ปชป.ฉะอัยการ งุบงิบไม่ยื่นฎีกา “ธรรมรักษ์” คดีจ้างพรรคเล็ก จี้ “บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 สอบข้อเท็จจริง (เอ็มม่า ซ่าไม่เลิก)

กระทู้คำถาม


  ทีมกฎหมาย ปชป.ดาหน้าชนอัยการ หลังงุบงิบไม่ยื่นฎีกา “ธรรมรักษ์” คดีซื้อพรรคเล็ก เปิดช่อง พท.บิดเบือนข้อเท็จจริง “ถาวร” ชี้ซ้ำรอยคดี “หญิงอ้อ” เลี่ยงภาษี ตัดตอนคดี บี้เปิดเหตุผลทำไมไม่ฟ้อง พร้อมขอ “ประยุทธ์” ใช้ ม.44 สอบความจริง เหตุผลแห่งคดีเป็นประโยชน์ต่อ ทรท.แต่อัยการกลับไม่ยื่นฎีกา ฝาก ป.ป.ช.ตรวจสอบไม่ต้องรอใครร้อง ด้าน “วิรัตน์” ฝาก กรธ.วางกลไกตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของอัยการ
      
       นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทในการยื่นฟ้องยุบพรรคไทยรักไทยในปี 2549 แถลงถึงกรณีที่มีการบิดเบือนจากพรรคเพื่อไทยว่าตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยในปี 2550 เป็นการกลั่นแกล้งพรรคไทยรักไทยโดยอ้างคำตัดสินของศาลฎีกาไม่ได้พิพากษาว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในขณะนั้นมีความผิดจากการซื้อพรรคเล็ก เนื่องจากศาลอุทรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง โดยให้ประโยชน์แห่งความสงสัยแก่จำเลยเพราะไม่มีใครเห็น พล.อ.ธรรมรักษ์จ่ายเงิน จึงยกฟ้อง จากนั้นอัยการสูงสุดถอนฟ้องเฉพาะ พล.อ.ธรรมรักษ์ ออกในชั้นศาลฎีกาจึงมีคำถามว่าเหตุใดทางอัยการสูงสุดจึงไม่มีการแถลงต่อสาธารณชนว่าไม่มีการยื่นฎีกากรณี พล.อ.ธรรมรักษ์ ซึ่งถือเป็นคดีที่ 2 ที่อัยการไม่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา คดีแรกคือคดีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร หลีกเลี่ยงภาษีกว่า 545 ล้านบาท ก็ไม่มีการยื่นฎีกา แต่ยุติเรื่องที่ศาลอุทธรณ์ซึ่งพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าไม่มีความผิด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่าเหตุใดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้อัยการจึงไม่ยื่นฟ้องให้สิ้นสงสัยถึงชั้นฎีกา แต่กลับยุติคดีไว้ที่ศาลอุทธรณ์ด้วยการไม่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกา
      
       นอกจากนี้ กรณีการถอนฟ้อง พล.อ.ธรรมรักษ์ แต่ยังฟ้องลูกน้องของ พล.อ.ธรรมรักษ์และมีการตัดสินว่ากระทำความผิดจริงนั้น เป็นเรื่องที่พรรคไทยรักไทยได้ประโยชน์จากการกระทำดังกล่าวเพื่อหนีเกณฑ์ตามกฎหมายที่ต้องชนะเกินร้อยละยี่สิบ ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าคนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจ้างให้มีการใส้ร้ายพรรคไทยรักไทยนั้นก็ขอท้าให้ฟ้องร้องเพื่อจะได้พิสูจน์ความจริง รวมถึง พล.อ.ธรรมรักษ์ ถ้าคิดว่าคนของพรรคว่าจ้างให้มีการเบิกความเท็จก็ขอให้ฟ้องร้องเลย และตนจะได้หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีการว่าจ้างให้ใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยด้วยว่าจะดำเนินคดีกับคนที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างไร เพราะคดีนี้สิ้นสุดแล้วตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
      
       ทั้งนี้ อยากตั้งคำถามว่าที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องว่าเป็นการซัดทอดของจำเลยด้วยกันนั้น เหตุใดอัยการไม่ยื่นฎีกาเพื่อให้สิ้นสงสัย จึงขอเรียกร้องให้อัยการสูงสุดเปิดเผยคำวินิจฉัยสั่งฟ้องในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และการสั่งไม่ฟ้องคดี พล.อ.ธรรมรักษ์ในชั้นศาลฎีกาว่ามีเหตุผลอย่างไร เพราะจะต้องใช้ดุลพินิจที่สมเหตุสมผลที่วิญญูชนรับได้ เป็นธรรมถูกต้องตามกฎหมาย จะอ้างว่าเชื่อตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้
      
       “ผมปรึกษากับนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ว่าจะมีการฟ้องอัยการสูงสุดในขณะนั้นที่ใช้ดุลพินิจส่อว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่สามารถใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจได้ ผมโตจากอัยการมา 19 ปี ยังมีอัยการดีเยอะ แต่ถ้ามีสองสามคนทำไม่ดีก็ต้องดำเนินการ จะมีการเร่งรัดกับคดีที่ฟ้องต่อ ป.ป.ช.ไปก่อนหน้านี้เรื่องที่ไม่ยื่นฎีกาคดีคุณหญิงพจมาน หลีกเลี่ยงภาษีด้วยว่าคดีไปถึงไหนแล้ว และเมื่อพวกผมแถลงแล้วก็อยากให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.ตรวจสอบการไม่ยื่นฎีกา พล.อ.ธรรมรักษ์ด้วยโดยไม่จำเป็นต้องมีใครไปร้องเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นยุคแห่งการปฏิรูปและฝากไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าก่อนหน้านี้ที่มีคำสั่งปลดอัยการสูงสุดคนหนึ่งคือ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง นั้นเป็นเพราะเหตุผลอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ผมขอเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ให้ใช้มาตรา 44 เพื่อออกคำสั่งให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้เพราะผลที่เกิดออกมาในยุคของท่านรวมทั้งฝากไปถึงแกนนำพรรคเพื่อไทยหากเห็นว่าคำวินิจฉัยตุลาการรัฐธรรมนูญในขณะนั้นไม่เป็นธรรมให้ยื่นฟ้องตุลาการและขอยื่นจดทะเบียนชื่อพรรคไทยรักไทยใหม่อีกครั้งด้วย”
      
       นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญว่า อัยการควรมีอิสระในการสั่งคดีแต่ควรมีองค์กรตรวจสอบ เช่น ถ้าศาลชั้นต้นลงโทษอัยการไม่อุทธรณ์หรือฎีกาต้องเอาคำสั่งดังกล่าวแจ้ง ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือองค์กรอิสระตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการด้วย เพราะที่ผ่านมาคนมีฐานะทางสังคมสามารถบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมด้วยการเสมือนสมคบกับฝ่ายอัยการโดยยุติคดีไม่ให้ขึ้นสู่การพิจารณาในศาลฎีกา

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9590000015635



เป็นอีกครั้งที่ ม่าเชียร์ ปชป.  ขอให้กระทำการนี้สำเร็จด้วยเท๊อออออ  คนผิดต้องได้รับการลงโทษค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่