ง่อก๊ก....อาณาจักรของแซ่ซุน ๒๐ เม.ย.๕๗

กระทู้สนทนา
สามก๊กฉบับอ่านซ้ำ

อวสานสามก๊ก

อวสานสามก๊ก

ง่อก๊ก.....อาณาจักรของแซ่ซุน

" เล่าเซี่ยงชุน "

                    แผ่นดินจีนยุคสามก๊กนั้น ก๊กที่เกิดก่อนคือ วุยก๊ก ของแซ่โจ อยู่ที่เมืองลกเอี๋ยงราชธานีเก่า  ถัดมาก็คือ จ๊กก๊ก ของแซ่เล่าอยู่ที่เมืองเสฉวนทางภาคตะวันตก และก๊กที่สามคือ ง่อก๊ก ของแซ่ซุนตั้งหลักฐานอยู่ที่เมืองกังตั๋งทางภาคใต้

                    ผู้เป็นต้นตระกูลชื่อ ซุนเกี๋ยน เกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.๗๐๓ ที่เมืองตองง่อ    มีรูปร่างลักษณะที่เป็นพิเศษคือ หน้าผากกว้าง หน้า
ยาว กิริยาเหมือนเสือ เมื่อยังรุ่นหนุ่มอายุเพียงสิบเจ็ดปี ได้ไปค้าขายทางเรือกับบิดาที่เมืองเจียนต๋อง  เห็นลูกค้าของตน ถูกคนร้ายสิบคนมาแย่งชิงทรัพย์ เอาไปแบ่งกันบนฝั่งไม่ไกล  ซุนเกี๋ยนจึงขึ้นจากเรือเดิน เข้าไปใกล้ อ้างตัวว่าเป็นขุนนาง พวกโจรก็ลุกขึ้นวิ่งหนีแต่ไม่พ้น  ซุนเกี๋ยนไล่ตามไปฆ่า  เสียคนหนึ่ง นอกนั้นจึงหนีรอดไปได้ เจ้าเมืองได้กิตติศัพท์ก็ชอบใจเลยเอาตัวไว้ แต่งตั้ง ให้เป็นนายทหาร ต่อมาในรัชสมัยของ พระเจ้าเลนเต้ ได้ร่วมมือกับเจ้าเมืองตองง่อไปปราบขบถ และฆ่าหัวหน้าขบถกับลูกชายตาย มีความชอบเป็นอันมาก

                    ซุนเกี๋ยนได้นำทหาร เข้ารวมกับทหารหลวงไปปราบปรามโจรโพกผ้าเหลืองที่กำลังกำเริบอยู่ ซุนเกี๋ยนก็ฆ่าหัวหน้าโจรตายไปสองคน กับลูกสมุนอีกยี่สิบเศษ แล้วก็ตามไปตีพวกโจรที่เมืองอื่น ๆ สามารถปลดปล่อยหัวเมืองที่พวกโจร   ยึดครองได้ถึงสิบสี่สิบห้าเมือง จึงได้ไปเป็นเจ้าเมืองเตียงสา

                    พ.ศ.๗๓๓ พระเจ้าเลนเต้สิ้นพระชนม์ ตั๋งโต๊ะ ยก พระเจ้าเหี้ยนเต้  ขึ้นครองราชย์ แล้วตนเองเป็นมหาอุปราช ทำการหยาบช้าต่าง ๆ โจโฉ คิดกำจัดแต่ไม่สำเร็จ จึงหนีกลับเมืองตันลิวบ้านเกิด แล้วจัดตั้งกองทัพอาสาสมัคร จากหัวเมืองต่าง ๆ
ขึ้น ซุนเกี๋ยนก็ยกทหารมาเข้าเป็นพวกด้วย กองทัพนั้นมี อ้วนเสี้ยว เป็นแม่ทัพใหญ่ ยกไปตีลกเอี๋ยงเมืองหลวง ซุนเกี๋ยนได้เป็นแม่ทัพหน้า แต่ถูกตีแตกเสียทหารเอกไปคนหนึ่งและอ้วนสุด น้องของอ้วนเสี้ยวก็ไม่ส่งเสบียงให้ จึงต้องตั้งค่ายเฉยอยู่

