โรค......ล้างโลก

กระทู้สนทนา
===============
โรค......ล้างโลก
===============
  แนวเรื่อง  ดรามา  รันทด ^^
: Psycho G.



บทนำ


             เป็นเรื่องราวของยุคมืดแห่งมนุษยชาติ เมื่อภัยพิบัติร้ายแรงคุกคามระบาดไปทั่วโลกอย่างไม่มีใครคาดคิดและเคยพบเห็นมาก่อน หรือนี่จะเป็นวาระสุดท้ายของโลกมนุษย์ ไม่ใช่เพราะระเบิดนิวเคลียร์ ไม่ใช่อุกกาบาตถล่มโลก ไม่ใช่ฝูงซอมบี้...แต่เป็นโรคร้ายมหันตภัยร้ายแรงที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน... แม้แต่ในนิยาย




             “กรี๊ด!”

             เสียงกรีดร้องกึกก้องโหยหวนแหลมสูงของผู้หญิงสองคนประสานเสียงกันขึ้นจนแสบแก้วหู ติดตามด้วยเสียงโครมครามของแผงขายสินค้าข้างถนนล้มของกระจัดกระจาย ผู้คนวิ่งเบียดเสียดสับสนแตกตื่น

             ผมเองกำลังมัวเพลินเดินลอยชายชมตลาดอยู่อย่างไม่ทันระวังตัว โดนคลื่นมหาชนกระแทกจนเสียหลักหัวทิ่มลงไปในแผงผลไม้ กล้วยหอม แอปเปิล ลิ้นจี่ ทุเรียน กระเด็นว่อน

             “อันตราย ผู้หญิงทุกคนระวังตัว มนุษย์หล่อเดินมาทางนี้แล้ว”

             เสียงใครคนหนึ่งตะโกนดังลั่นด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด  ทำให้เหตุการณ์วุ่นวายหนักขึ้น พวกผู้หญิงเผ่นกระเจิงไม่คิดชีวิตไปคนละทิศละทาง ยกเว้นผู้หญิงสองคนซึ่งสติแตกจนวิ่งไม่ออกยืนกรีดร้องอยู่อย่างนั้นจนกระอักเลือดออกมาเป็นทางเปื้อนอกเสื้อแดงฉาน สองมือดึงทึ้งผมเผ้ารุนแรงไปมาเหมือนคนบ้าคลั่ง (แต่ไม่ยอมดึงเสื้อผ้าให้ขาดวิ่นอย่างที่คิด)  พวกเธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้เสียแล้ว สติของพวกเธอโบยบินออกจากร่างชั่วคราว กว่าจะกลับเป็นปกติก็อาการปางตาย หรือไม่ก็ขาดใจตายทั้งเป็นไปเลยก็มี

             “อย่ามองหน้ามัน....”  เสียงสาวๆร้องกันระงมด้วยความแตกตื่น

             โรคแพ้ความหล่อระบาดมาถึงเมืองของเราเร็วกว่าที่คิด

             ความจริงทางการก็ประกาศเตือนแล้ว แต่ผู้คนไม่ค่อยสนใจเพราะยังไม่เคยเห็นฤทธิ์โรคแพ้ความหล่อแบบเต็มตา จนกระทั่งวันนี้ซึ่งโรคร้ายได้มาเยือนเมืองของเราแบบกะทันหันไร้วี่แววมาก่อนและลุกลามระบาดอย่างรวดเร็ว จนต้องออกกฎอัยการศึกห้ามคนหล่อออกจากเคหะสถานอย่างไม่มีระยะเวลาสิ้นสุด

