ประสบการณ์หลอนๆกับเกาะที่ห่างไกล

กระทู้คำถาม
สวัสดีคับสำหรับผู้อ่านทุกๆท่านเลยก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากประการณ์จริงของผมและกลุ่มของผมที่ไปออกทริปด้วยกัน ผ่านมาได้2ปีแล้วคับเข้าเรื่อเลยล้ะกัน พวกผมเรียนอยู่มหาลัยดังย่านบางแสน ช่วงนั้นเป็นช่วงเรียนซัมเมอร์ใกล้จะจบภาคฤดูร้อนเลยชวนกันมานั่งกินนมปั่นที่ร้านแถวๆม. ภายในกลุ่มก็มีผมและเพื่อนอีกรุ่นเดียวกัน2คน สมมุติว่าชื่อ เอกับบี และรุ่นพี่ผู้ชายอีก3คน สมมุติว่าชื่อซี ดี อี คือพวกเราเคยออกค่ายด้วยกันเลยสนิทกัน ก็มานั่งกินนมปั่น จนคุยกันเรื่องสถานที่น่าเที่ยวที่สวยๆ ไม่รู้อะไรดลใจผมเลยพูดขึ้นไปว่า ไปเที่ยวเกาะ....กันไหม ทะเลสวยน้ำใส แถมบรรยากาศส่วนตัว คือเกาะนี้ตั้งอยู่ทางที่ตะวันออก ออกไปทางตราด ซึ่งตอนเด็กๆเคยมีโอกาสได้ไปแล้วประทับใจ ผมก็เล่าให้กับพี่ๆกับเพื่อนๆในกลุ่มฝั่งทุกคนดูสนใจแล้วก็ไม่รอช้า เสิทเนตหาข้อมูลกันเลย แล้วก็ได้จ้อสรุปวันเวลาคืออีกสามวันข้างหน้าซึ่งเป็นวันศุกร์ ที่พวกเราต้องรีบไปเพราะว่าถ้าหลังจากนี้จะเป็นช่วงมรสุมน่ะคับ เกาะจะปิดเรือส่วนใหญ่จะไม่ค่อยวิ่งเข้ามาในข้อมูลบอกว่าเป็นล่องมรสุมผ่าน พวกเราก้จัดแจงจองที่พักเรียบร้อย เมื่อถึงวัดนัดหมายพวกเราก็แบ้คแพคกระเป๋าไปกันโดยมาขึ้นรถตู้ที่ข้าง ม. เพื่อเดินทางไปยังตราดใช้เวลาเดินทางประมาน3-4ชั่วโมง เมื่อมาถึงท่าเรือ พี่ซีก่เดินไปรับตั๋วโดยสารส่วนที่เหลือก็นั่งรอกันไป สักพักเรือสปีดโบ๊ทมาจอดเทียบท่าพวกเราก้จัดเตรียมสัมภาระเดินออกไปยังท่าเรือและก้าวขึ้นเรืออย่างไม่รอช้า คือสภาพแวดล้อมตอนนั้นดีมากครับ อากาศดีทะเลสวย แต่ใครจะคิดล้ะครับว่ามีบางสิ่งบางอย่างรอพวกผมอยู่ข้างหน้าบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้พวกผมถึงกับต้องใจเต้นระรัวขนลุกแบบไม่เคยเจอมาก่อน นั่งเรือได้ประมานเกือบ2ชม พวกผมเห็นชายหาดของเกาะเล็กๆอยู่ริบๆ พลางดีใจพี่ซีแกจะเป็นคนห้าวๆหน่อย เปรียบเหมือนหัวหน้ากลุ่มเลย แกก้แซวพวกผม "เห้ย มาย้อนวันวานวัยเด็กของเอ็งเลยนะเนี่ย" พวกผมก้หัวเราะกัน ตอนนั้นเป็นเวลาบ่ายๆค่อนเย็น เรือมาถึงที่เทียบท่าเป็นสะพานไม้ยาวๆๆยื่นออกมาจากฝั่ง มีเหมือนประภาคารอยู่กลางสะพาน บรรยากาศแบบวินเทจสุดๆ เกาะเป็นเกาะเล็กๆปกคลุมไปด้วยป่ากับต้นมะพร้าวซะส่วนใหญ่เมื่อเดินมาถึงฝั่งมัพนักงานต้อนรับมาเซิร์พน้ำให้เรา