สวัสดีค่ะ กระทู้รีวิวแรกในห้องก้นครัวเลย ผิดพลาดยังไงแนะนำได้นะคะ ><
ปล.แท็กห้องก้นครัวเพราะรีวิวอาหารโดยตรง
แท็กนักร้องนักดนตรีเกาหลีเพราะตามรอยศิลปินไปกินค่ะ ^^
_________________________________________________________________________________
จุดเริ่มต้นที่ชวนให้ไปลิ้มลอง Schoolfood คือรายการ EXO's Showtime ของไอดอลที่เราชอบเองค่ะ
ทุกตอนจะต้องเห็นเด็กๆ มานั่งกินอาหารกันเรียกน้ำย่อยในกระเพาะให้ทำงานดีนักแล *น้ำลายสอ*
และตอนที่แปดที่ผ่านมา เด็กๆ ไปกินข้าวกันที่ร้าน Schoolfood ค่ะ
ตอนแรกนึกว่าต้องเก็บตังค์ไปลองที่เกาหลีซะแล้ว แต่ที่ไหนได้ที่เมืองไทยก็มี และเพิ่งเปิดได้ไม่นานบนห้างใหม่ย่านชิดลม
ว่าแล้วเมื่อวานเป็นวันมีตติ้งใหญ่กับเดอะแก๊งพอดี เราเลยเสนอร้านนี้ไปค่ะ ได้ลองสมใจอยากจนพุงกางกันเลยทีเดียว
เพราะเด็กพวกนี้แท้ๆ
เราไปกันทั้งหมดหกคนค่ะ อาหารเลยค่อนข้างหลากหลาย
แต่เนื่องจากมีคนไม่กินเนื้อ(เรานั่นเอง)เลยไม่ได้สั่งพวกที่มีส่วนผสมของพุลโกลกิ(เนื้อ)มาเลยค่ะ
และเพราะว่าเราเด็กที่สุดเลยได้อภิสิทธิ์ในการเลือกเมนูเป็นส่วนใหญ่ค่ะ โฮะๆๆๆ
ที่สั่งไปนั่นมีอะไรบ้างน้า...
อย่างแรกที่สั่งคือ
เกี๊ยวเกาหลีทอด ค่ะ
ตัวแป้งบางแต่ไม่กรอบมาก ยังมีความรู้สึกเหนียวนิดๆ ทอดมาเหลืองสวยมาก
ไส้ข้างในเป็นหมูสับผัดกับต้นหอมและวุ้นเส้น มีกลิ่นพริกไทยเล็กน้อยให้ความรู้สึกคล้ายๆ ไส้เปาะเปี๊ยะ
เสิร์ฟคู่กับซีอิ๊ว แต่ไม่ต้องจิ้มซีอิ๊วก็อร่อยแล้วนะคะเพราะตัวไส้ค่อนข้างมีรส(เค็ม)อยู่แล้ว
ต่อมาเป็นพวกมาริ(ข้าวห่อสาหร่าย)ค่ะ
จานนี้เป็น
มาริกุ้งทอด
มาริแฮม
Spam mari 1
จานโปรดของพวกพี่ๆ
มาริหมึกดำ
มาริถือได้ว่าเป็นเมนูเด็ดของร้านที่แนะนำเลยค่ะ
อาจบอกได้ว่าเหมือนข้าวห่อสาหร่ายทั่วไป แต่ต้องบอกก่อนว่าข้าวห่อสาหร่ายของเกาหลีต่างกับของญี่ปุ่นนิดนึงเรื่องรสชาติ
ของเกาหลีจะมีรสชาติมากกว่าและร้านนี้นำมาฟิวชั่นกับวัตถุดิบอื่นๆ ได้เยี่ยมมากค่ะ *ปรบมือ*
เวลาทานก็คีบมาริจิ้มกับมายองเนสที่ตกแต่งจานมาจะได้รสหวานๆ ตัดกับรสเค็มของกิมจิในมาริได้ลงตัว
หรือจะกินเลยไม่ต้องจิ้มก็อร่อยค่ะ กินเพลินๆ แป๊บเดียวหกสาวได้สั่งเพิ่มมาอีกสองจาน =[]=

