กระทู้นี้ยืมล็อคอินเพื่อนมาค่ะ พยายามจะตั้งกระทู้เองแต่ตั้งไม่ได้ ต้องรอการยืนยันตัวตน แต่รอไม่ไหวจริงๆ
ขอเกริ่นก่อนเข้าประเด็น คือเราเลี้ยงแมวอยู่ค่ะ ได้แมวจรมาเลี้ยงตั้งแต่ 3 ปีก่อน เป็นแม่แมว ภายหลังเค้ามีลูก เราก็เลี้ยงแมวของเราเป็นอย่างดีมาตลอดตั้งแต่รับเลี้ยง และเนื่องจากที่บ้านเลี้ยงสัตว์หลายชนิดตั้งแต่เรายังเด็ก ก็ค่อนข้างคุ้นเคย รักสัตว์อยู่แล้ว ( แต่ไม่แสดงออกว่าชั้นรักม๊ากกกกกกก ) เราเลี้ยงด้วยระบบปิดเพราะคิดว่ามันจะเป็นผลดีต่อทั้งเราและแมวในระยะยาว ที่บ้านมีคนอยู่ตลอดด้วยทำให้เราสามารถดูแลเค้าได้ค่อนข้างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนร่วมงานคนนึงซึ่งเค้ารับเลี้ยงแมวจรเหมือนกัน ก็คุยกันเรื่องแมวบ้างประปราย แต่เนื่องจากเค้าเลี้ยงระบบเปิดเราก็ไม่ค่อยได้ถามอะไรมากนัก แต่เข้าใจว่าแมวคงจะอยู่ดีมีความสุข เพราะเพื่อนมักจะพูดถึงแมวที่รักให้ฟังเสมอ ซื้อโน่นนั่นนี่ให้ คอยปรนนิบัติพัดวี นอกจากนี้เค้ายังชอบช่วยเหลือสัตว์ บริจาคเงิน ช่วยซื้อสินค้าหมาแมว คือน่ารักกับสัตว์มาก เค้าจะคอยบอกคอยเตือนเราเรื่องการเลี้ยงแมว เพราะเค้าเข้าใจว่าเราไม่เคยเลี้ยงมาก่อนประมาณนี้
จนกระทั่ง ช่วงหลังย้ายมาอยู่ใกล้กัน ก็เลยคุยๆกันว่าจะสลับกันดูเวลาไม่อยู่บ้าน จะได้ไม่ต้องเอาไปฝากที่คลีนิค เราก็ยินดีอยู่แล้ว แค่ให้น้ำให้อาหาร ทำความสะอาด ดูแลเรื่องขับถ่าย สบายมากเราดูแลลูกๆแบบนี้เป็นปกติ เค้าเองก็บอกว่าถ้าเราไม่อยู่บ้านก็จะช่วยดูให้ คือคนเลี้ยงสัตว์อ่ะนะ จะไปไหนก็ห่วงหน้าพะวงหลัง ปกติเราฝากคลีนิคเลี้ยงเวลาเราเดินทาง มันมีข้อเสียหลายอย่างทำให้น้องๆเครียดและหงอย บางทีมีหมัดติดแถมกลับมาอีก ถ้าได้คนที่เราวางใจมาช่วยดูให้ จะได้สบายใจ ไม่ต้องห่วงความเป็นอยู่เค้า และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทาง ... เริ่มแรก เราต้องช่วยดูแลแมวให้เค้าก่อนค่ะ เพราะเค้ามีทริป หลังจากฝากฝังแมวสุดที่รักเรียบร้อย เราก็เริ่มทำหน้าที่ของเราทันที ( เรายังไม่เคยเข้าบ้านเพื่อน ดังนั้นไม่รู้ความเป็นอยู่ที่บ้านค่ะ ) เดินไปบ้านเค้าอย่างเบิกบานใจ
พอไปถึง เปิดประตูบ้าน ช็ อ ค ค่ะ ช็ อ ค ! o_o"
สตั๊น 5 วิ ( อ้าปากค้าง กลายเป็นหิน ) พอสติกลับคืนมา บ้านหรือกองขยะที่เห็นตรงหน้า ?? เราตั้งคำถามมากมายในใจ สภาพไม่น่าใช่บ้านที่มีคนอยู่ ดูไม่เคยทำความสะอาด ข้าวของระเกะระกะ มีฝุ่นหนาๆจับทุกที่ บนพื้น ฝาผนัง เฟอร์นิเจอร์ แมงมุมยกขโยงมาสร้างบ้านเกือบทุกพื้นที่ ( ถ้าไม่มีแมว คงได้เพื่อนร่วมบ้านเป็นหนู แมลงสาปมาอยู่ด้วยกัน ) ขนแมว+ฝุ่นจับเป็นก้อนติดเกรอะกรังตามขอบผนัง และบนของใช้ เข้าไปนี่ต้องเขย่งเท้าเดิน มีกลิ่นอับ แม้พยายามจะกลบด้วย room diffuser แต่กลิ่นตีผสมจนน่าเป็นลมมาก เซอร์ไพรส์เราจริงๆค่ะ ณ จุดนั้น ไม่เคยเจอบ้านใครพีคขนาดนี้ เปิดห้องน้ำไปยิ่งสยองเป็น 2 เท่า คราบฝังแน่นเกรอะกรังเกาะเต็มติดผนัง แบบห้องน้ำไม่เคยล้างนานเป็นปี อ่างล้างหน้า จานข้าวกินทิ้งไว้ไม่ล้าง จนเศษอาหารเน่าส่งกลิ่น ห้องน้ำปั๊มที่เน่าที่สุดกลายเป็นสะอาดเทียบกันไม่ติดฝุ่น ชักโครกนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ น่ากลัวเกินบรรยาย สรุปไม่มีพื้นที่ไหนสะอาดแม้แต่ตารางเมตรเดียว เห็นแล้วอยากร้องไห้มากกกกกกก T___T ช้านมาทำอัลไลที่นี่
