[CR] [CR] Kansai Solo ลุยเดี่ยว เที่ยวไปเรื่อย (Part 1) “ปั่นมุ้งมิ้งที่เกาะกระต่าย Okunoshima”


สวัสดีครับ เพิ่งกลับมาจากเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปลายเดือนที่แล้วนี่เอง แม้ไม่ใช่ครั้งแรกกับประเทศนี้
แต่ก้อเป็นครั้งแรกกับเมืองต่างๆในทริปนี้ (ปกติป้วนเปี้ยนแต่แถวโตเกียว)
และเป็นครั้งแรกที่เดินทางคนเดียวเพียวๆในประเทศนี้ ก่อนที่ความขี้เกียจจะครอบงำ ขอนำมาเล่าสู่กันฟังซะก่อนดีกว่า
เผื่อจะเป็นข้อมูลหรือแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนได้นะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่ารีวิวนี้จะแบ่งเป็นกี่ตอน เอาเป็นว่าจะพยายามให้น้อยที่สุดนะครับ แบ่งเป็นเมืองๆ จะได้สะดวกต่อการมาหาข้อมูลภายหลังกัน

ข้อมูลเบื้องต้นของการเดินทางครั้งนี้
- เดินทางวันที่ 17-26 ตค. 2015 รวม 9 วัน 9คืน (นอนสนามบินคืนแรกและนอนบนเครื่องบินคืนสุดท้าย)
- ไปคนเดียว วางแผนเองทั้งหมด ลางาน 4 วัน (19-22 ตค.)
- บินกับ AirasiaX ไป-กลับ BKK/KIX จองล่วงหน้าเป็นปี ราคารวมทั้งหมดประมาณ 13,000 บาท
(ราคานี้รวมซื้ออาหารขาไป กะซื้อน้ำหนักโหลดกระเป๋า ทั้งขาไปและกลับ ขาละ 20กิโล อ้อ ซื้อ Hot Seat ขากลับอีก 1,200 บาทด้วย กลับมาเช้ามืดอาบน้ำไปทำงานต่อ ขอนอนบนเครื่องสบายๆหน่อย)
- งบประมาณในการเดินทาง (กิน+ที่พัก) ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน,Pass ทั้งหลายแหล่, ของฝาก, ค่าโง่(เด๋วจะเล่าให้ฟัง) เบ็ดเสร็จประมาณ 35,000 บาท (เรท .30)
- Pocket Wifi เช่าของ 4G Pocket wifi ไป ตอนนั้นมีโปรฯมั้ง วันละร้อยนิดๆเอง
- ตั๋ว JR Pass Kansai & Hiroshima 13,000 เยน + Osaka Amazing Pass 2Day 3,000 เยน ซื้อที่ เพจJapan all pass
- ตั๋วเข้า Kaiyukan ที่โอซาก้า ซื้อบนเครื่องบินเลย 690 บาท (Airasia มีขายบนเครื่องเลยนะเออ OAP กะตั๋วรถบัสของเมืองก็มีขาย)
เด๋วในกระทู้จะแจงให้อีกทีนะครับ ว่าพักที่ไหนคืนเท่าไหร่ กินอะไรไปกี่ตัง
- ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง Olympus EM10 + Len Kit 14-42EZ + Lumix 45-175 กะ iPhone 6
เอาล่ะ โอเคนะ พร้อมแล้วก็ไปกันเลย Go!


Day0-1 BKK-KIX-Onomichi-Okunoshima
ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ตอนบ่าย3 ไปถึงสนามบินคันไซราวๆ 4ทุ่มกว่าเกือบ5ทุ่ม กว่าจะผ่านตม. ก้อเกือบเที่ยงคืนล่ะ คนเยอะมากๆ ออกมาก้องงๆอยู่พักนึง เพราะไม่เคยมาสนามบินคันไซมาก่อน (จริงๆก้อไม่เคยเที่ยวภูมิภาคนี้ด้วยแหละ) แพลนที่วางไว้คือ “นอนสนามบิน” ที่เคยหาข้อมูลว่ามี KIX Lounge ให้นอนอะไรพวกนี้ เลิกคิดเลยครับ เต็มหมดแล้ว! ว่าแล้วก็หาอะไรกินดีกว่า (สั่งอาหารบนเครื่องกินไปรอบล่ะ แต่แค่นั้นไม่อิ่มหรอก เชื่อดิ)

