สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตของจขกท.ค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยทุนท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ที่ผ่านมา จขกท.ก็ไปเที่ยวอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เคยได้มีโอกาสรีวิวเองซะที ได้แต่เป็นผู้ติดตามมาตลอด เวลาวางแผนเทึ่ยวก็เก็บรวบรวมข้อมูลจากในเน็ตและห้อง blue planet ใน pantip นี่แหละค่ะ เอาคำแนะนำตรงนั้นตรงนี้มา plan เป็นแผนเที่ยวในแต่ละครั้ง
(แทบไม่มีรูปที่ไม่มีคนเลย เลยเอาสติ๊กเกอร์แปะเอา จขกท.ต้องขออภัยด้วยนะคะ
)
ทริปนี้เป็นทริปฉุกละหุก พอดีคุณแฟนของจขกท.ว่างแค่ช่วงนี้(พอดีแฟนจขกท.เรียนแพทย์ฯปีสุดท้ายค่ะ เสาร์-อาทิตย์ก็จะต้องมาราวน์ตอนเช้าจะไปไหนแทบไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าว่างปุ๊บต้องรีบหาโอกาสเที่ยว55) พอดีคุณแฟนว่าง จึงวางแผนว่าจะไปสมุยกัน
แผนเที่ยวทริปนี้ของเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนที่เป็นลายมือจะเป็นแพลนที่จขกท.เขียนขึ้นก่อนไป ถ่ายรูปมองไม่ชัดเลยนั่งพิมพ์ให้ใหม่ค่ะ เป็นแพลนที่วางไว้ก่อนไปเที่ยว แต่พอไปเจอของจริงมีผิดแผนเล็กน้อยตามที่อธิบายข้างบนค่ะ
จขกท.เลือกเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเลือกสายการบินของ Air Asia ค่ะ ตอนนั้นจองล่วงหน้าค่อนข้างกระชั้นชิด เนื่องจากตารางเวรเพิ่งออกค่ะ เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้วของAir Asia ถูกที่สุด ณ ตอนนั้นค่ะ โดยเลือกแบบที่มีบริการรวมค่ารถค่าเรือถึงเกาะสมุยได้โดยจะไปลงที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ เกาะสมุยค่ะ
(ที่จริงแล้วเพื่อนๆสามารถเลือกจองตั๋วแบบไปลงสนามบินสุราษฯแล้วเช่ารถที่สนามบินเอารถขึ้นเรือไปลงที่ท่าเรือของบริษัทซีทรานส์ได้นะคะซึ่งอาจจะสะดวกกว่าเพราะจะไปลงที่ท่าเรือบ่อผุดซึ่งจะมีรถรับจ้างเยอะราคาไม่แพงมาก ค่อนข้างเจริญทำให้สะดวกกว่ามากเนื่องจากการซื้อแพ็คเกจรวมของAir Asiaจะไปลงที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะไกลพอสมควรและแทบไม่มีบริการขนส่งใดๆเลย ผู้โดยสารจะต้องเช่าแท็กซี่ซึ่งราคารวมค่อนข้างแพงมากเลยค่ะ (จขกท.ก็เพิ่งมาเห็นกระทู้ตอนอยู่บนเรือข้ามเกาะที่คนเค้าบ่นกันเรื่องมาลงที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ว่าโดนค่าแท็กซี่ไปเยอะพอสมควร) จขกท.จึงรีบเปลี่ยนแผนด่วน นั่งหาบริษัทเช่ารถที่สามารถเอารถมาส่งที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ได้เลย(เพราะไม่อยากเสียค่ารถแท็กซี่ที่อาจพอๆกับค่าเช่ารถได้ 1 วัน TT) หาไปหามา หาอยู่นานก็เจอบริษัทนึงค่ะบอกว่าสามารถเอารถมาส่งที่ท่าเรือได้
