ตีสี่ สิบเก้านาที...
ผมลุกขึ้นมาเขียนข้อความนี้หลังจากเราสองคนมีปากเสียงกันเรื่องงานเมื่อสักครู่ ไม่ต้องแปลกใจว่ามาคุยอะไรกันกลางดึกแบบนี้ จริงๆก่อนหน้านี้สักสามเดือน ช่วงนี้ก็จะเป็นเวลาพักผ่อนแหล่ะครับ แต่หลังจากมีเจ้าตัวน้อยเราก็มีเวลาตื่นขึ้นมากลางดึกคุยงานกันตอนที่ให้นมลูก ซึ่งนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมออกมาบอกว่าคู่ของเราก็เหมือนกับคู่คนอื่นทั่วไปครับ ที่มีกระทบกระทั่งด้วยคำพูดกันบ้าง มีง้อมีงอน ประชดประชันบ้าง ทั้งกับเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวซึ่งมันหนีไม่พ้นอยู่แล้วกับคนสองคนที่อยู่ด้วยกันเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงทุกวันติดต้อกันเป็นระยะเวลาหลายปี
แต่ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องราวจบลงด้วยดีทุกครั้ง และคืนนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ที่อยากจะมาแชร์ให้ฟังนั้นก็คือ ไม่ว่าเราจะผิดหรือจะถูก ทุกครั้งมันจะต้องมีสักคนที่เป็นฝ่ายขอโทษก่อนแล้วเราก็เดินมากอดกัน โดยที่หลายครั้งคนขอโทษไม่ใช่คนผิดหรอกครับ
หลายคู่ชอบคิดว่าเวลาทะเลาะกันคนผิดต้องขอโทษ คนผิดต้องเป็นคนง้อ ซึ่งเกือบทุกครั้งมันจะต้องไม่ใช่เราใช่มั้ยครับ ^^ ทุกคนมีเหตุและผลของตัวเองทั้งนั้นครับ และก็ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างยึดมั่นในเหตุผลของตัวเองมาก มากเสียจนบางครั้งเราลืมไปว่าคนที่เราพยายามที่จะเอาชนะคะคานอยู่นั้น.... คือคนที่พรุ่งนี้เค้าต้องทำกับข้าวให้เรากินตอนเช้า....คือคนที่ต้องออกไปทำงานเพื่อทุกคนในครอบครัว....คือคนที่คอยดูแลปกป้องลูกของเราตลอดเวลาซึ่งเราอาจจะทำได้ไม่ดีเท่า....คือคนที่เรายังอยากจะหาเวลาจับมือเค้าออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ้าง....หรือคือคนที่เราเคยยืนกอดเค้าบนเวทีที่มีแต่คราบน้ำตาแห่งความสุขในงานแต่งงานของเรา
ถ้าเราไม่ลืม....ก็คงไม่เป็นไรมั้งถ้าเราจะเป็นคนที่พูดขอโทษบ้างถึงแม้ว่าเราจะถูก...คงไม่เป็นไรถ้าเราจะเดินเข้าไปกอดเค้าทั้งๆที่เราก็ไม่ผิด
เราอาจจะไม่ได้ยอมเพราะเราเป็นฝ่ายผิด แต่เรายอมเพราะเรายังรักเค้าอยู่...
ถึงตรงนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าคืนนี้ใครเป็นคนผิด ผมจำได้แค่ว่าผมพูดว่าขอโทษ แล้วเธอก็เข้ามากอดผมไว้......
ขอให้รักคุ้มครองทุกคนนะครับ ^^
หนึ่ง LOVE A LOT
ตีสี่ ห้าสิบนาที
ตีสี่ สิบเก้านาที...
ผมลุกขึ้นมาเขียนข้อความนี้หลังจากเราสองคนมีปากเสียงกันเรื่องงานเมื่อสักครู่ ไม่ต้องแปลกใจว่ามาคุยอะไรกันกลางดึกแบบนี้ จริงๆก่อนหน้านี้สักสามเดือน ช่วงนี้ก็จะเป็นเวลาพักผ่อนแหล่ะครับ แต่หลังจากมีเจ้าตัวน้อยเราก็มีเวลาตื่นขึ้นมากลางดึกคุยงานกันตอนที่ให้นมลูก ซึ่งนี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมออกมาบอกว่าคู่ของเราก็เหมือนกับคู่คนอื่นทั่วไปครับ ที่มีกระทบกระทั่งด้วยคำพูดกันบ้าง มีง้อมีงอน ประชดประชันบ้าง ทั้งกับเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวซึ่งมันหนีไม่พ้นอยู่แล้วกับคนสองคนที่อยู่ด้วยกันเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงทุกวันติดต้อกันเป็นระยะเวลาหลายปี
แต่ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องราวจบลงด้วยดีทุกครั้ง และคืนนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ที่อยากจะมาแชร์ให้ฟังนั้นก็คือ ไม่ว่าเราจะผิดหรือจะถูก ทุกครั้งมันจะต้องมีสักคนที่เป็นฝ่ายขอโทษก่อนแล้วเราก็เดินมากอดกัน โดยที่หลายครั้งคนขอโทษไม่ใช่คนผิดหรอกครับ
หลายคู่ชอบคิดว่าเวลาทะเลาะกันคนผิดต้องขอโทษ คนผิดต้องเป็นคนง้อ ซึ่งเกือบทุกครั้งมันจะต้องไม่ใช่เราใช่มั้ยครับ ^^ ทุกคนมีเหตุและผลของตัวเองทั้งนั้นครับ และก็ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างยึดมั่นในเหตุผลของตัวเองมาก มากเสียจนบางครั้งเราลืมไปว่าคนที่เราพยายามที่จะเอาชนะคะคานอยู่นั้น.... คือคนที่พรุ่งนี้เค้าต้องทำกับข้าวให้เรากินตอนเช้า....คือคนที่ต้องออกไปทำงานเพื่อทุกคนในครอบครัว....คือคนที่คอยดูแลปกป้องลูกของเราตลอดเวลาซึ่งเราอาจจะทำได้ไม่ดีเท่า....คือคนที่เรายังอยากจะหาเวลาจับมือเค้าออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ้าง....หรือคือคนที่เราเคยยืนกอดเค้าบนเวทีที่มีแต่คราบน้ำตาแห่งความสุขในงานแต่งงานของเรา
ถ้าเราไม่ลืม....ก็คงไม่เป็นไรมั้งถ้าเราจะเป็นคนที่พูดขอโทษบ้างถึงแม้ว่าเราจะถูก...คงไม่เป็นไรถ้าเราจะเดินเข้าไปกอดเค้าทั้งๆที่เราก็ไม่ผิด
เราอาจจะไม่ได้ยอมเพราะเราเป็นฝ่ายผิด แต่เรายอมเพราะเรายังรักเค้าอยู่...
ถึงตรงนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าคืนนี้ใครเป็นคนผิด ผมจำได้แค่ว่าผมพูดว่าขอโทษ แล้วเธอก็เข้ามากอดผมไว้......
ขอให้รักคุ้มครองทุกคนนะครับ ^^
หนึ่ง LOVE A LOT
ตีสี่ ห้าสิบนาที