~~ ความรักไม่จำเป็นต้องครอบครอง หรือลงท้ายด้วยเรื่องเซ็กส์ ~~ เพราะความรักคือความรู้สึกที่มอบให้ใครคนหนึ่งโดยไม่มีเงื่อนไข สุขที่จะเห็นคนที่เรารักมีความสุข ~~
ความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ไม่มีเงื่อนไขเช่นกัน ครั้งนึงเราได้รู้สึกกับคนๆหนึ่ง ซึ่งเราต่างมีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ด้วยปัญหาบางอย่างเราจึงไม่อาจข้ามไปได้มากกว่าแค่ความรู้สึก ซึ่งเราได้คุยกันไว้ว่าความรักของเรามีได้แค่ความห่วงใย และเป็นกำลังใจกันในยามทุกข์ได้เท่านั้นซึ่งมันสามารถมีให้ได้ตลอดไป
ไม่ขอโฟกัสในเรื่องดราม่านะคะ แต่ขอเล่าในมุมที่ทำให้เมื่อนึกถึงแล้วยิ้มได้ที่ครั้งนึงเรามีความรู้สึกดีๆให้กัน
คนๆนั้นชื่อเจค่ะ เป็นคนสุภาพ และเรามีอะไรหลายๆอย่างที่คิดตรงกัน เราคุยกันถูกคอเรื่องสถานที่เที่ยวต่างๆในโลก โดยเฉพาะอียิปต์ และทำให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนทัศนคติกันในหลายๆเรื่อง จนเกิดความผูกพันกัน
~~ขอตัดเล่ามาที่ ครั้งนึงเราได้มีโอกาสเจอกันที่ประเทศชองเจ ซึ่งเรามีเวลากันเพียงเล็กน้อยที่จะได้ดินเนอร์ร่วมกัน ครั้งนั้นเจได้ขอพบสักครั้งเพียงเพื่อเราจะได้เคยคุยกันจริงๆในโลกความจริง ได้มองหน้ากันชัดๆ แม้เราจะมีเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ก่อนเราได้เจอกัน เจเคยถามเราว่า เขาขอกอดเราสักครั้งได้ไหมเมื่อเจอกัน เราตอบไปสั้นๆสั่นๆว่า เราอาย และก็คิดว่า เมื่อถึงวันนั้นเราคงต่างคนต่างเขิน คงทำได้แค่เพียงหน้าแดง ซึ่งเขาบอกว่าเขาก็เช่นกัน เขาจึงขอว่า ผมขอจูงมือคุณเดินได้ไหมซึ่งเราก็ตอบรับ (ใจง่ายทันที 555)
~~เราได้นัดกันไว้เวลาหลังจากเจเลิกงาน ซึ่งวันนั้นเจได้รีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วไปรอที่นัดพบก่อนเวลานัด ซึ่งเรายังไม่เสร็จธุระเลยรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย (จริงๆ กระวนกระวายมาเป็นเดือนนะ ที่เราจะได้เจอกัน) พอเราเสร็จธุระก็รีบไปตามที่ๆเรานัดไว้นะ เราเป็นคนเลือกจุดนัดพบเพราะเรามีธุระที่นั่นด้วย ซึ่งอาจจะให้เจช่วยได้ในเรื่องภาษา (555 แต่พอถึงเวลาเจกลับงงกว่าเราอีก สรุปเราจัดการเอง)
~~ด้วยความกระวนกระวาย เราก็งงๆคิดว่าขึ้นรถไฟผิด ก็เลยรีบลงสถานีถัดไป ไปยืนงงในสถานีรถไฟฟ้าต่อ แล้วถามคนแถวนั้นว่าถ้าจะไปจุดนี้ไปยังไง เราได้ส่งข้อความบอกเจว่า เราขึ้นรถไฟผิดขอโทษด้วยที่เราอาจจะไปสาย ซึ่งเจบอกเราว่าไม่ต้องรีบเพราะไม่ใช่ประเทศของคุณผมรอคุณได้ไม่มีปัญหา แต่เรากลับยิ่งรน พอเจอรถไฟขึ้นไปใหม่ จริงๆแล้วเราก็ขึ้นถูกฝั่งแล้วแหละ แต่เราสับสนเอง 5555555ก็มันรนนี่นา ไม่ชอบไปไหนสาย โดยเฉพาะครั้งนี้ คือการไปเดทกันครั้งแรกของเราและเจ