เค้าก้บอกว่ารอสักครู่นะค้ะเด้วจะมีพนักงานพาไปที่พัก พี่ซีกับดีขอแยกไปถ่ายรูปก่อนฝากสัมภาระไว้ที่พวกผม ผ่านไปครู่เดียวก้มีพนักงานชายวัย40ผิวดำๆ เดินพาพวกไปยังที่พัก คือเดินไกลพอสมควรจากตรงศูนย์บริการ พงกผมก่เริ่มมองหน้ากันจนลุงมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งห่างไกลจากหลังอื่นมากแต่มีบ้านพักหลังอื่นอยู่ถัดออกไปพอสมควร ลุงไขกุญแจให้แล้วยื่นให้กับพี่อี พี่อีพูดเล่นๆกับลุงคนนั้นว่า "ทำไมไกลจังอ่ะคับลุง มีไรรึเปล่าเนี่ย" ลุงก้ยิ้มแห้งๆ แล้วบอกพวกเราว่า "ไม่มีอะไรหรอกครับคุณ ถ้ามีอะไรก้ไปเรียกผมได้นะบ้านผมอยู่หลังเกาะ ลุงก้ชี้ทางเดินเล็กๆที่ถัดไปจากบ้านพักของผมเป็นทางที่เดินขึ้นเขา พี่อีกำลังจะเปิดเข้าห้อง ผมจึงรีบบอก "เดี๋ยวคับพี่ เคาะห้องบอกเจ้าของเค้าก่อนไหม" ผมเรยถูกสอนมาให้ทำแบบนี้เวลาไปพักที่ไม่ใช่ที่ของตัวเอง แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลลืมบอกคัยบ้านที่พวกเราเป็นบ้านไม้เก่าๆ จัดว่าเก่าเลยคับ เมื่อเปิดเข้าไปมีแต่ฝุ่นคับ เหมือนไม่ค่อยมีคันมาดูแลทำความสะอาดเท่าไหร่ พงกผมเข้าไปก้สำรวจกันอยู่พักนึง จนพี่อีบ่นขึ้นว่า ทำไมไอ้ซีมันไม่เลือกบ้านดีๆกว่านี้ว้ะเลือกซะเก่ายิ้มเลย พวกผมก้ยิ้มเบาๆแต่ก่ไม่ใส่ใจอะไรจนเพื่อนผมไอ้เอมันถามว่า "รู้สึกอะไรรึเปล่าว้ะ"คือผมเป็นคนมีเซ้นนอดหน่อยอะคับแล้วก่พอรู้วิชาบ้างนอดหน่อย ผมก็บอก "ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรนะ" ทุกคนดูสบายใจขึ้นมาทันทีก้จัดที่นอนเสร็จพี่ซีกับพี่ดีก้เดินแบกกล้องกลับเข้ามายังบ้านพัก พวกผมก้เปลี่ยนเสื้อผ้าไปเล่นทะเลจนเย็นก็ขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเสร็จก็ทานอาหารเย็นเรียบร้อย แล้วพวกเราก้สังสรรค์ตรงขายหาดหน้าบ้านพักตามประสาวัยรุ่นมีกีตาร์มีเหล้าเบียร์ พวกเราก็เสียงดังพอสมควรเพราะที่พักของเราจัดว่าแยกออกมาจากโซนอื่นเลย จนถึงดึกพี่ซีแกก็พูดขึ้นพร้ิมกับมองออกไปยังทะเล "เห้ยๆดึกจนาดนี้ยังมีผู้หญิงมาเล่นน้ำอีกหรอว้ะ"พวกผมก็มองพร้อมกัน คือทุกคนเห็นหมดนะคับว่าเปนผู้หญิงผมยาวใส่เสื้อสีขาวพี่ดีแกก็แซวกับพวกผม"ใส่สีขาวมาไม่กลัวซีทรูหรอว้ะ" "จะเห็นได้ไงพี่ดึกแล้ว"ไอ้บีมือกีตาร์มันก้แซวกลัยพร้อมกับเล่นเพลง เอวเธอออกจะเซ็กซี่ยามที่ อะไรนั่นแหละคับก้หัวเราะกัน สักพักผู้หญิงคนนั้นก้ทำท่าดำน้ำเสียงดังจ๋อม พวกผมก้มองพักใหญ่ๆเลย ผู้หญิงคนนั้นไม่โผล่ขึ้นมาหายใจ คือถ้าคนปกติต้องโผล่ขึ้นมาบ้าง พวกผมเห็นท่าไม่ดี พี่ซีก่ถอดเสื้อเลยหันมาบอกพวกผม "ไปช่วยเค้าเร็วเผื่อเค้าจมน้ำ!" พวกผมก้ตั้งท่าเตรียมจะลง พอดีสบจังหวะลุงคนเดิมแกเดินถือไฟฉายมาพอดี คงเดินมาตรวจความเรียบร้อย แกก็ตะโกนพร้อมกับฉายไฟมา "เห้ย!!