แต่จะต้องเสียค่าเอารถมาส่งค่ะ ตกลงราคากันอยู่ที่ 500 บาท รวมทั้งขาไป-ขากลับคือ เค้าจะเอารถมาส่งให้ที่ท่าเรือ และขากลับให้เราเอารถไปคืนเค้าที่ท่าเรือเช่นกันค่ะ(เค้าต้องให้ลูกน้องนั่งรถรับจ้างมารอรับรถ จากเราตอนกลับค่ะ)
สรุปก็คือ ซื้อแพ็คเกจ Air asia+ รถจากสนามบินมาท่าเรือ+เรือไปลงท่าเรือราชาเฟอรี่+ให้บริษัทเช่ารถเอารถมาส่งที่ท่าเรือค่ะ
พอไปถึงท่าเรือก็นัดเจอคนที่เอารถมาส่ง แต่พี่เค้าขอติดรถเรากลับไปแถวหาดละไมด้วยเพราะแถวนั้นไม่มีร้านเช่ารถ มีแต่แท็กซี่ราคามหาโหดค่ะ เราก็แอบแซวๆพี่คนที่มาส่งรถว่า "ไปกะหนูคิดค่าแท็กซี่ 200 นะพี่ แถวนี้แท็กซี่มันแพง
" พี่เค้าก็ขำอายๆค่ะ ไอ้เราก็ขี้แกล้ง 55 ( ขอโทดนะคะที่ไม่ได้ถ่ายรูปบริเวณท่าเรือมาและรูปรถมา อยากจะตีมือตัวเอง
)
รถที่เราเช่าเป็น Suzuki Swift ค่ะ เกียร์ Auto ราคาวันละ 800 บาท ถ้าเกิน 6 ชั่วโมงจะคิดเป็น 1 วันค่ะ เราเลือกเช่ารถเพราะอยากไปหลายๆจุดรอบเกาะ ถ้าเช่าแท็กซี่ราคาจะค่อนข้างแพงและไม่สะดวก อีกอย่างปกติเวลาเราเที่ยวเราจะเปลี่ยนรีสอร์ททุกวันเลยค่ะ อยากเปลี่ยน location หลายๆที่ อุตส่ามาทั้งทีเนอะ รถก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เดินทางสะดวก เอาไว้ขนของนั่นนี่ ไปกินที่นั่นที่นี่ จะให้ขับจากกทม.ก็จะอึดไป เสียเวลาด้วยค่ะ ทริปนี้เสียค่าเช่ารถตั้งแต่วันที่ไปถึงท่าเรือ 5 กย. 58(14.00 น.)-วันที่กลับถึงท่าเรือ 8 กย. 58(7.30 น.) เค้าคิดเป็น 3 วันเต็มค่ะ 2400+ ค่าเอารถมาส่งที่ท่าเรือ500= 2,900 ค่ะ
จขกท.จองรร.ผ่านทาง booking.com ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ปกติจะจองผ่าน agoda ตลอด แต่เจอรีวิวการใช้ booking.com หลายกระทู้ น่าสนใจ เลยลองสักครั้งค่ะ การจองผ่าน booking.com จะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินล่วงหน้าค่ะและบางโรงแรมสามารถยกเลิกการจองได้ ถ้าเรายกเลิกการจองภายในเวลาที่กำหนดก็จะไม่เสียค่าบริการค่ะ (ลองไปอ่านเงื่อนไขได้นะคะ คร่าวๆก็ประมาณนี้)
จากแผนที่วางไว้ เรารับรถที่ท่าเรือราชาเฟอรี่(ท่าเรือลิปะน้อย) ขับมาทางใต้ของเกาะเพื่อไปที่พักแรกค่ะ > Zara beach resort
วันแรก จขกท.จองพักที่ Zara beach resort เป็นห้องพักแบบมีสระขนาดเล็ก สำหรับแช่ตัวชิวๆ ไม่ถึงกับว่ายน้ำได้นะคะ ได้แค่นั่งแช่ จิบเครื่องดื่มชิวๆค่ะ
รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ที่หาดละไมตามในแผนที่ค่ะ อยู่ตรงบริเวณต้นหาดเลย ด้านข้างจะมีคลองเล็กๆค่ะ (คลองไม่ค่อยสวยนะคะ) โดยบริเวณที่พักจะอยู่ด้านหลังคลองค่ะ รีสอร์ทนี้มีข้อเสียตรงเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะจะค่อนข้างติดๆกันและไม่ได้มีรั้วกั้นแยก มีแค่ต้นไม้บางๆเบาๆบังค่ะ 55 รีสอร์ทนี้มีสระว่ายน้ำรวมที่มองเห็นทะเลค่ะ ขนาดไม่ใหญ่มากนะคะ สไตล์สมัยใหม่ค่ะ(ไม่ได้ถ่ายรูปมา
)
ห่านคู่บนเตียงค่ะ กุหลาบจริง แอบเสียดายค่ะ ไม่อยากโกยทิ้งเลย55
งานโพสต้องมา55
- หลังจากที่นอนพัก เดินเล่นในรีสอร์ทกันแล้วก็วางแผนกินกันต่อ จากที่ดูรีวิวจากนักเที่ยวใจดีชาว pantip ก็มีร้านแนะนำมากมาย เช่น ร้านท่าเรือสมุยซีฟู๊ด , เสบียงเล , ครัวชาวบ้าน ฯลฯ ร้านที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จขกท.เลือกเป็นร้านที่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทวันแรกมากนักนะคะ จะได้ไม่เป็นการขับอ้อมเกาะไปๆมาๆเปลืองน้ำมัน บังเอิญว่าตอนขาไปรีสอร์ทแอบเห็นป้ายร้านสเบียงเลพอดิบพอดี ก็เลยตัดสินใจไปร้านนี้กันค่ะ เห็นเค้าว่ากันว่า มาสมุย ต้องมาร้านนี้(ในใจคิดขนาดนั้นเลยหรอ 55) ราคาอาหารถือว่าแพงกว่าร้านอื่นอยู่เล็กน้อยนะคะ แต่ร้านสวย บรรยากาศดี อาหารรสชาติใช้ได้ค่ะ อาจแล้วแต่คนว่าจะถูกปากมั้ยค่ะ
ตอนที่ไปกินประมาณบ่าย 2 แดดกำลังจัด แต่ในร้านไม่ร้อนเลย ลมเย็นสบาย
ยำเสบียงเลที่เค้าว่ากันว่าอร่อย แต่สำหรับจขกท.คิดว่าหวานไปนิดนึงค่ะ แต่ก็อร่อยดี
วิวจากโต๊ะที่ทานอาหารค่ะ
- หลังจากที่ทานอาหารกันจนอิ่มแล้วก็ไปเที่ยวสถานที่แนะนำในเกาะต่อค่ะ วันนี้เราอยู่หาดละไม จึงเริ่มทัวร์บริเวณหาดละไมกันก่อนค่ะ มาเริ่มกันที่ "จุดชมลาดเกาะ" เป็นจุดชิมวิวที่สวยที่สุดของเกาะสมุยค่ะ มีทางเดินสามารถเดินลงไปด้านล่างได้ ข้างล่างจะมีเนินหินขนาดใหญ่นั่งสโลว์ไลฟ์ได้ มองเห็นเครื่องบินๆผ่านเป็นระยะๆค่ะ สวยเลยทีเดียว
จุดชมวิวลาดเกาะ
ทางเดินลงไปเนินหินข้างล่างค่ะ
เนินหินด้านล่างค่ะ มีคนมาตกปลา มานั่งชมวิวกัน มีเครื่องบินๆผ่านด้วยค่ะ ลำเล็กบินฟ้านั่น 55
- จุดที่ 2 " หินตาหินยาย" เรียกว่าเป็น Landmark ของที่นี่เลยก็ว่าได้ ซึ่งที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับความรัก สามารถหาอ่านกันได้ค่ะ ทั้งจุดชมวิวลาดเกาะ+หินตาหินยายต่างก็ตั้งอยู่บนหาดละไมเช่นเดียวกันค่ะ ระยะทางไม่ไกลจากกันมาก อยู่ใกล้ๆรีสอร์ทที่พักวันนี้ด้วย เข้า concept " ทางเดียวกัน เที่ยววันเดียวกัน" เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน ไม่อ้อมไปอ้อมมา 55
