คำถามนี้เป็นคำถามที่4ในเดือนมกรานี้
เช้าตื่นมายาสีฟันหมด เดินไปซื้อยาสีฟันหน้าปากซอย
วันต่อมาตื่นมาสบู่หมด เดินไปซื้อสบู่หน้าปากซอย
และของใช้ส่วนตัวก็เริ่มหมดไปเรื่อย และก็ไปซื้อซ้ำที่หน้าปากซอยเหมือนเดิม
จนกระทั่งวันนึง มีคนมาชวนเปลี่ยนที่ซื้อสินค้าและบอกว่าซื้อแล้วมีเงินคืน
เราก็เชื่อเค้าแล้วไปซื้อสินค้าจากร้านนั้น ผ่านมาเดือนนึงไม่เห็นคืนเลย
เราไปถาม...เค้าบอกว่า ใช้แล้วเป็นไงบ้าง ดีหรือเปล่า อย่าเล่าให้ใครฟัง แค่นั้นแหละ
เราไปบอกคนข้างๆว่า ลองดมกลิ่นว่าชอบมั้ย เขาถามซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่ ซื้อมาให้บ้างซิ
แล้วเราก็ไปซื้อมาให้ ต่อมาเค้าใช้แล้วดี เค้าสั่งต่อแต่สั่งเพิ่มเราสงสัยเลยถามไปว่า
ทำไมซื้อเยอะจัง เค้าบอกไม่ได้ใช่เองหรอกพอดีมีคนฝากซื้อน่ะ
เดือนนั้นผ่านไป ปรากกฎว่ามีเงินโอนเข้าบัญชี เราจึงไปถามว่า ทำไมมีเงินเข้าอะ
เค้าจึงเล่าแผนให้เราฟัง เราจึงเข้าใจว่าเดือนที่แล้วทำไมได้เงินคืน เดือนนี้ทำไมได้
แล้วเราก็พาเค้าไปเล่าให้คนที่ซื้อจากเราไปเหมือนกัน สุดท้ายเราก็เริ่มมีองค์กร
เริ่มมีรายได้เสริม เริ่มเติบโต และเข้าใจว่า แค่เปลี่ยนที่ซื้อสินค้า
ที่เราซื้อใช้ประจำอยู่แล้ว สามารถสร้างธุรกิจได้ (ก็มีทั้งคนซื้อและไม่ซื้ออะนะ)
เราจึงเข้าใจได้ว่า รายได้เกิดจากการซื้อสินค้าใช้แล้วประทับใจแล้วบอกต่อ
บวกกับการใช้หมดและซื้อใหม่ เดือนต่อมาเงินเข้าบัญชีเราแต่ไม่เยอะ
เราไปถาม...เค้าบอกว่า ใครทำมากก็ได้มาก ลงไปดูคนที่เราชวนมา ปรากฎว่าเค้าได้มากกว่า
เราจึงเข้าใจได้ว่า แบบนี้ไม่ใช่ลูกโซ่ ไม่ใช่ระบบพีระมิด มาก่อนมาหลังไม่สำคัญใครทำใครได้
น่าสนใจดี ไม่เปลืองตังค์ด้วย แถมยังใช้ดีใช้นาน และมีเงินคืนแบบนี้ก็โอเคนะ
แล้วเราก็ไปซื้อมือถือมา ซื้อตั้งหลายตังค์ไม่เห็นมีเงินคืนมาเลย (มีแต่เงินทอน)
เดินเข้าสะดวกซื้อ ซื้อโน่นซื้อนี่ ได้มาแต่แสตม สิ้นเดือนไม่มีเงินคืนเลย
สุดท้าย เริ่มเข้าใจแล้วว่าเราอยู่ตรงไหน ของห่วงโซ่
พอเราเล่าสิ่งนี้ให้ใครฟัง ก็บอกว่าเราบ้ามีที่ไหนซื้อของแล้วคืนเงิน
ลืมบอกไปว่าไม่ได้คืนมาในรูปแบบราคาซื้อขาย แต่คืนมาในรูปแบบส่วนต่างยอดขาย
หรือเรียกว่า โบนัส ค่ะ คล้ายๆกับเป็นพนักงานในบริษัท ที่บริษัทขายได้ดี และหัก%โบนัสจ่ายให้
กับลูกจ้างอะค่ะ ต่างแค่ที่ว่า ไม่ใช่ยอดขายบริษัทแต่เป็ยอดซื้อจากเราและองค์กร
เมื่อถึงระดับนึงเค้าก็คิด%โบนัสคืนกลับมาให้เราในรูปแบบรายเดือน
เดือนไหนไม่ถึงก็ไม่คืน แต่เราก็ไม่เสียหายอะไร เพราะซื้อแต่ของที่จำเป็นอย่างเดียว
ไม่ซื้อยอด ไม่สต๊อกของ โอเคนะ จบล่ะ คิดยังไงก็แล้วแต่แต่ละคนนะคะ
เราเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนคนเปลี่ยนใครไม่ได้แต่เปลี่ยนตังเองได้มั้ย
เช้าตื่นมายาสีฟันหมด เดินไปซื้อยาสีฟันหน้าปากซอย
วันต่อมาตื่นมาสบู่หมด เดินไปซื้อสบู่หน้าปากซอย
และของใช้ส่วนตัวก็เริ่มหมดไปเรื่อย และก็ไปซื้อซ้ำที่หน้าปากซอยเหมือนเดิม
จนกระทั่งวันนึง มีคนมาชวนเปลี่ยนที่ซื้อสินค้าและบอกว่าซื้อแล้วมีเงินคืน
เราก็เชื่อเค้าแล้วไปซื้อสินค้าจากร้านนั้น ผ่านมาเดือนนึงไม่เห็นคืนเลย
เราไปถาม...เค้าบอกว่า ใช้แล้วเป็นไงบ้าง ดีหรือเปล่า อย่าเล่าให้ใครฟัง แค่นั้นแหละ
เราไปบอกคนข้างๆว่า ลองดมกลิ่นว่าชอบมั้ย เขาถามซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่ ซื้อมาให้บ้างซิ
แล้วเราก็ไปซื้อมาให้ ต่อมาเค้าใช้แล้วดี เค้าสั่งต่อแต่สั่งเพิ่มเราสงสัยเลยถามไปว่า
ทำไมซื้อเยอะจัง เค้าบอกไม่ได้ใช่เองหรอกพอดีมีคนฝากซื้อน่ะ
เดือนนั้นผ่านไป ปรากกฎว่ามีเงินโอนเข้าบัญชี เราจึงไปถามว่า ทำไมมีเงินเข้าอะ
เค้าจึงเล่าแผนให้เราฟัง เราจึงเข้าใจว่าเดือนที่แล้วทำไมได้เงินคืน เดือนนี้ทำไมได้
แล้วเราก็พาเค้าไปเล่าให้คนที่ซื้อจากเราไปเหมือนกัน สุดท้ายเราก็เริ่มมีองค์กร
เริ่มมีรายได้เสริม เริ่มเติบโต และเข้าใจว่า แค่เปลี่ยนที่ซื้อสินค้า
ที่เราซื้อใช้ประจำอยู่แล้ว สามารถสร้างธุรกิจได้ (ก็มีทั้งคนซื้อและไม่ซื้ออะนะ)
เราจึงเข้าใจได้ว่า รายได้เกิดจากการซื้อสินค้าใช้แล้วประทับใจแล้วบอกต่อ
บวกกับการใช้หมดและซื้อใหม่ เดือนต่อมาเงินเข้าบัญชีเราแต่ไม่เยอะ
เราไปถาม...เค้าบอกว่า ใครทำมากก็ได้มาก ลงไปดูคนที่เราชวนมา ปรากฎว่าเค้าได้มากกว่า
เราจึงเข้าใจได้ว่า แบบนี้ไม่ใช่ลูกโซ่ ไม่ใช่ระบบพีระมิด มาก่อนมาหลังไม่สำคัญใครทำใครได้
น่าสนใจดี ไม่เปลืองตังค์ด้วย แถมยังใช้ดีใช้นาน และมีเงินคืนแบบนี้ก็โอเคนะ
แล้วเราก็ไปซื้อมือถือมา ซื้อตั้งหลายตังค์ไม่เห็นมีเงินคืนมาเลย (มีแต่เงินทอน)
เดินเข้าสะดวกซื้อ ซื้อโน่นซื้อนี่ ได้มาแต่แสตม สิ้นเดือนไม่มีเงินคืนเลย
สุดท้าย เริ่มเข้าใจแล้วว่าเราอยู่ตรงไหน ของห่วงโซ่
พอเราเล่าสิ่งนี้ให้ใครฟัง ก็บอกว่าเราบ้ามีที่ไหนซื้อของแล้วคืนเงิน
ลืมบอกไปว่าไม่ได้คืนมาในรูปแบบราคาซื้อขาย แต่คืนมาในรูปแบบส่วนต่างยอดขาย
หรือเรียกว่า โบนัส ค่ะ คล้ายๆกับเป็นพนักงานในบริษัท ที่บริษัทขายได้ดี และหัก%โบนัสจ่ายให้
กับลูกจ้างอะค่ะ ต่างแค่ที่ว่า ไม่ใช่ยอดขายบริษัทแต่เป็ยอดซื้อจากเราและองค์กร
เมื่อถึงระดับนึงเค้าก็คิด%โบนัสคืนกลับมาให้เราในรูปแบบรายเดือน
เดือนไหนไม่ถึงก็ไม่คืน แต่เราก็ไม่เสียหายอะไร เพราะซื้อแต่ของที่จำเป็นอย่างเดียว
ไม่ซื้อยอด ไม่สต๊อกของ โอเคนะ จบล่ะ คิดยังไงก็แล้วแต่แต่ละคนนะคะ