                    พอดีตั๋งโต๊ะพาพระเจ้าเหี้ยนเต้อพยพ  จากเมืองลกเอี๋ยงไปอยู่ที่เมือง เตียงฮัน แล้วเผาเมืองลกเอี๋ยงเสีย  ซุนเกี๋ยนก็ยกทหารเข้าไปในเมือง ได้พบตราหยก     ประจำองค์ฮ่องเต้ ติดอยู่กับศพในบ่อน้ำ จึงยึดเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัว  แล้วลาออกจากกองทัพอาสาสมัคร  จะกลับไปเมืองของตน  อ้วนเสี้ยวรู้เรื่องจึงสั่งให้      เล่าเปียว    เจ้าเมืองเกงจิ๋วคอยดักแย่งชิงเอาตราหยกคืน  แม้ซุนเกี๋ยนจะยอมลงทุน
สาบานว่าไม่ได้เอามา เล่าเปียวก็ไม่ยอมเชื่อ ต้องรบกันจนได้ แต่ซุนเกี๋ยนตกเป็นรอง
เสียทหารไปมาก จึงต้องถอยไปอยู่ที่เมืองกังตั๋ง

                 พอได้โอกาสซุนเกี๋ยนก็ยกกองทัพ ไปตีเมืองเกงจิ๋วของเล่าเปียว เป็นการแก้มือ แต่ปรากฎว่าเสียทีถูกข้าศึกล่อให้เข้าไปในซอกเขา แล้วยิงเกาทัณฑ์กับทุ่มศิลา ลงมาดังห่าฝน ซุนเกี๋ยนจึงถึงแก่ความตายพร้อมกับม้าคู่ขา ในซอกเขานั้นเอง

                    ซุนเซ็ก บุตรคนโตของซุนเกี๋ยนขณะนั้นอายุสิบห้าปี  ได้ไปรบในกองทัพ บิดาด้วย และจับเจ้าเมืองกังแฮแม่ทัพหน้าของเล่าเปียวไว้เป็นเชลย จึงขอแลกตัวกับศพของบิดา นำไปฝัง แล้วก็ครองเมืองกังตั๋งสืบต่อไป

                    ซุนเซ็กได้ จิวยี่ ซึ่งเป็นคู่เขยมาเป็นคู่คิด อ่าน จึงสามารถไปตีหัวเมืองใกล้เคียงมาเป็นเมืองขึ้นได้ถึงแปดสิบเจ็ดเมือง เตรียมจะขยายอาณาเขตต่อไป เพื่อจะ ได้เป็นใหญ่ในภาคใต้บ้าง

                    เมื่อมีกำลังมากแล้ว  ซุนเซ็กก็คิดจะยกทหารไปรบกับโจโฉ   แต่บังเอิญถูกลิ่วล้อของเจ้าเมืองที่เป็นศัตรู ลอบฆ่าตายเสียก่อน ซุนกวน น้องชายซึ่งเป็นหนุ่ม รูปงานอายุเพียงสิบแปดปี จึงได้เป็นเจ้าเมืองกังตั๋งสืบสกุลต่อไป

                    ซุนกวนครองเมืองกังตั๋งมาได้สามปี บ้านเมืองก็เจริญขึ้นมาเป็นอันมาก โจโฉกลัวจะแข็งข้อ จึงให้ส่งบุตรชายไปทำราชการที่เมืองหลวง แต่ซุนกวนไม่ยอมส่ง  โจโฉจึงคิดจะกำราบ แต่ยังทำศึกติดพันกับ อ้วนเสี้ยว อยู่จึงรอไว้ก่อน

