[CR] ตะลุยญี่ปุ่น พิชิต Landmark {Tokyo-Kawaguchiko-Kawagoe-Noborito-Naruto-Narita} 8 วัน 6 คืน 30,000 เอาอยู่ [PART 3]


สวัสดีครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวต่อจาก PART 2
ติดตาม PART อื่นๆได้ที่
PART 1 http://pantip.com/topic/34477529
PART 2 http://pantip.com/topic/34477683

PART 3 : DAY 3 กลับโตเกียว KAWAGUCHIKO – TOKYO – SENSOJI TEMPLE (ASAKUSA)



                  เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 3 ของการเดินทาง อากาศก็ดูจะไม่อุ่นขึ้นเลย เราเช็คเอ้าท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้เพื่อเดินไปชมเทศกาลหิมะ พอดีช่วงที่พวกเราไปมีเทศกาลหิมะพอดี ใครที่ผ่านไปแถวนั้นลองเช็คดูว่าเขามีจัดงานเทศกาลหิมะตรงกับวันที่ไปหรือเปล่า ก็สนุกไปอีกแบบเพราะลานจัดไม่มีใครเลย



                   อาจเป็นเพราะว่ายังเช้าอยู่ พวกเราสามคนจึงเป็นสามคนแรกของวันที่ได้มาเที่ยวเทศกาลหิมะในวันนั้น ก็ได้แต่ถ่ายรูปกับรูปปั้นต่างๆที่จัดแสดงไว้ ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นสกี หรืออะไรก็ตามเพราะดูเหมือนว่าเขากำลังเพิ่งจะนำออกมาทดสอบ ยังไม่เปิดให้เล่น

                   เราใช้เวลาเดินชมโดยรอบอยู่สักพักก็เดินมาหาอะไรกินตอนเช้าไปจบที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท ได้ข้าวกล่อง มาม่า มากินเป็นอาหารเช้า ค่าเสียหายก็ 1,850 เยน


                    หลังจากกินเสร็จพวกเราก็เดินกลับมาที่พักเพื่อเอากระเป๋าแล้วก็มารอรถบัสที่ป้ายเพื่อเดินทางไปขึ้นกระเช้าชมวิวโดยรอบทะเลสาบ โดยนั่งรถบัสไปที่ ป้ายเบอร์ 10 Yuransen Ropeway Iriguchi โชคดีที่ซื้อตั๋วพาสไว้เลยแสดงตั๋วใบที่เขียนว่า Ropeway ให้เขาไปแล้วก็ขึ้นได้เลย


                    บรรยากาศด้านบนภูเขาเท็นโจ (Mt.Tenjo) ก็อากาศเย็นสบาย มองเห็นวิวทิศทัศน์ของทะเลสาบคาวากูชิได้ 360 องศา มีมุมที่ใครมาแล้วต้องมาถ่ายรูปคู่กับเจ้ากระต่ายตัวยุ่งเป็นสัญลักษณ์ว่ามาถึงที่นี่แล้ว

                      เราใช้เวลาบนนี้สักพักก็เผลอไปดูนาฬิกา เอ้ยมันใกล้เวลาที่จะขึ้นรถบัสกับชินจูกุแล้วเหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมง เราก็รีบลงมา ในแพลนคือต้องไปนั่งเรือล่องชมทะเลสาบอีก แต่กลัวเวลาไม่ทันก็เลยไม่ได้ลงเรือ เสียดายเหมือนกันแต่ก็ไม่เป็นไรกันไว้ดีกว่าแก่ ถ้าลงไปแล้วขึ้นมาไม่ทันรถบัสก็ซวยเหมือนกันนะ 555+

                      พวกเราก็เลยมานั่งกินไอศกรีม 320 เยนต่อถ้วย ตรงทางขึ้นกระเช้า ตรงป้ายรถบัส เป็นร้านที่ทำผลิตภัณฑ์ที่มาจากน้ำผึ้งนานาชนิด ชื่อร้าน Sugi Bee Garden ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sugibeegarden.jp/language/en/currency/USD มีตั้งแต่ของกินยันของใช้ เช่น Soft cream น้ำผึ้ง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รังผึ้ง เป็นต้น

                       หลังจากกินเสร็จก็นั่งรถบัสกลับมาที่สถานีคาวากูชิโกะแล้วหาอะไรกินกลางวันเลย หลังจากนั้นก็รอรถบัสรอบเที่ยงตรง กลับมายังชินจูกุ ขากลับช่วงเข้าเมืองรถติดพอสมควรเพราะเป็นวันทำงาน บวกกับช่วงเวลาเลิกงานพอดีจึงทำให้เรามาถึงชินจูกุประมาณบ่ายสามโมง  
                       หลังจากถึงที่ชินจูกุ เราก็มาเอากระเป๋าที่ฝากไว้เมื่อวาน กดรหัสใส่เงิน 1,200 เยนลงไปประตูตู้ก็เปิดออกให้เราหยิบกระเป๋าทันที ง่ายๆ เมื่อได้กระเป๋าแล้วก็จะไปเชคอินที่ที่พักโดยนั่งรถไฟสายใต้ดินไปลงที่สถานี  Suitengumae (Z10) ซึ่งใกล้ที่พักที่สุด เดินไปอีกประมาณ 500 เมตรข้ามสะพานไปก็ถึง ที่พักของเราที่พักในโตเกียวคือ Kurumi Weekly Mansion