พุงป่องโดยไม่รู้ตัว
คาโบนาร่าต็อก
เป็นการฟิวชั่นกันโดยใช้แป้งต็อกแทนเส้นพาสต้า
ในฐานะที่ชอบคาโบนาร่ามากๆ พอเห็นเมนูนี้ถึงกับลังเลค่ะ(ห๊ะ) ไม่ใช่อะไรเพราะว่าต็อกมันไม่ใช่สไตล์ของเรา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่พี่ๆ ทุกคนชอบค่ะ ซัดเกลี้ยงไม่เหลือเหมือนกัน เราเองก็ชิมตัวซอสด้วย ทำได้เข้มข้นหวานมันและหอมค่ะ
แกงกิมจิซีฟู้ด
อาหารเกาหลีแท้ๆ แต่รสชาติที่ออกมาแตกต่างจากที่เคยกินค่ะ
เห็นสีสันจัดจ้านแบบนี้ขอบอกเลยว่าไม่เผ็ดสักนิด รสชาติกลมกล่อม เข้มข้น ซดน้ำซุปได้เรื่อยๆ
เป็นอีกอย่างที่แนะนำให้สั่งไว้กินตัดแก้เลี่ยนหรือแก้เค็มของอาหารจานอื่นค่ะ
ข้าวผัดกิมจิแฮม
จานนี้อร่อยผิดคาดมากค่ะ โฮะๆๆๆๆ
ปกติเวลาไปกินพวกกะทะร้อนแบบนี้มักเจออาการข้าวไหม้แข็ง รสไม่เข้าที่ ไม่อร่อย
แต่ที่นี่ไม่เลยค่า รสชาติดี อารมณ์เหมือนกินข้าวผัดคลุกพริกแกงอ่อนๆ (อธิบายไม่ถูกแต่ประมาณนี้ ฮ่าๆ)
ตัวข้าวแห้งแต่ไม่ไหม้ อาจจะคิดว่ารสจืดไปนิดแต่ถ้าคลุกดีๆ กินพร้อมกับสาหร่าย แฮมและกิมจิจะได้รสกลมกล่อมกำลังดี เค็มนิดๆ
ตอนมาเสิร์ฟจะรูปสวยๆ แบบนี้ ทำไข่ดาวมาเป็นรูปหัวใจด้วย ><
พอมาเสิร์ฟปุ๊บ พนักงานจะแนะนำให้คลุกทันทีเลยค่ะเพื่อป้องกันข้าวไหม้ คุณพี่เลยจัดการคลุกๆ ออกมาเรียบร้อย
แต่พอมองโต๊ะอื่น เอ๊ะ! ทำไมพนักงานคลุกให้ ไม่เป็นไร คลุกเองก็สนุกดี ฮ่าๆๆๆ
เครื่องดื่มผลไม้
ไปกันเยอะเลยได้ลองเครื่องดื่มครบทุกรสของร้าน วนกันชิมรอบโต๊ะ โฮะๆๆ
รสชาติดีทุกแก้วค่ะ เป็นน้ำผลไม้ผสมกันหลายชนิดในหนึ่งแก้วและมีเนื้อผลไม้เพิ่มรสชาติให้เคี้ยวเล่นด้วย
ที่ชอบมากๆ คือสีสีนและตัวแก้วค่ะ อยากได้กลับบ้านเลย XD
นอกจากนี้พี่หมอได้สั่งน้ำขิงมาด้วย(ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) รสชาติเผ็ดร้อนมาก น้องขอบายนะคะ XD
มาถึงของหวานตบท้ายกันบ้าง
พักพิงซูถั่วแดง
ขอหวานตบท้ายค่ะ เป็นน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี เนื้อน้ำแข็งเป็นนมและละเอียดมาก ละลายในปากทันทีที่ได้ชิม
หวาน หอม มัน เสิร์ฟคู่กับ 'เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์สไลด์' กับ 'ถั่วแดงกวน' แยกใส่ถ้วยเล็กมา
