ไม่ใช่ว่าไม่ชอบทำบุญนะคะ แต่ปฏิเสธ เพราะไม่อยากทำบุญร่วมกับคนที่มาเชิญชวน
และที่สำคัญ คนที่มาเชิญชวนเป็นบุคคลที่เรารู้ดีว่าหลอกเพื่อนพ่อเราเรื่องทำบุญเอาหน้า
หลอกกินหลอกเที่ยวไปวันๆ ไม่ทำการงานใดๆ แต่ก็ต้องบริจาคไปเพราะแค่ยังเกรงใจบ้างในฐานะคนรู้จัก
คนแถวบ้านหรือเพื่อนพ่อ บอกได้เลยใจคิดแค่ไม่อยากได้บุญ โดยเฉพาะได้บุญร่วมกับคนแบบนี้
ถ้าคิดจะทำ จะไปทำเองได้บุญจากที่เราอยากทำเอง
แต่ก็แค่บอกเค้าไปตรงๆว่า เราไม่รู้จักสำนักสงฆ์ หรือ ไม่รู้จักวัดที่เค้ามาชวน ที่ไหน ก็ไม่รู้
เราอยากทำที่เราไปวัดเอง ไปกราบไหว้พระวัดนั้นๆเอง แล้วบอกไปตรงๆว่า
คราวหน้าอย่ามาชวนร่วมทำบุญแบบนี้เลย ชอบไปทำเองมากกว่า
(นี่ถือว่าเราพูดดีที่สุด และใจอยากปฏิเสธไปตรงๆว่า คุณไม่ต้องมาชวนอีก แต่ก็ช่วยซองไปแทนแม่เรา)
แค่นั้นแหละ แต่ คนนั้นโทรมาฟ้องพ่อเราว่า เราพูดจาไม่ดีกับเค้า
ถ้าเราพูดไม่ดีนะ จะพูดไปตรงๆว่า อย่ามาหลอกแม่เราหรือหลอกเราทำบุญไปด้วยกับคุณเลย
เพราะคุณน่ะ มีชีวิตอยู่ได้ไปวันๆด้วยการหลอกคนไปทำบุญ ให้เค้าออกเงินค่ารถ ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเที่ยว
ผ้าป่า กฐิน อาทิตย์ละสามสี่ซอง เพียงเพราะอาศัยศรัทธาจากคนอื่น
หลอกเพื่อนพ่อเราคนเดียวพอ จนใครๆแถวบ้านเค้ารู้กันทั่วว่า
คนนี้หลอกกินเพื่อนพ่อเราจนจะหมดตัวแล้ว กินไปเป็นล้านล่ะ เพราะหลอกมาหลายปีมาก
ให้ออกค่าทัวร์ไหว้พระ9วัดครั้งละ 20000 ให้เค้าเองด้วย มีทริปมาชวนทุกอาทิตย์ แล้วแต่ใกล้ไกล
จ่ายค่ากินหรูๆ ค่าครู ครั้งละ 5000 ค่ารถตู้ไม่เคยช่วย
ที่พักก็ไม่เคยออก แถมจัดหารถตู้แพงๆมาให้เ่ช่า วันละ 3000-3500
แถมยุยงส่งเสริม พูดจาให้ผัวเมียเค้าเลิกกัน
ให้จิตเสื่อม ทำให้เพื่อนพ่อเรางมงาย สติแตกเพราะคำยุของคนๆนี้
ให้เพื่อนพ่อเราไปแก้ยาเสน่ห์ แก้คุณไสย์ ดูหมอบ้าง รดน้ำมนต์บ้าง
แถมเลี้ยงลูกผี ลูกอะไรที่พกไปนั่งที่โต๊ะด้วยเหมือนคนเป็นบ้า
ไม่อยากบอกว่า คนแบบนี้อย่ามาใกล้เลย
นี่แหละใจจริงที่อยากบอก อย่ามาหลอกกินกับคนในครอบครัวฉันเด็ดขาด
นี่หรือคนดี ธรรมะธัมโม ยังมีหน้ากล้าโทรฟ้องพ่อเรา ไม่ด่าไปตรงๆ ดีแค่ไหนแล้ว
ให้พ่อมาว่าเราอย่าไปพูดมาก บริจาคไปก็พอ เพราะยัยนี่ปากเสียเที่ยวไปโพทนา