~~มาถึงจุดนัดพบคนมหาศาลมากค่ะ ที่จะออกจากสถานีรถไฟ (จริงๆในรถไฟก็คนแน่นมากค่ะ 555) เราก็ออกจากสถานีรถไฟใต้ดินด้วยอาการงงๆ เราจะนัดพบเขาตรงไหนดี สายตาก็มองไปเห็น Shop ZARA ก็เลยกำลังจะพิมพ์ว่ารอหน้า ZARA นะ ยังพิมพ์ไม่ทันจบรู้สึกว่ามีมือใครไม่รู้มาจับบ่าสองข้างจากด้านหลัง เราตกใจมาก หัวใจอยู่ที่ตาตุ่ม เราเงยหน้าไปมองคนแปลกหน้านั้น แล้วโล่งอกที่คนตรงหน้าคือคนที่เคยเห็นผ่านในรูป และเคยวีดีโอคอลคุยกัน 1 ครั้ง ผู้ชายตรงหน้าสูงมากๆ ทั้งที่เราเองก็เป็นคนสูงนะ (เราสูง 173 เจสูง 183) ปกติชายไทยนี่ส่วนใหญ่จะเตี้ยกว่าเราด้วยซ้ำ
~~ หัวใจเรายังคงเต้นแรงนะ กับคนที่อยู่ตรงหน้า คนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกัน คนที่เราคอยคิดถึงและรอข้อความเขาเสมอ คนที่เราเคยร้องไห้ให้เขาฟังแล้วพอได้เพียงข้อความสั้นๆจากเขาว่าผมเป็นกำลังใจให้คุณและเคียงข้างคุณนะ ก็ทำให้เรายิ้มได้ ผู้ชายคนที่เราได้เพียงแค่ขอให้มีเขาในใจก็พอ ไม่ต้องมีสถานะใดๆ ขอได้แค่เป็นเพื่อนกันเราก็ดีใจแล้ว.... ผู้ชายคนนี้ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเราแล้ว
~~ พอได้เจอกัน รอยยิ้มคนตรงหน้าจริงใจและน่ารักกว่าที่คิดไว้ ผู้ชายตรงหน้าเปลี่ยนจากตบบ่า เพราะเห็นว่าเราตกใจมาเป็นตบหลังเบาๆว่าขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ เขาจ้องหน้าเราแล้วบอกว่า คุณสูงมากๆ (555 ถึงเจจะสูง แต่ก็คงไม่คุ้นเคยกับผู้หญิงสูงๆสินะ) และคุณน่ารักกว่าในรูปนะ ผมเลยรู้สึกแก่ไปเลย (เรากับเจอายุเท่ากัน) ..เจนี่ปากหวานจริงๆ ชักเขินหนักขึ้น ณ ขณะนี้หัวใจแทบหลุดออกมาแล้ว
~~เจจูงมือเราไปทำธุระตามที่เราต้องการ และเราก็ไปห้างสรรพสินค้าตามที่เราเลือกไว้ .... เจเป็นคนอบอุ่นมากๆ จนรู้สึกว่าเราเหมือนเจ้าหญิงมากๆในวันนั้น
(กระทู้ชักยาว ขอต่อในคอมเมนต์นะคะ)
❤️ครั้งหนึ่งในความทรงจำ..กับโมเมนต์ที่ราวกับหลุดไปในซีรีย์เกาหลี❤️
ความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ไม่มีเงื่อนไขเช่นกัน ครั้งนึงเราได้รู้สึกกับคนๆหนึ่ง ซึ่งเราต่างมีความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ด้วยปัญหาบางอย่างเราจึงไม่อาจข้ามไปได้มากกว่าแค่ความรู้สึก ซึ่งเราได้คุยกันไว้ว่าความรักของเรามีได้แค่ความห่วงใย และเป็นกำลังใจกันในยามทุกข์ได้เท่านั้นซึ่งมันสามารถมีให้ได้ตลอดไป
ไม่ขอโฟกัสในเรื่องดราม่านะคะ แต่ขอเล่าในมุมที่ทำให้เมื่อนึกถึงแล้วยิ้มได้ที่ครั้งนึงเรามีความรู้สึกดีๆให้กัน
คนๆนั้นชื่อเจค่ะ เป็นคนสุภาพ และเรามีอะไรหลายๆอย่างที่คิดตรงกัน เราคุยกันถูกคอเรื่องสถานที่เที่ยวต่างๆในโลก โดยเฉพาะอียิปต์ และทำให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนทัศนคติกันในหลายๆเรื่อง จนเกิดความผูกพันกัน
~~ขอตัดเล่ามาที่ ครั้งนึงเราได้มีโอกาสเจอกันที่ประเทศชองเจ ซึ่งเรามีเวลากันเพียงเล็กน้อยที่จะได้ดินเนอร์ร่วมกัน ครั้งนั้นเจได้ขอพบสักครั้งเพียงเพื่อเราจะได้เคยคุยกันจริงๆในโลกความจริง ได้มองหน้ากันชัดๆ แม้เราจะมีเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ก่อนเราได้เจอกัน เจเคยถามเราว่า เขาขอกอดเราสักครั้งได้ไหมเมื่อเจอกัน เราตอบไปสั้นๆสั่นๆว่า เราอาย และก็คิดว่า เมื่อถึงวันนั้นเราคงต่างคนต่างเขิน คงทำได้แค่เพียงหน้าแดง ซึ่งเขาบอกว่าเขาก็เช่นกัน เขาจึงขอว่า ผมขอจูงมือคุณเดินได้ไหมซึ่งเราก็ตอบรับ (ใจง่ายทันที 555)