หนุ่มจะลงกันอีกเรอะดึกขนาดนี้ พวกผมก่ตะโหนบอกลุง ช่วยด้วยลุงมีคนจมน้ำ ลุงก้เดินมาหาพวกผม เรียกว่าจ้ำมาหาเลยดีกว่า พวกผมตอนนั้นครึ่งขาอยุในทะเลแล้ว ลุงบอก"ขึ้นมาๆ เชื่อลุง ขึ้นมา"ลุงตะโกนพร้อมกับกวักไฟฉาย "มีคนจมน้ำนะลุง"ผมหันไปบอกลุงพร้อมกับชี้ไปยังจุดที่พวกเราเห็นผู้หญิงคนนั้นจมลงไป ลุงสบถกลับมาเสียงดัง "ถ้าไม่อยากตายก็รีบขึ้นมาจากน้ำ ลุงขอล้ะขึ้นมาเถอะ" พวกผมมองหน้ากันพากัน งง แต่ก้เดินขึ้นจากทะเล เมื่อพวกเดินขึ้นมา ลุงบอกกับพวกผมว่า "ไอ้หนุ่มเจออะไรห้ามทัก เจออะไรห้ามตาม ก่อนนอนก็สวดมนตร์ด้วยนะ" พี่อีถามขึ้นด้วยความสงสัย "ทำไมหรอคับลุง" ลุงตอบกลับทำตามที่ลุงบอกนะ จากท้องฟ้าที่ใสๆดาวระยิบระยับตอนนี้เริ่มมีเมฆทึบเข้ามาปกคลุมแทนที่เสรยงฟ้าเริ่มคำรามแผดร้องเป็นสัญญาณเตือนว่าพายุกำลังจะมา พวกผมรีบเก็บข้าวของเข้าบ้านพักทันที ผ่านไปไม่นานลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ พวกผมก็ตั้งวงเล่นไพ่พยายามไม่คิดถึงสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ จนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกะแทกกับหลังคา ดัง ปัง! ในใจก่คิดว่าคงเป็นพวกกิ่งไม้มั้ง เพราะข้างบ้านเราติดต้นไม้ แต่เหมือนผมรู้สึกแปลกๆ รู้สึกอึดอัด ผมจึงเปิดกระเป๋าหยิบสายคาดเอว เป็น ตะกรุดกับเบี้ยแก้ ซึ่งย่าให้ติดตัวมานานแล้ว ผมยกขึ้นสวดนิดหน่อยแล้วก้ไปแขวนไว้หน้าประตูด้านในห้องนะคับ ไม่ใช่ด้านนอก จนพี่กับเพื่อนหันมาถาม เอ็งทำไรว้ะ ผมก็ตอบกลับไปเพื่อความอุ่นใจน่ะพี่ กลุ่มผมก้พยักหน้ารับประมานว่าเห็นด้วยเล่นกันไปได้พักใหญ่ๆ มีเสียงเหมือนคนเดินอยู่ในน้ำทะเล ผมก้พยายามฟังว่าอาจจะเป็นเสียงคลื่นรึเปล่า แต่ฟังเท่าไหร่ก้ไม่ใช่ เสียงเหมือนเดินขึ้นมาทางหาดหน้าบ้านผม ผมสะกิดไอ้บีที่นั่งติดกับผมให้ฟังว่าได้ยินไหม มันก่บอกได้ยินมาพักนึงแล้ว ผมก้บอก "เอองั้นเงียบๆไว้ก่อนเด้วคนอื่นตกใจ"เวลาล่วงเลยมาจนถึงตี2กว่า
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่