เวลาทานคู่กับเม็ดมะม่วงจะเพิ่มความหวานมันค่ะ ทานเพลินๆ แป๊บเดียวก็หมดถ้วย
เสียดายไม่ได้สั่งพิงซูเมล่อนที่ขึ้นชื่อมาเพราะมีเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่ในกลุ่มแล้วกลัวของหวานจะล้นโต๊ะเกินไป TT___TT #ไว้คราวหน้านะ
ด้านรสชาติอาหาร
โดยร่วมถือว่าอร่อยค่ะ ทานง่าย ปกติเราไม่ค่อยชอบอาหารเกาหลีเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่ของร้านนี้บอกได้เลยว่าทานง่าย
เสียอย่างคืออาหารทุกจานค่อนข้างเค็ม แต่ที่เค็มคาดว่าน่าจะเป็นตัวกิมจิที่ใส่มานะคะ เพราะส่วนอื่นที่ไม่มีกิมจิไม่เค็มค่ะ
นอกจากนี้โต๊ะเราได้สั่งมาม่ามาด้วย แต่เราไม่ได้ชิมเพราะพี่บอกว่าเผ็ดเลยไม่สามารถบอกได้ว่ารสชาติเป็นยังไง
ด้านบรรยากาศ
ร้านตกแต่งได้ดีค่ะ ดูโปร่งโล่งสบาย แต่ละโต๊ะไม่ติดกันเกินไป ภายในร้านสะอาดสะอ้าน เห็นครัวชัดเจน
จะว่าไปก็ตกแต่งคล้ายๆ ไก่บอนชอนอยู่นิดนึงเหมือนกัน เก้าอี้นั่งสบาย เปิดเพลงสากลคลอ กินไปเม้าท์ไปเพลินๆ ค่ะ
สาวคนไหนชอบถ่ายรูปร้านนี้ก็ถือว่าโอเคเลย จานอาหารตกแต่งมาน่ารัก ของตกแต่งก็สวย บรรยากาศดี ไฟเหลืองนวล มันใช่ค่ะ ฮ่าๆ
ด้านบริการ
ให้สี่ดาวครึ่งค่ะ บริการดีมากกกกกกก เดินเข้าร้านปุ๊บอันนยองก่อนเลย และอาหารได้เร็วมากกกกกกก
ตอนที่สั่งเราสั่งไปแปดอย่างกะรอพี่อีกคนที่ยังมาไม่ถึง ปรากฏว่าอาหารและเครื่องดื่มมาครบก่อนคุณพี่อีกค่ะ ><
มีติดขัดอยู่บ้างเล็กน้อยและหน้าไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ทำให้เราไม่ค่อยกล้าเรียกมากค่ะ ฮ่าๆ
แต่ที่ชอบมากๆ คือเราขอให้ช่วยทำเซอร์ไะรส์วันเกิดพี่ในกลุ่ม ทางร้านก็ช่วยจัดการให้ค่ะ ทั้งเปลี่ยนจานกับช้อนให้ใหม่หมด
แถมคุณเจ้าของร้าน(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)เดินถือเค้กออกมาให้แล้วยังมาช่วยร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้ด้วย น่ารักมากๆ ค่ะ
บรรยากาศอบอุ่นไปเลย ตรงนี้ได้ใจไปเต็มๆ ไม่เกี่ยวกับหน้าตาผู้ให้บริการแต่อย่างใดนะคะ XD
ด้านราคา
ค่อนข้างแพงไปนิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด กินบ่อยๆ ไม่ได้แน่ๆ ค่ะ