ประเดิมมื้อแรกด้วยการกิน Mc ที่สนามบินก่อนเลย ราคาไม่ต่างจากบ้านเรานัก แต่คุณภาพต่างกันระดับนึง เบอเกอร์กุ้งเนื้อแน่น ไม่ติดขนมปังเหมือนบ้านเรา เฟรนฟรายก็อร่อย มีซอสบาร์บีคิวกับชีสราดด้วย อร่อยดี (ซอสเค้าเก๋ดีนะ เป็นกล่องเล็กๆแบบบ้านเราติดกันสองกล่อง ไม่ต้องแกะฝา แค่หักเข้าหากัน ก้นกล่องจะเป็นรูให้ซอสกับชีสไหลออกมาพร้อมกัน)

เมื่อนอน Lounge ไม่ได้ก็หาที่นอนเอาตามเก้าอี้ อันที่จริงปีนี้เป็นที่ๆสามแล้วที่ผมนอนสนามบิน บอกเลยว่าที่นี่นอนสบายกว่าที่สนามบินKLIA ที่มาเลเซีย และ ไทหยวนที่ไต้หวันมาก เพราะเก้าอี้เค้าติดกัน ที่มาเลย์เก้าอี้เป็นพลาสติกแข็งมีขอบเบาะ นอนราบไม่ได้ ส่วนที่ไต้หวันก้อเบาะค่อนข้างห่างและมีน้อยไปหน่อย สรุป กว่าจะหาเบาะว่างๆนอนได้ ตี1กว่าจ้า

03:00 ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงประหลาด ดังแควกกกกกก แควกกกกก มองไปมองมา โถๆๆ เจอมนุษย์ป้าชาวจีนมานั่งแพคลังกระดาษ ดึงกระดาษกาวสีน้ำตาลอยู่นั่น เมิงมาแพคของอะไรกันตอนนี้(วะ) สรุป ตื่นกันทั้งเวิ้งเลย อย่างเซ็ง ได้นอนไม่ถึง2ชั่วโมง นอนต่อไม่ลงล่ะ ออกไปเดินเล่นเช็คอากาศข้างนอกหน่อย อากาศช่วงนี้กำลังดี ขนาดดึกๆยังแค่เย็นๆ กลางวันไม่น่าจะหนาวแน่นอน ใบไม้น่าจะยังไม่เปลี่ยนสี แต่อากาศดีเหมาะกับการขี่จักรยาน

04:00 เตรียมตัวเดินทาง ไปหาที่อาบน้ำก่อน ปกติที่หาข้อมูลมามักจะบอกกันว่าให้อาบที่ KIX Lounge แต่ดูทรงแล้วห้องอาบน้ำน่าจะน้อย เลยเดินจนเจออีกที่นึงครับ



ให้เดินออกจาก Terminal 1 ไปทางที่ขายตั๋วรถไฟ Nankai กับ JR ไปที่ Aero plaza ตรงเข้าไปเลย จะเห็นป้าย Shower room อยู่ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยฮะ จะมีที่นั่ง ที่นอนเพียบเลย (แต่ก้อมีคนนอนกันเต็มนะแต่ก้อดูเป็นสัดเป็นส่วนกว่าเก้าอี้ในสนามบิน) มีตู้ขายเครื่องดื่ม ปลั๊กไฟให้ชาร์จแบต มีห้องอาบน้ำประมาณ 5 ห้องมั้ง ถ้าจำไม่ผิด


มีเครื่องขายผ้าเช็ดตัวด้วย ไม่มีเหรียญหยอดซื้อเรอะ ไม่เป็นไร ข้างขวามีตู้แลกเหรียญด้วย เป็นไง

วิธีใช้ห้องอาบน้ำนั้นง่ายน้ำ จ่ายตัง500เยน ปิดประตูให้เรียบร้อย (ไม่งั้นน้ำไม่ไหล เซฟตี้ดีแท้) กดStart น้ำจะไหลจากฝักบัวเลย ปรับอุณหภูมิได้ตามชอบ น้ำจะไหลแค่15นาทีเท่านั้น! แต่ไม่ต้องตกใจ มันมีปุ่มหยุดได้ด้วยครั้งละ 5 นาที 15นาทีนี่นับเวลาแค่ตอนน้ำไหลนะ

หน้าตาห้องอาบน้ำ มีส่วนแห้งให้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย มีกระจก ไม้แขวนเสื้อ สรุป อาบเสร็จ ใช้น้ำไปแค่ 3 นาที เปิดประตูออกมาก็ยังค้างอยู่ที่ 12 นาที ระบบไม่ตัดแฮะ งงอยู่เหมือนกัน แบบนี้หยอดทีเดียวก็ผลัดกันอาบได้หลายคนอ่ะดิ ไม่มีข้อห้ามด้วยนี่หว่า (ใครไปหลายคนลองดูละกัน มาบอกผมด้วย ถ้าโดนเค้าจับอย่ามาโทษผมนะ)