~~เราได้นัดกันไว้เวลาหลังจากเจเลิกงาน ซึ่งวันนั้นเจได้รีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วไปรอที่นัดพบก่อนเวลานัด ซึ่งเรายังไม่เสร็จธุระเลยรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย (จริงๆ กระวนกระวายมาเป็นเดือนนะ ที่เราจะได้เจอกัน) พอเราเสร็จธุระก็รีบไปตามที่ๆเรานัดไว้นะ เราเป็นคนเลือกจุดนัดพบเพราะเรามีธุระที่นั่นด้วย ซึ่งอาจจะให้เจช่วยได้ในเรื่องภาษา (555 แต่พอถึงเวลาเจกลับงงกว่าเราอีก สรุปเราจัดการเอง)
~~ด้วยความกระวนกระวาย เราก็งงๆคิดว่าขึ้นรถไฟผิด ก็เลยรีบลงสถานีถัดไป ไปยืนงงในสถานีรถไฟฟ้าต่อ แล้วถามคนแถวนั้นว่าถ้าจะไปจุดนี้ไปยังไง เราได้ส่งข้อความบอกเจว่า เราขึ้นรถไฟผิดขอโทษด้วยที่เราอาจจะไปสาย ซึ่งเจบอกเราว่าไม่ต้องรีบเพราะไม่ใช่ประเทศของคุณผมรอคุณได้ไม่มีปัญหา แต่เรากลับยิ่งรน พอเจอรถไฟขึ้นไปใหม่ จริงๆแล้วเราก็ขึ้นถูกฝั่งแล้วแหละ แต่เราสับสนเอง 5555555ก็มันรนนี่นา ไม่ชอบไปไหนสาย โดยเฉพาะครั้งนี้ คือการไปเดทกันครั้งแรกของเราและเจ
~~มาถึงจุดนัดพบคนมหาศาลมากค่ะ ที่จะออกจากสถานีรถไฟ (จริงๆในรถไฟก็คนแน่นมากค่ะ 555) เราก็ออกจากสถานีรถไฟใต้ดินด้วยอาการงงๆ เราจะนัดพบเขาตรงไหนดี สายตาก็มองไปเห็น Shop ZARA ก็เลยกำลังจะพิมพ์ว่ารอหน้า ZARA นะ ยังพิมพ์ไม่ทันจบรู้สึกว่ามีมือใครไม่รู้มาจับบ่าสองข้างจากด้านหลัง เราตกใจมาก หัวใจอยู่ที่ตาตุ่ม เราเงยหน้าไปมองคนแปลกหน้านั้น แล้วโล่งอกที่คนตรงหน้าคือคนที่เคยเห็นผ่านในรูป และเคยวีดีโอคอลคุยกัน 1 ครั้ง ผู้ชายตรงหน้าสูงมากๆ ทั้งที่เราเองก็เป็นคนสูงนะ (เราสูง 173 เจสูง 183) ปกติชายไทยนี่ส่วนใหญ่จะเตี้ยกว่าเราด้วยซ้ำ
~~ หัวใจเรายังคงเต้นแรงนะ กับคนที่อยู่ตรงหน้า คนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกัน คนที่เราคอยคิดถึงและรอข้อความเขาเสมอ คนที่เราเคยร้องไห้ให้เขาฟังแล้วพอได้เพียงข้อความสั้นๆจากเขาว่าผมเป็นกำลังใจให้คุณและเคียงข้างคุณนะ ก็ทำให้เรายิ้มได้ ผู้ชายคนที่เราได้เพียงแค่ขอให้มีเขาในใจก็พอ ไม่ต้องมีสถานะใดๆ ขอได้แค่เป็นเพื่อนกันเราก็ดีใจแล้ว.... ผู้ชายคนนี้ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเราแล้ว
~~ พอได้เจอกัน รอยยิ้มคนตรงหน้าจริงใจและน่ารักกว่าที่คิดไว้ ผู้ชายตรงหน้าเปลี่ยนจากตบบ่า เพราะเห็นว่าเราตกใจมาเป็นตบหลังเบาๆว่าขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ เขาจ้องหน้าเราแล้วบอกว่า คุณสูงมากๆ (555 ถึงเจจะสูง แต่ก็คงไม่คุ้นเคยกับผู้หญิงสูงๆสินะ) และคุณน่ารักกว่าในรูปนะ ผมเลยรู้สึกแก่ไปเลย (เรากับเจอายุเท่ากัน) ..เจนี่ปากหวานจริงๆ ชักเขินหนักขึ้น ณ ขณะนี้หัวใจแทบหลุดออกมาแล้ว
~~เจจูงมือเราไปทำธุระตามที่เราต้องการ และเราก็ไปห้างสรรพสินค้าตามที่เราเลือกไว้ .... เจเป็นคนอบอุ่นมากๆ จนรู้สึกว่าเราเหมือนเจ้าหญิงมากๆในวันนั้น
(กระทู้ชักยาว ขอต่อในคอมเมนต์นะคะ)