นั่งคิดอยู่หลายวันว่าจะตั้งกระทู้ดีไหมนะ
เพราะลึกๆอยากระบายมากกว่า แต่ก็ไม่รู้จะไประบายกับใครได้กับปัญหาแบบนี้
พอดีเมื่อเย็นแฟนโทรมาถามซ้ำอีก เลยตั้งกระทู้ ( ระบาย+บ่น ) ดีกว่า
เข้าเรื่องเลยนะครับ
---------
เมื่อ 9 ปีก่อนผมคุยกับพี่คนหนึ่ง คุยไปคุยมาเราก็เป็นแฟนกันครับ
เราก็อยู่กันมามีความสุขกันดี เข้ากันได้กับทุกเรื่องครับ ยกเว้นเรื่องทำการบ้านของผม
ด้วยความที่ว่าผมค่อนข้างขยันทำการบ้านสุดๆ แต่พี่เค้าไม่ค่อยอะไรเรื่องพวกนี้ครับ
พี่เค้าค่อนข้างเข้าใจเลยบอกให้มีบ้านน้อยเพิ่มได้โดยมีเงื่อนไขว่า "ต้องพามารู้จัก"
ตอนแรกผมคิดว่าพูดเล่น แต่พี่เค้าบอกว่าเค้าจริงจัง เพราะเค้าบกพร่องเรื่องนี้
และเค้าไม่แฮปปี้ถ้าวันหนึ่งข้อบกพร่องของเค้าอาจจะทำให้ผมแอบกินของนอกบ้าน
ตอนแรกผมก็ไม่อะไรนะ แต่ว่าจากนั้นไม่นานก็มีคนเข้ามาครับ
ผมก็บอกน้องเค้าไปหมดไม่ได้ปิดบังอะไรว่า "ผมมีแฟนแล้วนะ ถ้ารับได้แล้วคิดจะคบกันจริงๆ คงต้องพาไปเจอกันก่อน"
คนที่เข้ามาคนนี้ตอนนั้นเค้าอยู่ ปี1 ครับ ตอนพาไปเจอกันแรกๆผมก็ตุ่มๆต่อมๆ แต่อาศัยว่าหยอดดูท่าทีไปเยอะไม่น่าจะมีอะไร
พอเค้าได้เจอกันปรากฏว่าเข้ากันได้ดีครับ บอกตรงๆว่าโล่งเลย
ดูลาดเลาอย่างห่วงๆอยู่ 3 - 4 เดือนก็เห็นไปมาหาสู่กันดี
เห็นแชทกัน โทรคุยกัน มีนัดกันไปทานข้าว ไปดูหนัง วันดีคืนดีนั่งเล่นเกมด้วยกัน
ณ จุดนี้โคตรมีความสุขครับ จริงอยู่ถ้าพูดเรื่องศีลผิดเต็มประตู
แต่ผมกับแฟนมองว่าความรักเป็นเรื่องของคนที่คบกันครับ
จะ 2 จะ 3 ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข มันก็ไม่มีปัญหาอะไร
และมองกันตรงความจริงที่ว่า เรื่องกินของนอกบ้านมันห้ามกันยากถ้ามีใครสักคนบกพร่องจริงๆ ( เอาแบบไม่หลอกตัวเอง )
แล้วผมกับแฟนก็เคยคุยกันแล้วว่าจะไม่มีความลับ จะคบกันแบบเพื่อน คุยกันทุกเรื่อง
ซึ่งผมกับแฟนก็ทำตามที่คุยกันไว้จริงๆครับ เลยไม่มีปัญหาอะไร ไม่เคยทะเลาะกันตลอด 9 ปีมานี้
จะมีมากสุดก็แค่บ่นบ้างเล็กน้อยเวลาผมปรามเรื่องซื้อของ
อ่อ ลืมบอกไปแฟนผมเป็นผู้ชายนะ ทั้งคู่เลย
แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ตรงนี้ครับ
เนื่องจากผมเป็นลูกชายคนเดียวครับ