เดียวจะมานินทาเราเสียๆ หายๆได้
แต่คนแบบนี้ ไม่มาครั้งเดียวหรอกนะ นี่ครั้งที่2ที่กล้ามา และ จะโพทนาว่าเราเสียหายก็เชิญ
อย่าให้เข้าหูโดยตรง จะด่ากลับให้เสียคน เราไม่ได้ขอใครกินแบบคุณ
ให้รู้ไปว่าไม่ชอบ อย่ามาชวนอีก ไม่ได้โง่พอที่จะให้หลอกกินหลอกฟันอีกคน
อย่าเอาศาสนาบังหน้าเลยถ้าคิดจะชวนทำบุญ คุณหัดทำงานหาเงินเองก่อน
ทำบุญด้วยตัวเองให้ได้ก่อน
อย่าเอาศาสนาเป็นเครื่องมือ
บางทีก็คิดว่าไม่ควรไปพูดมากตามพ่อบอก
แต่เป็นคนที่หน้าอย่างใจคิดอย่างไม่เป็นแบบเค้า
ถ้าเป็นคุณเจอคนประเภทนี้จะบอกปัดอย่างไร
ไม่ได้รังเกียจซองนะ แต่รังเกียจคนมาชวนจริงๆ
เจอคนแบบนี้สุขภาพจิตเสียจริงๆ
ถ้าเป็นคุณเจอคนประเภทนี้จะบอกปัดอย่างไรดีนะ
หรือจะยอมๆใส่ซองไม่พูดอะไร แบบพ่อแนะนำ
มาเดือนละซอง ก็ใส่มันไปไม่พูดอะไรกับคนๆเดียว
เราถือว่า ทำบุญแล้วต้องสบายใจไม่ได้บุญไม่เป็นไร
แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจจะถือว่าทำตังค์หล่นหาย เพราะทำแล้วไม่สบายใจ
งานนี้เราไม่ได้บุญ แต่เราสบายใจที่ได้ปฏิเสธไปแล้ว
ถือว่าเป็นบุญที่ไม่ต้องข้องแวะกับคนประเภทนี้อีก
การที่เราปฏิเสธการบริจาคร่วมทำบุญผ้าป่ากับคนที่ไ่ม่ชอบ
และที่สำคัญ คนที่มาเชิญชวนเป็นบุคคลที่เรารู้ดีว่าหลอกเพื่อนพ่อเราเรื่องทำบุญเอาหน้า
หลอกกินหลอกเที่ยวไปวันๆ ไม่ทำการงานใดๆ แต่ก็ต้องบริจาคไปเพราะแค่ยังเกรงใจบ้างในฐานะคนรู้จัก
คนแถวบ้านหรือเพื่อนพ่อ บอกได้เลยใจคิดแค่ไม่อยากได้บุญ โดยเฉพาะได้บุญร่วมกับคนแบบนี้
ถ้าคิดจะทำ จะไปทำเองได้บุญจากที่เราอยากทำเอง
แต่ก็แค่บอกเค้าไปตรงๆว่า เราไม่รู้จักสำนักสงฆ์ หรือ ไม่รู้จักวัดที่เค้ามาชวน ที่ไหน ก็ไม่รู้
เราอยากทำที่เราไปวัดเอง ไปกราบไหว้พระวัดนั้นๆเอง แล้วบอกไปตรงๆว่า
คราวหน้าอย่ามาชวนร่วมทำบุญแบบนี้เลย ชอบไปทำเองมากกว่า
(นี่ถือว่าเราพูดดีที่สุด และใจอยากปฏิเสธไปตรงๆว่า คุณไม่ต้องมาชวนอีก แต่ก็ช่วยซองไปแทนแม่เรา)
แค่นั้นแหละ แต่ คนนั้นโทรมาฟ้องพ่อเราว่า เราพูดจาไม่ดีกับเค้า
ถ้าเราพูดไม่ดีนะ จะพูดไปตรงๆว่า อย่ามาหลอกแม่เราหรือหลอกเราทำบุญไปด้วยกับคุณเลย
เพราะคุณน่ะ มีชีวิตอยู่ได้ไปวันๆด้วยการหลอกคนไปทำบุญ ให้เค้าออกเงินค่ารถ ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเที่ยว