นี่ยังไม่รวมตู้เย็นและอื่นๆ เล่าแค่คร่าวๆพอเห็นภาพนะคะ
เป็นอันว่า ณ บัดนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทนคำตอบทุกเรื่องให้เราได้เป็นอย่างดีถึงความเป็นอยู่ของทั้งคนและแมว ... ทีนี้ขอพูดถึงส่วนของแมวสุดเลิฟกันบ้าง แน่นอน มันต้องไม่ต่างกับสภาพในบ้าน ชามข้าวชามน้ำ ความสะอาด วิธีการดูแล สรุปสั้นๆ ... เยิน! ไม่เคยผ่านการทำความสะอาดแน่นอนล้านเปอร์เซนต์ ล้างทีนี่เมือกลื่นๆติดมือต้องถูสบู่หลายทีกว่าจะออก ไม่มีห้องน้ำแมวเพราะอย่างที่บอกเลี้ยงระบบเปิด แมวไปอึฉี่ตามใจชอบ freedom life สุดๆ !!! จริงๆเราพบว่าในอดีตมันเคยมีกระบะทราย เพราะเราแอบเห็นซากกระบะพร้อมขรี้ ( ที่กลายเป็นฟอสซิล ) วางทิ้งไว้ สภาพน้องแมว ทุกตัวมีร่องรอยอารยธรรม จากการออกไปผจญภัยนอกบ้านและการเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลย มีแผลตามตัว หมัด ป่วยเป็นโรคทั้งมีพยาธิในเลือดและอื่นๆ อันนี้เรารู้ภายหลังจากที่ต้องไปช่วยดูแลมาหลายครั้งแล้ว
เหตุการณ์ที่นำมาเล่านี้เกิดมาเป็นปีและยัง continue จนถึงปัจจุบัน แต่ความอดทนของเราไม่ค่อยจะ continue ละค่ะเลยอยากมาระบาย จริงๆถ้าแค่มาให้อาหาร ป้อนยา ช่วยดูเจ้าพวกนี้ หรือแม้แต่ทำความสะอาดบ้านให้เนี่ยมันก็ไม่ค่อยเท่าไร เราโอเค คิดว่าเพื่อนกันแค่นี้ก็ไม่หนักหนาเกินไป หลังจากเราเริ่มชินและรับได้กับสภาพดังกล่าว เราสงสารความเป็นอยู่ของแมว แต่ทำอะไรมากก็ไม่ได้ ในครั้งแรกเราทำความสะอาดบ้านแบบ deep clean ให้จนสะอาดเอี่ยม ไม่กี่เดือนผ่านไปมาเจออีกทีสภาพคืนสู่กองขยะตามเดิม เราเลยเลิกทำ แค่กวาดๆให้สะอาดตาระหว่างที่เราต้องดูแมวให้ นอกนั้นเราก็ไม่อยากไปวุ่นวายค่ะ มันไม่ใช่บ้านเราอ่ะนะ เราแอบทาแป้งกำจัดหมัด แอบหยอดยาไปตามประสา ที่ต้องใช้คำว่าแอบเพราะ เราเคยบอกเจ้าของเค้าเรื่องนี้ บอกอ้อมๆ รักษาน้ำใจเผื่อเค้าจะหาทางดูแลและป้องกันแมวตัวเอง -*-" จะได้ไม่ต้องบ่นสิ้นเปลืองเวลาพาแมวไปหาหมอแล้วค่ารักษาแพงมาก หมดเงินเยอะ ต้องเจียดมาเพื่อแมว แมวบางตัวพอมันไม่น่ารักเพราะมันเป็นโรคก็รังเกียจให้นอนนอกบ้านอะไรแบบนี เคยหาแป้งมาให้เค้าไว้ทา เค้าบอกเค้ากลัวแมวจะแพ้ เงิบไปสิ ! แล้วเค้าเองก็ป่วยบ่อย ซึ่งเราว่ามันแก้ไขได้ง่ายๆเริ่มจากการทำความสะอาดที่พักให้ดี
และด้วยความที่เลี้ยงเปิดๆปล่อยๆ ทำให้แมวมีนิสัยไม่ค่อยน่ารักเท่าไร ชอบมาขออาหารกินที่บ้านเราบ่อยๆ กินมูมมามเลอะเทอะ ก้าวร้าว เล่นแรง แต่หลังจากเราเจอเค้าบ่อยๆ สอนเค้าดีๆเค้าก็ดีขึ้น อ่อนโยนขึ้นค่ะ เราว่าคนเลี้ยงแมวจะรู้ว่าเค้าเป็นสัตว์ที่ฉลาดและรักสะอาดมากโดยนิสัย เพียงแต่เค้าไม่เคยได้รับการฝึก เพื่อนเราจะชอบบอกว่าแมวเค้าซนมาก ฝึกไม่ได้ ข้ออ้างสารพัด แต่พอเราไปดูแลใกล้ชิด เราไม่เคยรู้สึกว่าเค้าดื้อหรือซนเลย แถมช่วงหลังติดเราอีก อยากเข้ามาในบ้าน มาเรียกเราประจำ แค่เห็นเราก็วิ่งเข้ามาหาเลย แต่เราให้เข้าไม่ได้ เพราะเราก็ต้องดูแลแมวเราซึ่งเค้าหวงพื้นที่ แล้วเจ้าพวกนี้ชอบไล่กัดแมวเราค่ะ ตอนหลังเรามีหมาจรมาอยู่ด้วย พอมีหมาเค้าก็คอยปกป้อง แมวเราก็ปลอดภัย เดินกร่างเลย ส่วนเจ้าเหมียวเพื่อน เราก็วางข้าววางน้ำไว้ให้นอกตัวบ้านนะคะ เพราะเค้าจะชอบมาขอกินอย่างที่บอก สรุปก็เหมือนช่วยเลี้ยงตลอดน่ะแหละ