ที่บ้านค่อนข้างคาดหวังเรื่อง "หลาน"
อายุผมก็ชักจะไม่น้อยแล้ว ที่บ้านเลยถามเรื่องแต่งงานอยู่เนืองๆ
ล่าสุดแม่ก็มาง๊องแง๊งๆใส่เรื่องหลาน ผมเลยแซวติดตลกไปว่า "เดี๋ยวไปซื้อให้ที่คลองถม"
กระนั้นผมก็แอบมาเครียดนะครับ
เมื่อก่อนผมชอบ ญ ครับ
มีแฟนเป็น ญ ปรกติแบบผู้ชายทั่วไปนี่แหละ จนกระทั้งเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น
ทำให้ผมระแวงที่จะมีแฟนไปเลยช่วงหนึ่ง แล้วช่วงนั้นแหละที่ทำให้ผมเปลี่ยนสาย
แต่จะว่าเปลี่ยนเลยก็ไม่เชิงนะ ตอนนี้ผมยังชอบ ญ อยู่ จะกลับไปคบ ญ ก็ได้
ก็ตรงนี้แหละครับมันเลยทำให้ผมตั้งกฏกับตัวเองว่าจะไม่คบคร่อม ( คือ ไม่คบ ช ญ พร้อมกัน )
แฟนผมทั้งสองคนก็รู้เรื่องนี้นะ ผมก็บอกเรื่องกฏที่ผมตั้งไป พวกเค้าก็บอกว่า "ไม่ได้ว่าอะไร"
จนเมื่อค่ำ จู่ๆแฟนคนแรกผมโทรมาถามว่า "คิดจะแต่งงานหรือเปล่า"
ผมก็ตอบไปว่า "แต่งก็ได้ เห็นมีข่าวเพิ่งออกไป สังคมดูรับได้นะ"
พี่เค้าก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจังนิ๊ดๆว่า "หมายถึงแต่งงานกับผู้หญิงหน่ะ"
ผมอึ้งรับประทานไปแป๊บหนึ่ง ผมก็ถามกลับไปว่า "คิดไงถามเรื่องนี้"
พี่เค้าบอกโดยสรุปว่า "จะแต่งก็แต่งไม่ว่า ขอให้บอกล่วงหน้าหน่อย ทำใจไว้แล้วเรื่องนี้ว่าวันหนึ่งก็ต้องมาถึง"
ผมเคยเกริ่นๆกับพี่เค้าเรื่องอุ้มบุญด้วยซ้ำไป คือกะว่าจะไม่แต่งงานกับ ญ แล้ว อยู่กับพี่เค้าแล้วก็น้องเค้ายาวๆเลย
แล้วถ้ามีลูกจริงอยากได้พันธุกรรมจากพี่เค้าหรือน้องมากกว่า ( หน้าตาดี รูปร่างดี ฉลาดทั้งคู่ )
แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องพับไป แล้วพี่เค้าก็มาถามแบบนี้อีก ไหนจะที่บ้านกดดันอีก ผมทำยังไงดี ?
ไม่รู้ว่าผมพลาดหรือเปล่านะที่เผลอพูดเรื่องที่ที่บ้านถามเรื่องหลานออกไป
ถึงบรรทัดนี้ ทางออกที่ผมคิดไว้ก็มีไม่มากครับ
1. บอกที่บ้านตรงๆว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย
2. กลับไปใช้ชีวิตปรกติแบบผู้ชายทั่วไปควรทำ แต่งงาน มีลูก
3. หาผู้หญิงสักคนที่รับเรื่องนี้ได้ แล้วแหกกฏที่ตัวเองตั้งไว้ ( ข้อคงเป็นไปได้ยาก ถึงเป็นไปไม่ได้เลย )
มันก็ตลกดีที่ชีวิตผมเดินมาแบบนี้
เฮ้อ.....