หยิบบิลมาดูนี่ถือกับตกใจไม่เคยมีตติ้งครั้งไหนจ่ายมากขนาดนี้ ฮ่าๆ แต่ถือว่าพอๆ กันถ้าไปกินบุพเฟ่ต์ร้านอาหารเกาหลีหัวละห้าร้อยนะคะ
โชคดีว่าใช้บัตรเครดิตเจ้านึงรูดจะได้ส่วนลด 10% และทางร้านมีโปรโมตชั่นบ่อยๆ ติดตามได้ทางเฟซบุ๊คของที่ร้านเลยค่ะ
การเดินทาง
ร้านตั้งอยู่ที่ชั่นสามของ Mercury Ville ตรงข้ามกับเซ็นทรัลชิดลมค่ะ
ถ้านั่งบีทีเอสให้ลงสถานีชิดลมออกทางออก 4 เดินผ่านทางเชื่อมเข้าห้างมาจะเจอร้านอยู่ในสุด เห็นป้ายร้านชัดเจนค่ะ
โดยรวมทั้งหมดที่ว่ามาแล้วให้สี่ดาวครึ่งเลยค่ะ หักเรื่องราคาอย่างเดียว ><
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ รีวิวอาหารครั้งแรกเลย ผิดพลาดตรงไหนแนะนำได้ค่ะ หรือใครไปลองมาแล้วก็มาแชร์กันนะคะ
ตอนนี้ขอตัวไปดูรายการเด็กๆ ต่อละค่ะ ตอนสุดท้ายแล้วก็ยังสั่งอาหารร้านนี้เหมือนเดิม เดี๋ยวหลังเงินเดือนออกได้ไปกินอีกแน่ๆ เลย
*ขอบคุณรูปเด็กๆ ที่เราแคปมาจากคลิปซับไทยของ Salynnain ด้วยนะคะ
[CR] ตามรอยตามกิน EXO ที่ร้าน Schoolfood อาหารเกาหลีฟิวชั่นทานง่าย
ปล.แท็กห้องก้นครัวเพราะรีวิวอาหารโดยตรง
แท็กนักร้องนักดนตรีเกาหลีเพราะตามรอยศิลปินไปกินค่ะ ^^
_________________________________________________________________________________
จุดเริ่มต้นที่ชวนให้ไปลิ้มลอง Schoolfood คือรายการ EXO's Showtime ของไอดอลที่เราชอบเองค่ะ
ทุกตอนจะต้องเห็นเด็กๆ มานั่งกินอาหารกันเรียกน้ำย่อยในกระเพาะให้ทำงานดีนักแล *น้ำลายสอ*
และตอนที่แปดที่ผ่านมา เด็กๆ ไปกินข้าวกันที่ร้าน Schoolfood ค่ะ
ตอนแรกนึกว่าต้องเก็บตังค์ไปลองที่เกาหลีซะแล้ว แต่ที่ไหนได้ที่เมืองไทยก็มี และเพิ่งเปิดได้ไม่นานบนห้างใหม่ย่านชิดลม
ว่าแล้วเมื่อวานเป็นวันมีตติ้งใหญ่กับเดอะแก๊งพอดี เราเลยเสนอร้านนี้ไปค่ะ ได้ลองสมใจอยากจนพุงกางกันเลยทีเดียว
เพราะเด็กพวกนี้แท้ๆ
เราไปกันทั้งหมดหกคนค่ะ อาหารเลยค่อนข้างหลากหลาย
แต่เนื่องจากมีคนไม่กินเนื้อ(เรานั่นเอง)เลยไม่ได้สั่งพวกที่มีส่วนผสมของพุลโกลกิ(เนื้อ)มาเลยค่ะ
และเพราะว่าเราเด็กที่สุดเลยได้อภิสิทธิ์ในการเลือกเมนูเป็นส่วนใหญ่ค่ะ โฮะๆๆๆ
ที่สั่งไปนั่นมีอะไรบ้างน้า...