                    เมื่อโจโฉเผด็จศึกอ้วนเสี้ยวเรียบร้อยแล้ว ก็ยกกองทัพใหญ่ ไล่ขยี้ เล่าปี่ ลงมาทางใต้ เล่าปี่จึงส่ง ขงเบ้ง ยอดกุนซือมาเกลี้ยกล่อมให้เมืองกังตั๋งร่วมมือเป็น      พันธมิตรรบกับโจโฉ  ทั้งซุนกวนและจิวยี่ตกลงใจ ที่จะร่วมมือกับเล่าปี่รบกับโจโฉ
เพราะขงเบ้งบอกว่า โจโฉมาตีกังตั๋งครั้งนี้เพราะมีความต้องการนางทั้งสอง คือภรรยาของซุนเซ็ก และภรรยาของจิวยี่ ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน

                    พ.ศ.๗๕๑ จิวยี่กับขงเบ้งร่วมกันวางแผนรบกับกองทัพอันใหญ่โต มีกำลัง  ประมาณแปดสิบหมื่นของโจโฉ  ด้วยกำลังทหารของกังตั๋งเพียงห้าหมื่น รวมกับทหารของเล่าปี่อีกไม่ถึงหมื่นคน จนเผากองทัพเรือและค่ายทัพบกวอดวายไปในกองเพลิงสิ้น จนตัวโจโฉเองก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด เหลือทหารกลับไปเพียงยี่สิบเจ็ดนายเท่านั้น

                      เมื่อเสร็จการศึกกับโจโฉแล้ว จิวยี่ก็เสียทีขงเบ้ง ถูกยึดเมืองสำคัญไป      ถึงสามเมืองคือ ลำกุ๋น ซงหยง และเกงจิ๋ว ฝ่ายกังตั๋งไม่ได้อะไรเลย  ซุนกวนให้คนไป      ทวงถาม เล่าปี่ก็ว่าจะคืนให้แต่ก็ผลัดเรื่อยไป  จิวยี่จึงออกอุบายให้ซุนกวนล่อให้เล่าปี่มาแต่งงานกับ นางซุนหยิน น้องสาวต่างมารดาของซุนกวน แล้วจะจับฆ่าเสีย  

แต่ขงเบ้งก็ออกอุบายให้เล่าปี่ได้แต่งงานสำเร็จ และพานางซุนฮูหยินกลับไปอยู่ กันที่เมืองเกงจิ๋วด้วย จิวยี่ซึ่งแพ้รู้ขงเบ้งอีกหลายครั้ง เมืองทั้งสามก็ไม่ได้กลับคืนมา จึงช้ำใจจนป่วยหนัก และถึงแก่ความตายไป  ซุนกวนจึงอาฆาตแค้นเล่าปี่ ตัดไมตรีกันตั้งแต่นั้นมา

                    พ.ศ.๗๕๕ ระหว่างที่เล่าปี่ยกพลไปตีเมืองเสฉวน ซุนกวนก็ทำอุ บายให้      นางซุนฮูหยินกลับไปเมืองกังตั๋ง ฝ่ายโจโฉได้เลื่อนยศเป็น วุยก๋ง ก็ยกทัพไปตีเมืองฮันต๋ง ได้แล้วก็เลยมาตีเมืองกังตั๋ง ซุนกวนก็จัดกองทัพออกไปสู้รบ แต่ก็ไม่แพ้ชนะกันต่างทัพต่างก็ยกกลับเมือง

                    พ.ศ.๗๕๘ โจโฉยกกองทัพมารบกับซุนกวนอีกครั้ง  คราวนี้ซุนกวนยอม   อ่อนน้อมขอส่งเครื่องบรรณาการประจำปี  โจโฉจึงยกทัพกลับ  และได้เลื่อนยศเป็นเจ้าวุยอ๋อง

                    พ.ศ.๗๖๒ เล่าปี่ได้ยกตนขึ้นเป็นอ๋องเมืองฮันต๋ง โจโฉก็โกรธว่าตั้งตนเองเป็นเจ้า จึงมีหนังสือไปชวนซุนกวน ให้ยกทัพไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วคืน ขณะนั้น กวนอูได้น   เจ้าเมืองเกงจิ๋วอยู่ ซุนกวนจึงส่งคนไปทาบทามขอบุตรสาวกวนอู ให้เป็นภรรยาบุตรชายของตน เพื่อจะหาพวกรบกับโจโฉ แต่กวนอูปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย ซุนกวนจึงยกทัพไปตีเมืองเกงจิ๋วจนแตก และจับตัวกวนอูมาประหารเสีย