- Day 2 : เช้านี้ที่ Zara beach resort เราจะข้ามสะพานเล็กๆในรีสอร์ทเพื่อไปโซน restaurant ของรีสอร์ทค่ะ เป็นopen air เพลงที่เค้าเปิดโซนนี้ตอนเช้านี่เข้ากับบรรยากาศมากๆ เหมือนอยู่มัลดีฟเลย (ก็เว่อไป 55) พนักงานเสริ์ฟจะพูดภาษาอังกฤษตลอด คิดว่าน่าจะเป็นคนฟิลิปปินส์ รบกวนผู้รู้บอกอีกทีนะคะ อ้อ พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่จะพูดอังกฤษ พูดภาษาไทยจะค่อนข้างงงๆกันเล็กน้อย แต่ก็พอพูดได้
- ห้องอาหารที่นี่จะเรียบๆ แต่ที่ถูกใจจขกท.มากก็คงจะเป็นร่มชายหาดที่ทำจากฟางนี่แหละค่ะ ชอบมาก สะกดใจมาก ยังไงก็ไม่รู้ 55 ยิ่งเพลงที่เปิดคลอไปกับวิวนะคะ อื้อหือ Aloha ถูกใจจริงๆ
วิวจากห้องอาหาร ตอน 8.00 น. ค่ะ
อาหารเช้าจะรวมในค่าที่พัก จะมีเมนูให้เป็นพวกอเมริกัน breakfast ข้าวต้ม omlet ข้าวผัด น้ำผลไม้ปั่น ประมาณนี้ค่ะ สั่งกี่จานกี่อย่างก็ได้นะคะ ทำมาสดๆร้อนๆ ตกแต่งสวยงามค่ะ คนที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาตินะคะ อาหารอร่อย พนักงานเทคแคร์ดีมากค่ะ มาถามอร่อยมั้ย ชวนคุยอยู่ตลอดๆ บลาๆๆ
หลังจากที่เก็บข้าวเก็บของเสร็จก็เตรียมตัวเช็คอินรร.ถัดไปค่ะ
รีสอร์ทที่ 2 : Montien House resort จะเห็นได้ว่า รีสอร์ทที่ระบุไว้ในแผน day2 จะเป็น "ปวันธรรีสอร์ท" แต่มีข้อผิดพลาดขึ้นนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากในวันแรกที่มาถึงทางปวัณธรรีสอร์ทได้โทรมาแจ้งว่า " booking ล้นค่ะ จขกท.ไม่สามารถเข้าพักได้" ตอนแรกยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจ เราอุตส่าจองมาดิบดี อยู่ดีๆมาบอกว่าเต็มจะให้เราไปนอนที่อื่น
(ส่วนตัวคิดว่าเค้าคงให้ห้องพักกับคนที่จองผ่านเว็บที่ต้องจ่ายเงินตอนจองก่อน อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ)
ทางรีสอร์ทจึงยื่นข้อเสนอว่าให้เราไปพักที่ Montien House ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน ได้ห้อง Pool villa เหมือนกันในราคาลด 50%
(CREDIT: ภาพจาก Booking.com ตอนตัดสินใจยอมเปลี่ยนรีสอร์ทค่ะ)
ทั้ง 2 รีสอร์ทนี้ตกแต่งแนวเดียวกันเลยค่ะ แต่ Montien House สร้างมาก่อน อยู่ในหาดเฉวง มีข้อเสียคือ จะมีคนพลุกพล่าน มีบาร์มีสถานบันเทิงเยอะ ต่างจากปวัณธรที่ตั้งอยู่บริเวณหาดเชิงมลที่ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว
จขกท.ก็ลองต่อราคาเหลือ 2,000 พนักงานก็ตอบตกลง(คนสมุยนี่คุยง่ายมาก ที่ไปเที่ยวมาครั้งนี้ เจอแต่คนใจดีทั้งนั้นเลย คุยง่าย ประทับใจคนที่นี่มากๆ) ส่วนจขกท.ก็คิดว่าได้ลดค่าใช้จ่ายไปอีก 2,000 กว่าบาท ก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ
Montien House ตั้งอยู่บนหาดเฉวง หาดนี้เป็นหาดที่ทรายละเอียดมีคุณภาพที่สุดของเกาะสมุย ทำให้มีโรงแรมรีสอร์ท บาร์ ร้านอาหารมาตั้งอยู่ค่อนข้างมาก หน้าหาดจะมีฝรั่งสวยหล่อมานอนอาบแดดโชว์หุ่นแสนเซ็กซี่กันเต็มหาด มีกิจกรรมมากมายเช่น ขี่เจทสกี flyboard ฯลฯ ถ้าเดินเลียบหาดไปไม่ไกลจะเจอ ARK Bar บาร์ชื่อดังของสมุยค่ะ