             โรคร้ายที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะมีจริงแม้แต่ในนิยาย ยังไม่มีใครทราบสาเหตุแท้จริง เพียงรู้ว่าโรคแพ้ความหล่อระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก ความน่ากลัวคือไม่มีอะไรให้เป็นข้อสังเกตล่วงหน้า  จู่ๆก็อาการกำเริบขึ้นมาเป็นบริเวณกว้าง คนหน้าหล่อกลายเป็นตัวอันตรายและเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ภาพดาราหน้าหล่อถูกทำลายทิ้งไม่ให้เหลือซาก เพราะถ้าผู้หญิงเห็นแล้วจะเกิดอาการแพ้กำเริบอย่างรวดเร็วจนเสียสติและอาจถึงขั้นฆ่าตัวตายเพราะทนความหน้าหล่อไม่ได้ ส่วนคนที่มองแวบเดียวยังถึงขั้นเพ้อพิไรขาดสติไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว

             คนหล่อจึงต้องแอบหลบซ่อนตัวไม่ให้ผู้คนพบเห็นเพราะถือว่าเป็นตัวอันตราย ถ้าออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะจะต้องโทษหนักทันที  คนหล่อกลายเป็นคนมีค่าหัวเพราะนโยบายใหม่ของรัฐบาลต้องการกำจัดคนหล่อเพื่อปกป้องมนุษยชาติ

             มนุษย์หล่อยืนจังกล้าอยู่บริเวณทางเข้าของตลาดอย่างอหังการ ดูเป็นความสงบนิ่งเพียงอย่างเดียวท่ามกลางความวุ่นวาย

             พวกผู้ชายหลายคนหน้าตาธรรมดาไม่พากันหล่อหลังจากตั้งตัวได้ก็เริ่มหันไปมองมนุษย์หล่ออย่างแค้นเคืองแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะกฎหมายคุ้มครองมนุษย์หล่อยังไม่ยกเลิก  เนื่องจากนักการเมืองเพศหญิงหลายคนในสภายังไม่ยอมลงนามยินยอมให้ยกเลิก  แม้ว่าจะตระหนักถึงมหันตภัยร้ายแรงของความหล่อล้างโลก แต่พวกนางเหมือนยอมตายถ้าจะตายเพราะความหล่อ


             ก่อนหน้านี้กฎหมายคุ้มครองมนุษย์หล่ออย่างออกหน้าออกตา  ทำผิดกฎหมายศาลจะปรานีลดโทษต่ำกว่าพิกัด มีเหล่ามารดายกรุมล้อมคอยให้กำลังใจ การประกวดชายงามจักรวาลเริ่มมีขึ้น การสมัครงานความหล่อจะถูกยกมาพิจารณาเป็นอันดับแรกและอันดับสุดท้าย  ใครทำร้ายมนุษย์หล่อจะถูกลงโทษสถานหนัก คนไม่หล่อถูกจำกัดสิทธิมากขึ้นเรื่อยๆ คนหน้าตาไม่หล่อต้องถูกกำจัดออกจากสังคม  ดูเหมือนว่ากองทัพมนุษย์หล่อจะครองโลก

             ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์โรคแพ้ความหล่อระบาดขึ้นเสียก่อน  หลังจากนั้นโลกสวยของมนุษย์หล่อพลิกวูบเป็นตรงกันข้ามทันที

             ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วมือเอื้อมกุมด้ามปืน  เห็นตัวการเริ่มออกวิ่งหนีไปตามถนนแวบๆ เส้นทางที่วิ่งผ่านมีเสียงกรีดร้องของบรรดาพวกผู้หญิงอย่างน่าสดสยองสยอง รวมทั้งพวกชายหนุ่มที่ผิดปกติอีกจำนวนหนึ่งสร้างธารโลหิตสายหนึ่งเป็นแนวยาวตามไป

             ไอ้ตัวอันตราย..

             ผมคำรามลั่นในใจ พยายามไม่นึกถึงชะตากรรมพวกผู้หญิงตามเส้นทางที่ “หล่อมรณะ” พุ่งผ่านไป มันจะมากเกินไปแล้ว อยากหล่อทำไมไม่เก็บความหล่อเอาไว้ที่บ้าน พกความหล่อติดตัวออกมาทำไม ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมร้ายแรง ให้อภัยไม่ได้....

             ผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “นักล่าหัวมนุษย์หล่อ” เรียบร้อยแล้ว จึงสามารถไล่ล่ามนุษย์หล่อผู้ทำผิดกฎหมายได้ ค่าหัวของไอ้คนหล่อมีค่ามากพอจะกระตุ้นให้ตามล่าและจัดการมันได้อย่างไม่รีรอ  เป้าหมายอยู่ที่ไอ้คนใจคออำมหิตผิดมนุษย์ผู้เกิดมาบังอาจหล่อ จะปล่อยให้มันไปอาละวาดแบบคนโรคจิตทำหน้าหล่อทำร้ายผู้หญิงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายไม่ได้

             ความจริงหมอนั่นก็ไม่มีพฤติกรรมชั่วอะไรหรอก แต่มันทะลึ่งเกิดมาหล่อ แถมยังกล้าพาหน้าหล่อของมันมาโชว์ ในขณะบ้านเมืองหน้าสิ่วหน้าขวานกับโรคแพ้ความหล่อ

              ผมวิ่งก้มตัว วิ่งลัดเลาะไปตามทางเดินอย่างชำนาญ จะต้องจัดการคนหล่อร้ายให้ได้

             ผลของการฝึกมาหลายปี ส่งผลชัดเจนวันนี้เอง ผมวิ่งตามล่าไอ้คนหล่อตัวร้ายใกล้เข้าไปทุกทีด้วยความมาดมั่น จะจับมันมัดมือเตะก้นเข้าหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับเงินรางวัลก้อนโต แต่หมอนั่นเหมือนจะรู้ว่าใครกำลังตามล่าอยู่ ฝีเท้าของเขารวดเร็วลัดเลาะไปตามเส้นทางผ่านบรรดารถราบนถนนอย่างน่าทึ่ง  รถหลายคันเสียหลักชนกันดังสนั่นหวั่นไหว ไม่ต้องทายก็รู้ว่าคนขับต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน เพราะผู้ชายปกติไม่เป็นโรคนี้ มนุษย์หล่อกระโดดข้ามรถยนต์ไปหลายคันก่อนเลี้ยวโค้งลับหายไปในซอยเล็ก ๆ

             จังหวะมันกำลังจะลับหายเข้าไปในมุมตึกผมเหนี่ยวไกปืนในจังหวะนั้นพอดี

             ผนังตึกส่วนหนึ่งของตึกแตกกระเด็นเป็นเศษปูนเศษหินปลิวว่อนบดบังเงาร่างไอ้คนหล่อผู้หายลับไปในซอยเล็กซอยน้อย

             ผมพยายามระงับสติอารมณ์ลงอย่างเยือกเย็นเท่าที่จะเป็นไปได้ เก็บปืนลงในซองหนังข้างเอว โดยแน่ใจว่ามันจะอยู่ในตำแหน่งพร้อมจะชักปืนคู่ใจออกมาอย่างรวดเร็วทันการ กรอกกระสุนลงไปในปากเจ้าคนหล่อร้ายอย่างเลือดเย็นและแน่ใจ

             ไม่ต้องทายก็ทราบว่า ผู้คนพากันหลบอยู่ในบ้านของตนเองอย่างหวาดผวา ไม่มีใครเสนอหน้ามาตอแยเรื่องยุ่งยากเด็ดขาด การปรากฏตัวของบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคือความหายนะของเมืองและแน่นอนผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนปัญหาอื่นจะตามมา

             บ้านเรือนสองฟากถนนสายรองดูเก่าแก่และเงียบกริบ แต่ผมรู้ว่าไอ้หน้าหล่อมันจะต้องแอบอยู่ในบริเวณพื้นที่ของบ้านหลังใดหลังหนึ่ง เจ้าคนผู้หล่อแบบไม่รับผิดชอบต่อสังคมจะต้องถูกตามล่าตามล้าง และโยนศพมันลงนรก