ทุกครั้งที่ฝากแมวกับเราก็จะพูดกับเราเสมอว่าห่วงแมวมาก คิดถึงมาก เราอยากบอกเค้าเหมือนกันว่า อยากให้เค้าดูแลมันให้ดีสมกับที่คอยห่วงคอยถามเราเวลาเค้าไม่อยู่ ประหนึ่งกลัวว่าเราจะลืมไปให้อาหารไปดูแลแมว เราอยากบอกมากว่า ไว้ใจเราเถอะ เราดูแลดี เฮ่อ
ขอเล่าคั่นย้อนไปหน่อย หลังจากที่เค้าฝากแมวเรา เราเคยฝากแมวกับเค้าครั้งนึง พอกลับมาปรากฎว่าแมวเราหายไป 1 ตัว ตามที่เค้าบอกคือพอเปิดบ้านแล้วแมวเราวิ่งเตลิดออกไปเลย หาไม่เจอ พยายามหาแล้ว เค้าเสียใจจนร้องอยู่ 2 วัน (นี่คือสิ่งที่เค้าบอก) แต่เค้าปิดเราไว้เพราะตอนนั้นเราอยู่ต่างประเทศกลัวว่าจะเศร้า เที่ยวไม่สนุก เราไป 15 วัน แมวหายตั้งแต่วันที่ 2 ที่เราไป เราถามถึงก็บอกว่าอยู่ดี เราไม่ได้ขอรูปเพราะไม่อยากจุกจิก ไว้ใจและค่อนข้างเกรงใจเค้าด้วยเค้าบอกอะไรก็เชื่อตามนั้น มั่นใจมากว่าเค้าต้องดูแลอย่างดีเพราะเราก็เต็มที่กับเค้า สุดท้ายมาบอกเราตอนเราถึงบ้าน แถมเรามาเจอเปิดประตูหลังบ้านเราทิ้งไว้อีก ถ้ามีโจรก็ขนสบาย ครั้งนั้นโชคดีไปที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเรา แต่หลังจากนั้นในหมู่บ้านโดนโจรขึ้น 2 ครั้งติดๆ เราแบบเซ็งมากเพราะถ้าโจรขึ้นบ้านครั้งนั้นก็คงหมดอ่ะค่ะ เปิดต้อนรับง่ายๆเลย งัดเข้ามาอีกนิดเดียวก็ขนสบายใจ
คือบอกตรงๆว่าเสียใจมากเรื่องแมวน่ะ เราไม่ร้องไห้เลย มันร้องไม่ออก เข้าใจคำว่าน้ำตาตกในคืออะไรก็ ณ ตอนนั้น จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเสียความรู้สึกมาก แต่ส่วนนึงเราก็พยายามทำเข้าใจว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อยากโทษเพื่อน เราโทษตัวเองที่ประมาทเพราะคิดว่าเค้าจะเหมือนเรา จะช่วยดูแลแทนเราเหมือนกับที่ทำเราให้เค้า ตอนนั้นพยายามคิดในแง่ดี เชื่อว่าแมวจะกลับมา เค้าเคยเป็นแมวจร เคยผจญชีวิตข้างนอก เราเชื่อว่าเค้าจะเอาตัวรอดได้แน่ และหวังว่าเค้าต้องหาทางกลับมาได้ เราพยายามออกตามหาหลายวัน สุดท้ายก็ไม่เจอและเค้าก็ไม่ได้กลับมา เข็ดมาก และเราไม่เคยคิดจะฝากฝังอะไรไว้กับเพื่อนคนนี้อีกเลย เรากลับมาใช้บริการคลีนิคอย่างเดิม เสียเงินซื้อความสบายใจและความปลอดภัยของแมว
หลังจากแมวหาย ไม่มีคำขอโทษอะไรนะคะ เค้าแค่มาเล่าให้ฟังตอนเรากลับ แสดงความเสียใจแล้วก็เล่าว่าร้องไห้ 2 วันตามที่บอก ในขณะที่เราต้องปลอบใจเค้าและบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก เราเชื่อว่าเค้าจะปลอดภัยและจะกลับมา จากนั้นเค้าก็หายๆหน้าไป ไม่เคยถามถึงแมวเราอีกเลย เราก็ห่างๆค่ะ เลี่ยงเจอเลยเพราะเคืองหลังๆเค้าก็กลับมาชวนคุย เอาโน่นเอานี่มาให้ แล้วก็ฝากให้เราดูแมวให้อีก เราเคืองมากนะ แต่เราพยายามทำใจเรื่องแมว และไม่อยากเสียเพื่อน คิดว่าเค้าก็คงรู้สึกผิดมากแต่ไม่รู้จะพูดจะเข้าหน้าเรายังไง ก็ให้อภัยและรับปากดูแลแมวให้
