ความศรัทธากับครอบครัว 7 ชีวิตและหนึ่งหลาน ที่มีความปกพร่องทางปัญญา.

สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ปัญหาในครั้งนี้นะครับ

ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นกิจลักษณะนิดนึงนะครับ

ผมเป็นบุตรคนที่ 1 จาก 4 คน และเป็นลูกชายคนโตของใน 1 คนจากแม่คนที่หนึ่งครับ(เมียหลวง) และมีน้องสาว 1 คนครับ ส่วนตัวผมเองเป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดีครับ ตอนช่วงยังเด็กผมถูกเลี้ยงดูจากพ่อและแม่ทั้งสองคนครับ "อย่าพึ่ง งง ครับ" ตั้งแต่ผมยังไม่เกิดแม่ผมบอกผมว่าชีวิตของแม่น่าสงสารมากและที่สำคัญ"ทุกข์ใจ"เป็นที่สุดแต่ก็ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ แม่เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงน้องของพ่ออีก 5 คน และ 3 ใน 5 คน ยังเป็นเด็กมัธยมปลายอยู่เลยครับ ชีวิตอันแสนสาหัสของแม่มันเริ่มจากตรงนี้ครับ "แม่บอก"มีอยู่วันหนึ่งที่เป็นปกติของทุกวันที่แม่ยังปรนนิบัตร ญาติพี่น้องของพ่อเหมือนทุกวัน ชีวิตแม่ผมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นั้นก็คือผู้เป็นพ่อของผมมีความคิดอยากไปสอนหนังสือเด็กมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอ จึงทำให้ไปเจอ"แม่คนมี่สอง"ร้องไห้เมียน้อย) ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าผมคงใกล้จะมาเกิดแล้วล่ะมั่งไม่แน่ใจ.
หลังจากที่ผู้เป็นพ่อของผมเริ่มมีแม่อีกคนเข้ามา พฤติกรรมของหัวหน้าครอบครัวก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากคนที่เคยช่วยแม่ผมทำงานก็เปลี่ยนไปเป็นให้แม่ผมทำงานอยู่คนเดียว แล้วก็ใช้ชีวิตในครอบครัวคนจีนอันโหดร้าย (คงไม่ต้องอธิบาย) "ซักนิสสก็ได้ครับเดี๋ยวนึกไม่ออก" ก็คือแม่ผมก็ต้องเริ่มจากตื่นตั้งแต่ตีสี่มาทำกับข้าวให้ ปู่ ย่า น้า อา ฯลฯ อีกเยอะครับ และซักผ้าของทุกคนที่อยู่ในบ้านไม่เว้นแม้แต่น้องสาวของพ่อผมเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากกับการได้รับรู้ปัญหาของแม่ แต่ในที่สุดวันนั้นก็ได้เข้ามา คือพ่อพาแม่อีกคนเข้ามาอยู่ด้วยที่บ้านอีกหลังซึ่งใกล้ๆกันกับบ้านที่ครอบครัวพ่ออยู่ หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็มีผมและได้เลี้ยงดูอย่างเด็กปกติทั่วไป แต่ที่แม่บอกว่ามันทำให้แม่หมดกำลังใจก็เมื่อแม่เห็นพ่อผมบอกแม่ว่าแม่อีกคนก็จะมีลูกเหมือนกัน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานประมาณ 7 เดือน แม่อีกคนก็คลอดลูกสาวออกมา ซึ่งจะเป็นแบบนี้จนครบ 4 คน พวกผมโดนเลี้ยงมาด้วยการเอาใจใส่จากพ่อและแม่ทั้งสอง แต่ในช่วงจังหวะชีวิตนั้นซึ่งเหมือนจะดีแต่ความ"หายนะ"ก็มาเยือน เมื่อผู้เป็นปู่อยากมี "ย่าอีกคนเหมือนพ่อของผม" แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้คงไม่ต้องอธิบายนะครับ หลังจากเหตุนี้เองทำให้ครอบครัวของเรา "โดนไล่ออกจากบ้านที่อาศัยอยู่" โดยไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายอะไรกับทางปู่และย่าเลยซักคำ หลังจากนั้น"ครอบครัวของผมจึงได้ย้ายมาอยู่บ้านที่พ่อได้ให้แม่คนที่สองอาศัยอยู่" แต่ก็เหมือนพวกเราในครอบครัวจะเห็นใจกันแต่กลับเกิดปัญหาขึ้นเมื่อ ผู้เป็นพี่ชายของพ่อ(ลุง)ได้อย่าร้างกับเมียของตัวเองทำให้ลูกทั้งสามคนแตกละแหงกันออกไป แต่อย่าได้เป็นปัญหาอะไรเลยในทางกลับกับพ่อของผมเจอปัญหาเต็มๆเมื่อผู้เป็นลุง เอาลูกชาย"นั้นก็คือหลานนั้นเอง"มาให้พ่อของผมเป็นคนดูแลส่วนตัว ลุง เองคงไม่ต้องเดาไรมากมายใช่มั้ยล่ะครับ ง่ายๆก็มีเมียใหม่และลูกอีกหนึ่งคน(ปัจจุบัน 12 ขวบ) "คุณลองคิดดูว่าคนโตที่มีกับเมียคนที่แล้วจะอายุเท่าไหร่" ตอบครับ อายุ 37 ปี ครับ"แต่ผมก็รักแกมากเลย" เข้าเรื่องมาเจอกับปัญหาของครอบครัวผมเลยดีกว่า ผู้เป็นพ่อของผมตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับแม่คนที่ 2 และใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหลังจากที่ลูกทั้ง 4 คนเรียนจบมหาวิทยาลัยกันทั้งหมด "ปัญหาที่แท้จริงก็เกิดขึ้นเมื่อ" *ผู้เป็นพ่อของผมนี่เองได้มีปากเสียงกับแม่ของผม ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดจากแม่คนที่ 2 และลูกคนโตของพ่อทำให้เกิดปัญหา  พ่อเลยไล่แม่และผมออกจากบ้านเพราะไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดของผู้เป็นพ่อ (ผมและแม่ก็ได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณตาและคุณยาย)

ยังไม่จบนะครับ

ยังไงช่วยติดตาม "ตอนที่ 2 " ด้วยนะครับ เพราะว่า ความศรัทธาจะเกิดขึ้นจากนี้เป็นต้นไปครับ

ขอบคุณสำหรับ ความคิดเห็นและกำลังใจนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่