เห็นมีกระทู้บอกว่าซื้อ CPF ตอน 30 บาท ไปคัทที่ 21.xx บาท แล้วมันเด้งไปปิด 22.50 บาท.. ก็เลยอยากจะมาแนะนำนิดหน่อยครับ (เอาไป apply สำหรับหุ้นตัวอื่นด้วยก็ได้)
ซื้อ CPF 30 บาท ไปคัทที่ 21.xx บาท คิดว่าคนคัทน่าจะใช้เวลาตัดสินใจ ไตรตรองมาอย่างดีแล้วจึงคัท ดังนั้น ถึงมันเด้งมาก็ไม่ต้องไปเสียใจในอดีตครับ เอาเงินที่ได้จากการขาย ไปหาจังหวะซื้อหุ้นตัวใหม่ หรือหุ้นตัวเดิมก็ได้ โดยซื้อเมื่อมีสัญญาณให้ซื้อ
แล้วก็ใช้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ว่า
1. ถ้าหากคุณเป็นพวกเก็งกำไร ถ้าหุ้นลงจนเกิดสัญญาณขาย ก็ต้องขาย จะขายครึ่งนึง หรือขายทั้งหมด ก็แล้วแต่แผนที่วางไว้ ถ้าหากเก็งกำไรแบบไม่มีวินัย เกิดสัญญาณขายแล้วไม่ขาย บอกจะเป็น VI นั่นแหละ คุณเป็นแค่เม่าครับ
2. ถ้าหากคุณเป็นนักลงทุน VI คุณจะต้องมองแนวโน้มกิจการ ว่ากิจการยังจะเติบโตไหม.. แล้วก็คาดการณ์ "ราคาพื้นฐาน" ของหุ้นตัวที่จะลงทุนออกมาให้ได้ ซึ่งข้อนี้สำคัญ ถ้าหากคุณยังบอก "ราคาพื้นฐาน" ไม่ได้ คุณจะบอกว่าคุณเป็น VI ไม่ได้ (ซึ่งจุดนี้ นักลงทุนหน้าใหม่หลายๆ คนคิดแต่ว่า VI คือ ถือทน ถือยาว ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่) ที่ต้องบอกราคาพื้นฐานให้ได้ก่อนซื้อ เพราะคุณจะได้รู้ไงว่า ถ้าราคาขึ้น คุณจะทำยังไง ถ้าราคาลงคุณจะทำยังไง
เช่น คุณคาดการณ์ว่า CPF น่าจะมีราคาพื้นฐานที่ 40 บาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า
ถ้าราคาร่วงจาก 30 บาท ไป 21 บาท (โดยที่คุณคิดว่าพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง) คุณยิ่งต้องหาเงินมาซื้อเพิ่ม ไม่ใช่คัท..
ดังนั้น จะเล่นหุ้นแนวไหน ก็ต้องถามตัวเองให้ดี คนที่วิเคราะห์กิจการแม่นก้เลือก VI ไป คนที่วิเคราะห์แนวโน้มแม่น ก็เลือกเก็งกำไรไป ไม่ใช่เอามาผสมมั่ว แบบว่า ตอนซื้อซื้อแบบเก็งกำไร แต่ตอนติดดอยบอกลงทุนแบบ VI "ไม่ขายไม่ขาดทุน" นั่นไม่ใช่
ถ้าถามว่า ติดหุ้นตรงนี้ ตอนนี้มันหล่นเหลือเท่านี้ ขาดทุนไป 20% แล้วคัทจะถูกต้องไหม
ใน คห.ผม มันก็ไม่ถูกต้อง เพราะถ้า cut loss มันต้อง cut ตั้งแต่นานแล้ว
แต่ถ้าปล่อยมานานขนาดนี้ การ cut ก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก ถ้าหากมันยังขาลงอยู่
ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับ ว่าจุดที่คุณคัท มันเป็นก้นเหว หรือว่าเชิงดอย
ถ้าใครเคยติดตามคุณปลานิลจิ๋ว เคยสอนว่า.. ไม่มีหรอกคำว่า "เลยจัดคัทไปแล้ว"
ถ้าจะคัทก็คัทได้เลย หุ้นราคา 10 บาท คัทที่ 5 บาท ขาดทุนไป 50% ก็คัทได้ เพราะถ้าวันข้างหน้า มันหล่นไปเหลือ 3 บาทล่ะ หล่นไปเหลือ 50 สตางค์ล่ะ เท่ากับการคัทครั้งนั้น ทำให้คุณรอดตายเลยนะครับ แต่ถ้าคุณคัทที่ 5 บาท แล้วมันกลับตัว คุณก็แค่ไล่ซื้อกลับก็เท่านั้นเอง
เออ อีกอย่าง อย่าไปฟังเสียงคนอื่นมาก เช่น พวกที่บอกว่า "ตอน XXX ทำไมไม่ซื้อ"
ถ้าพวกนั้นตอบคำถาม "แล้วทำไมคิดว่าจุดนั้นเป็นจุดซื้อล่ะ" ไม่ได้ หรือได้ไม่ชัดเจน หรือใช้มโนเอา แสดงว่าพวกนั้นแค่เซียนหลังเกมส์ครับ เกมส์เฉลยแล้วค่อยเซียน ไม่มีค่าที่เอา คห.มาใส่ใจครับ
พวกที่ซื้อตรง bottom (ก้นเหว) หรือขายตรง peak (จุดยอด) ได้ มีอยู่ 2 ประเภท
1. เป็นจ้าวเอง
2. พวกฟลุ๊ค
เห็นมีกระทู้บอกว่าคัท CPF ที่ 21.xx บาท แล้วมันเด้งไปปิด 22.50 บาท..