                    พ.ศ.๗๖๓ โจโฉถึงแก่ความตาย โจผี บุตรชายคนโตได้เป็นวุยอ๋อง ก็ขับไล่ พระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากราชสมบัติ ตั้งตนเป็นฮ่องเต้แทน
  
                  พ.ศ.๗๖๔ เล่าปี่ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ของจ๊กก๊ก แล้วยกกองทัพมาตีเมือง       กังตั๋งแก้แค้นแทนกวนอู แต่ซุนกวนก็สามารถตีทัพพระเจ้าเล่าปี่แตกยับเยินกลับไป

                    พ.ศ.๗๖๖ พระเจ้าเล่าปี่เมื่อแพ้แก่ซุนกวนแล้ว  ก็ไปอยู่ที่เมืองเป๊กเต้ ด้วยความตรอมใจจนถึงกับประชวรแล้วสิ้นพระชนม์ลง พอ
นางซุนฮูหยินซึ่งอยู่ที่เมืองกังตั๋ง  ได้ข่าวว่าพระเจ้าเล่าปี่แตกทัพสิ้นพระชนม์ ก็โดดน้ำตายตามไปด้วยความรัก

                 เมื่อ พระเจ้าเล่าเสี้ยน สืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้าเล่าปี่แล้ว จ๊กก๊กก็เป็นพันธมิตรกับเมืองกังตั๋งดังเดิม

                    พ.ศ.๗๖๗ พระเจ้าโจผียกทัพไปตีเมืองกังตั๋งแต่ไม่สำเร็จ ถูกซุนกวนตี แตกกลับไป

                    พ.ศ.๗๗๐ พระเจ้าโจผีสิ้นพระชนม์ พระเจ้าโจยอย ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ของ    วุยก๊ก แล้วก็ทำสงครามกับจ๊กก๊กอยู่ตลอดเวลา เมืองกังตั๋งจึงปลอดศึก

                    พ.ศ.๗๗๒ พระเจ้าซุนกวนทำพิธีราชาภิเษก ขึ้นเป็นฮ่องเต้แห่ง ง่อก๊ก       ณ เมืองกังตั๋งครอบครองอาณาจักรฝ่ายใต้ แล้วก็เป็นไมตรีกับจ๊กก๊กตลอดไป

                    พ.ศ.๗๗๗ ขงเบ้งมหาอุปราชของจ๊กก๊ก ได้ถึงแก่ความตายไปแล้ว พระเจ้าเล่าเสี้ยนเกรงว่าง่อก๊กจะรุกราน แต่พระเจ้าซุนกวนคงยืนยันว่าจะไม่คิดร้ายต่อ จ๊กก๊ก
  
                  พ.ศ.๗๘๓ พระเจ้าโจฮอง ได้ครองวุยก๊กต่อจากพระเจ้าโจยอย ก็มัวรบ    กับจ๊กก๊ก จึงไม่มีภัยมาถึงง่อก๊ก และอีกสิบสองปีต่อมา พระเจ้าซุนกวนจึงได้สิ้นพระชนม์   เมื่ออายุได้เจ็ดสิบเอ็ดปี

                    พ.ศ.๗๙๕ พระเจ้าซุนเหลียง ได้สืบราชสมบัติ ครองง่อก๊กต่อจากพระเจ้าซุนกวน เมื่ออายุได้สิบเอ็ดปี วุยก๊กก็ยกกองทัพมารุกราน แต่สามารถต้านทานไว้ได้