ปล1. ถ้าถามว่าที่บ้านไม่ตะหงิดเหรอที่ไม่พาแฟนมาแนะนำที่บ้านเลยตลอด 9 ปี
คืออย่างที่บอกครับ ช่วงแรกผมคบ ญ ตอนนั้นพามาที่บ้านด้วย จนมีปัญหาที่บ้านก็รับรู้
แล้วการใช้ชีวิตผมก็แบบผู้ชายปรกติทั่วๆไปครับ
แต่เวลานี้ที่บ้านอาจแคลงใจก็ได้มั้งที่จู่ๆไม่มีพาสาวเข้าบ้านเลย
ปล2. หลายปีก่อนเคยคุยนะว่าถ้าพา ญ เข้ามาอีกคนจะเป็นไรไหม พี่เค้าบอกคิดดูก่อน
คือคิดหลายปีแล้วยังไม่ตอบเลย
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือจะมี ญ ที่ไหนรับเรื่องแบบได้
ปล3. ผมนึกไม่ออกเลยถ้าวันหนึ่งพี่เค้าต้องออกไปจากชีวิตผม ผมจะเป็นยังไงกับคนที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้
คือพูดกันตรงๆเลยนะ ผมไม่มีแผน หรือ ความคิดสำหรับตอนที่พี่เค้าออกจากชีวิตผมเลย
ส่วนตัวแล้วการ ได้เจอ ได้พบ ได้คบ พี่เค้าก็เหมือนกับถูกหวยรางวัลแจ๊กพอตไปแล้ว
แถมถูก 2 งวดด้วยกับการได้เจอคนดีๆ 2 คนนี้
แต่นั่นผมก็ต้องมองอีกว่าผมจะเตะถ่วงต่อไปยังไง หรือ แก้ไขปัญหากับที่บ้านยังไงอีก
ปล4. ถ้า Tag ผิดต้องขอโทษด้วยนะครับ
กลุ้มใจครับ ไม่รู้จะต้องทำยังไงดี อาจจะต้องเลิกกันแฟนที่คบกันมา 9 ปี
เพราะลึกๆอยากระบายมากกว่า แต่ก็ไม่รู้จะไประบายกับใครได้กับปัญหาแบบนี้
พอดีเมื่อเย็นแฟนโทรมาถามซ้ำอีก เลยตั้งกระทู้ ( ระบาย+บ่น ) ดีกว่า
เข้าเรื่องเลยนะครับ
---------
เมื่อ 9 ปีก่อนผมคุยกับพี่คนหนึ่ง คุยไปคุยมาเราก็เป็นแฟนกันครับ
เราก็อยู่กันมามีความสุขกันดี เข้ากันได้กับทุกเรื่องครับ ยกเว้นเรื่องทำการบ้านของผม
ด้วยความที่ว่าผมค่อนข้างขยันทำการบ้านสุดๆ แต่พี่เค้าไม่ค่อยอะไรเรื่องพวกนี้ครับ
พี่เค้าค่อนข้างเข้าใจเลยบอกให้มีบ้านน้อยเพิ่มได้โดยมีเงื่อนไขว่า "ต้องพามารู้จัก"
ตอนแรกผมคิดว่าพูดเล่น แต่พี่เค้าบอกว่าเค้าจริงจัง เพราะเค้าบกพร่องเรื่องนี้
และเค้าไม่แฮปปี้ถ้าวันหนึ่งข้อบกพร่องของเค้าอาจจะทำให้ผมแอบกินของนอกบ้าน
ตอนแรกผมก็ไม่อะไรนะ แต่ว่าจากนั้นไม่นานก็มีคนเข้ามาครับ
ผมก็บอกน้องเค้าไปหมดไม่ได้ปิดบังอะไรว่า "ผมมีแฟนแล้วนะ ถ้ารับได้แล้วคิดจะคบกันจริงๆ คงต้องพาไปเจอกันก่อน"