รูปก่อทรายหน้าบาร์บริเวณหาดเฉวงค่ะ
ห้อง Pool villa ที่ Montien House หาดเฉวงจ้า
คุณแฟนมาถึงก็สลบเลยค่ะ บอกให้หลบก็ไม่ยอมหลบ คนจะถ่ายรูป55
(ไปที่ต่อความคิดเห็นถัดไปนะคะ)
[CR] ++พาแฟนเที่ยว++ รีสอร์ทเกาะสมุย 3 วัน 3 สไตล์ ลุยร้านเด็ด ดำน้ำเกาะเต่า ชมวิวระดับโลกเกาะนางยวน
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตของจขกท.ค่ะ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยทุนท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ที่ผ่านมา จขกท.ก็ไปเที่ยวอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เคยได้มีโอกาสรีวิวเองซะที ได้แต่เป็นผู้ติดตามมาตลอด เวลาวางแผนเทึ่ยวก็เก็บรวบรวมข้อมูลจากในเน็ตและห้อง blue planet ใน pantip นี่แหละค่ะ เอาคำแนะนำตรงนั้นตรงนี้มา plan เป็นแผนเที่ยวในแต่ละครั้ง
(แทบไม่มีรูปที่ไม่มีคนเลย เลยเอาสติ๊กเกอร์แปะเอา จขกท.ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ทริปนี้เป็นทริปฉุกละหุก พอดีคุณแฟนของจขกท.ว่างแค่ช่วงนี้(พอดีแฟนจขกท.เรียนแพทย์ฯปีสุดท้ายค่ะ เสาร์-อาทิตย์ก็จะต้องมาราวน์ตอนเช้าจะไปไหนแทบไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าว่างปุ๊บต้องรีบหาโอกาสเที่ยว55) พอดีคุณแฟนว่าง จึงวางแผนว่าจะไปสมุยกัน
แผนเที่ยวทริปนี้ของเราค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จขกท.เลือกเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเลือกสายการบินของ Air Asia ค่ะ ตอนนั้นจองล่วงหน้าค่อนข้างกระชั้นชิด เนื่องจากตารางเวรเพิ่งออกค่ะ เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้วของAir Asia ถูกที่สุด ณ ตอนนั้นค่ะ โดยเลือกแบบที่มีบริการรวมค่ารถค่าเรือถึงเกาะสมุยได้โดยจะไปลงที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ เกาะสมุยค่ะ
(ที่จริงแล้วเพื่อนๆสามารถเลือกจองตั๋วแบบไปลงสนามบินสุราษฯแล้วเช่ารถที่สนามบินเอารถขึ้นเรือไปลงที่ท่าเรือของบริษัทซีทรานส์ได้นะคะซึ่งอาจจะสะดวกกว่าเพราะจะไปลงที่ท่าเรือบ่อผุดซึ่งจะมีรถรับจ้างเยอะราคาไม่แพงมาก ค่อนข้างเจริญทำให้สะดวกกว่ามากเนื่องจากการซื้อแพ็คเกจรวมของAir Asiaจะไปลงที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ ซึ่งอยู่อีกฝั่งของเกาะไกลพอสมควรและแทบไม่มีบริการขนส่งใดๆเลย ผู้โดยสารจะต้องเช่าแท็กซี่ซึ่งราคารวมค่อนข้างแพงมากเลยค่ะ (จขกท.ก็เพิ่งมาเห็นกระทู้ตอนอยู่บนเรือข้ามเกาะที่คนเค้าบ่นกันเรื่องมาลงที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ว่าโดนค่าแท็กซี่ไปเยอะพอสมควร) จขกท.จึงรีบเปลี่ยนแผนด่วน นั่งหาบริษัทเช่ารถที่สามารถเอารถมาส่งที่ท่าเรือราชาเฟอรี่ได้เลย(เพราะไม่อยากเสียค่ารถแท็กซี่ที่อาจพอๆกับค่าเช่ารถได้ 1 วัน TT) หาไปหามา หาอยู่นานก็เจอบริษัทนึงค่ะบอกว่าสามารถเอารถมาส่งที่ท่าเรือได้