ตามปกติเวลาไปไหนมาไหนเราจะมีของฝากติดไม้ติดมือให้กันอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่เค้าฝากแมวบ้านเราบ่อย ก็จะมีของฝากมาให้เราบ่อยกว่า ส่วนเราก็มีช่วยเหลือ อันไหนช่วยได้เราช่วยเต็มที่ แต่เราพึ่งเค้าน้อยมากกเพื่อตัดปัญหาความวุ่นวายและความไม่สบายใจต่างๆ ส่วนใหญ่เค้าจะมาพึ่งเรา และตบท้ายด้วยการบอกว่าจะซื้อของมาฝากเราเยอะๆ ซึ่งเราไม่เคยคิดอยากได้ของฝากหรืออะไรเลย บอกไปแล้วว่าไม่ต้องซื้ออะไรมาคือเราอยากให้เค้าเกรงใจมากกว่า เราดูแลให้ได้ แต่ว่าบ่อยมากมันก็นะ รู้สึกเป็นภาระ ช่วงนี้คือฝากแมวทุกเดือนเลย เราพยายามคิดว่าที่ทำก็เพื่อแมว ไม่ใช่เพื่อเค้า ไม่ได้อยากให้มีบุญคุณกัน รับของเค้าบ่อยๆเราก็ดันเกรงใจเค้าอีก -*-"
ล่าสุด ที่ทำงานเค้ามีแมวมาคลอดลูก แล้วที่ทำงานสั่งให้จับแมวไปปล่อยหรือวางยาเบื่อ ด้วยความเมตตาเค้าก็มาปรึกษาเรา ไม่รู้จะพึ่งใครดี เรารับฟังแต่ไม่ออกตัวมาก เราเองไม่สามารถช่วยได้ ต้องรู้กำลังตัวเอง เราก็มีภาระเยอะแยะ และเราคิดว่าเค้าเองก็คงดูแลมันไม่ได้ เพราะไม่มีเวลา เค้าก็รู้ตัวว่าเลี้ยงไม่ไหวนะ สุดท้ายภาระมันต้องมาตกที่เราแน่นอน เราเลยบอกไปว่าช่วยดูได้ชั่วคราว แล้วก็ต้องรีบหาบ้านให้อยู่ ... จากนั้นก็มาปรึกษาเราเรื่องกรง เราก็แนะนำไปคิดว่าเค้าจะไปดำเเห็นว่าจะมีคนให้ยืม เค้าเองก็ไม่อยากเสียเงินซื้อกรงแพงๆ ปรากฎอยู่มาวันนึง เค้าไลน์มาหา แต่เราไม่ได้เปิดอ่าน เรื่องของเรื่องคือจับแมวได้และจะเอามาฝากไว้ที่บ้านเราก่อน แล้วค่อยมารับ เรามารู้ตอนที่รถมาจอดหน้าบ้าน แล้วเราแมวมาฝากปุบปับ กรงก็ยังหาไม่ได้ เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าก็มารับ ซักพักไลน์มา บอกว่ายังหากรงไม่ได้ เราเริ่มตะหงิดๆ มีลางสังหรณ์ใจบางอย่าง เราเลยบอกไปว่า ยังไงก็ต้องมีกรงแหละ เค้าตอบกลับมาว่า ตอนเย็นจะรีบไปซื้อ แต่สรุปคือวันนั้นเค้ายุ่งมาก ไม่มีเวลาหากรงแน่ๆ เราเลยตัดปัญหา เพราะเราเริ่มรู้สึกว่าปัญหาอาจมาตกที่เรา เราเองก็มีแมว ซึ่งเค้าหวงพื้นที่ของเค้า อยู่ๆมีแมวอื่นมาอยู่ เราต้องจับแยกด้วยการจับแมวเราไปขังไว้ในห้องนอน แมวใหม่เราก็ดูแลให้ข้าวให้น้ำ ทำความสะอาด เพราะตอนมาตัวเหม็นมาเลย และน้องมีหมัดค่ะ
ด้วยความที่เราเริ่มรู้สึกไม่โอเคละ เอาภาระมาให้เราแบบนี้ เราเลยจัดการออกไปหาซื้อกรงมาให้ เพราะคิดว่ามันจะจบเรื่อง พอได้กรงมา เราจัดกรงเสร็จก็เย็นพอดี เค้ายังไม่มา แต่เราไม่อยากขังแมวเราอีกต่อไป แล้วมันไม่ควรจะเป็นความรับผิดชอบของเราคนเดียว เค้าเป็นคนพามา เราเลยเอาไปไว้บ้านเค้า วันนั้นกว่าเค้าจะกลับเกือบ 4 ทุ่ม ถ้าเราเชื่อตามเค้า คืนนั้นคงไม่มีกรง และเมื่อไม่มีกรงแมวคงต้องอยู่บ้านเราไปก่อนอะไรแบบนี้ เราตัดสินใจแก้ปัญหาได้ถูก
แต่.......เราคาดผิดไปหน่อย ตรงที่เราคิดว่าปัญหามันจะพ้นเราไป มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเราต้องเป็นคนไปดูแล เนื่องจากเค้าไม่มีเวลา เค้าออกไปทำงาน ข่าวดีถัดมาคือ 2 วันหลังจากนั้น เค้าจะหยุดยาวไปลั๊ลลาต่อ ไม่อยู่บ้าน ต้องฝากแมวทั้งหมดเกือบ 10 ชีวิตไว้กับเรา ผ่างงงง !