อย่างแรกที่สั่งคือ เกี๊ยวเกาหลีทอด ค่ะ
ตัวแป้งบางแต่ไม่กรอบมาก ยังมีความรู้สึกเหนียวนิดๆ ทอดมาเหลืองสวยมาก
ไส้ข้างในเป็นหมูสับผัดกับต้นหอมและวุ้นเส้น มีกลิ่นพริกไทยเล็กน้อยให้ความรู้สึกคล้ายๆ ไส้เปาะเปี๊ยะ
เสิร์ฟคู่กับซีอิ๊ว แต่ไม่ต้องจิ้มซีอิ๊วก็อร่อยแล้วนะคะเพราะตัวไส้ค่อนข้างมีรส(เค็ม)อยู่แล้ว
ต่อมาเป็นพวกมาริ(ข้าวห่อสาหร่าย)ค่ะ
จานนี้เป็น มาริกุ้งทอด
มาริแฮม
Spam mari 1
จานโปรดของพวกพี่ๆ มาริหมึกดำ
มาริถือได้ว่าเป็นเมนูเด็ดของร้านที่แนะนำเลยค่ะ
อาจบอกได้ว่าเหมือนข้าวห่อสาหร่ายทั่วไป แต่ต้องบอกก่อนว่าข้าวห่อสาหร่ายของเกาหลีต่างกับของญี่ปุ่นนิดนึงเรื่องรสชาติ
ของเกาหลีจะมีรสชาติมากกว่าและร้านนี้นำมาฟิวชั่นกับวัตถุดิบอื่นๆ ได้เยี่ยมมากค่ะ *ปรบมือ*
เวลาทานก็คีบมาริจิ้มกับมายองเนสที่ตกแต่งจานมาจะได้รสหวานๆ ตัดกับรสเค็มของกิมจิในมาริได้ลงตัว
หรือจะกินเลยไม่ต้องจิ้มก็อร่อยค่ะ กินเพลินๆ แป๊บเดียวหกสาวได้สั่งเพิ่มมาอีกสองจาน =[]=
พุงป่องโดยไม่รู้ตัว
คาโบนาร่าต็อก
เป็นการฟิวชั่นกันโดยใช้แป้งต็อกแทนเส้นพาสต้า
ในฐานะที่ชอบคาโบนาร่ามากๆ พอเห็นเมนูนี้ถึงกับลังเลค่ะ(ห๊ะ) ไม่ใช่อะไรเพราะว่าต็อกมันไม่ใช่สไตล์ของเรา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่พี่ๆ ทุกคนชอบค่ะ ซัดเกลี้ยงไม่เหลือเหมือนกัน เราเองก็ชิมตัวซอสด้วย ทำได้เข้มข้นหวานมันและหอมค่ะ
แกงกิมจิซีฟู้ด
อาหารเกาหลีแท้ๆ แต่รสชาติที่ออกมาแตกต่างจากที่เคยกินค่ะ
เห็นสีสันจัดจ้านแบบนี้ขอบอกเลยว่าไม่เผ็ดสักนิด รสชาติกลมกล่อม เข้มข้น ซดน้ำซุปได้เรื่อยๆ
เป็นอีกอย่างที่แนะนำให้สั่งไว้กินตัดแก้เลี่ยนหรือแก้เค็มของอาหารจานอื่นค่ะ
ข้าวผัดกิมจิแฮม
จานนี้อร่อยผิดคาดมากค่ะ โฮะๆๆๆๆ
ปกติเวลาไปกินพวกกะทะร้อนแบบนี้มักเจออาการข้าวไหม้แข็ง รสไม่เข้าที่ ไม่อร่อย
แต่ที่นี่ไม่เลยค่า รสชาติดี อารมณ์เหมือนกินข้าวผัดคลุกพริกแกงอ่อนๆ (อธิบายไม่ถูกแต่ประมาณนี้ ฮ่าๆ)
ตัวข้าวแห้งแต่ไม่ไหม้ อาจจะคิดว่ารสจืดไปนิดแต่ถ้าคลุกดีๆ กินพร้อมกับสาหร่าย แฮมและกิมจิจะได้รสกลมกล่อมกำลังดี เค็มนิดๆ