             ลมพัดแรงจัด ฝุ่นกระจายไปในอากาศจนหม่นมัวไม่ว่าใครคิดจะยิงปืนเวลานี้มันคงไม่แม่นเท่าไรหรอก

             ข้างผนังตึก ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งพิงผนังด้วยท่าทางอ่อนล้าปางตาย สายตาเบิกโพลงอย่างตกใจสุดขีด มุมปากมีเลือดเลือดไหลรินออกมาเป็นทาง ผมถอนใจหนักหน่วง พอเดาอออกว่าเธอตกเป็นเหยื่อของมนุษย์หล่อ สิ่งที่พอจะช่วยดื้อโทรศัพท์เรียกหน่วยพยาบาลฉุกเฉินก่อนเดินตรงไปหาเธอเพื่อหาข้อมูล

             “เป็นอะไรมากไหมครับ...”  ผมนั่งลงข้างๆ ถามอาการอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นว่าอาการหนักไม่น้อยเลย เธออาจต้องพักฟื้นเป็นเวลาหลายวัน

             “มัน..ทำหน้าหล่อ  ใส่ฉัน”

             เธอบอกด้วยน้ำเสียงขาดเป็นห่วงๆ ร่างกายยังสั่นสะท้านยกมือปิดหน้าอย่างหวาดผวา

             “โอ..มันช่างหล่อสยดสยองเหลือเกิน...ถ้าหลบตาช้าไปอีกนิดดิฉันคงขาดใจตายเพราะความหล่อแล้วค่ะ โอ...”

             “ไม่เป็นไรนะครับ ผมเรียกรถพยาบาลแล้ว คุณปลอดภัยแน่ครับ “

             ผมบอกแล้วลุกขึ้นเดินออกมาด้วยความแค้นเคือง ทำไมใจคอมันถึงหล่อร้ายเหลือเกิน วิ่งผ่านเฉยๆ เธอคงไม่เป็นอะไรมาก แต่มันยังบังอาจทำหน้าหล่อใส่เธออีก บ้าโรคจิตชัดๆ

             ลางสังหรณ์บอกว่าเจ้าตัวต้นเหตุน่าจะหลบอยู่ไม่ไกลเพราะซอยนี้เป็นซอยตัน ผมยืนอยู่กลางถนนอย่างไม่วิตกกังวลกับการลอบยิง สายลมพัดเศษขยะปนปลิวลิ่วไปทั่วถนน ท้องฟ้าเกลื่อนไปด้วยหมู่เมฆ อากาศค่อนข้างร้อน และแน่ใจเลยว่าอีกไม่นานฝนจะเทลงมาแบบฟ้ารั่ว

             ลมพัดแรงจนผมไม่ได้ยินเสียงปืน กว่าจะรู้ตัวว่าโดนซุ่มยิงพื้นถนนข้างตัวก็ปรากฏฝุ่นและสะเก็ดดินหินแตกกระจายด้วยแรงกระสุนจากผู้ไม่หวังดีแต่หวังชีวิตของผม มือปืนต้องไม่ใช่มืออาชีพอย่างแน่นอน ผมรู้ด้วยสัญชาตญาณของนักล่า

             วิถีของกระสุนทำให้คาดเดาทิศทางและตำแหน่งการยิงไม่ยาก

             แน่ใจว่ามันจะต้องยิงแบบไม่แน่ใจมาอีกหลายนัด แต่ด้วยฝีมือนักฆ่าระดับมหากาพย์ก็ไม่มีอะไรจะน่าหวั่นไหว งานนี้ต้องวัดใจกันจึงจะสนุก