สรุปก็คือ ซื้อแพ็คเกจ Air asia+ รถจากสนามบินมาท่าเรือ+เรือไปลงท่าเรือราชาเฟอรี่+ให้บริษัทเช่ารถเอารถมาส่งที่ท่าเรือค่ะ
พอไปถึงท่าเรือก็นัดเจอคนที่เอารถมาส่ง แต่พี่เค้าขอติดรถเรากลับไปแถวหาดละไมด้วยเพราะแถวนั้นไม่มีร้านเช่ารถ มีแต่แท็กซี่ราคามหาโหดค่ะ เราก็แอบแซวๆพี่คนที่มาส่งรถว่า "ไปกะหนูคิดค่าแท็กซี่ 200 นะพี่ แถวนี้แท็กซี่มันแพง
รถที่เราเช่าเป็น Suzuki Swift ค่ะ เกียร์ Auto ราคาวันละ 800 บาท ถ้าเกิน 6 ชั่วโมงจะคิดเป็น 1 วันค่ะ เราเลือกเช่ารถเพราะอยากไปหลายๆจุดรอบเกาะ ถ้าเช่าแท็กซี่ราคาจะค่อนข้างแพงและไม่สะดวก อีกอย่างปกติเวลาเราเที่ยวเราจะเปลี่ยนรีสอร์ททุกวันเลยค่ะ อยากเปลี่ยน location หลายๆที่ อุตส่ามาทั้งทีเนอะ รถก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เดินทางสะดวก เอาไว้ขนของนั่นนี่ ไปกินที่นั่นที่นี่ จะให้ขับจากกทม.ก็จะอึดไป เสียเวลาด้วยค่ะ ทริปนี้เสียค่าเช่ารถตั้งแต่วันที่ไปถึงท่าเรือ 5 กย. 58(14.00 น.)-วันที่กลับถึงท่าเรือ 8 กย. 58(7.30 น.) เค้าคิดเป็น 3 วันเต็มค่ะ 2400+ ค่าเอารถมาส่งที่ท่าเรือ500= 2,900 ค่ะ
จขกท.จองรร.ผ่านทาง booking.com ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ปกติจะจองผ่าน agoda ตลอด แต่เจอรีวิวการใช้ booking.com หลายกระทู้ น่าสนใจ เลยลองสักครั้งค่ะ การจองผ่าน booking.com จะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินล่วงหน้าค่ะและบางโรงแรมสามารถยกเลิกการจองได้ ถ้าเรายกเลิกการจองภายในเวลาที่กำหนดก็จะไม่เสียค่าบริการค่ะ (ลองไปอ่านเงื่อนไขได้นะคะ คร่าวๆก็ประมาณนี้)
จากแผนที่วางไว้ เรารับรถที่ท่าเรือราชาเฟอรี่(ท่าเรือลิปะน้อย) ขับมาทางใต้ของเกาะเพื่อไปที่พักแรกค่ะ > Zara beach resort
วันแรก จขกท.จองพักที่ Zara beach resort เป็นห้องพักแบบมีสระขนาดเล็ก สำหรับแช่ตัวชิวๆ ไม่ถึงกับว่ายน้ำได้นะคะ ได้แค่นั่งแช่ จิบเครื่องดื่มชิวๆค่ะ
รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ที่หาดละไมตามในแผนที่ค่ะ อยู่ตรงบริเวณต้นหาดเลย ด้านข้างจะมีคลองเล็กๆค่ะ (คลองไม่ค่อยสวยนะคะ) โดยบริเวณที่พักจะอยู่ด้านหลังคลองค่ะ รีสอร์ทนี้มีข้อเสียตรงเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะจะค่อนข้างติดๆกันและไม่ได้มีรั้วกั้นแยก มีแค่ต้นไม้บางๆเบาๆบังค่ะ 55 รีสอร์ทนี้มีสระว่ายน้ำรวมที่มองเห็นทะเลค่ะ ขนาดไม่ใหญ่มากนะคะ สไตล์สมัยใหม่ค่ะ(ไม่ได้ถ่ายรูปมา