กระทู้ระบาย + ขอคำปรึกษา รับมือคนเลี้ยงแมวไร้ความรับผิดชอบ
ขอเกริ่นก่อนเข้าประเด็น คือเราเลี้ยงแมวอยู่ค่ะ ได้แมวจรมาเลี้ยงตั้งแต่ 3 ปีก่อน เป็นแม่แมว ภายหลังเค้ามีลูก เราก็เลี้ยงแมวของเราเป็นอย่างดีมาตลอดตั้งแต่รับเลี้ยง และเนื่องจากที่บ้านเลี้ยงสัตว์หลายชนิดตั้งแต่เรายังเด็ก ก็ค่อนข้างคุ้นเคย รักสัตว์อยู่แล้ว ( แต่ไม่แสดงออกว่าชั้นรักม๊ากกกกกกก ) เราเลี้ยงด้วยระบบปิดเพราะคิดว่ามันจะเป็นผลดีต่อทั้งเราและแมวในระยะยาว ที่บ้านมีคนอยู่ตลอดด้วยทำให้เราสามารถดูแลเค้าได้ค่อนข้างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนร่วมงานคนนึงซึ่งเค้ารับเลี้ยงแมวจรเหมือนกัน ก็คุยกันเรื่องแมวบ้างประปราย แต่เนื่องจากเค้าเลี้ยงระบบเปิดเราก็ไม่ค่อยได้ถามอะไรมากนัก แต่เข้าใจว่าแมวคงจะอยู่ดีมีความสุข เพราะเพื่อนมักจะพูดถึงแมวที่รักให้ฟังเสมอ ซื้อโน่นนั่นนี่ให้ คอยปรนนิบัติพัดวี นอกจากนี้เค้ายังชอบช่วยเหลือสัตว์ บริจาคเงิน ช่วยซื้อสินค้าหมาแมว คือน่ารักกับสัตว์มาก เค้าจะคอยบอกคอยเตือนเราเรื่องการเลี้ยงแมว เพราะเค้าเข้าใจว่าเราไม่เคยเลี้ยงมาก่อนประมาณนี้
จนกระทั่ง ช่วงหลังย้ายมาอยู่ใกล้กัน ก็เลยคุยๆกันว่าจะสลับกันดูเวลาไม่อยู่บ้าน จะได้ไม่ต้องเอาไปฝากที่คลีนิค เราก็ยินดีอยู่แล้ว แค่ให้น้ำให้อาหาร ทำความสะอาด ดูแลเรื่องขับถ่าย สบายมากเราดูแลลูกๆแบบนี้เป็นปกติ เค้าเองก็บอกว่าถ้าเราไม่อยู่บ้านก็จะช่วยดูให้ คือคนเลี้ยงสัตว์อ่ะนะ จะไปไหนก็ห่วงหน้าพะวงหลัง ปกติเราฝากคลีนิคเลี้ยงเวลาเราเดินทาง มันมีข้อเสียหลายอย่างทำให้น้องๆเครียดและหงอย บางทีมีหมัดติดแถมกลับมาอีก ถ้าได้คนที่เราวางใจมาช่วยดูให้ จะได้สบายใจ ไม่ต้องห่วงความเป็นอยู่เค้า และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทาง ... เริ่มแรก เราต้องช่วยดูแลแมวให้เค้าก่อนค่ะ เพราะเค้ามีทริป หลังจากฝากฝังแมวสุดที่รักเรียบร้อย เราก็เริ่มทำหน้าที่ของเราทันที ( เรายังไม่เคยเข้าบ้านเพื่อน ดังนั้นไม่รู้ความเป็นอยู่ที่บ้านค่ะ ) เดินไปบ้านเค้าอย่างเบิกบานใจ
พอไปถึง เปิดประตูบ้าน ช็ อ ค ค่ะ ช็ อ ค ! o_o"
สตั๊น 5 วิ ( อ้าปากค้าง กลายเป็นหิน ) พอสติกลับคืนมา บ้านหรือกองขยะที่เห็นตรงหน้า ?? เราตั้งคำถามมากมายในใจ สภาพไม่น่าใช่บ้านที่มีคนอยู่ ดูไม่เคยทำความสะอาด ข้าวของระเกะระกะ มีฝุ่นหนาๆจับทุกที่ บนพื้น ฝาผนัง เฟอร์นิเจอร์ แมงมุมยกขโยงมาสร้างบ้านเกือบทุกพื้นที่ ( ถ้าไม่มีแมว คงได้เพื่อนร่วมบ้านเป็นหนู แมลงสาปมาอยู่ด้วยกัน ) ขนแมว+ฝุ่นจับเป็นก้อนติดเกรอะกรังตามขอบผนัง และบนของใช้ เข้าไปนี่ต้องเขย่งเท้าเดิน มีกลิ่นอับ แม้พยายามจะกลบด้วย room diffuser แต่กลิ่นตีผสมจนน่าเป็นลมมาก เซอร์ไพรส์เราจริงๆค่ะ ณ จุดนั้น ไม่เคยเจอบ้านใครพีคขนาดนี้ เปิดห้องน้ำไปยิ่งสยองเป็น 2 เท่า คราบฝังแน่นเกรอะกรังเกาะเต็มติดผนัง แบบห้องน้ำไม่เคยล้างนานเป็นปี อ่างล้างหน้า จานข้าวกินทิ้งไว้ไม่ล้าง จนเศษอาหารเน่าส่งกลิ่น ห้องน้ำปั๊มที่เน่าที่สุดกลายเป็นสะอาดเทียบกันไม่ติดฝุ่น ชักโครกนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ น่ากลัวเกินบรรยาย สรุปไม่มีพื้นที่ไหนสะอาดแม้แต่ตารางเมตรเดียว เห็นแล้วอยากร้องไห้มากกกกกกก T___T ช้านมาทำอัลไลที่นี่