05:00 อาบน้ำ แปรงฟันเรียบร้อย เดินเล่นได้สักพัก ก็เดินมารอที่หน้าออฟฟิศ JR เพื่อเตรียมแลก JR Pass (ซื้อจากไทยมา ได้แค่ใบสั่งซื้อนะครับ ต้องมาแลกเป็นPass ที่ออฟฟิศ JR ก่อน) ออฟฟิศเปิด 05:30 สัก 05:20 นี่ก้อมีคนมาต่อหลังผมเป็น10คิวล่ะ


ทริปนี้ผมเลือกใช้ JR Pass Kansai & Hiroshima ราคา 13,000 เยน เพราะ Onomichi เป็นเมืองของจังหวัดHiroshima ล่ะ ถ้าซื้อแค่ KTP หรือ Wide Pass Area มันจะสุดแค่ Okayama ส่วนที่ต้องจ่ายเพิ่ม คิดแล้วไม่คุ้มเท่าซื้อ JR Pass Kansai & Hiroshima เลยเอาอันนี้แหละ
ปล. JR Pass Kansai & Hiroshima จองตู้ Reserved ไม่ได้นะฮะ Non-Reserved สถานเดียว

หลังจากได้ JR Pass เรียบร้อย ก็ออกมาจากJR ออฟฟิศกลับหลังหัน มุ่งหน้าเข้า Gate A ผ่านช่องคนพิการไปขึ้นรถไฟได้ (JR Pass ต้องโชว์บัตรเบ่งผ่านช่องผู้พิการเท่านั้นนะ ยัดใส่เครื่องอ่านบัตรอัตโนมัติไม่ได้)

แพลนการเดินทางเช้านี้ไม่มีอะไรมากนัก คือเดินทางยาวสุดในทริปนี้ล่ะ โชคดีที่ได้ขึ้นรถไฟเที่ยวแรกตามแพลน (เท่าที่สังเกตคนที่แลกJR คิวหลังจากผม ไม่มีใครขึ้นรถไฟเที่ยวแรกเลย อาจเพราะใช้เวลาในการแลกJRนานไปเลยไม่ทันรึเปล่า) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงและเปลี่ยนรถไฟ 4ขบวน เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย เมืองโอโนมิจิ มีเวลาระหว่างรถไฟพอประมาณให้พอเงอะงะได้เล็กน้อย 555

Check point แรก สถานี Izumi-Fuchu พระอาทิตย์ขึ้นพอดี อากาศยังกะหน้าหนาวเชียงใหม่ สบายๆ

มาสถานี Shin-Osaka สถานีนี้ใหญ่เบ้อเร่อ คงเพราะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับชินคันเซนด้วยกระมัง มีโชว์รถกันกลางสถานีเลย

ร้านของที่ระลึกJR อะไรก้อขายได้ ถ้าเป็นญี่ปุ่น

โดยปกติแล้ว สถานีไหนที่เป็นสถานีที่มีชินคันเซนวิ่งผ่าน สถานีนั้นจะใหญ่โตอลังการกว่าปกติ บางแห่งถึงกับมีห้างสรรพสินค้าสร้างครอบเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าเอาแค่ตัวสถานีที่มีรางรถไฟ ชินคันเซนจะอยู่ชั้นบนสุดเสมอนะฮะ อันนี้รถ JR500


ส่วนคันขาวนี้คือคันที่ผมนั่งไปสถานี Fukuyamaซึ่งน่าจะเป็นสถานี Hub ก่อนเข้าภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ได้นั่งกันยาวๆชั่วโมงนึงเต็มๆ ก่อนขึ้นมาได้แวะซื้อของกินรองท้องนิดหน่อย เค้าว่าเป็นแซนวิสเนื้อมัตซึซากะ ชิ้นติ๊ดเดียวตั้ง 700เยนแน่ะ รสชาติธรรมดามาก พูดเลย กินก้อไม่อิ่ม รอบหน้าไม่ได้กินตังกุล่ะ

มาถึงสถานี Fukuyama ก็ลงมาชั้นล่างต่อรถไฟLocal หรือรถไฟหวานเย็นนั่นแหละ ไปยังเมืองโอโนมิจิ
ชื่อสินค้า:   Kansai Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่