             แรงลมทำให้ลืมตาไม่ถนัด แต่ก็พอรู้ว่าเป้าหมายอยู่ตำแหน่งใด ผมใจเย็นพอจะเดินตรงไปอย่างช้าๆ แม้ว่าจะรู้ว่าศูนย์ปืนฝ่ายตรงข้ามกำลังเล็งเป้ามายังศีรษะหรือไม่ก็หัวใจของผม ปัญหาไม่ได้อยู่การเรื่องการโดนยิง แต่อยู่ที่นิ้วของเจ้าของปืนผู้โชคร้ายต่างหาก เพราะถ้าไม่ใช่มืออาชีพ..ไม่ใช่นักฆ่า...จะมีอาการลังเลพอสมควรสำหรับการตัดสินใจเหนี่ยวไก แน่นอนผมอ่านออกถึงจุดอ่อนของเขา

             อากาศเต็มไปด้วยฝุ่นอันน่ารังเกียจพัดพาตลอดเวลาตามแรงลมกระโชก

             “เอาล่ะ”

             ผมส่งเสียงดังทักทายคนผู้หลบซ่อนตัวอยู่ด้วยท่าที่ผ่อนคลาย ปืนในมือชี้ลงพื้นอันเต็มไปด้วยฝุ่นและความร้อนไม่พึงปรารถนา

             “โผล่หน้าหล่อๆ แกออกมาซิ ก่อนฉันจะระเบิดหัวแก”

             ปัง..!

             เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด กระสุนตัดอากาศดังเฟี้ยวข้ามศีรษะของผมไปสูงพอสมควร เป็นอย่างคาดการณ์ เขาไม่ใช่มืออาชีพ

             เพื่อเป็นการข่มขวัญ ผมยกปืนขึ้นมายิงสวนกลับไปอย่างชำนาญ คำนวณทิศทางความเร็วของลม อุณหภูมิและความชื้นของอากาศตามที่ได้รับการฝึกมาจนช่ำชอง

             ปัง!

             “โอ้ย..!!”

             มีเสียงร้องออกมาจากหลังพุ่มไม้หน้าบ้านใหญ่หลังหนึ่ง แสดงว่ากระสุนของผมได้ผล คงทำให้เจ้าหมอนั่นสูญเสียความเชื่อมั่นที่ไม่ค่อยมีอยู่แล้วจนหายไปโดยสิ้นเชิง

             “นัดต่อไปจะทะลุกะโหลกของแก ออกมาซะดีๆ”


             ผมหมายความตามนั้นจริงๆ  เงินค่าหัวมีอำนาจมากพอจะทำให้ลืมนึกถึงเหตุผลอะไร หรือหลายๆ อย่าง และก็ไม่ต้องรอนานนักเมื่อปืนสั้นกระบอกหนึ่งโยนออกมาจากพุ่มไม้ ตามด้วยเจ้าของปืนผู้กุมบ่าขวามีเลือดไหลจนชุ่มโชกใบหน้าของหนุ่มหล่อเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นพรั่นใจ เขาทรุดตัวคุกเข่าโครมลงพื้นอย่างสิ้นฤทธิ์

             หล่ออย่างที่คิดไว้จริง ขนาดใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดยังบิดเบี้ยวแบบหล่อ

             พระเจ้า... เขาหล่อระดับเทพยังมีหน้าออกไปเดินลอยชายในเมือง ทั้งที่รู้ว่ากำลังเกิดโรคระบาดครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เข่นฆ่าสตรีเพศทั้งทางตรงและทางอ้อมนับไม่ถ้วน

             “บ้านแกเหรอ”

             ผมหมายถึงบ้านหลังใหญ่ด้านหลังของมนุษย์หล่ออย่างไม่สนใจในคำพูดของตัวเองสักเท่าไรนัก  คู่กรณีรีบส่ายหน้าอันหล่อเหลาเป็นการปฏิเสธ  สายตาเต็มไปด้วยแววอ้อนวอนขอร้องเอ่ยปากเสียงสั่นเครือว่า


             “กรุณาปล่อยผมไปเถอะครับ ผิดด้วยเหรอที่ผมเกิดมาหล่อ”






           ......................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่