย อยู่รวมๆกัน อบอุ่น
ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นสังคมอุตสาหกรรม
อยู่ตัวคนเดียว อยู่คู่หนึ่ง สองคน
อยู่กับลูก
แค่นี้เอง เป็นครอบครัวเล็กๆบ้านใครบ้านมัน
*สังคมบ้านเรากำลังก้าวไปสู่อีกจุดหนึ่ง คือสังคมคนแก่
เมืองไทยกำลังเข้าข่าย
จะเป็นสังคมของคนแก่แล้ว
คนหนุ่มคนสาวจะไม่ค่อยมี
เมืองจีนเป็นแล้ว
ขณะนี้เมืองจีนต้องยอมให้มีลูกคนที่สองแล้ว
เพราะว่ามีแต่คนแก่มาก
ญี่ปุ่นปัจจุบันเป็นสังคมของคนแก่แล้ว
ประชาชนเต็มไปด้วยคนแก่ ที่ไม่ยอมตายสักทีเพราะมียาบำรุงดี
ส่วนเด็กก็ไม่ยอมให้ เพราะประชาชนจะเพิ่มขึ้น
*เมืองไทยต่อไปตาแก่ยายแก่จะเต็มไปหมด
ห้องน้ำทุกวันนี้สังเกตไหม?
ตามบ้านต้องมีห้องน้ำของคนแก่อยู่ห้องหนึ่ง
นอกนั้นห้องน้ำคนหนุ่มคนสาว
ตามปั้มน้ำมันต้องจัดให้มี
เพื่อรับกับประชาชนที่ท่องเที่ยว..
**ต่อไปจะต้องเปลี่ยน
ทำห้องน้ำคนแก่เพิ่มขึ้นเยอะๆ
ห้องน้ำคนหนุ่มคนสาวมีน้อยลง
คนแก่ ...ต่อไปนี้.
จะอยู่กับความเจ็บ ป่วย
อยู่กับความว้าเหว่
จะต้องอยู่กับมันให้ได้.
ท่านจะต้องแก่อย่างมีความสุข
เจ็บป่วยอย่างมีความสุข
อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข
จะตาย ต้องตายอย่างมีความสุข
ท่านต้องไม่ทิ้งธรรมะนะ
ถึงเวลา ธรรมะจะมาคุ้มครองเรา
มาช่วยเราเอง
ตั้งอกตั้งใจสวดมนต์ภาวนานะ
ถือศีลไป ภาวนาไป
และวางแผนการใช้ชีวิตไว้ด้วยว่า
ตอนแก่เราจะอยู่อย่างไร
คนแก่อาจจะต้องรวมกลุ่ม เป็นนิคมคนแก่
เด็กๆ เขาไม่เลี้ยงเราหรอก
เพราะพวกเขาเหมือนกับคนด้อยความคิด
ชีวิตพวกเขาต้องทำตามที่มีคนสั่ง
มีความสำเร็จรูปในทุกๆอย่างรองรับ
ชีวิตปัจจุบันอยู่กับการกดปุ่มทั้งสิ้น
คนเก่าๆต้องลงมือกระทำเอง
การถูกทอดทิ้งฯลฯ
สิ่งเหล่านี้จะมาถึงเรา
เราก็ใกล้สิ่งเหล่านี้เข้ามาทุกทีแล้ว
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
เรามีความแก่รออยู่
มีความเจ็บรออยู่
มีความตายรออยู่
มีความพลัดพรากจากสิ่งที่รักรออยู่
มีการประสบสิ่งที่ไม่รักรออยู่
ความเจ็บไข้ได้ป่วย กำลังรออยู่.
เราจะอยู่อย่างไร..!
โยมต้องอยู่อย่างมีสตินะโยม.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช
วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา