[CR] รีวิวอกหัก พร้อมวิธีการรักษา (ฉ.คนใจอ่อน)

สวัสดีค่าาาาา
หลังจากที่อกหักมาปีกว่าๆ ก็ทำให้คิดอะไรได้เยอะพอสมควร
ประกอบกับว่าเห็นกระทู้รีวิวกันเยอะแล้ว ก็เลยอยากจะรีวิวกับเขาบ้าง(ฮา)
แต่ว่าขอบอกไว้ก่อนว่ากระทู้นี้ไม่มีการเปลี่ยนตัวเอง ลดหุ่น ฉันจะสวย อะไรแบบนั้นนะคะ
กำลังตั้งใจ"จะ" ปฎิบัติอยู่ค่ะ แต่บุฟเฟ่ต์ทั้งหลายมันยั่วยวนเหลือเกินก็เลยพับโครงการไว้ก่อน หัวเราะ

***เนื้อหาแบบสรุปสามารถข้ามไปอ่านตรงที่เราดอกจันไว้ได้เลยนะคะ***


มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
กับแฟนคนล่าสุดที่เพิ่งเลิกกันไปก็คบกันมาปีกว่าๆค่ะ
รายละเอียดต่างๆขอข้ามไปละกันนะคะ

เริ่มกันที่อาการระยะเริ่มแรกก่อน (ระยะนี้ความเจ็บปวดจะรุนแรงสุด)
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่ารอบนี้โดนเทแน่ๆ เลิกแน่ๆ
ความรู้สึกแรกที่เข้ามาแน่นอนว่าเป็นความช้อคค่ะ
ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ยังฟูมฟาย ยังตามตื๊อ
ยังพยายามทำตัวเหมือนเดิม
แต่ค่ะแต่ ใจคนเราอะ ถ้ามันเปลี่ยนแล้วคือเปลี่ยนเลยค่ะ
ทำยังไงก็ไม่ได้ผล จนสุดท้ายแล้วเราทนกับความเฉยชา
ความเปลี่ยนไปจนใจหายของเขาไม่ได้ ก็เลยหยุดตื๊อ แล้วมาฟูมฟายกับตัวเองแทน
ช่วงนี้แหละ นรกของจริง
วันๆไม่อยากจะทำอะไร เขาทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร ใช่คนนั้นรึเปล่า
ภาพความทรงจำเก่าๆที่เคยมีเคยทำด้วยกันอีก
สารพัดล้านแปดที่จะคิดได้ อยากนอนอย่างเดียว
เพราะตอนนอนเป็นเวลาเดียวที่ไม่ต้องคิดอะไร
แต่บางทีดันไปเจอหลอนในฝันอีก
ตื่นขึ้นมานี่จุกไปหมดเลยพอรู้ว่าอ๋อ นั่นคือฝัน
ความจริงคือ มันไม่มีแล้วนะ ร้องไห้
เราอยู่กับระยะนี้นานมากประมาณ 6 - 7 เดือนได้
โทรหาเพื่อนจนไม่อยากจะโทรเพราะเกรงใจมัน
จนเปลี่ยนไปโทรหาสายด่วนสุขภาพจิตแทน
ซึ่งถ้าเจอพี่ที่ดีก็ดีไป แต่เคยเจอบางคนเหมือนฟังส่งๆไปให้จบๆ
มันก็จะเสียความรู้สึกนิดหน่อย
แต่ก็เข้าใจได้ว่าปริมาณคนให้บริการกับคนใช้บริการมันไม่สมดุลกัน
แต่แบบหลังเจอน้อย ส่วนใหญ่พี่ๆจะให้คำแนะนำดีมากกว่า (อันนี้เบอร์ค่ะ 1323)
แต่ช่วงหลังเหมือนจะมีคนโทรเข้าไปเยอะ โทรติดค่อนข้างยากนิดนึง

ต่อมาจะเป็นช่วงที่ 2 ช่วงนี้ยังคงเป็นช่วงหลอกตัวเองอยู่ค่ะ
สามวันดีสี่วันเศร้า
บางวันก็รู้สึกว่าฉันทำใจได้แล้ว บางวันก็เศร้าจนไม่เป็นอันทำอะไร
ซึ่งจริงๆทั้งหมดก็หลอกตัวเองทั้งนั้นแหละ ไม่ได้ทำใจได้
แค่เหนื่อยกับความเศร้าจนต้องหลอกตัวเองก่อนแป๊บนึงว่า ไม่เศร้าแล้วน้า
ให้ใจมันได้มีความสุขก่อนซักหน่อยนึงแล้วก็กลับไปเศร้าใหม่
วนเป็บลูปนรกอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ
จนเข้าสู่ช่วงที่ 3 ช่วงที่ความอดทนมันหมดลง
มันเริ่มทำแบบที่ใจอยากจะทำ ตั้งแต่ขั้นเบสิก ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์
มันก็ค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ กินเวลาหลายเดือนอยู่
จนสุดท้ายพอทำทุกอย่างที่อยากจะทำแล้วจริงๆ
มันเหมือนปลดล้อค
ประกอบกับว่ามันเป็นจังหวะที่พอดีมากๆที่มีคนใหม่ช่วยเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจได้พักนึง
ทีนี้ก็เลยหลุดเลย หลุดพ้นแล้วจากพันธนาการทางใจที่แน่นหนาเหลือเกิน
หลุดในที่นี้คือไม่ใช่ว่าสามารถตัดขาดได้ 100% นะคะ
ยังคงคิดถึงอยู่เป็นระยะๆ ยังคงมีความคิดว่าตอนนั้นดีจริงๆ ถ้ากลับไปได้จริงก็ดีเนอะ
แต่มันเป็นแค่ความคิดค่ะ เป็นความคิดที่มองไม่เห็นอนาคตอีกต่อไปแล้ว
มันไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีกต่อไปแล้วด้วยประการทั้งปวง
ก็เลยปล่อยมันเฟ้งฟ้างอยู่ต่อไปแบบนั้น



***สรุปสิ่งที่ได้จากการอกหักและแนวทางการรักษา***

1.พี่ลุลาพูดถูก 1,000,000% เวลาไม่ช่วยอะไร ถ้าใจฉันยังรอเธอ ยังคงรักแต่เธอ...
พอก่อนค่ะ เดี๋ยวจะจบเพลงก่อน(ฮา) ถ้าติดลมก็ตามไปฟังต่อที่ลิ้งนี้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เวลาไม่ช่วยจริงๆค่ะ แล้วเราก็ไม่สามารถจะลืมมันได้ด้วย
ยิ่งอยากลืมเท่าไหร่มันจะยิ่งจำค่ะ เหมือนเวลาที่เราบอกว่า
อย่าคิดถึงเสือนะ แต่ในหัวเราก็มีภาพเสือขึ้นมาแล้ว
ดังนั้นไม่มีทางค่ะ ยิ่งอยากลืมมันจะยิ่งกระตุ้นให้คิดถึงขึ้นมาอีก
เบี่ยงเบนความสนใจ ลุกไปหาความรักใส่ตัวเองช่วยได้มากกว่า
ไปวิ่ง ไปออกกำลัง ไปมาส์กหน้า ไปอาบน้ำ ไปทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่จับเจ่าอยู่ที่เดิม
ช่วงแรกอาจจะยากซักหน่อย ก็ไม่เป็นไรค่ะ
ฝืนบ้าง ตามใจตัวเองบ้าง เดี๋ยวช่วงหลังก็ทำได้เอง
แต่ไม่ใช่ไม่ฝืนเลยนะ แบบนั้นไม่มีวันทำได้หรอกค่ะ

2. อันนี้ต่อจากข้อแรกค่ะ
สิ่งที่ทำให้ทำใจได้เลยจริงๆสำหรับเรานะ
คือการ "ทำสิ่งที่ใจอยากทำ"
ตอนแรกเราพยายามมาก เราฝืนตัวเองไว้ทุกอย่าง
แต่ก็อย่างที่เห็น เราผ่านมันไปไม่ได้
เราผ่านไม่ได้เพราะ "เราหลอกตัวเอง"
"เราให้ความหวังตัวเอง"
เราคิดเสมอ(ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว)ว่าเขาจะกลับมา
เดี๋ยวเขาก็กลับมา เรารอได้ ไม่เป็นไร
ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่หรอก
เราแค่ยังยอมรับกับการสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้
เราเลยยังหลอกตัวเองอยู่แบบนั้น
แต่การที่เราลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ใจอยากทำ
มันทำให้เราเผชิญกับความจริงเร็วขึ้น
เพราะพอเราลุกขึ้นมาทำปุ๊บ เราจะได้รับการตอบสนองจริงจากเขา
เราก็จะค่อยๆลดความมโนในหัวลงไปทีละน้อยๆ
จนในที่สุดก็ยอมรับได้เองว่ามันจบแล้วจริงๆ
มันไม่มีทางอีกต่อไป
แต่!!!
คำเตือนสำหรับการใช้วิธีนี้ก็คือ
ถ้าคุณเจอผู้ชายประเภทโลเล หรือคบเผื่อเลือก หรือขี้กั๊ก
หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในไทป์แบบนี้
วิธีนี้ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด
เพราะเขาจะเลี้ยงไข้คุณ เขาจะไม่มีวันให้คุณกลับไปเป็นตัวจริง
แต่ก็ไม่ยอมปล่อยคุณไป ยิ่งคุณยอมเขา เขาก็จะเห็นคุณเป็นของเล่นอยู่แบบนั้น
แต่ทุกอย่างก็ย่อมมีข้อยกเว้นอีก
ความอดทนของแต่ละคนไม่เท่ากันหรอก ความสุขก็เช่นกัน
ถ้าคุณทนได้ ถ้าคุณยังมีความสุขกับแบบนั้น ก็ทนไปเถอะค่ะ
ถึงวันนึงที่คุณทนไม่ไหว เดี๋ยวคุณก็ถอยออกมาได้เอง
เราว่าคนเรามันมีความรักตัวเองอยู่ในตัวทุกคนแหละ
จะมีมากมีน้อยยังไงก็มี วันนึงเดี๋ยวคุณก็จะรักตัวเองมากพอ

3.อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ทุกคนก็คือ
กลับไปเติมความรักให้ตัวเอง
เราไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง
แต่สำหรับเรามันเหมือนพอเราขาดความรักตรงนี้ไปแล้วมันโหวงๆ
มันหวิวๆอะ บอกไม่ถูก
เหมือนเราเคยได้เคยมี เคยให้ เคยดูแล แล้วมันหายไป
วิธีแก้ก็คือกลับไปหาคนที่รักคุณ ใครก็ได้ที่คุณสามารถ
"สัมผัสถึงความรัก" ที่เขามีให้คุณได้
แล้วความรู้สึกตรงนี้มันจะค่อยๆเต็มขึ้นมาเอง
ไม่ได้หมายความว่าให้คุณรีบมีคนใหม่ หรือรีบหาคนคุย อะไรแบบนั้นนะคะ
แต่หมายถึงอาจจะกลับไปหาพ่อ แม่ เพื่อน พี่ ลุง ป้า น้า อา อากง อาแปะ อาอึ้ม อาซิ่ม อาตี๋ อาหมวย
อะไรก็ได้ที่คุณอยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าได้รับความรักน่ะ กลับไปเถอะ
เราเคยรู้สึกเสียสูญมากๆพักนึงเลยนะ
เพราะเหมือนเราเอาคุณค่าของเราไปผูกกับเขามากเกินไป
พอโดนเทมันเลยเหมือนรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าไปเลย
แต่พอไปอยู่กับคนที่สามารถสัมผัสถึงความรักของเขาได้
มันก็ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของตัวเองขึ้นมาได้อีกครั้ง
เราว่าเรื่องนี้สำคัญมากเลยนะ
มันคล้ายๆกับกรณีของเคสรีเสิร์ชนักเรียนญี่ปุ่น(รึเปล่าไม่แน่ใจ)
คือเราเคยอ่านเจอมา เรื่องคร่าวๆเกี่ยวกับนักเรียนกลุ่มนึง
ที่เรียนเก่งพอๆกัน แล้วจับแยกให้ไปอยู่ 2 ห้อง
ห้องนึงบอกว่าเป็นห้องคิง อีกห้องบอกว่าเป็นห้องบ๊วย
ห้องที่เป็นห้องคิงครูก็จะคอยชื่นชมแนะนำ ทำดี เก่งมาก
ส่วนห้องบ๊วยครูก็จะคอยบอกว่าเธอเรียนไม่เก่ง เธอไม่ได้เรื่อง
ผลก็คือเทอมต่อมาเด็กห้องบ๊วยคะแนนน้อยลงจริงๆ
(ไม่แน่ใจว่าจริงเท็จประการใด อ่านมานานพอสมควรแล้ว
แต่เราว่ามันดูปรับใช้ได้เลยยกตัวอย่างให้ฟังกัน)
ในความคิดเรา เราว่าบางครั้งสภาพแวดล้อมรอบตัวก็เหมือนกระจกสะท้อนตัวเรา
ถ้าเราอยู่กับกระจกที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน เราก็จะไม่มีวันเห็นตัวเราที่ดีได้เลย
เพราะไม่ว่าจะมองไปยังไงเราก็เจอแต่ตำหนิ
บางครั้งสู้เปลี่ยนกระจกใหม่ให้มันสะท้อนตำหนิจริงๆของเราอย่างเดียวดีกว่า

4.เรื่องของความรักน่ะมันมีหลายปัจจัย
ถ้ามันจบไปแล้วก็อย่าโทษตัวเองเลย
อันนี้เราโทษตัวเองอยู่นานมากเลยนะ
หลายๆอย่างที่เราทำไม่ดีกลับมาตีแสกหน้าเราหมดเลย
แต่พอผ่านไปซักพัก(ใหญ่) มันก็เริ่มตกผลึกได้
" เราควรอยู่กับคนที่รับด้านไม่ดีของเราได้ "
คนเรามันมีทั้งด้านดีด้านไม่ดีกันทุกคนนั่นแหละ
คนที่อยู่ด้วยกันรอดไม่ใช่คนที่ไม่แสดงด้านไม่ดีใส่กัน
แต่เป็นคนที่มองเห็นในด้านที่ไม่ดีของกันและกันแล้วยังยอมรับมันได้มากกว่า
เรื่องนี้มันเบสิกมาก แต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วอะ
คนส่วนใหญ่ก็ยังคงคิดว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันน่าจะทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้...
(ไม่นับกรณีที่ทำดีที่สุดแล้ว ไม่เห็นมีใครเข้าใจ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
ซึ่งตอนนั้นที่เราทำน่ะ เราเลือกทางที่ดีที่สุดของณ ตอนนั้นที่เราทำแล้วแหละ
ถึงย้อนกลับไปตอนนั้นได้ เราก็ยังเป็นเราคนเดิม สุดท้ายเราก็จะเลือกทำแบบเดิม
ดังนั้น เรียนรู้จากมันแล้วจำ จำแล้วนำไปใช้จะมีประโยชน์มากกว่า