ซื้อ CPF 30 บาท ไปคัทที่ 21.xx บาท คิดว่าคนคัทน่าจะใช้เวลาตัดสินใจ ไตรตรองมาอย่างดีแล้วจึงคัท ดังนั้น ถึงมันเด้งมาก็ไม่ต้องไปเสียใจในอดีตครับ เอาเงินที่ได้จากการขาย ไปหาจังหวะซื้อหุ้นตัวใหม่ หรือหุ้นตัวเดิมก็ได้ โดยซื้อเมื่อมีสัญญาณให้ซื้อ
แล้วก็ใช้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ว่า
1. ถ้าหากคุณเป็นพวกเก็งกำไร ถ้าหุ้นลงจนเกิดสัญญาณขาย ก็ต้องขาย จะขายครึ่งนึง หรือขายทั้งหมด ก็แล้วแต่แผนที่วางไว้ ถ้าหากเก็งกำไรแบบไม่มีวินัย เกิดสัญญาณขายแล้วไม่ขาย บอกจะเป็น VI นั่นแหละ คุณเป็นแค่เม่าครับ
2. ถ้าหากคุณเป็นนักลงทุน VI คุณจะต้องมองแนวโน้มกิจการ ว่ากิจการยังจะเติบโตไหม.. แล้วก็คาดการณ์ "ราคาพื้นฐาน" ของหุ้นตัวที่จะลงทุนออกมาให้ได้ ซึ่งข้อนี้สำคัญ ถ้าหากคุณยังบอก "ราคาพื้นฐาน" ไม่ได้ คุณจะบอกว่าคุณเป็น VI ไม่ได้ (ซึ่งจุดนี้ นักลงทุนหน้าใหม่หลายๆ คนคิดแต่ว่า VI คือ ถือทน ถือยาว ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่) ที่ต้องบอกราคาพื้นฐานให้ได้ก่อนซื้อ เพราะคุณจะได้รู้ไงว่า ถ้าราคาขึ้น คุณจะทำยังไง ถ้าราคาลงคุณจะทำยังไง
เช่น คุณคาดการณ์ว่า CPF น่าจะมีราคาพื้นฐานที่ 40 บาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า
ถ้าราคาร่วงจาก 30 บาท ไป 21 บาท (โดยที่คุณคิดว่าพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง) คุณยิ่งต้องหาเงินมาซื้อเพิ่ม ไม่ใช่คัท..
ดังนั้น จะเล่นหุ้นแนวไหน ก็ต้องถามตัวเองให้ดี คนที่วิเคราะห์กิจการแม่นก้เลือก VI ไป คนที่วิเคราะห์แนวโน้มแม่น ก็เลือกเก็งกำไรไป ไม่ใช่เอามาผสมมั่ว แบบว่า ตอนซื้อซื้อแบบเก็งกำไร แต่ตอนติดดอยบอกลงทุนแบบ VI "ไม่ขายไม่ขาดทุน" นั่นไม่ใช่
ถ้าถามว่า ติดหุ้นตรงนี้ ตอนนี้มันหล่นเหลือเท่านี้ ขาดทุนไป 20% แล้วคัทจะถูกต้องไหม
ใน คห.ผม มันก็ไม่ถูกต้อง เพราะถ้า cut loss มันต้อง cut ตั้งแต่นานแล้ว
แต่ถ้าปล่อยมานานขนาดนี้ การ cut ก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก ถ้าหากมันยังขาลงอยู่
ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกครับ ว่าจุดที่คุณคัท มันเป็นก้นเหว หรือว่าเชิงดอย
ถ้าใครเคยติดตามคุณปลานิลจิ๋ว เคยสอนว่า.. ไม่มีหรอกคำว่า "เลยจัดคัทไปแล้ว"
ถ้าจะคัทก็คัทได้เลย หุ้นราคา 10 บาท คัทที่ 5 บาท ขาดทุนไป 50% ก็คัทได้ เพราะถ้าวันข้างหน้า มันหล่นไปเหลือ 3 บาทล่ะ หล่นไปเหลือ 50 สตางค์ล่ะ เท่ากับการคัทครั้งนั้น ทำให้คุณรอดตายเลยนะครับ แต่ถ้าคุณคัทที่ 5 บาท แล้วมันกลับตัว คุณก็แค่ไล่ซื้อกลับก็เท่านั้นเอง
เออ อีกอย่าง อย่าไปฟังเสียงคนอื่นมาก เช่น พวกที่บอกว่า "ตอน XXX ทำไมไม่ซื้อ"
ถ้าพวกนั้นตอบคำถาม "แล้วทำไมคิดว่าจุดนั้นเป็นจุดซื้อล่ะ" ไม่ได้ หรือได้ไม่ชัดเจน หรือใช้มโนเอา แสดงว่าพวกนั้นแค่เซียนหลังเกมส์ครับ เกมส์เฉลยแล้วค่อยเซียน ไม่มีค่าที่เอา คห.มาใส่ใจครับ
พวกที่ซื้อตรง bottom (ก้นเหว) หรือขายตรง peak (จุดยอด) ได้ มีอยู่ 2 ประเภท
1. เป็นจ้าวเอง
2. พวกฟลุ๊ค