ตอนมาเสิร์ฟจะรูปสวยๆ แบบนี้ ทำไข่ดาวมาเป็นรูปหัวใจด้วย ><
พอมาเสิร์ฟปุ๊บ พนักงานจะแนะนำให้คลุกทันทีเลยค่ะเพื่อป้องกันข้าวไหม้ คุณพี่เลยจัดการคลุกๆ ออกมาเรียบร้อย
แต่พอมองโต๊ะอื่น เอ๊ะ! ทำไมพนักงานคลุกให้ ไม่เป็นไร คลุกเองก็สนุกดี ฮ่าๆๆๆ
เครื่องดื่มผลไม้
ไปกันเยอะเลยได้ลองเครื่องดื่มครบทุกรสของร้าน วนกันชิมรอบโต๊ะ โฮะๆๆ
รสชาติดีทุกแก้วค่ะ เป็นน้ำผลไม้ผสมกันหลายชนิดในหนึ่งแก้วและมีเนื้อผลไม้เพิ่มรสชาติให้เคี้ยวเล่นด้วย
ที่ชอบมากๆ คือสีสีนและตัวแก้วค่ะ อยากได้กลับบ้านเลย XD
นอกจากนี้พี่หมอได้สั่งน้ำขิงมาด้วย(ไม่ได้ถ่ายรูปไว้) รสชาติเผ็ดร้อนมาก น้องขอบายนะคะ XD
มาถึงของหวานตบท้ายกันบ้าง
พักพิงซูถั่วแดง
ขอหวานตบท้ายค่ะ เป็นน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี เนื้อน้ำแข็งเป็นนมและละเอียดมาก ละลายในปากทันทีที่ได้ชิม
หวาน หอม มัน เสิร์ฟคู่กับ 'เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์สไลด์' กับ 'ถั่วแดงกวน' แยกใส่ถ้วยเล็กมา
เวลาทานคู่กับเม็ดมะม่วงจะเพิ่มความหวานมันค่ะ ทานเพลินๆ แป๊บเดียวก็หมดถ้วย
เสียดายไม่ได้สั่งพิงซูเมล่อนที่ขึ้นชื่อมาเพราะมีเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่ในกลุ่มแล้วกลัวของหวานจะล้นโต๊ะเกินไป TT___TT #ไว้คราวหน้านะ
ด้านรสชาติอาหาร
โดยร่วมถือว่าอร่อยค่ะ ทานง่าย ปกติเราไม่ค่อยชอบอาหารเกาหลีเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่ของร้านนี้บอกได้เลยว่าทานง่าย
เสียอย่างคืออาหารทุกจานค่อนข้างเค็ม แต่ที่เค็มคาดว่าน่าจะเป็นตัวกิมจิที่ใส่มานะคะ เพราะส่วนอื่นที่ไม่มีกิมจิไม่เค็มค่ะ
นอกจากนี้โต๊ะเราได้สั่งมาม่ามาด้วย แต่เราไม่ได้ชิมเพราะพี่บอกว่าเผ็ดเลยไม่สามารถบอกได้ว่ารสชาติเป็นยังไง
ด้านบรรยากาศ
ร้านตกแต่งได้ดีค่ะ ดูโปร่งโล่งสบาย แต่ละโต๊ะไม่ติดกันเกินไป ภายในร้านสะอาดสะอ้าน เห็นครัวชัดเจน
จะว่าไปก็ตกแต่งคล้ายๆ ไก่บอนชอนอยู่นิดนึงเหมือนกัน เก้าอี้นั่งสบาย เปิดเพลงสากลคลอ กินไปเม้าท์ไปเพลินๆ ค่ะ
