สาย Lightning ดีๆ ไม่มีในท้องตลาดเลยหรือ ทดสอบ (ภาค 2)

กระทู้สนทนา
เป็นเวลากว่า 2-3 ปีแล้วที่สาย Lightning ได้ถูกกำหนดเป็นมาตรฐานของ Apple Device ทั้ง iPhone และ iPad และมีสายชาร์จมากมายหลายยี่ห้อเข้ามาในตลาดให้เลือกกัน มีทั้งราคาถูกตั้งแต่ 20 บาท จนถึงแพงราคาเส้นละเกือบ 1000 บาท แล้วเราจะเลือกแบบไหนดีล่ะ

สำหรับ จขกท. เป็นคนที่ชอบของถูก คุณภาพดี และเสพย์ติดสาย Lightning มานานแล้ว จึงคิดว่าคงต้องจัด Review นี้ให้ชมกันเพื่อความกระจ่างของการเลือกซื้อสาย Lightning ของทุกท่านครับ

สิ่งที่ต้องการทดสอบ คือ สาย Lightning แต่ละยี่ห้อ มีความสามารถในการจ่ายไฟอยู่ที่เท่าไหร่บ้าง โดยทดสอบ Wall Charge กับ iPad Air และ iPhone 5s (รวมถึงลองทดสอบการ Charge กับ USB ของ Notebook ด้วยสำหรับผู้ที่ชาร์จมือถือด้วยทำงานไปด้วย)

อุปกรณ์ในการทดสอบ

- Adapter iPad แท้ 12W 1 ตัว
- USB Volt/Amp Meter 1 ตัว (ใช้สำหรับวัด Volt และกระแสไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์)
- iPhone 5s ที่แบตคงเหลือ 60-70%
- iPad Air ที่แบตคงเหลือ 60-70%
- Notebook 1 เครื่อง เปิดเครื่อง และเสียบ Adapter ทิ้งไว้
- สายชาร์จยี่ห้ออื่นๆ อีก 7 เส้น (รวม 8 เส้น) ด้วยความงกของ จขกท. สายที่ทำมาทดสอบนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสายราคาไม่เกิน 200 บาททั้งสิ้นที่ซื้อมาใช้งานเอง (ยกเว้นสายแท้ที่แถมมากับเครื่อง)


ขั้นตอนการทดสอบ เราจะเสียบสายไปเรื่อยๆ ทีละยี่ห้อ โดยผ่าน UB Volt/Amp Meter และอ่านค่าแล้วบันทึก หน้าตาประมาณนี้ครับ ของ iPad Air ด้วยสายแท้


ตารางสรุปผลการทดสอบ (จ่ายไฟได้ยิ่งมากยิ่งดี)


ขอแบ่งผู้ชนะของเราเป็น 2 รางวัลครับ
1. สุดยอดของถูกและดีสำหรับ Wall Charger => ได้แก่ Lemfo MFI Lightning Cable


- หาซื้อได้จาก Ebay หรือ Aliexpress ราคาแปลงเป็นไทยแล้วราวๆ 180-200 บาท เท่านั้นเอง (เสียดายตลาดบ้านเรามัวแต่ขายของเกรดล่าง)
- คุณภาพวัสดุ ขนาด ดูเหมือนของ Apple แท้หมดจด จ่ายไฟได้เท่าของแท้ทุกประการ ในราคาเพียงแค่ไม่ถึง 1 ใน 3 ของสายแท้เท่านั้น
- จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อ Lemfo นี้หรอกครับ ยี่ห้ออะไรก็ได้ เนื่องจากว่า Apple เค้ามีการขาย License การทำอุปกรณ์ ให้กับผู้ผลิต ซึ่งผู้ผลิตจะต้องเสียตังประมาณ 4 USD ต่อสาย 1 เส้นที่ผลิตมาได้ ซึ่งจะทำให้ของที่อยู่ในเกรด MFI นั้นเหนือกว่าที่ขายตามท้องตลาดอย่างชัดเจน การทดลองนี้ยืนยันผลข้อนี้เลย เนื่องจาก Lemfo เป็นสายเพียงเส้นเดียวในการทดลองนี้ที่ได้ MFI Certified
- โดยอุปกรณ์ที่ได้ MFI Certified จะมี Logo หน้าตาแบบนี้ติดอยู่บน Package เลยครับ


2. สุดยอดของถูกและดีสำหรับ Notebook => ได้แก่ สายชาร์จนิรนาม ราคา 60 บาท
- หาซื้อได้จากร้าน 60 บาท จขกท. ซื้อมาจาก Komonoya
- สายเส้นนี้ความยาวแค่ 60 cm เท่านั้น และใช้ Sync ไม่ได้ครับ แต่ข้อดีที่ประเสริฐที่สุด คือ มันชาร์จไวกว่า เนื่องจากไม่ติดข้อจำกัดของ USB Sync จนสามารถชาร์จ iPad เข้าสบายๆ และชาร์จ iPhone ได้แรงกว่าสายแท้อีก จนเกือบจะเท่าๆ กับการเสียบ Wall Charge สะดวกจริงๆ ครับ เดี๋ยวนี้ลืม Wall Charge ไปเลยเวลาเสียบกับคอม


จากการทดสอบทั้งหมดนี้จึงขอแนะนำการเลือกซื้อสายชาร์จว่า
- ถ้าเป็นนัก Shopping Online สามารถสะดวกสั่งของบน ebay หรือ aliexpress ได้ สายชาร์จที่เป็น MFI ชนะเลิศแน่นอนครับ คุณสามารถหาได้ในราคา 6 - 8 USD มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกเลย (แต่ระวังบางยี่ห้อขี้โม้ว่าตัวเอง MFI Certified แต่จริงๆ ไม่ใช่ ให้เลือกดูยี่ห้อที่เห็นรูป package กล่องเค้าที่มี Logi MFI แบบที่ผมให้ดูข้างบนนี้ครับ
- พวกยี่ห้อคุ้นหูที่ขายตามตลาดบ้านเราอย่าง Remax, Golf, Pisen ฯลฯ จัดอยู่ในกลุ่มสายคุณภาพงานพอใช้ได้ ราคาถูก ถึงปานกลาง แต่กลุ่มนี้ยังไงก็ไม่ได้เป็น MFI จะเห็นว่าสามารถจ่ายไฟได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ถึงจะออกรุ่นย่อยเยอะแยะ ขี้โม้ข้างกล่องว่า 2.4 A แต่จากการทดสอบนี้แล้วจะเห็นว่ามันจ่ายไฟเลี้ยง iPad ได้ครึ่งเดียวของสายแท้เท่านั้นเอง แต่ถ้าใช้กับ iPhone หรือ iPad Mini ที่กินไฟน้อยกว่าล่ะก็พอถูไถ
- พวกไม่มียี่ห้อของจีน Pack ใส่ซองพลาสติก หรือ Copy Apple สายแท้ แนะนำว่าหลีกเลี่ยงได้เลยครับ อ้างอิงการทดสอบ กระทู้เก่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว http://pantip.com/topic/31547344 คุณภาพต่ำเกินไปจนชาร์จได้ไฟเข้าน้อยมาก หรืออาจจะชาร์จไม่เข้าเลยด้วยซ้ำ (แต่ขอยกเว้นสายเทพ 60 บาทที่นำเสนอไปนะครับ 555)

เลือกเอาที่ชอบที่สบายใจได้เลยครับ สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่