คนที่เข้ามาคนนี้ตอนนั้นเค้าอยู่ ปี1 ครับ ตอนพาไปเจอกันแรกๆผมก็ตุ่มๆต่อมๆ แต่อาศัยว่าหยอดดูท่าทีไปเยอะไม่น่าจะมีอะไร
พอเค้าได้เจอกันปรากฏว่าเข้ากันได้ดีครับ บอกตรงๆว่าโล่งเลย
ดูลาดเลาอย่างห่วงๆอยู่ 3 - 4 เดือนก็เห็นไปมาหาสู่กันดี
เห็นแชทกัน โทรคุยกัน มีนัดกันไปทานข้าว ไปดูหนัง วันดีคืนดีนั่งเล่นเกมด้วยกัน
ณ จุดนี้โคตรมีความสุขครับ จริงอยู่ถ้าพูดเรื่องศีลผิดเต็มประตู
แต่ผมกับแฟนมองว่าความรักเป็นเรื่องของคนที่คบกันครับ
จะ 2 จะ 3 ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข มันก็ไม่มีปัญหาอะไร
และมองกันตรงความจริงที่ว่า เรื่องกินของนอกบ้านมันห้ามกันยากถ้ามีใครสักคนบกพร่องจริงๆ ( เอาแบบไม่หลอกตัวเอง )
แล้วผมกับแฟนก็เคยคุยกันแล้วว่าจะไม่มีความลับ จะคบกันแบบเพื่อน คุยกันทุกเรื่อง
ซึ่งผมกับแฟนก็ทำตามที่คุยกันไว้จริงๆครับ เลยไม่มีปัญหาอะไร ไม่เคยทะเลาะกันตลอด 9 ปีมานี้
จะมีมากสุดก็แค่บ่นบ้างเล็กน้อยเวลาผมปรามเรื่องซื้อของ
อ่อ ลืมบอกไปแฟนผมเป็นผู้ชายนะ ทั้งคู่เลย
แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ตรงนี้ครับ
เนื่องจากผมเป็นลูกชายคนเดียวครับ
ที่บ้านค่อนข้างคาดหวังเรื่อง "หลาน"
อายุผมก็ชักจะไม่น้อยแล้ว ที่บ้านเลยถามเรื่องแต่งงานอยู่เนืองๆ
ล่าสุดแม่ก็มาง๊องแง๊งๆใส่เรื่องหลาน ผมเลยแซวติดตลกไปว่า "เดี๋ยวไปซื้อให้ที่คลองถม"
กระนั้นผมก็แอบมาเครียดนะครับ
เมื่อก่อนผมชอบ ญ ครับ
มีแฟนเป็น ญ ปรกติแบบผู้ชายทั่วไปนี่แหละ จนกระทั้งเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น
ทำให้ผมระแวงที่จะมีแฟนไปเลยช่วงหนึ่ง แล้วช่วงนั้นแหละที่ทำให้ผมเปลี่ยนสาย
แต่จะว่าเปลี่ยนเลยก็ไม่เชิงนะ ตอนนี้ผมยังชอบ ญ อยู่ จะกลับไปคบ ญ ก็ได้
ก็ตรงนี้แหละครับมันเลยทำให้ผมตั้งกฏกับตัวเองว่าจะไม่คบคร่อม ( คือ ไม่คบ ช ญ พร้อมกัน )
แฟนผมทั้งสองคนก็รู้เรื่องนี้นะ ผมก็บอกเรื่องกฏที่ผมตั้งไป พวกเค้าก็บอกว่า "ไม่ได้ว่าอะไร"
จนเมื่อค่ำ จู่ๆแฟนคนแรกผมโทรมาถามว่า "คิดจะแต่งงานหรือเปล่า"
ผมก็ตอบไปว่า "แต่งก็ได้ เห็นมีข่าวเพิ่งออกไป สังคมดูรับได้นะ"
พี่เค้าก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจังนิ๊ดๆว่า "หมายถึงแต่งงานกับผู้หญิงหน่ะ"