นี่ยังไม่รวมตู้เย็นและอื่นๆ เล่าแค่คร่าวๆพอเห็นภาพนะคะ
เป็นอันว่า ณ บัดนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทนคำตอบทุกเรื่องให้เราได้เป็นอย่างดีถึงความเป็นอยู่ของทั้งคนและแมว ... ทีนี้ขอพูดถึงส่วนของแมวสุดเลิฟกันบ้าง แน่นอน มันต้องไม่ต่างกับสภาพในบ้าน ชามข้าวชามน้ำ ความสะอาด วิธีการดูแล สรุปสั้นๆ ... เยิน! ไม่เคยผ่านการทำความสะอาดแน่นอนล้านเปอร์เซนต์ ล้างทีนี่เมือกลื่นๆติดมือต้องถูสบู่หลายทีกว่าจะออก ไม่มีห้องน้ำแมวเพราะอย่างที่บอกเลี้ยงระบบเปิด แมวไปอึฉี่ตามใจชอบ freedom life สุดๆ !!! จริงๆเราพบว่าในอดีตมันเคยมีกระบะทราย เพราะเราแอบเห็นซากกระบะพร้อมขรี้ ( ที่กลายเป็นฟอสซิล ) วางทิ้งไว้ สภาพน้องแมว ทุกตัวมีร่องรอยอารยธรรม จากการออกไปผจญภัยนอกบ้านและการเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลย มีแผลตามตัว หมัด ป่วยเป็นโรคทั้งมีพยาธิในเลือดและอื่นๆ อันนี้เรารู้ภายหลังจากที่ต้องไปช่วยดูแลมาหลายครั้งแล้ว
เหตุการณ์ที่นำมาเล่านี้เกิดมาเป็นปีและยัง continue จนถึงปัจจุบัน แต่ความอดทนของเราไม่ค่อยจะ continue ละค่ะเลยอยากมาระบาย จริงๆถ้าแค่มาให้อาหาร ป้อนยา ช่วยดูเจ้าพวกนี้ หรือแม้แต่ทำความสะอาดบ้านให้เนี่ยมันก็ไม่ค่อยเท่าไร เราโอเค คิดว่าเพื่อนกันแค่นี้ก็ไม่หนักหนาเกินไป หลังจากเราเริ่มชินและรับได้กับสภาพดังกล่าว เราสงสารความเป็นอยู่ของแมว แต่ทำอะไรมากก็ไม่ได้ ในครั้งแรกเราทำความสะอาดบ้านแบบ deep clean ให้จนสะอาดเอี่ยม ไม่กี่เดือนผ่านไปมาเจออีกทีสภาพคืนสู่กองขยะตามเดิม เราเลยเลิกทำ แค่กวาดๆให้สะอาดตาระหว่างที่เราต้องดูแมวให้ นอกนั้นเราก็ไม่อยากไปวุ่นวายค่ะ มันไม่ใช่บ้านเราอ่ะนะ เราแอบทาแป้งกำจัดหมัด แอบหยอดยาไปตามประสา ที่ต้องใช้คำว่าแอบเพราะ เราเคยบอกเจ้าของเค้าเรื่องนี้ บอกอ้อมๆ รักษาน้ำใจเผื่อเค้าจะหาทางดูแลและป้องกันแมวตัวเอง -*-" จะได้ไม่ต้องบ่นสิ้นเปลืองเวลาพาแมวไปหาหมอแล้วค่ารักษาแพงมาก หมดเงินเยอะ ต้องเจียดมาเพื่อแมว แมวบางตัวพอมันไม่น่ารักเพราะมันเป็นโรคก็รังเกียจให้นอนนอกบ้านอะไรแบบนี เคยหาแป้งมาให้เค้าไว้ทา เค้าบอกเค้ากลัวแมวจะแพ้ เงิบไปสิ ! แล้วเค้าเองก็ป่วยบ่อย ซึ่งเราว่ามันแก้ไขได้ง่ายๆเริ่มจากการทำความสะอาดที่พักให้ดี
และด้วยความที่เลี้ยงเปิดๆปล่อยๆ ทำให้แมวมีนิสัยไม่ค่อยน่ารักเท่าไร ชอบมาขออาหารกินที่บ้านเราบ่อยๆ กินมูมมามเลอะเทอะ ก้าวร้าว เล่นแรง แต่หลังจากเราเจอเค้าบ่อยๆ สอนเค้าดีๆเค้าก็ดีขึ้น อ่อนโยนขึ้นค่ะ เราว่าคนเลี้ยงแมวจะรู้ว่าเค้าเป็นสัตว์ที่ฉลาดและรักสะอาดมากโดยนิสัย เพียงแต่เค้าไม่เคยได้รับการฝึก เพื่อนเราจะชอบบอกว่าแมวเค้าซนมาก ฝึกไม่ได้ ข้ออ้างสารพัด แต่พอเราไปดูแลใกล้ชิด เราไม่เคยรู้สึกว่าเค้าดื้อหรือซนเลย แถมช่วงหลังติดเราอีก อยากเข้ามาในบ้าน มาเรียกเราประจำ แค่เห็นเราก็วิ่งเข้ามาหาเลย แต่เราให้เข้าไม่ได้ เพราะเราก็ต้องดูแลแมวเราซึ่งเค้าหวงพื้นที่ แล้วเจ้าพวกนี้ชอบไล่กัดแมวเราค่ะ ตอนหลังเรามีหมาจรมาอยู่ด้วย พอมีหมาเค้าก็คอยปกป้อง แมวเราก็ปลอดภัย เดินกร่างเลย ส่วนเจ้าเหมียวเพื่อน เราก็วางข้าววางน้ำไว้ให้นอกตัวบ้านนะคะ เพราะเค้าจะชอบมาขอกินอย่างที่บอก สรุปก็เหมือนช่วยเลี้ยงตลอดน่ะแหละ
