ผมคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีอำนาจในการสั่งการใครได้ แต่ในความรู้สึกของผมตอนนี้สิ่งเดียวที่ผมคิดว่าสิ่งที่ทำได้และดูมันเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงในอนาคตกระทั่งลูกหลานคือ การเลือกตั้ง ผมเข้าใจม๊อบที่ออกมาประท้วงนะครับ ไม่ว่าเรื่อง เกลียดทักษิณ รัฐบาลโกงกิน หรือ เสื้อแดงล้มเจ้าอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเหตุผลให้ทุกคนออกมาในครั้งนี้ ผมคุยกับเพื่อนและคนที่ร่วมชุมนุมหลายคนนะครับ ส่วนใหญ่จะบอกเหมือนกันว่า รู้นะว่าสุเทพก็โกง แต่ รัฐบาลชุดนี้โกงกว่า เลยออกมา ผมไม่พูดถึงนะครับว่าใครโกงมากโกงน้อย แต่คือทุกคนที่ผมได้คุยยอมรับว่าโกงทั้งคู่ ในความรู้สึกผมคือโกงน้อยไล่โกงมาก มันคือทางออกจริงๆหรอ เรายอมรับได้กับการโกงไปแล้วหรอ ผมว่าเราอาจจะต้องยอมรับแล้วละครับ ว่าในระยะเวลาไม่กี่ปีเราคงจัดการเรื่องคอรัปชั่นให้หมดไปไม่ได้ แต่มันต้องเป็นสิ่งที่เราน่าจะต้องเริ่มจากจุดนี้ละครับ ที่จะทำให้ต่อไปมันต้องเป็นสิ่งที่สวยงามกว่านี้ การเกลียดในตัวนักการเมือง ผมเข้าใจ แต่เรื่องการเมืองเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้นะครับ เป็นสิ่งที่เราต้องศึกษา และผมคงต้องยอมรับจริงๆ ว่าการศึกษาจนจบปริญญาตรีที่ผมได้รับมาในเรื่องของการเมือง มันเปลือกนอกมากเลยครับ (ผมหมายถึงเฉพาะผมนะครับ ไม่รู้ว่าคนอื่นที่เขาเรียนเฉพาะด้านนี้หรือสถานศึกษาอื่นๆ เขาเจาะลึกกันขนาดไหน) หลักสูตรที่เห็นกันส่วนใหญ่ถ้าเป็นระดับมัธยมจนถึงปริญญา ที่ผมเรียนมา เท่าที่จำได้คือ สว,สส มี่กี่คน กระทรวงมีกี่กระทรวง รัฐมนตรีมีกี่คน อะไรประมาณนี้ ดูมันไม่น่าจะยาก แต่ผมถามเพื่อนผมในกลุ่ม 10 คน มีคนตอบถูกหมด 1 คน ( ยังดีนะที่มีคนถูก)ตอนนี้ผมว่าสังคมไทยตอนนี้ ใช้ความชอบในตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองมากกว่า เรื่องเหตุผลแล้วละครับ อย่างคุณทักษิณที่ว่าโกง โดนรัฐประหารไป พอเลือกตั้งก็กลายเป็นคุณยิ่งลักษณ์ ได้รับการเลือกตั้ง แม้จะก่อนหน้านั้นสมัย ที่คุณชวนเป็นนายก ที่คุณสุเทพโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องที่ดิน จนต้องชิงลาออกก่อน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เห็นบ่อยนักที่พรรคร่วมรัฐบาลจะออกมาไม่เห็นด้วยกับฝั่งตนเอง จนต้องยุบสภา แต่เลือกตั้งครั้งต่อมาก็ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งอีก นี่ละครับมันเลยทำให้ผมคิดว่าเรายึดมั่นในตัวบุคคลมากกว่าเหตุผล เพราะฉะนั้นการจะกำจัดคอรัปชั่นมันต้องเริ่มที่ประชาชนนี่ละครับ เราหันมาช่วยกันวางรากฐาน ช่วยกันปรับเปลี่ยนแนวคิดให้คนหันมาสนใจการเมือง แม้กระทั่งเด็กๆ ผมว่าการศึกษาบ้านเราน่าจะต้องมีการให้มี กรณีศึกษา ในเรื่องเหตุการณ์บ้านเมือง ให้ได้รู้จัก วิเคราะห์ แยกแยะ ว่าสิ่งดีและไม่ดี ในเรื่องการเมืองเป็นอย่างไร แม้มันอาจจะต้องเป็นการหวังผลระยะยาว แต่ผมเชื่อนะครับ ถ้าคนรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้เหตุผลในการเลือกนักการเมืองมากกว่าการชื่นชอบส่วนตัว ประชาธิปไตยจะสวยงามขึ้น แต่ถ้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้กลายเป็นการเรียกร้องแล้วผู้ชนะได้สิทธิ์ในการจัดตั้งการปฏิรูป ไม่ว่ารูปแบบจะออกมาแบบไหนมันก็เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือกฏหมาย นอกกรอบประชาธิปไตย ต่อจากนั้นไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จะมีข้ออ้างในการเล่นนอกกฏเกณฑ์ออกมาอีกมากมาย จะไม่มีคำว่า ถูกหรือผิด เพราะต่อไปจะมีแต่คำว่าชนะหรือแพ้ ผุ้ที่ชนะจะได้ตั้งกฏเกณฑ์ขณะที่ผู้แพ้ก็ต้องเล่นตามเกมส์ ไม่ว่าจะอีกนานแสนนานแค่ไหนคำว่าประชาธิปไตยที่สวยงามคงไม่เกิดในสถานการณ์เช่นนี้แน่นอน (ความเห็นส่วนตัว)
เพ้อจบละครับ
ทำไมต้องเลือกตั้ง ?
เพ้อจบละครับ