5.มองหาพลังบวกเข้าไว้
เพลงอกหัก เพลงเศร้า ฟังได้ ฟังไปเถอะ
เอาให้สะใจ เอาให้สบายใจ เสร็จแล้วก็ไปเติมพลังบวกให้ตัวเอง
หาเรื่องดีๆอ่าน หาโควทสดใสๆให้ชีวิต หาหนังดีๆสักเรื่องดู
ไม่ใช่อ่านแต่โควทอกหัก มันใช่ว่ะ เห้ยแบบนี้มันเราเป๊ะเลยอย่างเดียว
แบบนั้นมันได้ความสะใจ แต่มันไม่ช่วยดึงเราขึ้นจากห้วงอารมณ์อันหม่นหมองได้หรอก
ตอนที่เราเศร้าสุดๆสิ่งที่ช่วยเราได้เยอะมากเลยคือ
1.เพื่อน บ้าให้สุดแล้วหยุดที่โรงพยาบาล(ฮา) อันนี้พูดเล่น แต่เพื่อนช่วยเราเยอะมากจริงๆ
พาไปเที่ยว พาไปกิน พาไปบ้า ทั้งรับฟังทั้งด่าทั้งปลอบทั้งให้กำลังใจผสมๆกันไปหมด
2.สายด่วนสุขภาพจิต ถ้ากลัวเพื่อนไม่ไหวจะรำคาญแล้วก็โทรไปเถอะ
บางทีสิ่งที่คนอกหักต้องการก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการที่มีคนรับฟัง
เราพูดถึงเรื่องเดิมซ้ำๆหรอก นอกจากรับฟังแล้วยังได้คิด ได้ไตร่ตรองใหม่อีกครั้ง
ได้คำแนะนำดีๆกลับมาอีกด้วย
3.ธรรมะ อันนี้วัยรุ่นหลายๆคนอาจจะยี้แต่ถ้าเลือกฟังดีๆแล้วจะได้ประโยชน์พอสมควรเลย
มันทำให้เราสงบกว่านั่งฟังเพลงเศร้า ฟังไปฟังมาก็พอจะปลงได้ซักพัก
พักจิตพักใจซักนิดก็ยังดี
4.เขียนเรื่องดีๆที่เราเจอในวันนั้นๆอย่างน้อย 3 เรื่อง
มันทำให้สมองเราไม่เป็นไปตามระบบเศร้าออโต้ มันได้ใช้การประมวลผลในเรื่องดีๆ
แล้วมันก็ทำให้จิตใจเราเบิกบานขึ้นเพราะเราเบี่ยงเบนมันไปคิดถึงสิ่งอื่นที่ทำให้เรามีความสุข
ถ้าฝึกมันบ่อยๆเราว่ามันดีมากเลย แต่เราก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง
5.หนังสือและซีรี่ย์ ข้อนี้จะเป็นช่วงหลังๆแล้ว เพราะช่วงแรกๆที่ยังเป็นบ้าอยู่
พวกนี้ก็เอาไม่อยู่ ตาอยู่นี่แต่ใจลอยไปไหนแล้วไม่รู้

6.ข้อสุดท้าย
ไม่ว่าจะเป็นการอกหักครั้งที่เท่าไหร่ก็ตาม
แต่เชื่อเถอะ
อกหักครั้งหน้าเราก็ยังจะเจ็บเหมือนเดิม
ทรมานเหมือนเดิม
ฟูมฟายเหมือนเดิม
เศร้าเหมือนเดิม
แต่สิ่งนึงที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ
เรารู้แล้วว่ายังไงเดี๋ยวะวันนึงมันก็ผ่านไป
จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเราเองนั่นแหละ
ว่าพร้อมจะรับความจริงได้เมื่อไหร่

สุดท้ายนี้ขอฝากเพจ...
ล้อเล่นค่ะ ไม่มีเพจอะไรเป็นของตัวเองทั้งนั้น
แต่ถ้าจะให้แนะนำเกี่ยวกับพวกความรัก อกหักอะไรพวกนี้
ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการโฆษณามั้ย ขอไม่บอกชื่อเพจละกันนะคะ
แต่ส่วนตัวชอบอ่านแนวๆจิตวิทยาค่ะ
ดังนั้นขอแนะนำให้หาเพจที่เป็นแนวจิตวิทยาความรักอ่านดู
แล้วจะช่วยให้เข้าใจหลายๆอย่างได้ดีมากขึ้นค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังตกอยู่ในสถานะนี้ทุกคน
เดี๋ยวสุดท้ายแล้วคุณก็จะผ่านมันไปได้ค่ะ
เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ ใส่ความรักเข้าไปให้ตัวเองเยอะๆ
แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น หัวใจ
ชื่อสินค้า:   การเยียวยารักษาหัวใจ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่