ผมอึ้งรับประทานไปแป๊บหนึ่ง ผมก็ถามกลับไปว่า "คิดไงถามเรื่องนี้"
พี่เค้าบอกโดยสรุปว่า "จะแต่งก็แต่งไม่ว่า ขอให้บอกล่วงหน้าหน่อย ทำใจไว้แล้วเรื่องนี้ว่าวันหนึ่งก็ต้องมาถึง"
ผมเคยเกริ่นๆกับพี่เค้าเรื่องอุ้มบุญด้วยซ้ำไป คือกะว่าจะไม่แต่งงานกับ ญ แล้ว อยู่กับพี่เค้าแล้วก็น้องเค้ายาวๆเลย
แล้วถ้ามีลูกจริงอยากได้พันธุกรรมจากพี่เค้าหรือน้องมากกว่า ( หน้าตาดี รูปร่างดี ฉลาดทั้งคู่ )
แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องพับไป แล้วพี่เค้าก็มาถามแบบนี้อีก ไหนจะที่บ้านกดดันอีก ผมทำยังไงดี ?
ไม่รู้ว่าผมพลาดหรือเปล่านะที่เผลอพูดเรื่องที่ที่บ้านถามเรื่องหลานออกไป
ถึงบรรทัดนี้ ทางออกที่ผมคิดไว้ก็มีไม่มากครับ
1. บอกที่บ้านตรงๆว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย
2. กลับไปใช้ชีวิตปรกติแบบผู้ชายทั่วไปควรทำ แต่งงาน มีลูก
3. หาผู้หญิงสักคนที่รับเรื่องนี้ได้ แล้วแหกกฏที่ตัวเองตั้งไว้ ( ข้อคงเป็นไปได้ยาก ถึงเป็นไปไม่ได้เลย )
มันก็ตลกดีที่ชีวิตผมเดินมาแบบนี้
เฮ้อ.....
ปล1. ถ้าถามว่าที่บ้านไม่ตะหงิดเหรอที่ไม่พาแฟนมาแนะนำที่บ้านเลยตลอด 9 ปี
คืออย่างที่บอกครับ ช่วงแรกผมคบ ญ ตอนนั้นพามาที่บ้านด้วย จนมีปัญหาที่บ้านก็รับรู้
แล้วการใช้ชีวิตผมก็แบบผู้ชายปรกติทั่วๆไปครับ
แต่เวลานี้ที่บ้านอาจแคลงใจก็ได้มั้งที่จู่ๆไม่มีพาสาวเข้าบ้านเลย
ปล2. หลายปีก่อนเคยคุยนะว่าถ้าพา ญ เข้ามาอีกคนจะเป็นไรไหม พี่เค้าบอกคิดดูก่อน
คือคิดหลายปีแล้วยังไม่ตอบเลย
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือจะมี ญ ที่ไหนรับเรื่องแบบได้
ปล3. ผมนึกไม่ออกเลยถ้าวันหนึ่งพี่เค้าต้องออกไปจากชีวิตผม ผมจะเป็นยังไงกับคนที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้
คือพูดกันตรงๆเลยนะ ผมไม่มีแผน หรือ ความคิดสำหรับตอนที่พี่เค้าออกจากชีวิตผมเลย
ส่วนตัวแล้วการ ได้เจอ ได้พบ ได้คบ พี่เค้าก็เหมือนกับถูกหวยรางวัลแจ๊กพอตไปแล้ว
แถมถูก 2 งวดด้วยกับการได้เจอคนดีๆ 2 คนนี้
แต่นั่นผมก็ต้องมองอีกว่าผมจะเตะถ่วงต่อไปยังไง หรือ แก้ไขปัญหากับที่บ้านยังไงอีก
ปล4. ถ้า Tag ผิดต้องขอโทษด้วยนะครับ