เราเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง พ่อเป็นข้าราชการและแม่มีอาชีพค้าขาย เราเป็นลูกสาวคนโต มีน้องชายหนึ่งคน อายุห่างกัน 7 ปี ตั้งแต่มีน้อง สำหรับพ่อกับแม่น้องคือที่หนึ่งของทุกๆอย่าง จะว่าเราอิจฉาน้องก็ได้ แต่เราก็พยายามทำดีเพื่อให้เราอยู่ในสายตาของเค้าบ้าง เราเคยสอบเอนทรานซ์ได้ที่มหาลัยของรัฐในจังหวัดนครปฐม แต่ไปเรียนได้ปีเดียวก็ท้อง เรากลับมาอยู่กับพ่อและแม่ ไม่คิดกลับไปเรียนอีก เพราะไม่อยากให้ลูกที่เกิดมาเป็นภาระของพ่อกับแม่ คลอดลูกได้เดือนเดียว ก็ไปทำงาน เลี้องลูกมาจนตอนนี้เค้าอายุได้ 9 ขวบ ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงินของเค้าเลย ทำงานได้เงินมาเท่าไหร่ให้แม่หมด เลิกงานออกกะมาแปดโมงเช้า ได้นอนตอนเที่ยง ตื่นบ่ายสามโมง ไม่เคยบ่น เพราะแม่จะพูดกรอกหูอยู่เสมอว่าเรามันหาความลำบากใส่ตัว โดยที่น้องชายไม่เคยทำอะไรเลย จนวันนึง เราเจอผู้ชายที่รักเราและรักลูกเราก็เลยตัดสินใจแต่งงานใหม่ หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็ป่วย ทำของขายไม่ได้เหมือนเดิม เงินสินสอด เราให้แม่หมด ทองหมั้นแม่ก็เอาไปขาย แถมต้องแยกกันอยู่กับสามี เพราะเราต้องมาทำกิจการแทนแม่ เวลาสามีมาหา แม่จะมีอาการไม่พอใจตลอด ระหว่างที่แม่ป่วยเราดูแลแม่ทุกอย่าง รวมทั้งเป็นที่รองรับอารมณ์ เวลาเค้าไปคุยกับใคร เค้าไม่เคยพูดความดีของเราเลย เค้าจะพูดว่าเราทำอะไรไม่เป็น ซื้อของไม่เป็น งานบ้านไม่ได้เรื่อง ทั้งๆที่ทุกอย่างเราเป็นคนทำทั้งหมด เอามือจิ้มหน้าผากด่าว่าเราไม่มีสมอง คนอื่นเค้ามองว่าเราดีที่ยอมลาออกจากที่ทำงานเพื่อมาดูแลแม่ ยอมทิ้งเงินเดือนสองหมื่นกว่ามา เพราะว่าเรายังต้องส่งน้องคนเล็กอยู่ แต่ลูกที่ดีสำหรับแม่ ก็ยังคงเป็นน้องชายของเราอยู่ ทำดีเท่าไหร่เค้าก็ไม่เคยว่าดี อย่างนี้จะทำต่อไปไหม เราควรเดินออกไปกลับไปทำงาน เพื่อครอบครัวของเรา หรือว่าอยู่แบบนี้ต่อไป (ขายของทุกวันนี้ให้แม่หมด แม่ให้เราเดือนละหนึ่งพันบาท)
ความผิดที่เคยทำเมื่อ10ปีที่แล้ว มันไม่มีทางลบล้างได้เลยหรอ