                    พ.ศ.๗๙๗ พระเจ้าโจมอ ได้ครองวุยก๊กต่อจากพระเจ้าโจฮอง ก็ยังสู้รบกับจ๊กก๊กไม่เลิก ทางฝ่ายง่อก๊ก ก็มีการแย่งชิงตำแหน่งมหาอุปราชกันเอง จน ซุนหลิม ได้อำนาจ ก็กล่าวหาว่า พระเจ้าซุนเหลียงไม่เอาใจใส่ต่อราชการบ้านเมือง มัวเมาอยู่แต่อิสตรี  จึงถอดออกจากบัลลังก์ เมื่ออายุได้สิบเจ็ดปี

          พ.ศ.๘๐๑ พระเจ้าซุนฮิว ราชบุตรองค์ที่หกของพระเจ้าซุนกวน ได้ขึ้น       ครองราชย์ แล้วก็สามารถกำจัดซุนเหลียงลงได้

                  พ.ศ.๘๐๓ พระเจ้าโจมอถูกปลงพระชนม์ พระเจ้าโจฮวน ได้ครองวุยก๊กแทน อีกสามปีต่อมาก็ยกทัพไปตีเมืองเสฉวนของจ๊กก๊กได้อย่างเด็ดขาด  พระเจ้า      เล่าเสี้ยนอ่อนน้อมยอมอยู่ใต้อำนาจของวุยก๊ก

        พ.ศ.๘๐๘ ทางฝ่ายวุยก๊กเกิดการเปลี่ยนแผ่นดินโดย สุมาเอี๋ยน        มหาอุปราช ได้บังคับให้พระเจ้าโจฮวนออกจากราชบัลลังก์ แล้วตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้แทน ตั้งราชวงศ์จิ้นขึ้นใหม่

        พระเจ้าซุนฮิวก็วิตกที่พันธมิตรพ่ายแพ้แก่ศัตรู จึงเตรียมป้องกันเมืองกังตั๋งอย่างเข้มแข็ง แต่รออยู่นาน ข้าศึกก็ยังไม่ได้ยกมาสักที จนสิ้นพระชนม์ พระเจ้า  ซุนโฮ ราชบุตรของพระเจ้าซุนเหลียงได้รับเชิญให้ขึ้นครองราชย์ต่อ แต่ไม่สนใจในกิจการบ้านเมือง เอาแต่เสพสุขอยู่ในพระราชวัง จนบ้านเมืองอ่อนแอลงเป็นลำดับ

                    พ.ศ.๘๒๓ พระเจ้าสุมาเอี๋ยน  จึงได้ยกกองทัพมาตีเมืองกังตั๋ง ของง่อก๊ก พระเจ้าซุนโฮพยายามจะต่อสู้ แต่ไม่มีนายทหารฝีมือดีเหลืออยู่อีกแล้ว จึงต้องพ่ายแพ้  ทั้งทางบกและทางน้ำ เมืองกังตั๋งซึ่งไม่มีใครเหยียบเข้ามาได้เลย ตลอดเวลาเก้าสิบปี     ของยุคสามก๊ก ก็ถึงกาลอวสานลง                    

        พระเจ้าซุนโฮพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ขุนนางขัดขวางไว้ จึงต้องยอมแพ้แก่พระเจ้าสุมาเอี๋ยน ลดตำแหน่งลงเป็น อุ้ยเบ้งเฮา ตกอยู่ใต้อำนาจของราชวงศ์จิ้น  ต่อไปอีกสี่ปี

                    พ.ศ.๘๒๗ พระเจ้าซุนโฮ หรือ อุ้ยเบ้งเฮา ก็สิ้นพระชนม์ลง  จึงหมดเชื้อสายของ ง่อก๊ก แต่เพียงนี้

                    ลงท้ายแผ่นดินจีนที่แบ่งออกเป็น สามก๊ก  และทำศึกสงครามแย่งความเป็นใหญ่กันมาเกือบร้อยปี ก็ไม่มีใครชนะ เหลือแต่ราชวงศ์จิ้น ซึ่งได้ปกครองแผ่นดินจีนเป็นเอกเทศต่อมาอีกหลายรัชกาล แล้วจึงเปลี่ยนเป็น ราชวงศ์อื่นอีกพันหกร้อยกว่าปี จึงหมดสมัยฮ่องเต้.

##########
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่