สาวคนไหนชอบถ่ายรูปร้านนี้ก็ถือว่าโอเคเลย จานอาหารตกแต่งมาน่ารัก ของตกแต่งก็สวย บรรยากาศดี ไฟเหลืองนวล มันใช่ค่ะ ฮ่าๆ
ด้านบริการ
ให้สี่ดาวครึ่งค่ะ บริการดีมากกกกกกก เดินเข้าร้านปุ๊บอันนยองก่อนเลย และอาหารได้เร็วมากกกกกกก
ตอนที่สั่งเราสั่งไปแปดอย่างกะรอพี่อีกคนที่ยังมาไม่ถึง ปรากฏว่าอาหารและเครื่องดื่มมาครบก่อนคุณพี่อีกค่ะ ><
มีติดขัดอยู่บ้างเล็กน้อยและหน้าไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ทำให้เราไม่ค่อยกล้าเรียกมากค่ะ ฮ่าๆ
แต่ที่ชอบมากๆ คือเราขอให้ช่วยทำเซอร์ไะรส์วันเกิดพี่ในกลุ่ม ทางร้านก็ช่วยจัดการให้ค่ะ ทั้งเปลี่ยนจานกับช้อนให้ใหม่หมด
แถมคุณเจ้าของร้าน(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)เดินถือเค้กออกมาให้แล้วยังมาช่วยร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้ด้วย น่ารักมากๆ ค่ะ
บรรยากาศอบอุ่นไปเลย ตรงนี้ได้ใจไปเต็มๆ ไม่เกี่ยวกับหน้าตาผู้ให้บริการแต่อย่างใดนะคะ XD
ด้านราคา
ค่อนข้างแพงไปนิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด กินบ่อยๆ ไม่ได้แน่ๆ ค่ะ
หยิบบิลมาดูนี่ถือกับตกใจไม่เคยมีตติ้งครั้งไหนจ่ายมากขนาดนี้ ฮ่าๆ แต่ถือว่าพอๆ กันถ้าไปกินบุพเฟ่ต์ร้านอาหารเกาหลีหัวละห้าร้อยนะคะ
โชคดีว่าใช้บัตรเครดิตเจ้านึงรูดจะได้ส่วนลด 10% และทางร้านมีโปรโมตชั่นบ่อยๆ ติดตามได้ทางเฟซบุ๊คของที่ร้านเลยค่ะ
การเดินทาง
ร้านตั้งอยู่ที่ชั่นสามของ Mercury Ville ตรงข้ามกับเซ็นทรัลชิดลมค่ะ
ถ้านั่งบีทีเอสให้ลงสถานีชิดลมออกทางออก 4 เดินผ่านทางเชื่อมเข้าห้างมาจะเจอร้านอยู่ในสุด เห็นป้ายร้านชัดเจนค่ะ
โดยรวมทั้งหมดที่ว่ามาแล้วให้สี่ดาวครึ่งเลยค่ะ หักเรื่องราคาอย่างเดียว ><
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ รีวิวอาหารครั้งแรกเลย ผิดพลาดตรงไหนแนะนำได้ค่ะ หรือใครไปลองมาแล้วก็มาแชร์กันนะคะ
ตอนนี้ขอตัวไปดูรายการเด็กๆ ต่อละค่ะ ตอนสุดท้ายแล้วก็ยังสั่งอาหารร้านนี้เหมือนเดิม เดี๋ยวหลังเงินเดือนออกได้ไปกินอีกแน่ๆ เลย
*ขอบคุณรูปเด็กๆ ที่เราแคปมาจากคลิปซับไทยของ Salynnain ด้วยนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น