ห่านคู่บนเตียงค่ะ กุหลาบจริง แอบเสียดายค่ะ ไม่อยากโกยทิ้งเลย55
งานโพสต้องมา55
- หลังจากที่นอนพัก เดินเล่นในรีสอร์ทกันแล้วก็วางแผนกินกันต่อ จากที่ดูรีวิวจากนักเที่ยวใจดีชาว pantip ก็มีร้านแนะนำมากมาย เช่น ร้านท่าเรือสมุยซีฟู๊ด , เสบียงเล , ครัวชาวบ้าน ฯลฯ ร้านที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จขกท.เลือกเป็นร้านที่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทวันแรกมากนักนะคะ จะได้ไม่เป็นการขับอ้อมเกาะไปๆมาๆเปลืองน้ำมัน บังเอิญว่าตอนขาไปรีสอร์ทแอบเห็นป้ายร้านสเบียงเลพอดิบพอดี ก็เลยตัดสินใจไปร้านนี้กันค่ะ เห็นเค้าว่ากันว่า มาสมุย ต้องมาร้านนี้(ในใจคิดขนาดนั้นเลยหรอ 55) ราคาอาหารถือว่าแพงกว่าร้านอื่นอยู่เล็กน้อยนะคะ แต่ร้านสวย บรรยากาศดี อาหารรสชาติใช้ได้ค่ะ อาจแล้วแต่คนว่าจะถูกปากมั้ยค่ะ
ตอนที่ไปกินประมาณบ่าย 2 แดดกำลังจัด แต่ในร้านไม่ร้อนเลย ลมเย็นสบาย
ยำเสบียงเลที่เค้าว่ากันว่าอร่อย แต่สำหรับจขกท.คิดว่าหวานไปนิดนึงค่ะ แต่ก็อร่อยดี
วิวจากโต๊ะที่ทานอาหารค่ะ
- หลังจากที่ทานอาหารกันจนอิ่มแล้วก็ไปเที่ยวสถานที่แนะนำในเกาะต่อค่ะ วันนี้เราอยู่หาดละไม จึงเริ่มทัวร์บริเวณหาดละไมกันก่อนค่ะ มาเริ่มกันที่ "จุดชมลาดเกาะ" เป็นจุดชิมวิวที่สวยที่สุดของเกาะสมุยค่ะ มีทางเดินสามารถเดินลงไปด้านล่างได้ ข้างล่างจะมีเนินหินขนาดใหญ่นั่งสโลว์ไลฟ์ได้ มองเห็นเครื่องบินๆผ่านเป็นระยะๆค่ะ สวยเลยทีเดียว
จุดชมวิวลาดเกาะ
ทางเดินลงไปเนินหินข้างล่างค่ะ
เนินหินด้านล่างค่ะ มีคนมาตกปลา มานั่งชมวิวกัน มีเครื่องบินๆผ่านด้วยค่ะ ลำเล็กบินฟ้านั่น 55
- จุดที่ 2 " หินตาหินยาย" เรียกว่าเป็น Landmark ของที่นี่เลยก็ว่าได้ ซึ่งที่นี่มีตำนานเกี่ยวกับความรัก สามารถหาอ่านกันได้ค่ะ ทั้งจุดชมวิวลาดเกาะ+หินตาหินยายต่างก็ตั้งอยู่บนหาดละไมเช่นเดียวกันค่ะ ระยะทางไม่ไกลจากกันมาก อยู่ใกล้ๆรีสอร์ทที่พักวันนี้ด้วย เข้า concept " ทางเดียวกัน เที่ยววันเดียวกัน" เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน ไม่อ้อมไปอ้อมมา 55
- Day 2 : เช้านี้ที่ Zara beach resort เราจะข้ามสะพานเล็กๆในรีสอร์ทเพื่อไปโซน restaurant ของรีสอร์ทค่ะ เป็นopen air เพลงที่เค้าเปิดโซนนี้ตอนเช้านี่เข้ากับบรรยากาศมากๆ เหมือนอยู่มัลดีฟเลย (ก็เว่อไป 55) พนักงานเสริ์ฟจะพูดภาษาอังกฤษตลอด คิดว่าน่าจะเป็นคนฟิลิปปินส์ รบกวนผู้รู้บอกอีกทีนะคะ อ้อ พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่จะพูดอังกฤษ พูดภาษาไทยจะค่อนข้างงงๆกันเล็กน้อย แต่ก็พอพูดได้