ทุกครั้งที่ฝากแมวกับเราก็จะพูดกับเราเสมอว่าห่วงแมวมาก คิดถึงมาก เราอยากบอกเค้าเหมือนกันว่า อยากให้เค้าดูแลมันให้ดีสมกับที่คอยห่วงคอยถามเราเวลาเค้าไม่อยู่ ประหนึ่งกลัวว่าเราจะลืมไปให้อาหารไปดูแลแมว เราอยากบอกมากว่า ไว้ใจเราเถอะ เราดูแลดี เฮ่อ
ขอเล่าคั่นย้อนไปหน่อย หลังจากที่เค้าฝากแมวเรา เราเคยฝากแมวกับเค้าครั้งนึง พอกลับมาปรากฎว่าแมวเราหายไป 1 ตัว ตามที่เค้าบอกคือพอเปิดบ้านแล้วแมวเราวิ่งเตลิดออกไปเลย หาไม่เจอ พยายามหาแล้ว เค้าเสียใจจนร้องอยู่ 2 วัน (นี่คือสิ่งที่เค้าบอก) แต่เค้าปิดเราไว้เพราะตอนนั้นเราอยู่ต่างประเทศกลัวว่าจะเศร้า เที่ยวไม่สนุก เราไป 15 วัน แมวหายตั้งแต่วันที่ 2 ที่เราไป เราถามถึงก็บอกว่าอยู่ดี เราไม่ได้ขอรูปเพราะไม่อยากจุกจิก ไว้ใจและค่อนข้างเกรงใจเค้าด้วยเค้าบอกอะไรก็เชื่อตามนั้น มั่นใจมากว่าเค้าต้องดูแลอย่างดีเพราะเราก็เต็มที่กับเค้า สุดท้ายมาบอกเราตอนเราถึงบ้าน แถมเรามาเจอเปิดประตูหลังบ้านเราทิ้งไว้อีก ถ้ามีโจรก็ขนสบาย ครั้งนั้นโชคดีไปที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเรา แต่หลังจากนั้นในหมู่บ้านโดนโจรขึ้น 2 ครั้งติดๆ เราแบบเซ็งมากเพราะถ้าโจรขึ้นบ้านครั้งนั้นก็คงหมดอ่ะค่ะ เปิดต้อนรับง่ายๆเลย งัดเข้ามาอีกนิดเดียวก็ขนสบายใจ
คือบอกตรงๆว่าเสียใจมากเรื่องแมวน่ะ เราไม่ร้องไห้เลย มันร้องไม่ออก เข้าใจคำว่าน้ำตาตกในคืออะไรก็ ณ ตอนนั้น จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเสียความรู้สึกมาก แต่ส่วนนึงเราก็พยายามทำเข้าใจว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อยากโทษเพื่อน เราโทษตัวเองที่ประมาทเพราะคิดว่าเค้าจะเหมือนเรา จะช่วยดูแลแทนเราเหมือนกับที่ทำเราให้เค้า ตอนนั้นพยายามคิดในแง่ดี เชื่อว่าแมวจะกลับมา เค้าเคยเป็นแมวจร เคยผจญชีวิตข้างนอก เราเชื่อว่าเค้าจะเอาตัวรอดได้แน่ และหวังว่าเค้าต้องหาทางกลับมาได้ เราพยายามออกตามหาหลายวัน สุดท้ายก็ไม่เจอและเค้าก็ไม่ได้กลับมา เข็ดมาก และเราไม่เคยคิดจะฝากฝังอะไรไว้กับเพื่อนคนนี้อีกเลย เรากลับมาใช้บริการคลีนิคอย่างเดิม เสียเงินซื้อความสบายใจและความปลอดภัยของแมว
หลังจากแมวหาย ไม่มีคำขอโทษอะไรนะคะ เค้าแค่มาเล่าให้ฟังตอนเรากลับ แสดงความเสียใจแล้วก็เล่าว่าร้องไห้ 2 วันตามที่บอก ในขณะที่เราต้องปลอบใจเค้าและบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก เราเชื่อว่าเค้าจะปลอดภัยและจะกลับมา จากนั้นเค้าก็หายๆหน้าไป ไม่เคยถามถึงแมวเราอีกเลย เราก็ห่างๆค่ะ เลี่ยงเจอเลยเพราะเคืองหลังๆเค้าก็กลับมาชวนคุย เอาโน่นเอานี่มาให้ แล้วก็ฝากให้เราดูแมวให้อีก เราเคืองมากนะ แต่เราพยายามทำใจเรื่องแมว และไม่อยากเสียเพื่อน คิดว่าเค้าก็คงรู้สึกผิดมากแต่ไม่รู้จะพูดจะเข้าหน้าเรายังไง ก็ให้อภัยและรับปากดูแลแมวให้