ผ้าป่า กฐิน อาทิตย์ละสามสี่ซอง เพียงเพราะอาศัยศรัทธาจากคนอื่น
หลอกเพื่อนพ่อเราคนเดียวพอ จนใครๆแถวบ้านเค้ารู้กันทั่วว่า
คนนี้หลอกกินเพื่อนพ่อเราจนจะหมดตัวแล้ว กินไปเป็นล้านล่ะ เพราะหลอกมาหลายปีมาก
ให้ออกค่าทัวร์ไหว้พระ9วัดครั้งละ 20000 ให้เค้าเองด้วย มีทริปมาชวนทุกอาทิตย์ แล้วแต่ใกล้ไกล
จ่ายค่ากินหรูๆ ค่าครู ครั้งละ 5000 ค่ารถตู้ไม่เคยช่วย
ที่พักก็ไม่เคยออก แถมจัดหารถตู้แพงๆมาให้เ่ช่า วันละ 3000-3500
แถมยุยงส่งเสริม พูดจาให้ผัวเมียเค้าเลิกกัน
ให้จิตเสื่อม ทำให้เพื่อนพ่อเรางมงาย สติแตกเพราะคำยุของคนๆนี้
ให้เพื่อนพ่อเราไปแก้ยาเสน่ห์ แก้คุณไสย์ ดูหมอบ้าง รดน้ำมนต์บ้าง
แถมเลี้ยงลูกผี ลูกอะไรที่พกไปนั่งที่โต๊ะด้วยเหมือนคนเป็นบ้า
ไม่อยากบอกว่า คนแบบนี้อย่ามาใกล้เลย
นี่แหละใจจริงที่อยากบอก อย่ามาหลอกกินกับคนในครอบครัวฉันเด็ดขาด
นี่หรือคนดี ธรรมะธัมโม ยังมีหน้ากล้าโทรฟ้องพ่อเรา ไม่ด่าไปตรงๆ ดีแค่ไหนแล้ว
ให้พ่อมาว่าเราอย่าไปพูดมาก บริจาคไปก็พอ เพราะยัยนี่ปากเสียเที่ยวไปโพทนา
เดียวจะมานินทาเราเสียๆ หายๆได้
แต่คนแบบนี้ ไม่มาครั้งเดียวหรอกนะ นี่ครั้งที่2ที่กล้ามา และ จะโพทนาว่าเราเสียหายก็เชิญ
อย่าให้เข้าหูโดยตรง จะด่ากลับให้เสียคน เราไม่ได้ขอใครกินแบบคุณ
ให้รู้ไปว่าไม่ชอบ อย่ามาชวนอีก ไม่ได้โง่พอที่จะให้หลอกกินหลอกฟันอีกคน
อย่าเอาศาสนาบังหน้าเลยถ้าคิดจะชวนทำบุญ คุณหัดทำงานหาเงินเองก่อน
ทำบุญด้วยตัวเองให้ได้ก่อน
อย่าเอาศาสนาเป็นเครื่องมือ
บางทีก็คิดว่าไม่ควรไปพูดมากตามพ่อบอก
แต่เป็นคนที่หน้าอย่างใจคิดอย่างไม่เป็นแบบเค้า
ถ้าเป็นคุณเจอคนประเภทนี้จะบอกปัดอย่างไร
ไม่ได้รังเกียจซองนะ แต่รังเกียจคนมาชวนจริงๆ
เจอคนแบบนี้สุขภาพจิตเสียจริงๆ
ถ้าเป็นคุณเจอคนประเภทนี้จะบอกปัดอย่างไรดีนะ
หรือจะยอมๆใส่ซองไม่พูดอะไร แบบพ่อแนะนำ
มาเดือนละซอง ก็ใส่มันไปไม่พูดอะไรกับคนๆเดียว
เราถือว่า ทำบุญแล้วต้องสบายใจไม่ได้บุญไม่เป็นไร
แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจจะถือว่าทำตังค์หล่นหาย เพราะทำแล้วไม่สบายใจ
งานนี้เราไม่ได้บุญ แต่เราสบายใจที่ได้ปฏิเสธไปแล้ว
ถือว่าเป็นบุญที่ไม่ต้องข้องแวะกับคนประเภทนี้อีก