- ห้องอาหารที่นี่จะเรียบๆ แต่ที่ถูกใจจขกท.มากก็คงจะเป็นร่มชายหาดที่ทำจากฟางนี่แหละค่ะ ชอบมาก สะกดใจมาก ยังไงก็ไม่รู้ 55 ยิ่งเพลงที่เปิดคลอไปกับวิวนะคะ อื้อหือ Aloha ถูกใจจริงๆ
วิวจากห้องอาหาร ตอน 8.00 น. ค่ะ
อาหารเช้าจะรวมในค่าที่พัก จะมีเมนูให้เป็นพวกอเมริกัน breakfast ข้าวต้ม omlet ข้าวผัด น้ำผลไม้ปั่น ประมาณนี้ค่ะ สั่งกี่จานกี่อย่างก็ได้นะคะ ทำมาสดๆร้อนๆ ตกแต่งสวยงามค่ะ คนที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาตินะคะ อาหารอร่อย พนักงานเทคแคร์ดีมากค่ะ มาถามอร่อยมั้ย ชวนคุยอยู่ตลอดๆ บลาๆๆ
หลังจากที่เก็บข้าวเก็บของเสร็จก็เตรียมตัวเช็คอินรร.ถัดไปค่ะ
รีสอร์ทที่ 2 : Montien House resort จะเห็นได้ว่า รีสอร์ทที่ระบุไว้ในแผน day2 จะเป็น "ปวันธรรีสอร์ท" แต่มีข้อผิดพลาดขึ้นนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากในวันแรกที่มาถึงทางปวัณธรรีสอร์ทได้โทรมาแจ้งว่า " booking ล้นค่ะ จขกท.ไม่สามารถเข้าพักได้" ตอนแรกยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจ เราอุตส่าจองมาดิบดี อยู่ดีๆมาบอกว่าเต็มจะให้เราไปนอนที่อื่น
ทางรีสอร์ทจึงยื่นข้อเสนอว่าให้เราไปพักที่ Montien House ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกัน ได้ห้อง Pool villa เหมือนกันในราคาลด 50%
(CREDIT: ภาพจาก Booking.com ตอนตัดสินใจยอมเปลี่ยนรีสอร์ทค่ะ)
ทั้ง 2 รีสอร์ทนี้ตกแต่งแนวเดียวกันเลยค่ะ แต่ Montien House สร้างมาก่อน อยู่ในหาดเฉวง มีข้อเสียคือ จะมีคนพลุกพล่าน มีบาร์มีสถานบันเทิงเยอะ ต่างจากปวัณธรที่ตั้งอยู่บริเวณหาดเชิงมลที่ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว
จขกท.ก็ลองต่อราคาเหลือ 2,000 พนักงานก็ตอบตกลง(คนสมุยนี่คุยง่ายมาก ที่ไปเที่ยวมาครั้งนี้ เจอแต่คนใจดีทั้งนั้นเลย คุยง่าย ประทับใจคนที่นี่มากๆ) ส่วนจขกท.ก็คิดว่าได้ลดค่าใช้จ่ายไปอีก 2,000 กว่าบาท ก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ
Montien House ตั้งอยู่บนหาดเฉวง หาดนี้เป็นหาดที่ทรายละเอียดมีคุณภาพที่สุดของเกาะสมุย ทำให้มีโรงแรมรีสอร์ท บาร์ ร้านอาหารมาตั้งอยู่ค่อนข้างมาก หน้าหาดจะมีฝรั่งสวยหล่อมานอนอาบแดดโชว์หุ่นแสนเซ็กซี่กันเต็มหาด มีกิจกรรมมากมายเช่น ขี่เจทสกี flyboard ฯลฯ ถ้าเดินเลียบหาดไปไม่ไกลจะเจอ ARK Bar บาร์ชื่อดังของสมุยค่ะ
รูปก่อทรายหน้าบาร์บริเวณหาดเฉวงค่ะ
ห้อง Pool villa ที่ Montien House หาดเฉวงจ้า
คุณแฟนมาถึงก็สลบเลยค่ะ บอกให้หลบก็ไม่ยอมหลบ คนจะถ่ายรูป55
(ไปที่ต่อความคิดเห็นถัดไปนะคะ)