ตามปกติเวลาไปไหนมาไหนเราจะมีของฝากติดไม้ติดมือให้กันอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่เค้าฝากแมวบ้านเราบ่อย ก็จะมีของฝากมาให้เราบ่อยกว่า ส่วนเราก็มีช่วยเหลือ อันไหนช่วยได้เราช่วยเต็มที่ แต่เราพึ่งเค้าน้อยมากกเพื่อตัดปัญหาความวุ่นวายและความไม่สบายใจต่างๆ ส่วนใหญ่เค้าจะมาพึ่งเรา และตบท้ายด้วยการบอกว่าจะซื้อของมาฝากเราเยอะๆ ซึ่งเราไม่เคยคิดอยากได้ของฝากหรืออะไรเลย บอกไปแล้วว่าไม่ต้องซื้ออะไรมาคือเราอยากให้เค้าเกรงใจมากกว่า เราดูแลให้ได้ แต่ว่าบ่อยมากมันก็นะ รู้สึกเป็นภาระ ช่วงนี้คือฝากแมวทุกเดือนเลย เราพยายามคิดว่าที่ทำก็เพื่อแมว ไม่ใช่เพื่อเค้า ไม่ได้อยากให้มีบุญคุณกัน รับของเค้าบ่อยๆเราก็ดันเกรงใจเค้าอีก -*-"
ล่าสุด ที่ทำงานเค้ามีแมวมาคลอดลูก แล้วที่ทำงานสั่งให้จับแมวไปปล่อยหรือวางยาเบื่อ ด้วยความเมตตาเค้าก็มาปรึกษาเรา ไม่รู้จะพึ่งใครดี เรารับฟังแต่ไม่ออกตัวมาก เราเองไม่สามารถช่วยได้ ต้องรู้กำลังตัวเอง เราก็มีภาระเยอะแยะ และเราคิดว่าเค้าเองก็คงดูแลมันไม่ได้ เพราะไม่มีเวลา เค้าก็รู้ตัวว่าเลี้ยงไม่ไหวนะ สุดท้ายภาระมันต้องมาตกที่เราแน่นอน เราเลยบอกไปว่าช่วยดูได้ชั่วคราว แล้วก็ต้องรีบหาบ้านให้อยู่ ... จากนั้นก็มาปรึกษาเราเรื่องกรง เราก็แนะนำไปคิดว่าเค้าจะไปดำเเห็นว่าจะมีคนให้ยืม เค้าเองก็ไม่อยากเสียเงินซื้อกรงแพงๆ ปรากฎอยู่มาวันนึง เค้าไลน์มาหา แต่เราไม่ได้เปิดอ่าน เรื่องของเรื่องคือจับแมวได้และจะเอามาฝากไว้ที่บ้านเราก่อน แล้วค่อยมารับ เรามารู้ตอนที่รถมาจอดหน้าบ้าน แล้วเราแมวมาฝากปุบปับ กรงก็ยังหาไม่ได้ เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าก็มารับ ซักพักไลน์มา บอกว่ายังหากรงไม่ได้ เราเริ่มตะหงิดๆ มีลางสังหรณ์ใจบางอย่าง เราเลยบอกไปว่า ยังไงก็ต้องมีกรงแหละ เค้าตอบกลับมาว่า ตอนเย็นจะรีบไปซื้อ แต่สรุปคือวันนั้นเค้ายุ่งมาก ไม่มีเวลาหากรงแน่ๆ เราเลยตัดปัญหา เพราะเราเริ่มรู้สึกว่าปัญหาอาจมาตกที่เรา เราเองก็มีแมว ซึ่งเค้าหวงพื้นที่ของเค้า อยู่ๆมีแมวอื่นมาอยู่ เราต้องจับแยกด้วยการจับแมวเราไปขังไว้ในห้องนอน แมวใหม่เราก็ดูแลให้ข้าวให้น้ำ ทำความสะอาด เพราะตอนมาตัวเหม็นมาเลย และน้องมีหมัดค่ะ
ด้วยความที่เราเริ่มรู้สึกไม่โอเคละ เอาภาระมาให้เราแบบนี้ เราเลยจัดการออกไปหาซื้อกรงมาให้ เพราะคิดว่ามันจะจบเรื่อง พอได้กรงมา เราจัดกรงเสร็จก็เย็นพอดี เค้ายังไม่มา แต่เราไม่อยากขังแมวเราอีกต่อไป แล้วมันไม่ควรจะเป็นความรับผิดชอบของเราคนเดียว เค้าเป็นคนพามา เราเลยเอาไปไว้บ้านเค้า วันนั้นกว่าเค้าจะกลับเกือบ 4 ทุ่ม ถ้าเราเชื่อตามเค้า คืนนั้นคงไม่มีกรง และเมื่อไม่มีกรงแมวคงต้องอยู่บ้านเราไปก่อนอะไรแบบนี้ เราตัดสินใจแก้ปัญหาได้ถูก
แต่.......เราคาดผิดไปหน่อย ตรงที่เราคิดว่าปัญหามันจะพ้นเราไป มันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเราต้องเป็นคนไปดูแล เนื่องจากเค้าไม่มีเวลา เค้าออกไปทำงาน ข่าวดีถัดมาคือ 2 วันหลังจากนั้น เค้าจะหยุดยาวไปลั๊ลลาต่อ ไม่อยู่บ้าน ต้องฝากแมวทั้งหมดเกือบ 10 ชีวิตไว้กับเรา ผ่างงงง !