Kurumi Weekly Mansion
Tokyo 4F 1-1-9, Saga,Koto-ku, Tokyo,135-0031Japan
Website Hotel: http://www.kurumi-mansion.com/index_eng.html
ราคา 10,524.76 บาท / 1 ห้อง (3 คน) / 4 คืน
                        เป็นแมนชั่น ห้องส่วนตัว 3 เตียงนอน ดีมาก มีของทุกอย่างครบครัน มีอุปกรณ์ทำครัว จาน ชาม หม้อ ไมโครเวฟ รวมทุกอย่างเหมือนบ้านย่อมๆ สามารถจัดปาร์ตี้ได้เลย


                        ส่วนวิวเปิดหน้าต่างออกมาก็เป็นวิวแม่น้ำซูมิดะ สวยไปอีกแบบ มองไปไกลๆก็จะเห็นโตเกียวสกายทรีด้วย

                        หลังจากเช็คอินเสร็จตามแผนก็จะไปย่านอาซากุซะ โดยนั่งรถไฟสาย Toei ไปลงสถานี Asakusa A18 ใช้ทางออก 1 ขึ้นมาเลี้ยวขวาจะสังเกตเห็น ศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยว Information Center (อยู่ตรงข้ามหน้าวัด)

                        เดินมาเรื่อยๆสัก 50 เมตรก็จะถึงซุ้มประตูทางเข้าวัด Sensoji Temple (วัดอาซากุสะ) พอเดินเข้ามาก็จะพบกับร้านรวงต่างๆขายของมากมายเต็มสองข้างทาง มีทั้งพวกของกิน ของที่ระลึก และของที่เด็ดที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี่ก็คือซาลาเปาทอดและขนมปังเมล่อน ขอบอกต้องมาลองชิมสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และตาเห็นหรือจะสู้ลองชิมเอง

-ร้านขนมปังเมล่อน Asakusa Kagetudo ชิ้นละ 200 เยน 3 ชิ้น 500 เยน ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.asakusa-kagetudo.com/
-ร้านซาลาเปาทอด Asakusa Kokonoe ราคาตามชนิดของไส้ ตั้งแต่ 120 เยน ถึง 220 เยน
-ร้านชาเขียว คิบิดังโงะ Asakusa Kibidango Azuma แก้วละ 100 เยน

                         เราเข้ามายังตัววัดแล้วขึ้นไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม แต่จะมีช่วงเทศกาลเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นพระพักตร์ของเจ้าแม่กวนอิมได้ มาถึงที่ก็ไม่ควรพลาดที่จะลองเสี่ยงเซียมซีทำนายโชคชะตา ถ้าคำทำนายเป็นผลดีกับเราก็พับเก็บใส่กระเป๋าเลย แต่ถ้าอ่านแล้วดูไม่ค่อยดีก็ผูกไว้กับที่แขวนเซียมซีที่เขาจัดไว้ให้


                         จากนั้นก็เดินออกมา ข้อควรระวังถ้ามาในช่วงเย็นต้องมาก่อน 5 โมงเย็น เพราะที่นี่รักษาเวลามากปิด 5 โมงตรงเป๊ะ ใครที่มาก็ควรเผื่อเวลาด้วยนะครับ หลังจากใช้เวลาอยู่ที่อาซากุสะซักพักเราก็เดินออกมาตรงซุ้มทางเข้าตอนแรกเพื่อข้ามฝั่งไปที่ ศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยว Information Center เพราะเห็นรีวิวหลายรีวิวแนะนำให้ขึ้นไปชมวิวด้านบน ที่สำคัญฟรี แล้วอีกอย่างใครที่ต้องการแผนที่หรือสอบถามข้อมูลการเดินทางก็สามารถเข้าไปสอบถามกันได้เลย บรรยากาศด้านบนศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยว Information Center ก็สามารถมองเห็นวัดเซ็นโซจิได้ทั้งหมดตลอดแนว รวมทั้งยังมองเห็นโตเกียวสกายทรี แม่น้ำซูมิดะ ตึกอาซาฮี เป็นจุดที่สามารถถ่ายรูปวิวโดยรอบได้สวยอีกที่หนึ่ง ถ้าใครอยากได้ภาพมุมสูงไม่ควรพลาด


                         หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อกลับมาหาของกินตอนเย็นที่ชินจูกุ หมดค่ามื้อเย็นไปประมาณ 3,050 เยน เพราะย่านนี้มีของกินให้เลือกมากมาย ก่อนที่เราจะกลับที่พักเพื่อพักผ่อนเตรียมลุยต่อในวันถัดไป

つづく
To be Continued PART 4 http://pantip.com/topic/34478681

ติดตามย้อนหลังได้ที่
PART 1 http://pantip.com/topic/34477529
PART 2 http://pantip.com/topic/34477683
ชื่อสินค้า:   Tokyo, Japan Kawaguchiko Kawagoe Noborito Naruto Narita
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่